ดีแทคไม่มีวิธีการบริการลูกค้าที่ถูกต้อง แม่นยำ และสะดวกกว่านี้เหรอครับ?

กระทู้คำถาม
ผมพยายามจะยื่นเรื่องเพื่อหักบัญชีธนาคาร ผ่านมาเกือบครึ่งปีได้แล้วมั้งครับ เรื่องยังไม่ไปถึงไหนเลย
เบอร์โทรนี้ จดทะเบียนในนามบริษัท และต้องการให้หักค่าบริการผ่านทางบัญชีกระแสรายวันของบริษัทแค่นั้นเอง

เริ่มจากครั้งแรก (มิ.ย.) เตรียมเอกสารไปพร้อมทุกอย่าง
๑. หนังสือรับรองบริษัท
๒. รายงานการประชุมบริษัท เพื่อแสดงว่ามอบอำนาจให้ใครจัดการ
๓. หนังสือมอบอำนาจ
๔. สำเนาพาสปอร์ตกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม (กรรการเป็นชาวต่างชาติ)
๕. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ
๖. สำเนาหน้าเช็คบัญชีกระแสรายวันที่ต้องการให้หักบัญชี
๗. สำเนาใบแจ้งหนี้

ปัญหาคือในครั้งแรกเมื่อยืนเอกสาร "หนังสือยินยอมให้หักบัญชีเงินฝาก..." นั้น เป็นการกรอกเอกสาร ณ สาขาที่ยื่นโดย "ผู้รับมอบอำนาจ" จึงเป็นลายเซ็นของผู้รับมอบอำนาจบนหนัสือยินยอมนั้น โดยที่เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์บริการนั้นบอกว่า "สามารถทำได้ เนื่องจากรับมอบอำนาจมาให้ดำเนินการแล้ว"

ยื่นเอกสารเสร็จ บอกว่าไม่เกินสองรอบบัญชี น่าจะตัดจากบัญชีได้
ผ่านไปกว่าสองเดือน มีเอกสารทั้งปึกส่งกลับมาที่บริษัท (ไม่ลงทะเบียน) แจ้งว่า "ลายมือชื่อไม่ตรงกับกรรมการผู้มีอำนาจ"

โอเค อันนี้ผมเข้าใจ มันเกิดจากความรีบร้อนของทางผมเอง เนื่องจากไม่ต้องการรอเพื่อนำหนังสือยินยอมกลับมาให้กรรมการเซ็นอีกรอบ เนื่องจากไม่สะดวกหลายอย่าง
อีกอย่าง ผมคงใจง่ายเกินไป ที่เชื่อสิ่งที่เจ้าหน้าที่ของดีแทคแจ้ง.. ชื่อก็ลืมถามมา
ยังดี คราวนี้ส่งหนังสือยินยอมฉบับใหม่มาให้เซ็นด้วย ก็ให้กรรมการเซ็น แล้วหอมเอกสารชุดเดิมกลับไปที่สาขาที่เคยยื่นไว้ (เมากาบางนา)
ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องก็ดูเหมือนจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น จากที่ผมเล่าให้ฟัง มีการขอโทษขอโพยอย่างสุภาพ น่าเห็นใจ ผมก็หวังว่าคราวนี้คงไม่มีอะไรผิดพลาดอีก

จนมาวันนี้ ในตู้จม.ของบริษัท ผมซองจดหมายจากดีแทค
ส่งเอกสารทุกอย่างคืนกลับมา พร้อมแนบโน้ตว่า "ขาดตราประทับบริษัทในหนังสือยินยอม" ผมนี่พูดไม่ออกเลยครับ

๑. ทำไมผู้ตรวจสอบเอกสารของทางดีแทคจึงไม่ทราบว่า "สามารถจดทะเบียนบริษัทโดยไม่มีตราประทับก็ได้"
๒. ทำไมผู้ตรวจสอบเอกสารของทางดีแทคจึงไม่เลือกที่จะติดต่อสอบถามกลับมาก่อน ทั้งๆ ที่มีให้กรอกช่องทางติดต่อในหนังสือยินยอมนั้นอยู่แล้ว
๓. ทำไมดีแทคจึงเลือกการส่งเอกสารทางไปรษณีย์แบบไม่ลงทะเบียน หากชำรุด สูญหายจะเป็นยังไง? (นี่ก็ได้รับมาแบบ "เปียกฝน")

ก็เลยโทรถามคอลเซ็นเตอร์ถามคำถามดังกล่าวข้างต้น ซึ่งได้คำตอบแบบปัดให้พ้นตัวจนน่าเกลียดมาก ว่า "หากไม่มีตราประทับ ก็ไม่สามารถดำเนินรายการได้ค่ะ"
ตลกมั้งครับ??? บริษัทสามารถทำธุรกรรมมาได้ไม่เคยมีปัญหา รวมถึงการหักบัญชีค่าสาธารณูปโภคอื่นๆ ไม่ว่าจะโทรศัพท์พื้นฐาน อินเตอร์เน็ต ค่าน้ำ ค่าไฟ.. กลับมีแต่ดีแทคที่บอกว่าทำไม่ได้.. แหม....

ก็ไม่ยอมครับ ขอให้เรียกเจ้าหน้าที่ที่เข้าใจ และรู้เรื่องมากกว่านี้มาคุย เลยถูกโอนสายให้คุยกับเจ้าหน้าที่อีกท่าน ชื่อคุณ พัณณ์ชิตา (6582) ซึ่งใส่ใจสอบถามรายละเอียกมากกว่าคนแรกมาก รวมถึงพยายามหาทางออกให้
สุดท้ายได้รับแจ้งว่ารบกวนให้ไปยื่นเอกสารใหม่ที่สาขาเซ็นทรัลบางนาแทน เนื่องจากเป็นศูนย์ที่ใหญ่กว่า น่าจะรับเรื่องและดำเนินการทุกอย่างให้ได้เลย และทั้งนี้จะพยายามประสานกับทางสาขาเพื่ออำนวยความสะดวกให้ด้วย แล้วจะแจ้งกลับให้ทราบอีกครั้ง

ผมขอเสนอทางดีแทคดังนี้นะครับ
๑. ให้อบรมเจ้าหน้าที่ให้มีความรู้ในสิ่งที่ตัวเองต้องรับผิดชอบมากกว่านี้ รวมถึงใส่ใจในการแก้ปัญหา หรือสอบถามความต้องการจากลูกค้าของคุณให้ชัดเจน ไม่ใช่เลือกที่จะ "ตีกลับ" แล้วผลักภาระให้ลูกค้า.. พฤติกรรมแบบนี้ หน่วยงานราชการหลายๆ หน่วยงานยังเลิกทำแล้วเลยนะครับ
๒. การส่งเอกสารสำคัญของลูกค้าควรเป็นส่งลงทะเบียนเท่านั้น หลีกเลี่ยงการสูญหาย และชำรุด
๓. หากเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ ไม่มันใจในสิ่งที่พูด ควรตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงกว่าเสมอ เพราะคำพูดของใครก็ตามในคอลเซ็นเตอร์ของคุณ เป็นการพูด "ในนามบริษัท" ของคุณ ไม่ใช่พูดแค่เพื่อให้จบๆ ปัญไป ไม่มีการดูแลแก้ไขอะไรทั้งสิ้น

ส่วนเพื่อนๆ ที่กำลังจะใช้บริการของเจ้าไหนก็ตาม หากต้องมีการยื่นเอกสารเพื่อดำเนินการใดๆ พยายามเลี่ยงสาขาย่อย และขอชื่อ และรหัสพนง. เพื่ออ้างอิงไว้ด้วยนะครับ
เหนื่อยใจครับ สมัยนี้ติดต่อราชการยังไม่วุ่นวายขนาดนี้เลยครับ...
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่