กู้ชีพรายได้หนังปี 2015 'Spectre' กับ 'Peanuts' ดึงคนดูกลับเข้าโรงหนังสำเร็จ หนังทำเงินอเมริกาสัปดาห์นี้

US Box Office November 6-8, 2015



(แปล/ เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)

จากรายได้หนังเดือนตุลาฯ ที่ทำสถิติห่วยแตกที่สุดนับตั้งแต่ปี 2007 ฮอลลีวูดกำลังมองหาจุดเปลี่ยนที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น และไม่ต้องรอกันนาน เพียงเข้าสุดสัปดาห์แรกแบบเต็มๆ ของเดือนพฤศจิกายน Spectre และ The Peanuts Movie ก็มากู้ชีพได้ทันเวลา ด้วยรายได้เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้าถึง 148% และมากกว่าสัปดาห์เดียวกันของปีก่อน 6% โดยหนัง 12 อันดับแรกทำรายได้รวมกันกว่า 155 ล้านเหรียญ โดย สายลับรหัส 007, ชาร์ลี บราวน์, สนูปปี และเพื่อนพ้องฟันรายได้รวมกันถึง 76% ของตัวเลขดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการเปิดเดือนพฤศจิกายนได้สวยสดงดงาม

ในอันดับ 1 หนังบอนด์เรื่องที่ 24 Spectre เปิดตัวในระดับที่ทำให้กลายเป็นหนังบอนด์ทำเงินในอเมริกามาสุดลำดับที่ 8 ในทันที โดยทำเงินไป 73 ล้านเหรียญ จาก 3,929 โรง และเป็นหนังบอนด์เปิดตัวมากสุดอันดับที่ 2 น้อยกว่า Skyfall เมื่อปี 2012 ราวๆ 15.3 ล้านเหรียญ ขณะที่รายได้นอกอเมริกา หนังทำเงินไปถึง 117.8 ล้านเหรียญ จาก 77 ตลาด ทำให้รายได้รวมทั่วโลกจากการฉาย 10 วันเท่ากับ 296.1 ล้านเหรียญ

แม้คำวิจารณ์จากนักวิจารณ์อาจจะไม่ดีนักสำหรับหนังจมส์ บอนด์ฉบับแดเนียล เครกเรื่องที่สี่ แต่คะแนน A- จากซีนีมาสกอร์ แสดงให้เห็นว่า คนดูสนุกกับหนัง ซึ่งเป็นคะแนนที่พอๆ กับหนัง Casino Royale เมื่อปี 2006 และดีกว่าหนัง Quantum of Solace ที่ได้แค่ B- และต่ำกว่า Skyfall ที่ได้ A แน่นอนว่าหนังไม่น่าจะแตะ 304 ล้านเหรียญ เหมือน Skyfall แต่น่าจะทำได้ในระดับ 200 ล้านเหรียญ

ปัญหาใหญ่ของหนัง ไม่ใช่สัปดาห์ที่สองของการฉาย แต่เป็นสัปดาห์ที่สามและสี่ กับสัปดาห์หน้ารายได้ตกราวๆ 50-55% ถือเป็นเรื่องปกติ แต่หลังจากนั้น หนังจะเจอคู่แข่งตรงๆ อย่าง The Hunger Games: Mockingjay - Part 2 แม้ Quantum of Solace จะต้องเจอกับ Twilight ในสัปดาห์ที่สอง แต่ก็เทียบไม่ได้กับหนังชุด Hunger Games ที่มีผู้ชมกินความกว้าง และหลากหลายกว่า แถมยังเป็นหนังตอนสุดท้ายอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นน่าจะส่งผลกับ Spectre ไม่น้อยเลน แล้วหากย้อนไปดู Skyfall กับ Quantum of Solace ที่รายได้ต่างก็ตกราวๆ 53-60% ในสัปดาห์ที่สอง แต่ทั้งสองเรื่องทำได้ดีขึ้นในสัปดาห์ที่สาม โดยเฉพาะ Skyfall ที่รายได้ตกแค่ 13.6% แล้วหากจะเปรียบเทียบกันโดยไม่มองแค่หนังบอนด์ สำหรับหนังเดือนพฤศจิกายน ยังมี Thor: The Dark World เป็นอีกหนึ่งหนังฮิต หนังเปิดตัวในระดับ 85 ล้านเหรียญเมื่อปี 2013 และได้ A- จากซีนีมาสกอร์ และทำรายได้ในอเมริกาที่ 206.3 ล้านเหรียญ ขณะที่หนังเปิดตัวเดือนอื่นๆ ที่พอนำมาเปรียบได้ก็คือ Dawn of the Planet of the Apes ที่เปิดตัว 72.6 ล้านเหรียญ และได้คะแนนจากซีนีมาสกอร์ A- เหมือนกัน ก่อนจะปิดตัวเลขที่ 208.5 ล้านเหรียญ

เพราะฉะนั้นน่าจะเป็นเรื่องที่โอเค หากมองว่า Spectre จะทำเงินได้เหนือกว่า Quantum ที่ทำไว้ 168.3 ล้านเหรียญ โดยตัวเลขน่าจะอยู่แถวๆ 185 ล้านเหรียญ ส่วนในตลาดนอกอเมริกา Skyfall เคยทำรายได้ไว้สุดน่าทึ่ง ที่ 804 ล้านเหรียญ น้อยกว่ารายได้ในระดับ Quantum of Solace รวมกับ Casino Royale ที่ 849.3 ล้านเหรียญ เพียงไม่มาก ผ่านไปสิบวัน หนังทำรายได้รวมทั่วโลกไป 223.1 ล้านเหรียญ โดยยังไม่เปิดตัวที่ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และจีน

แล้วหลังจากเปิดตัวในระดับสร้างสถิติที่อังกฤษเมื่อสัปดาห์ก่อน หนังเปิดตัวได้ดีกว่า Skyfall ในเม็กซิโก, บราซิล, เบลเยียม, ออสเตรีย, ฮ่องกง, มาเลย์เซีย, โปแลนด์ ส่วนรายได้สัปดาห์ที่สองในอังกฤษ ก็ตกแค่  29% ทำเงินอีก 21.3 ล้านเหรียญ เฉพาะที่นี่ หนังทำเงินผ่านร้อยล้านไปแล้ว

อันดับที่สองเป็นหนังใหม่เช่นกัน The Peanuts Movie ทำรายได้ไป 45 ล้านเหรียญ จาก 3,897 ล้านเหรียญ  และได้คำวิจารณ์ในแง่บวก แถมคนดูให้คะแนน A จากซีนีมาสกอร์ ซึ่งมีคู่เปรียบที่ใช้ได้ อย่าง Happy Feet ในปี 2006 ที่เปิดตัว 41.5 ล้านเหรียญ ชนกับ Casino Royale แต่ตัวเลขนี้จะกลายเป็น 52.8 ล้านเหรียญ หากปรับตามราคาตั๋วในปีนี้ และที่สำคัญ สำหรับการมองถึงอนาคต Happy Feet ไม่มีหนังพิกซาร์รอจ่อเข้าอยู่ในอีดสองสัปดาห์ข้างหน้า ด้วยทุนสร้าง 99 ล้านเหรียญ รายได้ในอเมริกาจบที่ 170 ล้านเหรียญ น่าจะสมเหตุสมผล แต่หนังก็ต้องยืนระยะให้ได้ดีด้วย ตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ก็คือ Wreck-It Ralph เมื่อปี 2012 ซึ่งเปิดตัวก่อน Skyfall ด้วยรายได้ 49 ล้านเหรียญ พร้อมได้คะแนน A จากซีนีมาสกอร์ ก่อนจะทำรายได้ไป 189.4 ล้านเหรียญ โดยในสัปดาห์ที่สี่ หนังรายได้ตกจากสัปดาห์ก่อนหน้าแค่ 10.8% เท่านั้นเอง สำหรับคนดูของ Peanuts 70% และกับตลาดนอกอเมริกา หนังทำรายได้ไปแค่ 2.7 ล้านเหรียญ ขณะที่ Wreck-It Ralph เปิดตัวใน 6 ประเทศ ทำรายได้ไปถึง 12 ล้านเหรียญ

ติดตามอ่านเรื่องราวในวงการบันเทิงมากมายได้ที่ www.facebook.com/Sadaos
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่