เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปเที่ยวสิงคโปร์ซึ่งวางแผนไว้นานแล้ว ด้วยความที่สิงคโปร์มักจะมีทัวร์ละครเพลงดี ๆ จากต่างประเทศมาลงเสมอ และรักชอบที่จะฟังละครเพลงอยู่แล้ว (ทุกวันนี้ก็ฟังแต่เพลงจากละครเพลง ไม่ค่อยได้ฟังเพลงแนวอื่นเท่าไหร่) ก็หาข้อมูลว่าช่วงที่เดินทางไปสิงคโปร์มีละครเรื่องอะไรมาเล่นบ้าง พยายามดูมาตลอดหลายเดือนแต่ก็ไม่มีวี่แววของเรื่องใด ๆ
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาครับ เห็นเรื่อง Ghost the Musical ขึ้นในเว็บต่าง ๆ ของสิงคโปร์ แต่ก็ยังมองข้ามเพราะไม่รู้จัก จนกระทั่งช่วง 2-3 อาทิตย์สุดท้ายก่อนเดินทางคิดได้ว่า ไปสิงคโปร์แล้ว ยังไงก็มีทัวร์ละครเพลงมาลงแล้ว ถึงยังไงก็คงต้องดูแล้วล่ะ ก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าเป็นมายังไง เนื้อเรื่องเป็นยังไง เห็นเข้าชิงอยู่หลายรางวัล แต่ได้รางวัลมาแบบกรอกตาผ่าน ๆ ก็นับได้ครบ แต่อย่างน้อยก็เคยขึ้น Broadway มาร้อยกว่ารอบแหละน่า น่าจะดูได้อยู่แหละเนอะ
หลังจากตัดสินใจว่าจะดู ด้วยความที่อ่อนภาษาอังกฤษจะไปนั่งดูทีเดียวกลัวจะไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจไม่อิน ก็หาข้อมูลให้ละเอียดขึ้น หา OCR มาฟัง หา Bootleg มาดูจนเข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น และชอบมากขึ้น เพลงก็เพราะติดหูอยู่นะ จากนั้นก็เริ่มเล็งบัตร เล็งโซนที่นั่ง พบว่าราคาบัตรเอาเรื่องอยู่ เริ่มต้นที่ 2150 บาทไทย เรื่อยไปจนถึง 4500 แล้วก็หาช่องทางกับส่วนลดของบัตรชมการแสดง เห็นว่าใน Sistic กับ ShowBizAsia มีส่วนลดอยู่บ้างสำหรับผู้ถือบัตร MasterCard เพราะเป็นโรงละครของ MasterCard แต่บัตรที่มีดันเป็น Visa หมดเลยน่ะสิ จึงตัดสินใจยังไม่ซื้อ เข้าดูโซนที่นั่งต่าง ๆ ยังคงโล่งอยู่อย่างนั้น เนื่องจากเคยมีประสบการณ์ที่นั่งโล่งจาก The Sound of Music ของป้าแจ๋วที่เมืองไทยมาแล้ว สุดท้ายเอาบัตรมาเทกระจาดแจกแบบโปรยไปทั่ว ซึ่งสร้างความปวดร้าวให้กับคนที่ซื้อบัตรราคาแพงสุดให้กับเรามาก เพราะเป็นรอบเดียวกันกับที่เอามาแจกเลย เรื่องนี้ก็เช่นกันถึงไม่แจกก็ต้องมีลดแน่ ๆ เพราะที่นั่งโล่งซะ สุดท้ายแล้ว 7 วันก่อนเริ่มการแสดงรอบแรก Groupon.sg ก็ประกาศขายบัตรลด 50% ออกมาใน 3 โซนแพงสุด ก็กดซื้อไป แต่ดันบังคับให้ใส่เบอร์โทรเฉพาะหมายเลขของสิงคโปร์เท่านั้น เลยซื้อไม่ได้ซักที สุดท้ายกลายเป็นแบบในรูปนี้ครับ

แทบจะร้องไห้เลยทีเดียว ซื้อก็ยังไม่ได้ซื้อ Sold Out ไปซะงั้น แค่ไม่ถึงวันเองนะ เฝ้ากด refresh ดูทั้งวันทั้งคืนแทบจะทุก 5 นาที แล้วก็มีหลุดมาให้สอยจนได้ หาเบอร์มั่ว ๆ ใส่เบอร์โรงแรมที่จะพักไป ก็ได้บัตรโซน VIP ในราคาแค่ครึ่งเดียว $89.50 จาก $175.00
เกริ่นมาซะยาวมาเริ่มกันเลยครับ สำหรับทริป Ghost the Musical ครั้งนี้เป็นรอบวันที่ 4 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นรอบแรกของเรื่องนี้ในสิงคโปร์ เล่นที่ Sands Theatre - MasterCard Theatres ที่ชั้น B1 โรงแรม Marina Bay Sands
บรรยากาศโถงหน้าทางเข้าโรงละคร มี 2 โรงละครติดกัน ด้านซ้าย Sands Theatre เป็นโรงที่จะชม Ghost the Musical ในครั้ง เป็นโรงละครขนาดเล็ก มีที่นั่งชม 2 ชั้น ส่วนด้านขวาคือ Grand Theatre ซึ่งเป็นโรงขนาดใหญ่กว่า มีที่นั่งชมถึง 4 ชั้น และ Box ด้านข้างอีกจำนวนหนึ่ง
ที่นั่งที่ได้คือ P16 ซึ่งเป็นที่นั่งริมขวาสุดของโซนกลางชั้นล่าง ด้วยความที่เป็นโรงละครขนาดเล็ก ที่นั่งที่ได้จึงไม่ทำให้รู้สึกว่านั่งเอียงขวาซักเท่าไหร่ เวลานั่งก็ได้มุมที่รู้สึกใกล้ชิด ไม่ไกลจากเวทีมากนัก เห็นสีหน้านักแสดงได้ชัดเจน ความรู้สึกเหมือนแถว H,I,J ของรัชดาลัยนั่นแหละครับ
สำหรับนักแสดงเรื่องนี้ก็มีรายชื่อตามนี้ครับ (รูปจากแฟนเพจ Ghost the Musical)

สังเกตว่าบท Oda Mae Brown แสดงโดยนักแสดงที่ชื่อคล้ายตัวละคร Wendy Mae Brown
โรงละครที่นี่สามารถซื้อน้ำ และขนมหน้าโรงละครเข้าไปทานในขณะชมได้ แต่การกินดื่มต้องไม่รบกวนผู้อื่นในขณะชมละครด้วยนะครับ
สำหรับละครเรื่องนี้ เนื้อเรื่องก็มาจากภาพยนตร์เรื่อง Ghost ที่ออกฉายเมื่อปี 1990 จนเพลง Unchained Melody ดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมา สาระสำคัญต่าง ๆ ไม่ต่างกัน คือพระเอกโดนยิงตาย และยังคงวนเวียนอยู่กับนางเอก เนื้อหาหลักมีแค่นี้จริง ๆ สีสันของเรื่องคือตัวบท Oda Mae Brown ซึ่งเป็นแม่มดหมอผีที่คอยเป็นสื่อกลางของเรื่องระหว่างผีพระเอกกับนางเอก
เวอร์ชั่น Asia Tour นี้คาดว่าน่าจะเป็น Production ขนาดย่อลงมาจากฉบับ Broadway จากที่ใช้ฉากเป็นแผง LED 3 ด้าน ซ้าย กลาง ขวาในลักษณะตัว C และสายพาน 2 เส้นในการลำเลียงเลื่อนเข้าออกของอุปกรณ์ประกอบฉาก ก็กลายมาเป็นแผง LED 2 แผง ใช้ต่อกันตรงกลางเพียงด้านเดียว และตัดสายพานออกแล้วใช้การเลื่อนเข้าออกของฉากเอาตามการใช้งานทั่ว ๆ ไปที่เห็นในละครหลาย ๆ เรื่อง ส่วนเพลงและบทต่าง ๆ ก็เป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงล่าสุดได้แก่
1. เพลง Ball of wax จาก Original มาเป็น You Gotta Let Go ปรับปรุงตอนจะขึ้น Broadway
2. เพลง I Can't Breathe จาก Original มาเป็นเนื้อร้องบางส่วนจาก Unchained Melody ปรับปรุงตอน UK National Tour หลังปิดการแสดงจาก Broadway
3. เพลง Life Turns On a Dime เปลี่ยนเป็นเพลงที่แต่งทำนองใหม่ และล้อประเด็นหลักใน Here Right Now แทน ปรับปรุงตอนจะขึ้น Broadway
ต่อไปนี้เป็นภาพจากแฟนเพจ
https://www.facebook.com/ghostthemusical/ เอามาให้ดูกันครับ
สำหรับตัวพระเอก Sam และนางเอก Molly ในเรื่องนี้ถือว่าแสดงดีใช้ได้ในระดับหนึ่ง คือเอาอยู่ว่าเป็นตัวละครจริง ๆ โดยเฉพาะนางเอกนี่เสียงแน่น คีย์เป๊ะ แต่พระเอกมีหลุดบ้างเป็นบางครั้ง อีกคนหนึ่งที่เป็นกุญแจสำคัญของเรื่องคือ Carl เพื่อนสนิทของ Sam บทนี้ไม่มีอะไรหวือหวา แค่ตัวร้ายหักมุมธรรมดาทั่วไป เฉย ๆ มาก และตัวละครที่ชอบที่สุดในเรื่องคือ Oda Mae Brown แม่นางฟ้านางสวรรค์มาโปรด แม่หมอผีซึ่งขโมยซีนทุกครั้งที่ปรากฎตัว ที่สำคัญคือนางแพรวพราวมาก จากบทที่แค่ขำ ๆ ใน Bootleg เวอร์ชั่น Broadway ที่เคยดู กลายเป็นฮาขี้แตกขี้แตนในเวอร์ชั่น Asia Tour เรียกว่ารักตัวละครและรักป้า Wendy Mae Brown ขึ้นมามาก ๆ
หลังจากละครจบ ทีนี่มีคล้าย ๆ Stage Door ที่ให้นักแสดงออกมาพบปะถ่ายรูปกับผู้ชมกันด้วยครับ
ถือว่าเป็นละครที่สนุกเลยทีเดียว เทคนิคเรื่องนี้ไม่ได้หวือหวาแพรวพราวอะไรมาก เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน สนุก เศร้า ซึ้ง เฮฮา มีครบทุกรสตามแบบฉบับละครบรอดเวย์ทั่ว ๆ ไป
สำหรับ Next Stop ต่อไปที่ตั้งใจไว้ว่าจะต้องไปดูให้ได้ในเดือน พฤษภาคม - มิถุนายนปีหน้าที่สิงคโปร์คือ Les Miserable ครับ เป็นทีมจาก Australia ที่จะมาเล่น Asia Tour และน่าจะด้วยเหตุผลทางด้านการเมืองที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งคุณหนูบอยเคยประกาศไว้ในบทสัมภาษณ์ซักที่ว่าจะไม่นำเข้ามาเล่นในไทย ในระยะ 5-10 ปีนี้แน่นอน จึงเป็นเหตุผลที่คนชอบละครเวทีแนวนี้ควรจองตั๋วล่วงหน้าเพื่อไปดูกันครับ
[CR] รีวิว Ghost the Musical ที่ Singapore
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาครับ เห็นเรื่อง Ghost the Musical ขึ้นในเว็บต่าง ๆ ของสิงคโปร์ แต่ก็ยังมองข้ามเพราะไม่รู้จัก จนกระทั่งช่วง 2-3 อาทิตย์สุดท้ายก่อนเดินทางคิดได้ว่า ไปสิงคโปร์แล้ว ยังไงก็มีทัวร์ละครเพลงมาลงแล้ว ถึงยังไงก็คงต้องดูแล้วล่ะ ก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าเป็นมายังไง เนื้อเรื่องเป็นยังไง เห็นเข้าชิงอยู่หลายรางวัล แต่ได้รางวัลมาแบบกรอกตาผ่าน ๆ ก็นับได้ครบ แต่อย่างน้อยก็เคยขึ้น Broadway มาร้อยกว่ารอบแหละน่า น่าจะดูได้อยู่แหละเนอะ
หลังจากตัดสินใจว่าจะดู ด้วยความที่อ่อนภาษาอังกฤษจะไปนั่งดูทีเดียวกลัวจะไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจไม่อิน ก็หาข้อมูลให้ละเอียดขึ้น หา OCR มาฟัง หา Bootleg มาดูจนเข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น และชอบมากขึ้น เพลงก็เพราะติดหูอยู่นะ จากนั้นก็เริ่มเล็งบัตร เล็งโซนที่นั่ง พบว่าราคาบัตรเอาเรื่องอยู่ เริ่มต้นที่ 2150 บาทไทย เรื่อยไปจนถึง 4500 แล้วก็หาช่องทางกับส่วนลดของบัตรชมการแสดง เห็นว่าใน Sistic กับ ShowBizAsia มีส่วนลดอยู่บ้างสำหรับผู้ถือบัตร MasterCard เพราะเป็นโรงละครของ MasterCard แต่บัตรที่มีดันเป็น Visa หมดเลยน่ะสิ จึงตัดสินใจยังไม่ซื้อ เข้าดูโซนที่นั่งต่าง ๆ ยังคงโล่งอยู่อย่างนั้น เนื่องจากเคยมีประสบการณ์ที่นั่งโล่งจาก The Sound of Music ของป้าแจ๋วที่เมืองไทยมาแล้ว สุดท้ายเอาบัตรมาเทกระจาดแจกแบบโปรยไปทั่ว ซึ่งสร้างความปวดร้าวให้กับคนที่ซื้อบัตรราคาแพงสุดให้กับเรามาก เพราะเป็นรอบเดียวกันกับที่เอามาแจกเลย เรื่องนี้ก็เช่นกันถึงไม่แจกก็ต้องมีลดแน่ ๆ เพราะที่นั่งโล่งซะ สุดท้ายแล้ว 7 วันก่อนเริ่มการแสดงรอบแรก Groupon.sg ก็ประกาศขายบัตรลด 50% ออกมาใน 3 โซนแพงสุด ก็กดซื้อไป แต่ดันบังคับให้ใส่เบอร์โทรเฉพาะหมายเลขของสิงคโปร์เท่านั้น เลยซื้อไม่ได้ซักที สุดท้ายกลายเป็นแบบในรูปนี้ครับ
แทบจะร้องไห้เลยทีเดียว ซื้อก็ยังไม่ได้ซื้อ Sold Out ไปซะงั้น แค่ไม่ถึงวันเองนะ เฝ้ากด refresh ดูทั้งวันทั้งคืนแทบจะทุก 5 นาที แล้วก็มีหลุดมาให้สอยจนได้ หาเบอร์มั่ว ๆ ใส่เบอร์โรงแรมที่จะพักไป ก็ได้บัตรโซน VIP ในราคาแค่ครึ่งเดียว $89.50 จาก $175.00
เกริ่นมาซะยาวมาเริ่มกันเลยครับ สำหรับทริป Ghost the Musical ครั้งนี้เป็นรอบวันที่ 4 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นรอบแรกของเรื่องนี้ในสิงคโปร์ เล่นที่ Sands Theatre - MasterCard Theatres ที่ชั้น B1 โรงแรม Marina Bay Sands
บรรยากาศโถงหน้าทางเข้าโรงละคร มี 2 โรงละครติดกัน ด้านซ้าย Sands Theatre เป็นโรงที่จะชม Ghost the Musical ในครั้ง เป็นโรงละครขนาดเล็ก มีที่นั่งชม 2 ชั้น ส่วนด้านขวาคือ Grand Theatre ซึ่งเป็นโรงขนาดใหญ่กว่า มีที่นั่งชมถึง 4 ชั้น และ Box ด้านข้างอีกจำนวนหนึ่ง
ที่นั่งที่ได้คือ P16 ซึ่งเป็นที่นั่งริมขวาสุดของโซนกลางชั้นล่าง ด้วยความที่เป็นโรงละครขนาดเล็ก ที่นั่งที่ได้จึงไม่ทำให้รู้สึกว่านั่งเอียงขวาซักเท่าไหร่ เวลานั่งก็ได้มุมที่รู้สึกใกล้ชิด ไม่ไกลจากเวทีมากนัก เห็นสีหน้านักแสดงได้ชัดเจน ความรู้สึกเหมือนแถว H,I,J ของรัชดาลัยนั่นแหละครับ
สำหรับนักแสดงเรื่องนี้ก็มีรายชื่อตามนี้ครับ (รูปจากแฟนเพจ Ghost the Musical)
สังเกตว่าบท Oda Mae Brown แสดงโดยนักแสดงที่ชื่อคล้ายตัวละคร Wendy Mae Brown
โรงละครที่นี่สามารถซื้อน้ำ และขนมหน้าโรงละครเข้าไปทานในขณะชมได้ แต่การกินดื่มต้องไม่รบกวนผู้อื่นในขณะชมละครด้วยนะครับ
สำหรับละครเรื่องนี้ เนื้อเรื่องก็มาจากภาพยนตร์เรื่อง Ghost ที่ออกฉายเมื่อปี 1990 จนเพลง Unchained Melody ดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมา สาระสำคัญต่าง ๆ ไม่ต่างกัน คือพระเอกโดนยิงตาย และยังคงวนเวียนอยู่กับนางเอก เนื้อหาหลักมีแค่นี้จริง ๆ สีสันของเรื่องคือตัวบท Oda Mae Brown ซึ่งเป็นแม่มดหมอผีที่คอยเป็นสื่อกลางของเรื่องระหว่างผีพระเอกกับนางเอก
เวอร์ชั่น Asia Tour นี้คาดว่าน่าจะเป็น Production ขนาดย่อลงมาจากฉบับ Broadway จากที่ใช้ฉากเป็นแผง LED 3 ด้าน ซ้าย กลาง ขวาในลักษณะตัว C และสายพาน 2 เส้นในการลำเลียงเลื่อนเข้าออกของอุปกรณ์ประกอบฉาก ก็กลายมาเป็นแผง LED 2 แผง ใช้ต่อกันตรงกลางเพียงด้านเดียว และตัดสายพานออกแล้วใช้การเลื่อนเข้าออกของฉากเอาตามการใช้งานทั่ว ๆ ไปที่เห็นในละครหลาย ๆ เรื่อง ส่วนเพลงและบทต่าง ๆ ก็เป็นเวอร์ชั่นปรับปรุงล่าสุดได้แก่
1. เพลง Ball of wax จาก Original มาเป็น You Gotta Let Go ปรับปรุงตอนจะขึ้น Broadway
2. เพลง I Can't Breathe จาก Original มาเป็นเนื้อร้องบางส่วนจาก Unchained Melody ปรับปรุงตอน UK National Tour หลังปิดการแสดงจาก Broadway
3. เพลง Life Turns On a Dime เปลี่ยนเป็นเพลงที่แต่งทำนองใหม่ และล้อประเด็นหลักใน Here Right Now แทน ปรับปรุงตอนจะขึ้น Broadway
ต่อไปนี้เป็นภาพจากแฟนเพจ https://www.facebook.com/ghostthemusical/ เอามาให้ดูกันครับ
สำหรับตัวพระเอก Sam และนางเอก Molly ในเรื่องนี้ถือว่าแสดงดีใช้ได้ในระดับหนึ่ง คือเอาอยู่ว่าเป็นตัวละครจริง ๆ โดยเฉพาะนางเอกนี่เสียงแน่น คีย์เป๊ะ แต่พระเอกมีหลุดบ้างเป็นบางครั้ง อีกคนหนึ่งที่เป็นกุญแจสำคัญของเรื่องคือ Carl เพื่อนสนิทของ Sam บทนี้ไม่มีอะไรหวือหวา แค่ตัวร้ายหักมุมธรรมดาทั่วไป เฉย ๆ มาก และตัวละครที่ชอบที่สุดในเรื่องคือ Oda Mae Brown แม่นางฟ้านางสวรรค์มาโปรด แม่หมอผีซึ่งขโมยซีนทุกครั้งที่ปรากฎตัว ที่สำคัญคือนางแพรวพราวมาก จากบทที่แค่ขำ ๆ ใน Bootleg เวอร์ชั่น Broadway ที่เคยดู กลายเป็นฮาขี้แตกขี้แตนในเวอร์ชั่น Asia Tour เรียกว่ารักตัวละครและรักป้า Wendy Mae Brown ขึ้นมามาก ๆ
หลังจากละครจบ ทีนี่มีคล้าย ๆ Stage Door ที่ให้นักแสดงออกมาพบปะถ่ายรูปกับผู้ชมกันด้วยครับ
ถือว่าเป็นละครที่สนุกเลยทีเดียว เทคนิคเรื่องนี้ไม่ได้หวือหวาแพรวพราวอะไรมาก เนื้อเรื่องไม่ซับซ้อน สนุก เศร้า ซึ้ง เฮฮา มีครบทุกรสตามแบบฉบับละครบรอดเวย์ทั่ว ๆ ไป
สำหรับ Next Stop ต่อไปที่ตั้งใจไว้ว่าจะต้องไปดูให้ได้ในเดือน พฤษภาคม - มิถุนายนปีหน้าที่สิงคโปร์คือ Les Miserable ครับ เป็นทีมจาก Australia ที่จะมาเล่น Asia Tour และน่าจะด้วยเหตุผลทางด้านการเมืองที่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งคุณหนูบอยเคยประกาศไว้ในบทสัมภาษณ์ซักที่ว่าจะไม่นำเข้ามาเล่นในไทย ในระยะ 5-10 ปีนี้แน่นอน จึงเป็นเหตุผลที่คนชอบละครเวทีแนวนี้ควรจองตั๋วล่วงหน้าเพื่อไปดูกันครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น