ภูกระดึง - เชียงคาน 6-9 พ.ย. 58 ... ไปเที่ยวกัน ' เ ล ย '

เห้ย แกๆไปเที่ยวภูกระดึงกันเถอะ แต่...แกต้องลางาน 1 วันนะ โอเคป่าว ??
พร้อมเสียงตอบกลับมา "วันลามีก็ใช้ๆไปเถอะ"  โอเคจัดทริป 'เลย' จ้า






เราเริ่มหาข้อมูลหลายๆอย่างล่วงหน้าเป็นเดือนๆ **ต้องกราบขอบคุณกระทู้ในพันทิปหลายๆกระทู้ด้วยนะคะ**

เรามาเตรียมตัวกันก่อน...

เริ่มต้นจากการจองที่พักก่อนเลย
เราจองที่พักที่เชียงคานตั้งแต่ต้นเดือนกันยา เพราะกลัวเต็มค่ะ
จริงๆอยากได้ห้องน้ำในตัวเลยรีบจองหน่อย  อันนี้ชัวร์ไว้ก่อนเนอะ
ส่วนเรื่องที่พักบนภูกระดึง มีทั้งบ้านพักอุทยาน และก็เต๊นท์ของอุทยานค่ะ ถ้าใครเอาเต๊นท์ไปเองก็มีพื้นที่ลานกางเต๊นท์ให้นะ
สามารถจองล่วงหน้าได้ 60 วัน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สำหรับการเดินทาง
ขาไปเราใช้บริการ ม4ก. ของ บขส. ค่ะ สามารถจองล่วงหน้าผ่านระบบได้ 60 วัน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อย่าเผลอลืมเชียวนะคะ ตอนเราเข้ามาจองนี่เหลือแต่ที่นั่งหลังสุดกับชั้นล่าง ส่วนตัวไม่ชอบนั่งข้างล่างค่ะรู้สึกอุดอู้ (มโนไปเอง)
เลยต้องเลือกนั่งข้างหลังสุด อ้อ!..ตอนเลือกสถานีปลายทางให้เลือกลงที่วังสะพุงนะคะ (ค่ารถจะถูกกว่าราคานั่งไปสุดสายที่เชียงคานค่ะ)
แล้วพอขึ้นรถไป บัสโฮสเตสก็จะถามเราค่ะว่าจะลงที่ไหน เราก็บอกว่าลงผานกเค้าได้เลยค่ะ คนลงเยอะค่ะไม่ต้องกลัวว่าจะเลยป้ายนะ  

ส่วนขากลับ เรากลับเครื่องบิน ใช้บริการของนกแอร์ค่ะ เนื่องจากอยากอยู่เชียงคานนานๆ เลยเลือกสายการบินที่มีไฟล์ทช้าสุด อิอิ

**สำหรับค่าใช้จ่ายจะสรุปให้ดูตอนท้ายนะคะ**

เอาล่ะ!! เรามาเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่าค่ะ
ไปเที่ยวกัน 'เลย'....

วันที่1 (6/11/58)
เราออกเดินทางด้วยรถ ม.4ก ของ บขส.ค่ะ รถเที่ยว 22:00 น.   (จะหมดวันอยู่ละ จะนับเป็นวันที่ 1 ดีไหมเนี้ยยย) 55555
พอขึ้นรถไปบัสโฮสเตสก็จะเอาขนม 1 กล่องกับน้ำเปล่า 1 ขวดมาแจกให้ทุกคนค่ะ
แล้วพอถึงเขตอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ก็จะมีแวะพักให้ทานข้าวค่ะ โดยเอาคูปองที่อยู่ท้ายตั๋วรถไปแลกทานได้ทุกร้านนะ

ตั๋วรถ กรุงเทพฯ - วังสะพุง


วันที่2 (7/11/58)
เอ่ก อี๊ เอก เอ่กกกก เอ้ย!ไม่ใช่ละ
เช้าแล้วมองนาฬิกา 6 โมงแล้วนี่นา เอ่าเห้ย!ยังไม่ถึงเลย ไหนๆลองกดจีพีเอสดูซิรถลืมจอดให้รึป่าวนะ
หูยยยย ยังอีกไกล ...  เอ้าหลับต่ออีกซักชั่วโมงนึงละกัน 5555

7โมงตรงบัสโฮสเตสประกาศ ผานกเค้าค่าาาา...
ถึงผานกเค้าพอดี พอลงไปก็ข้ามถนนไปขึ้นรถ 2 แถวสีแดงจอดอยู่ข้างๆร้านเจ้กิมค่ะ เค้าคิดคันละ 300 นั่งได้ 10 คน
ก็ตกที่คนละ 30 บาทพอดี แต่ถ้าไม่ถึง 10 คนก็หารกันตามจำนวนคนนะคะ
เพราะฉะนั้นใครที่เดินทางคนเดียว แนะนำให้รีบขึ้นไปนั่งไว้ก่อนเลยค่ะ เพราะถ้าขึ้นทีหลังอาจไม่มีคนหารค่ารถนะ

พอมาถึงหน้าอุทยาน ให้ตายเถอะ ฝนตก!!! ทำร้ายจิตใจกันมากอะ
เจ้าหน้าที่ที่อุทยานบอกว่า ฝนเพิ่งตกเมื่อวันนี้เอ๊ง ไม่ตกมาหลายวันละ ...
โหย นี่จะดีใจหรือเสียใจดีเนี่ย Facepalm
เอาล่ะไปซื้อตั๋วเข้าอุทยานกันคนละ 40 บาท
แล้วเอาของไปจ้างฝากลูกหาบขึ้นไปค่ะ (ถือเป็นการกระจายรายได้สู่ชาวบ้านเนอะ) เม่าหาบเร่
ก่อนอื่นต้องซื้อป้ายชื่อติดกระเป๋าทุกคนนะคะ ใบละ 5 บาท จ่ายตรงนั้นเลย
ส่วนค่าลูกหาบจ่ายข้างบนตอนรับของนะ เค้าคิด กก.ละ 30 บาทค่ะ
**แนะนำนะคะว่าควรมีเป้ใบเล็กใส่เฉพาะของติดตัวที่จำเป็นแล้วสะพายขึ้นเองค่ะ
อย่าแบกของเองเยอะนะ เพราะน้ำหนักจะมากขึ้นตามระยะทาง จนบางทีแทบอยากจะเขวี้ยงกระเป๋าทิ้งไว้ตรงนั้นเลยทีเดียว
แล้วก็เสื้อกันหนาวนี่พกติดตัวไปแบบบางๆก็พอค่ะ ไว้ใส่ข้างบนเผื่อลูกหาบขึ้นไปช้า
เพราะระหว่างเดินขึ้นนี่ ต่อให้อากาศเย็นยังไง ก็ร้อนค่ะ!! เหงื่อนี่แทบไหลเป็นสายน้ำ 5555

เอาล่ะเมื่อจัดแจงเรื่องสัมภาระแล้วก้...พร้อม...ลุย!!



เริ่มต้นเดินทางก้าวย่างแรก ยังครึกครื้น หน้าระรื่นอยู่ค่ะ 5555 เดินไปเล่นไป คุยกันไป
ก็หันมาถามกันว่า เห้ย...ยังไม่ถึงซำแฮกอีกหรอเนี้ย
ไม่รู้ว่ะ...เดินๆไปเดี๋ยวก็ถึงละอีกนิดๆ



ซักพักพอถึงซำแฮกก้ดีใจ๊ดีใจเนอะ นี่แค่ซำแรกเท่านั้นลิ้นก้เริ่มห้อยตามๆกัน 5555
เหนื่อยใช่ป่าว ?? เหนื่อยก็แวะพักสิ ของกินเพียบ ทั้งน้ำเย็นๆดับกระหาย น้ำแข็งไส ไอติม
**สำหรับราคาจะแพงขึ้นตามระยะทางนะ แต่ก็เนอะเขาแบกขึ้นไปสูง ถ้าเขาไม่แบกขึ้นไปขายเราก็อดกินนะ** น้ำดื่มซำแรกๆนี่ราคาขวดละ 20บาท ซำหลังๆจะแพงสุดคือ 30 บาท จนถึงยอดภู



ไอติม 3 ไม้ 20 บาท


พักดื่มน้ำพอหายเหนื่อยก็เดินต่อ ขอเตือนนะ! อย่าพักนาน ไม่งั้นแรงจะเข้าที่หมด ทำให้ไม่มีเรี่ยวแรงจะเดิน
ทางที่เหลือที่ต้องเดินขึ้นเขาก่อนถึงหลังแปเราต้องผ่านซำต่างๆระยะทาง 5.5 กิโลเมตร (ตัวเลขดูน้อยเนอะ จิ๊บๆ)



ระหว่างทางก็เดินไปคุยกันไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พักนะ ไม่ต้องรีบ
เวลาเดินสวนทางกับคนที่ลงมาก็จะได้กำลังใจตลอดทางค่ะ ว่าอีกไม่ไกลๆ อีกไม่ไกล 5555
ทุกคนที่มาท่องเที่ยวที่นี่ล้วนเป็นมิตรค่ะ
เราจะเห็นรอยยิ้มตลอดทาง จากชาวบ้าน นักท่องเที่ยว แม่ค้า เจ้าหน้าที่ หรือแม้กระทั่งลูกหาบ
แม้ว่าจะเหนื่อย แต่เรายังสามารถมอบรอยยิ้มให้กันได้ นี่คือเสน่ห์ของคนไทยใช่ไหมเนี่ยยยยย อมยิ้ม01

ภูกระดึงเที่ยวได้ทุกวัน



ที่พักลูกหาบ


พื้นดินเปียก บางช่วงลื่นมากนะ


อยากให้น้องโตขึ้นแล้วมาเห็นภาพนี้จัง


ถึงแล้ว หลังแป ... เราคือผู้พิชิตภูกระดึง

ตอนที่ขึ้นไปถึงนี่ดีใจจัด บวกเหนื่อยจัดค่ะ ลืมถ่ายรูปป้ายผู้ชิตภูกระดึง 5555
(ขอยืมรูปมาจาก google นะคะ) **เครดิตอยู่ในภาพค่ะ**

แล้วไปเดินทางราบกันต่ออีก ประมาณ 3 กิโลกว่าๆ ทางราบนี่ปกติเป็นพื้นทรายนะ
แล้ววันนี้ฝนตก อ้อหือออ พื้นนี่ชุ่มฉ่ำ เดินทีแต่ละก้าวนี่หนึบหนับมากนะบอกเลย


ตอนนี้ฝนหยุดตกแล้วค่ะ...แต่อีกไม่นานก็ตกลงมาอีก


ธรรมชาติข้างทาง


พอเดินถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก็จัดแจงเรื่องที่พักบนนั้น ในกรณีที่จองล่วงหน้าไว้แล้วแบบเรา
ก็คือเอาใบเสร็จไปให้เจ้าหน้าที่พร้อมบัตรประชาชน จากนั้นเค้าจะคืนใบเสร็จให้
(ใบเสร็จนี่อย่าทำหายนะ เพราะต้องเอามาแลกบัตรประชาชนคือก่อนกลับด้วย)
พอทำเรื่องเสร็จก็เลือกเต๊นท์เลยค่ะ เจ้าหน้าที่บอกว่าเต๊นท์ไหนว่างก็เข้าได้เลยตามใจชอบ
แล้วก็ไปเช่าเครื่องนอน เอาให้พอนะคะ ดึกๆหนาวจะมาเช่าเพิ่มนี่ไม่มีเจ้าหน้าที่แล้วนะ
สำหรับราคาเครื่องนอนต่อ 1 คืนนะ
หมอน  10 บาท
ผ้าห่ม เล็ก  30 บาท
ผ้าห่มใหญ่  50 บาท
แผ่นรองนอน  20 บาท
ถุงนอน  30 บาท

บริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยว


หมอกหนามาก เกือบหาเต๊นท์ไม่เจอ


วันนี้ฝนตก แน่นอนค่ะว่าน้องทากเยอะมากกกกกก ก.ไก่ล้านตัว
เพื่อนเรานี่โดนน้องทากทักทายตั้งแต่ขึ้นมาถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเลยค่ะ แต่เราไม่โดนน้องทากดูดเลยซักตัวนะคะ
มันมีทริกนิดๆค่ะ คือเราพ่นซอฟเฟลสลับกับพ่นยานวดแบบที่เย็นๆอะค่ะตลอดเวลา
( ไม่รู้ว่าทากไม่เกาะเราเพราะเราพ่นยา หรือเพราะตัวเราเหม็น 5555 )



เอาของเข้าเต๊นท์เสร็จก็เดินไปเช็คลูกหาบ
แป่ว! ลูกหาบยังไม่ถึงจ้า เดินไป 3 รอบก็ยังไม่มาเลยตัดสินใจไปกินข้าว
พอเริ่มเย็นใกล้ๆมืดอากาศก็เริ่มหนาว ลูกหาบก็ยังไม่มา ตายละ!  ฝนตกอากาศเริ่มเย็น
เสื้อกันหนาวก็ไม่ได้พกมาเลย (นี่ไง ถึงบอกว่าให้เอาเสื้อกันหนาวบางๆพกติดตัวขึ้นมาเอง)
ยิ่งมาคนเดียวเนี่ย อัตราความหนาวจะเพิ่มขึ้นเมื่อเห็นคนอื่นเขามากันเป็นคู่ๆ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือนนะ อมยิ้ม07

ฝนตก ฝนตก! เลยอดไปผาหล่มสักเลย เสียดายที่สุดใน 3 โลกนะ เพราะพรุ่งนี้ลงภูยังไงก็อดไปไฮไลท์ของภูกระดึงละ ร้องไห้
ก็เลยมานั่งอยู่ร้านอาหาร เพราะนอกร้านฝกตก หมอกจัด หนาวด้วย
ข้าวที่นี่ราคาจะแพงกว่าปกตินะ อาหารตามสั่งตกจานละ 60 บาท ซึ่งจริงๆในความคิดเราถือว่ายอมรับได้นะ
เพราะเขาแบกขึ้นมาสูง เส้นทางก็จิ๊บๆมาก (ประชด!)  นั่งกินไปเรื่อยๆก็ได้ยินเสียงประกาศค่ะ
"คุณ...มารับของที่จุดรับสัมภาระครับ" (ประกาศประมาณนี้อะค่ะ พอดีพังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่)
หลังจากจ่ายเงินรับของเรียบร้อยก็อาบน้ำเข้านอน ดึกๆก็ออกมาเดินเล่นดูดาว ดาวเต็มท้องฟ้าสวยมากกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว
เห็นดาวตกด้วยนะ เห็นดาวตกเขาว่าให้อธิษฐาน เราได้อธิษฐานตั้ง 2 รอบแน่ะ
เสียดายกล้องเราถ่ายดาวไม่เห็น ดูดาวเสร็จดึกแล้ว พรุ่งนี้เช้ามีนัดไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นตอนตี 5
อันนี้เจ้าหน้าที่จะนำทางไปนะคะ ห้าม!!เดินไปเองเด็ดขาดเพราะบางวันอาจเจอช้างป่าเข้าซึ่งมันอันตรายมากนะ...
ตั้งนาฬิกาปลุกเรียบร้อยแล้ว สำหรับคืนนี้ ฝันดีนะคะทุกคน พระจันทร์พระจันทร์

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่