ดิฉันขอเขียนเสริมประเด็นต่อจากกระทู้นี้ซักเล็กน้อย
http://pantip.com/topic/34372947
หลังจากที่พระโอรส 6 พรรษาของเสี่ยวจวงไทเฮาขึ้นนั่งบัลลังก์แล้ว
แต่อำนาจที่แท้จริงอยู่ที่ตอเออร์กุน ผู้เป็นเสด็จอา
โดยหลักการทั่วๆไป ส่วนใหญ่จักรพรรดิที่ทรงพระเยาว์มักจะถูกผู้สำเร็จราชการแย่งชิงอำนาจ
และจะจับจักรพรรดิสำเร็จโทษ
เสี่ยวจวงไทเฮามีหรือจะไม่รู้กุศโลบายการเมืองประเด็นนั้น
พระนางต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อมิให้พระโอรสโดนโค่นราชบัลลังก์ เอาอกเอาใจ
ยอมทนความอัปยศอดสู
ถึงขนาดยอมทอดกายพลีร่างให้ตอร์เออกุน ซึ่งเป็นน้องชายพระสวามี
เพื่อให้ชายผู้นั้น ขยับฐานะขึ้นมาเป็น
พ่อเลี้ยงขององค์จักรพรรดิ
ในช่วง
เวลาแห่งความยากลำบากขมขื่นใจเป็นที่สุดของผู้หญิงหัวอกคนเป็นแม่
ต้องอดทนอดกลั้นทุกอย่าง การที่ต้องยอมทอดกายให้กับผู้ชายที่ไม่ได้รัก และไม่ได้เป็นสามี
แต่ทว่า
ทำเพื่อเหตุผลทางการเมือง คงจะเป็นความรู้สึกที่ทนทุกข์ทรมานจิตใจมิใช่น้อย
แต่ก็ต้องทำ เพื่ออะไร
ก็เพื่อปกป้องลูกที่ยังเล็กอยู่
ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไทเฮา หรือฐานะคนธรรมดา
ผู้หญิงเราจะมีสัญชาติญาณอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือ
สัญชาติญาณของความเป็นแม่ ที่ต้องทำทุกวิถีทางให้ลูกน้อยปลอดภัย
วิธีการของเสี่ยวจวงไทเฮา อาจจะไม่ถูกต้องตามหลักครรลองของความถูกต้องและศีลธรรมมากนัก
แต่ทว่า
ถือว่าถูกต้องตามหลักกุศโลบายทางการเมืองทุกประการค่ะ
อาวุธที่อิสตรีใช้กันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์
ก็เป็นอาวุธเดียวกับที่เสี่ยวจวงไทเฮาใช้
พระนางเป็นสตรีที่มีความเฉลียวฉลาด มีสติปัญญาเป็นอาวุธ มีความสุขุมรอบคอบ
ไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม ถือคติน้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย
ภายนอกแกล้งทำเป็นเอาอกเอาใจ
บางครั้งแกล้งโง่แกล้งไม่รู้ ทั้งที่ในใจรู้ดี
นี่คือ
คุณสมบัติของสตรีที่มีความฉลาดอย่างแท้จริง
ช่วงที่ยังมีอำนาจน้อยกว่า ก็ต้องรอจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม ในการถ่ายเทอำนาจคืน
พอตอเออกุน สิ้นพระชนม์พระนาง
ก็ฉวยโอกาสนั้นเข้ามายึดอำนาจคืนทันที
และยังไม่ใช่แค่นั้นค่ะ
ถึงแม้นขั้วอำนาจเก่าไปแล้ว พระนางก็ต้องเผชิญหน้ากับขั้วอำนาจใหม่อย่าง
เอ๋าไป่
เพราะพระโอรสของพระนาง คือจักรพรรดิซุ่นจือด่วนสิ้นพระชนม์ขณะอายุแค่ 20 กว่า
ทำให้หลานของพระนางขึ้นนั่งบัลลังก์
นั่นก็คือ จักรพรรดิคังซี ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง 8 พรรษา
เอ๋าไป่เป็นขุนางเก่าแก่ รับราชการตั้งแต่สมัยจักรพรรดิไท่จง มีผู้ให้การยอมรับเป็นจำนวนมาก
ถือเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในราชสำนัก
และ
ครั้งหนึ่งก็เคยคิดก่อการกบฏ คิดจะโค่นล้มบัลลังก์ขององค์คังซี
แต่ทว่า ก็ได้ความฉลาดของเสี่ยวจวงไทเฮา
ซึ่งพอเปลี่ยนแผ่นดิน พระนางก็เปลี่ยนพระนามเป็น ไท่หวงไทเฮา (ย่า) เคยปกป้องลูกฉันใด พระนางก็ปกป้องหลานฉันนั้น
พระนางได้ให้เหล่าบรรดาเสนาอำมาตย์ที่จงรักภักดี คอยสอดแนม
คอยคานอำนาจกับเอ๋าไป่
และในที่สุด
แผนการกบฏของเอ๋าไป่ก็ถูกจับได้และทำลายลงอย่างราบคาบที่สุด
หลังจากนั้นพระนางก็ช่วยพยุงค้ำจุนราชบัลลังก์ของหลานชาย จนองค์คังซีบรรลุนิติภาวะ
และสามารถปกครองบ้านเมืองต่อไปได้
องค์จักรพรรดิปกครองแผ่นดินนานกว่า 60 ปี
สาเหตุหนึ่งก็เนื่องมาจากความฉลาดเฉลียวของไทหวงไทเฮา
ที่ทำให้องค์จักรพรรดิทั้งสองพระองค์ ที่เป็นลูกและหลานรอดพ้นวิกฤติไปได้
พระนางถือเป็น
ไทเฮาที่มีบทบาทสูงสุด และเป็นสตรีที่มีความฉลาดล้ำลึกที่สุดในราชวงศ์ชิง
เห็นมั๊ยคะ
ใครว่าการเมืองการปกครองไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง
ไม่ใช่เพราะผู้หญิงหรือคะที่ช่วยค้ำจุนราชบัลลังก์ขององค์ฮ่องเต้ที่เป็นบุรษ
และไม่ใช่เพราะผู้หญิงหรือคะที่ทำให้บุรุษรอดพ้นอันตรายมาได้
สตรีที่ขึ้นชื่อว่าฉลาด ต้องรู้หลบเป็นหลีก รู้ว่าเวลาไหนควรต้องใช้วิธีอ่อนน้อม
เวลาไหนควรต้องแข็งกร้าว
และ
สตรีที่ฉลาดจริงๆ บางครั้งต้องแกล้งทำเป็นโง่ไม่รู้เรื่อง เพื่อให้บุรษตายใจ
ถ้า
สตรีคนไหนแสดงออกถึงความฉลาดทุกเรื่อง แสดงว่า
สตรีคนนนั้นไม่ฉลาดจริงค่ะ
พระนางคือ หงส์เหนือมังกรโดยแท้
หงส์เหนือมังกร ผู้หญิงกับการเมืองการปกครอง สตรีที่ฉลาดจริงต้องทำทีโง่เขลาภายนอก ภายในเสริมสร้างกำลัง
หลังจากที่พระโอรส 6 พรรษาของเสี่ยวจวงไทเฮาขึ้นนั่งบัลลังก์แล้ว
แต่อำนาจที่แท้จริงอยู่ที่ตอเออร์กุน ผู้เป็นเสด็จอา
โดยหลักการทั่วๆไป ส่วนใหญ่จักรพรรดิที่ทรงพระเยาว์มักจะถูกผู้สำเร็จราชการแย่งชิงอำนาจ
และจะจับจักรพรรดิสำเร็จโทษ
เสี่ยวจวงไทเฮามีหรือจะไม่รู้กุศโลบายการเมืองประเด็นนั้น
พระนางต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อมิให้พระโอรสโดนโค่นราชบัลลังก์ เอาอกเอาใจ ยอมทนความอัปยศอดสู
ถึงขนาดยอมทอดกายพลีร่างให้ตอร์เออกุน ซึ่งเป็นน้องชายพระสวามี
เพื่อให้ชายผู้นั้น ขยับฐานะขึ้นมาเป็นพ่อเลี้ยงขององค์จักรพรรดิ
ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบากขมขื่นใจเป็นที่สุดของผู้หญิงหัวอกคนเป็นแม่
ต้องอดทนอดกลั้นทุกอย่าง การที่ต้องยอมทอดกายให้กับผู้ชายที่ไม่ได้รัก และไม่ได้เป็นสามี
แต่ทว่าทำเพื่อเหตุผลทางการเมือง คงจะเป็นความรู้สึกที่ทนทุกข์ทรมานจิตใจมิใช่น้อย
แต่ก็ต้องทำ เพื่ออะไร
ก็เพื่อปกป้องลูกที่ยังเล็กอยู่ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไทเฮา หรือฐานะคนธรรมดา
ผู้หญิงเราจะมีสัญชาติญาณอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือ
สัญชาติญาณของความเป็นแม่ ที่ต้องทำทุกวิถีทางให้ลูกน้อยปลอดภัย
วิธีการของเสี่ยวจวงไทเฮา อาจจะไม่ถูกต้องตามหลักครรลองของความถูกต้องและศีลธรรมมากนัก
แต่ทว่าถือว่าถูกต้องตามหลักกุศโลบายทางการเมืองทุกประการค่ะ
อาวุธที่อิสตรีใช้กันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ก็เป็นอาวุธเดียวกับที่เสี่ยวจวงไทเฮาใช้
พระนางเป็นสตรีที่มีความเฉลียวฉลาด มีสติปัญญาเป็นอาวุธ มีความสุขุมรอบคอบ
ไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม ถือคติน้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย
ภายนอกแกล้งทำเป็นเอาอกเอาใจ บางครั้งแกล้งโง่แกล้งไม่รู้ ทั้งที่ในใจรู้ดี
นี่คือคุณสมบัติของสตรีที่มีความฉลาดอย่างแท้จริง
ช่วงที่ยังมีอำนาจน้อยกว่า ก็ต้องรอจังหวะและโอกาสที่เหมาะสม ในการถ่ายเทอำนาจคืน
พอตอเออกุน สิ้นพระชนม์พระนางก็ฉวยโอกาสนั้นเข้ามายึดอำนาจคืนทันที
และยังไม่ใช่แค่นั้นค่ะ
ถึงแม้นขั้วอำนาจเก่าไปแล้ว พระนางก็ต้องเผชิญหน้ากับขั้วอำนาจใหม่อย่าง เอ๋าไป่
เพราะพระโอรสของพระนาง คือจักรพรรดิซุ่นจือด่วนสิ้นพระชนม์ขณะอายุแค่ 20 กว่า
ทำให้หลานของพระนางขึ้นนั่งบัลลังก์ นั่นก็คือ จักรพรรดิคังซี ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง 8 พรรษา
เอ๋าไป่เป็นขุนางเก่าแก่ รับราชการตั้งแต่สมัยจักรพรรดิไท่จง มีผู้ให้การยอมรับเป็นจำนวนมาก
ถือเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งในราชสำนัก
และครั้งหนึ่งก็เคยคิดก่อการกบฏ คิดจะโค่นล้มบัลลังก์ขององค์คังซี
แต่ทว่า ก็ได้ความฉลาดของเสี่ยวจวงไทเฮา
ซึ่งพอเปลี่ยนแผ่นดิน พระนางก็เปลี่ยนพระนามเป็น ไท่หวงไทเฮา (ย่า) เคยปกป้องลูกฉันใด พระนางก็ปกป้องหลานฉันนั้น
พระนางได้ให้เหล่าบรรดาเสนาอำมาตย์ที่จงรักภักดี คอยสอดแนม คอยคานอำนาจกับเอ๋าไป่
และในที่สุดแผนการกบฏของเอ๋าไป่ก็ถูกจับได้และทำลายลงอย่างราบคาบที่สุด
หลังจากนั้นพระนางก็ช่วยพยุงค้ำจุนราชบัลลังก์ของหลานชาย จนองค์คังซีบรรลุนิติภาวะ
และสามารถปกครองบ้านเมืองต่อไปได้
องค์จักรพรรดิปกครองแผ่นดินนานกว่า 60 ปี
สาเหตุหนึ่งก็เนื่องมาจากความฉลาดเฉลียวของไทหวงไทเฮา
ที่ทำให้องค์จักรพรรดิทั้งสองพระองค์ ที่เป็นลูกและหลานรอดพ้นวิกฤติไปได้
พระนางถือเป็นไทเฮาที่มีบทบาทสูงสุด และเป็นสตรีที่มีความฉลาดล้ำลึกที่สุดในราชวงศ์ชิง
เห็นมั๊ยคะ
ใครว่าการเมืองการปกครองไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง
ไม่ใช่เพราะผู้หญิงหรือคะที่ช่วยค้ำจุนราชบัลลังก์ขององค์ฮ่องเต้ที่เป็นบุรษ
และไม่ใช่เพราะผู้หญิงหรือคะที่ทำให้บุรุษรอดพ้นอันตรายมาได้
สตรีที่ขึ้นชื่อว่าฉลาด ต้องรู้หลบเป็นหลีก รู้ว่าเวลาไหนควรต้องใช้วิธีอ่อนน้อม เวลาไหนควรต้องแข็งกร้าว
และสตรีที่ฉลาดจริงๆ บางครั้งต้องแกล้งทำเป็นโง่ไม่รู้เรื่อง เพื่อให้บุรษตายใจ
ถ้าสตรีคนไหนแสดงออกถึงความฉลาดทุกเรื่อง แสดงว่าสตรีคนนนั้นไม่ฉลาดจริงค่ะ
พระนางคือ หงส์เหนือมังกรโดยแท้