Weekend Box Office Report: 12-14/09/2025 ; Demon Slayer ภาคปราสาทไร้ขอบเขตพิฆาตอเมริกา 70 ล้าน

กระทู้สนทนา

ภาพยนตร์ รายได้ภาพยนตร์ Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba Infinity Castle (ภาพยนตร์แอนิเมชัน) การ์ตูน The Long Walk (ภาพยนตร์)

สร้างสถิติเปิดตัวสูงที่สุดตลอดกาลของทั้งภาพยนตร์ Anime และภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศในอเมริกาเหนือได้สำเร็จ Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba - Infinity Castle ทำให้ Sony สามารถค้าแชมป์ Box Office ประจำสุดสัปดาห์ได้เป็นครั้งแรกในปีนี้ที่สุดสัปดาห์ที่ 37 หรือผ่านมาประมาณ 3/4 ของปี 2025 นี่เอง

1. Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba - Infinity Castle / ทำรายได้เปิดตัวไป 70.61 ล้านเหรียญ ทำลายสถิติเปิดตัวสูงที่สุดตลอดกาลของทั้งภาพยนตร์ Anime และภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศในอเมริกาเหนือลงได้อย่างงดงาม ซึ่ง สุดสัปดาห์ที่ผ่านดาบพิฆาตอสูรครองโรง IMAX และโรง PLF เกือบทั้งหมดทำให้กวาดเงินได้สนุกมือ

สถิติ Top 8 ภาพยนตร์ Anime ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงที่สุดตลอดกาลในอเมริกาเหนือจนถึงปัจจุบันเป็นดังนี้ (Anime สำหรับ Hollywood คือภาพยนตร์ Animation ที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์แบบเอเชียไม่ว่าจะเป็นงาน 2D หรือ 3D หรือผลิตโดยประเทศใด ไม่จำกัดว่าต้องเป็น Animation จากประเทศญี่ปุ่น)

Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba - Infinity Castle (2025) = 70.6 ล้านเหรียญ

Pokémon: The First Movie (1999) = 31.0 ล้านเหรียญ
Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba - Mugen Train (2021) = 21.2 ล้านเหรียญ
Dragon Ball Super: Super Hero (2022) = 21.1 ล้านเหรียญ
Pokémon: The Movie 2000 (2000) = 19.6 ล้านเหรียญ
The King of Kings (2025) = 19.4 ล้านเหรียญ
KPop Demon Hunters A Sing-Along Event (2025) = 19.2 ล้านเหรียญ

Jujutsu Kaisen 0 (2021) = 18.0 ล้านเหรียญ

2. The Conjuring: Last Rites / ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 2 ไป 25.63 ล้านเหรียญ ลดลงจากสัปดาห์ก่อน -69.5% รายได้สุดสัปดาห์นี้น้อยกว่า It Chapter Two อยู่ -35% จากรายได้สุดสัปดาห์ที่ 2 ไปจนจบการฉาย It Chapter Two ทำรายได้เพิ่มไปอีก 58.9 ล้าน เท่ากับว่า The Conjuring: Last Rites น่าจะทำรายได้เพิ่มอีกราว 38.3 ล้าน รวมเป็นรายได้สุดท้ายที่ประมาณ 160-170 ล้านเหรียญ

3. Downton Abbey: The Grand Finale / ทำรายได้เปิดตัวไป 18.11 ล้านเหรียญ เป็นอันดับที่ 2 ในแฟรนไชส์รองลงมาจาก Downton Abbey (2019) = 31.03 ล้านเหรียญ และมากกว่า Downton Abbey: The New Era (2022) = 16.0 ล้านเหรียญ แต่ The Grand Finale มี Production Cost สูงที่สุดในไตรภาคคือ 50 ล้านเหรียญ

4. The Long Walk / ทำรายได้เปิดตัวไป 11.7 ล้านเหรียญ นับว่าเปิดตัวได้ดีกว่าที่คิด และน่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในปีนี้ของ Lionsgate ที่สามารถทำกำไรได้สำเร็จเพราะมี Production Cost เพียง 20 ล้านเหรียญเท่านั้น

5. Toy Story: 30th Anniversary / ทำรายได้เปิดตัวไป 3.45 ล้านเหรียญสำหรับการกลับมา Re-release ฉลองครบรอบ 30 ปี จึงทำให้รายได้รวมตลอดกาลในปัจจุบันขยับไปอยู่ที่ 195.97 ล้านเหรียญเรียบร้อยแล้ว

6. Weapons / ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 6 ไป 2.73 ล้านเหรียญ ลดลงจากสัปดาห์ก่อน -47.8% รายได้สุดสัปดาห์นี้มากกว่า Final Destination: Bloodlines อยู่ 44% จากรายได้สุดสัปดาห์ที่ 6 ไปจนจบการฉาย Final Destination: Bloodlines ทำรายได้เพิ่มไปอีก 3.3 ล้าน เท่ากับว่า Weapons น่าจะทำรายได้เพิ่มอีกราว 4.8 ล้าน รวมเป็นรายได้สุดท้ายที่ประมาณ 150-155 ล้านเหรียญ

7. Hamilton / ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 2 ของการ Re-release ไป 2.22 ล้านเหรียญ จึงทำให้รายได้รวมตลอดกาลในปัจจุบันขึ้นไปอยู่ที่ 14.98 ล้านเหรียญ

8. Freakier Friday / ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 6 ไป 2.11 ล้านเหรียญ ลดลงจากสัปดาห์ก่อน -45.2% รายได้สุดสัปดาห์นี้น้อยกว่า The Lost City อยู่ -45% จากรายได้สุดสัปดาห์ที่ 6 ไปจนจบการฉาย The Lost City ทำรายได้เพิ่มไปอีก 14.6 ล้าน เท่ากับว่า Freakier Friday น่าจะทำรายได้เพิ่มอีกราว 8 ล้าน รวมเป็นรายได้สุดท้ายที่ประมาณ 97-102 ล้านเหรียญ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องเอาใจช่วยให้ไหลผ่านหลัก 100 ล้านให้ได้เพราะใกล้เคียงมากๆแล้ว

9. Spinal Tap II: The End Continues / ทำรายได้เปิดตัวไป 1.61 ล้านเหรียญ รวมทั้งมีรอบในโรง IMAX ด้วย สำหรับการกลับมาของ Mockumentary ภาคต่อที่ฉายหลังจากภาคแรก This Is Spinal Tap ถึง 41 ปี

10. The Sound of Music: 60th Anniversary / ทำรายได้เปิดตัวไป 1.6 ล้านเหรียญ กับการ Re-release อีกครั้งเพื่อฉลองครบรอบ 60 ปีของอดีตภาพยนตร์ที่เคยครองตำแหน่งหนังทำเงินสูงที่สุดของโลก สมใจแฟนๆรุ่นเก่าที่อยากดูหนังเรื่องนี้อีกครั้งในโรงภาพยนตร์ รวมทั้งคนรุ่นใหม่ที่อยากดูความคลาสสิคที่เคยทำให้หนังเรื่องนี้โด่งดังไปทั่วโลกได้ชมกันในโรงหนัง รายได้รวมตลอดกาลจนถึงปัจจุบันจึงได้รวมทั้งสิ้นเป็น 164.82 ล้านเหรียญ