สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นคือต้องขอโทษคนที่เข้ามาอ่านก่อนนะคะ คือถ้าใครรักแม่มากๆก็ขอให้รักเยอะๆนะคะ คือเรื่องมันเยอะมากๆค่ะ ไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไง เอาเท่าที่พอได้แล้วกันเนอะ
คือเมื่อก่อนแม่เราทำงานบริษัทค่ะ ทำงานจันทร์-เสาร์ และหยุดวันอาทิตย์ค่ะ แต่วันอาทิตย์เรามีเรียนพิเศษค่ะ ทำให้เวลาที่ได้อยู่ได้พูดได้คุยกับแม่มีแค่ช่วงหลังที่แม่กลับจากที่ทำงาน และหลังจากที่เราเรียนพิเศษเสร็จ ทำให้เราเป็นเด็กที่ชอบอยู่คนเดียวไปโดยปริยาย แล้วแม่เราเป็นคนทำงานไม่เป็นเวลาค่ะ ขนาดเป็นแค่เสมียน ยังทำงานไม่เป็นเวลาเลยค่ะ ทำตลอดเวลากลับจากออฟฟิตแล้วยังทำค่ะ เดี๋ยวคนนู้นโทรมา เดี๋ยวคนนี้โทรมา บ้างทีเราตื่นประมาณต1ตี2จะไปเข้าห้องน้ำ ยังได้ยินแม่คุยโทรศัพท์อยู่เลยค่ะ จนแม่เราทะเลาะกับเจ้านายแม่เราเลยลาออกมาเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง เจ้านายแม่พยายามโทรมาขอร้องให้แม่กลับไปทำงาน แม่บอกว่า "ไม่ไปอยู่ให้โดนจิกให้โดนด่าทำมั้ย ใครเมื่อเราก็ทำเองได้" แล้วมีหลายบริษัทติดต่อให้แม่มาทำงานที่บริษัทนู้น บริษัทนี้ (เราไม่รู้ว่าแม่เป็นคนทำงานดีรึป่าว) แต่แม่ปฏิเสธหมดค่ะ แม่บอกว่าต้องใจจะออกตั้งนานแล้ว จะได้มีเวลาให้ลูกด้วย(และนี้คือข้ออ้างของแม่ค่ะ) แม่มาเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง โดยที่มีลุง(แฟนใหม่แม่ค่ะ) เป็นหุ้นส่วนด้วยตอนที่แม่มีแฟนใหม่ถามว่าเราเสียใจมั้ย เราบอกตรงๆเลยค่ะ โคตรเสียใจ เสียใจมากๆ แม่บอก "แม่ไม่อยากให้ลูกร้องไห้เลย แม่ขอโทษ" คือในเวลานั้นเราคือถึงคำคำนี้ที่แม่เคยพูดไว้ก่อนที่พ่อกับแม่จะเลิกกัน "แม่สัญญานะลูก แม่จะไม่มีใหม่ เราจะอยู่กันสองเรา แค่สองคนเราก็อยู่กันได้" คำคำนี้แม่เราพูดไว้ตั้งแต่ป.2ค่ะ มันจำขึ้นใจเรามาตลอด จนวันนี้แม่เป็นคนผิด ผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับลูก ผิดที่เราไม่ได้อยู่กัน2คนแม่ลูก ผู้ชายคนนี้ทำให้แม่เปลี่ยนไปค่ะ ต่อหน้าเขาแม่เป็นอีกแบบ ตอนที่ไม่มีเขาแม่เป็นอีกแบบ เราก็เลยต้องทำตัวให้ชิน แม่ไปหาเขาเกือบทุกวันค่ะ จนวันหนึ่งแม่พาเขาเข้าบ้าน เข้ามาอยู่ในบ้าน บ้านที่พ่อเคยอยู่ จนเราแบบไม่รู้จะทำยังไง เราเลยเป็นเด็กที่ถึงบ้านปึบเข้าห้องปับแล้วล็อคห้อง ช่วงแรกๆค่ะยอมรับเลยกลับมานั่งร้องไห้ในห้องพยายามที่จะกั้นความรู้สึกเจ็บปวดนี้เอาไว้คนเดียว แต่ลุงเขาก็ไม่ได้อยู่ตลอดค่ะ ออกไปทำงานบ้างไรบ้าง จนเรารู้สึกว่าอยู่คนเดียวได้ เราเลยบอกแม่ว่า "แม่ไปนอนที่บ้านลุงเขาก็ได้นะ ลูกอยู่คนเดียวได้" ที่แรกแม่ลังเลค่ะ ไปๆมาๆแม่เราก็ไปนอนค่ะ แล้วพอแม่ไปเหมือนความรู้สึกกับบ่อน้ำตาช่างทำงานดีเหลือเกิน เหมือนมันระเบิดออกมา เพราะไม่ต้องทนเก็บความรู้สึกงี่เง้านี้เอาไว้ เหมือนเป็นการระบายทางนึงค่ะ
และอะไรๆในบ้านก็เปลี่ยนไปค่ะ จนเราสามารถปรับอารมณ์ตัวเองได้ค่ะ
เรารักแม่นะ แต่ไม่รู้ว่าแม่รักเรารึป่าว
คือเมื่อก่อนแม่เราทำงานบริษัทค่ะ ทำงานจันทร์-เสาร์ และหยุดวันอาทิตย์ค่ะ แต่วันอาทิตย์เรามีเรียนพิเศษค่ะ ทำให้เวลาที่ได้อยู่ได้พูดได้คุยกับแม่มีแค่ช่วงหลังที่แม่กลับจากที่ทำงาน และหลังจากที่เราเรียนพิเศษเสร็จ ทำให้เราเป็นเด็กที่ชอบอยู่คนเดียวไปโดยปริยาย แล้วแม่เราเป็นคนทำงานไม่เป็นเวลาค่ะ ขนาดเป็นแค่เสมียน ยังทำงานไม่เป็นเวลาเลยค่ะ ทำตลอดเวลากลับจากออฟฟิตแล้วยังทำค่ะ เดี๋ยวคนนู้นโทรมา เดี๋ยวคนนี้โทรมา บ้างทีเราตื่นประมาณต1ตี2จะไปเข้าห้องน้ำ ยังได้ยินแม่คุยโทรศัพท์อยู่เลยค่ะ จนแม่เราทะเลาะกับเจ้านายแม่เราเลยลาออกมาเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง เจ้านายแม่พยายามโทรมาขอร้องให้แม่กลับไปทำงาน แม่บอกว่า "ไม่ไปอยู่ให้โดนจิกให้โดนด่าทำมั้ย ใครเมื่อเราก็ทำเองได้" แล้วมีหลายบริษัทติดต่อให้แม่มาทำงานที่บริษัทนู้น บริษัทนี้ (เราไม่รู้ว่าแม่เป็นคนทำงานดีรึป่าว) แต่แม่ปฏิเสธหมดค่ะ แม่บอกว่าต้องใจจะออกตั้งนานแล้ว จะได้มีเวลาให้ลูกด้วย(และนี้คือข้ออ้างของแม่ค่ะ) แม่มาเปิดบริษัทเป็นของตัวเอง โดยที่มีลุง(แฟนใหม่แม่ค่ะ) เป็นหุ้นส่วนด้วยตอนที่แม่มีแฟนใหม่ถามว่าเราเสียใจมั้ย เราบอกตรงๆเลยค่ะ โคตรเสียใจ เสียใจมากๆ แม่บอก "แม่ไม่อยากให้ลูกร้องไห้เลย แม่ขอโทษ" คือในเวลานั้นเราคือถึงคำคำนี้ที่แม่เคยพูดไว้ก่อนที่พ่อกับแม่จะเลิกกัน "แม่สัญญานะลูก แม่จะไม่มีใหม่ เราจะอยู่กันสองเรา แค่สองคนเราก็อยู่กันได้" คำคำนี้แม่เราพูดไว้ตั้งแต่ป.2ค่ะ มันจำขึ้นใจเรามาตลอด จนวันนี้แม่เป็นคนผิด ผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับลูก ผิดที่เราไม่ได้อยู่กัน2คนแม่ลูก ผู้ชายคนนี้ทำให้แม่เปลี่ยนไปค่ะ ต่อหน้าเขาแม่เป็นอีกแบบ ตอนที่ไม่มีเขาแม่เป็นอีกแบบ เราก็เลยต้องทำตัวให้ชิน แม่ไปหาเขาเกือบทุกวันค่ะ จนวันหนึ่งแม่พาเขาเข้าบ้าน เข้ามาอยู่ในบ้าน บ้านที่พ่อเคยอยู่ จนเราแบบไม่รู้จะทำยังไง เราเลยเป็นเด็กที่ถึงบ้านปึบเข้าห้องปับแล้วล็อคห้อง ช่วงแรกๆค่ะยอมรับเลยกลับมานั่งร้องไห้ในห้องพยายามที่จะกั้นความรู้สึกเจ็บปวดนี้เอาไว้คนเดียว แต่ลุงเขาก็ไม่ได้อยู่ตลอดค่ะ ออกไปทำงานบ้างไรบ้าง จนเรารู้สึกว่าอยู่คนเดียวได้ เราเลยบอกแม่ว่า "แม่ไปนอนที่บ้านลุงเขาก็ได้นะ ลูกอยู่คนเดียวได้" ที่แรกแม่ลังเลค่ะ ไปๆมาๆแม่เราก็ไปนอนค่ะ แล้วพอแม่ไปเหมือนความรู้สึกกับบ่อน้ำตาช่างทำงานดีเหลือเกิน เหมือนมันระเบิดออกมา เพราะไม่ต้องทนเก็บความรู้สึกงี่เง้านี้เอาไว้ เหมือนเป็นการระบายทางนึงค่ะ
และอะไรๆในบ้านก็เปลี่ยนไปค่ะ จนเราสามารถปรับอารมณ์ตัวเองได้ค่ะ