สวัสดี คนรักทะเลหมอก ทุกๆท่าน เคยรีวิวการท่องเที่ยวครั้งที่แล้วไป ในกระทู้
http://pantip.com/topic/34267773
[CR]ห นี ก รุ ง >> ไ ป ห า ห ม อ ก ห นี ค น ห ล อ ก ๆ ไ ป ห า ด า ว ( เขาค้อ-เพชรบูรณ์ เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก)
กลับมาคราวนี้ อยากจะบอกว่า เมื่อวันที่ 3-4 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมานั้น
อยากไปเจอหมอกที่ภูทับเบิก แต่ก็เจอสภาพตามที่แต่ละท่านๆได้ไปเจอมา รถติด แคมป์แน่น
รีสอร์ทผุดขึ้นมาสีลูกกวาดบาดตา >>> คือมันไม่ใช่เลยนะฮะ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน
ออกเดินทางจาก กทม. 22.00 น. คืนวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2558 ช่างเป็นเวลาที่ดีงามจริงๆ
ทำ Presentration งานเสร็จ รีบกลับหอ และรออะไรละคะ
ยัดของใส่กระเป๋าเลยคะ ชีวิตในเมืองกรุง กว่าจะถึงห้องก็เกือบสามทุ่ม มีเวลา 1 ชั่วโมง
ก่อนรถยนต์ส่วนตัวของเพื่อน และอีก 4 ชีวิตจะมารับใต้หอ
รถเคลื่อนมุ่งหน้าสู่ภูทับเบิก หวังจะเป็นแสงแรกของวันที่นี่
สภาพการจราจร ไม่ติดขัดมาก แต่ก็เห็นเพื่อนร่วมทางตลอดสาย
และเราก็ถึงไร่ริมผา เวลา 04.15 น. หื่มหนาวเลย หมอกมาตรึม ลุ้นแต่แสงของพระอาทิตย์จะมารึเปล่า .
และแล้วๆ ก็ไม่มาตามเคย ค่อนข้างเฟลสุดติ่ง เพราะ ผิดหวังเช่นเคยกับ หมอก และพระอาทิตย์ที่ไม่ส่องแสง 5555
ขำดีอะ มาสองรอบไม่เจอสองรอบ
ขากลับเราก็แวะกินมื้อเช้าบริเวณก่อนทางลง มีรถสวนขึ้นมาอย่างเยอะ และรถที่กำลังจะเคลื่อนยตัวลงเข้าก็เยอะมากเช่นกัน
นี่มันห้วยขวางดีดีนี่เอง ดีที่ เพื่อนของ จขกท.จอดไว้ โซนข้างล่างทำให้หนีจากวิกฤติตรงนั้นได้
แต่ก็ยังเจอสีสันของ อาหารสด พืชผักของชาวบ้าน แครอท สีสดใสเลยทีเดียว
สตรอเบอรี่ออกผลแล้ว
ไม่มี แสง ไม่มีอะไรทั้งสิ้น มีแต่หมอกจางๆ พระอาทิตย์เลือนหาย >>>
[img]http://f.pt
cdn.info/150/037/000/nxeamp5kvTRnIn57HwH-o.jpg[/img]
เลิกกันนะ ภูทับเบิก เราไปแล้วนะ 5555 อกหักรอบสองจ้า
แวะตรงไหล่ทางสักนิด พอมีไร่กะหล่ำให้เราได้ชื่นใจ ตรงนี้เป็นจุดพักรถระหว่างทางลงจ้า
เจอเด็กๆ ด้วย บางทีวัยใส ก็อยู๋กับเราไม่นาน

ขอเก็บภาพสักนิดก่อนลงไปเขาค้อ จุดๆนี้อยากเข้าที่พักแล้วไม่ไหวแล้ว >>>
ระหว่างทางเจอป้าคนนี้ เสียดาย รถวิ่งเร็วไปนิด เก็บท้ายตะกร้าป้าไม่ครบ

แล้วเราก็เข้าที่พัก ณ ภูสนสวย เขาค้อ - ร้านก้ามปู

เนื่องจากกระทู้ที่แล้วเรามารับประทานอาหารมื้อค่ำที่บ้านของเพื่อนเราที่ร้านก้ามปู ณ ภูสนสวย รีสอร์ทนั่นเอง
คราวนี้เราจะไม่พลาดที่จะมาพักไม่ติดหรู ราคามิตรภาพ ติดสนอทแนบชิดจุดชมวิว
ประเด็นคือครั้งที่แล้วยังไม่เต็มอิ่มและอยากเจอหมอกที่จุดชมวิวตะเคียนโง๊ะ (วิว360 องศา ฟูจิเมืองไทย)
ห่างกับที่พัก 5-6 กิโลเมตรนั่นเอง และแล้วความฟินก็เริ่มขึ้น
ขออนุญาตรีวิวจากการเข้าพักจริงไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ได้คือการต้อนรับจากเจ้าของรีสอร์ท
รวมถึงนานาเมนูอาหารต่างๆ ที่นำมาให้เราได้ รับประทานกันในค่ำคืนนี้
บริเวณรีสอร์ทจะมีพื้นที่ สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ ปิ้งย่าง รอบกองไฟ
เด็กๆที่มาสามารถวิ่งเล่นสนุกสนาน
วันที่เราไป เจอนักท่องเที่ยวจากพัทลุง 1 คันรถตู้ โห พี่โคตรแนวขับมาจากใต้เพื่อสิ่งนี้
บริเวณรีสอร์ท มีดอกไม้เบ่งบานมาต้อนรับ
แม่แหวว เจ้าของที่นี่บอกว่า ต้องไปซื้อดอกไม้จากภูเรือเลยทีเดียว เพื่อได้พันธุ์กล้าที่แข็งแรง
บริเวณห้องพัก อย่างที่บอก ไม่ติดหรู เน้นเรียบง่ายสงบ เป็นส่วนตัว
มาดูเรื่อง เมนูอาหารต่างๆ ที่ต้องสั่งคือ
เห็ดหอมทอด
ปลาราดพริก
สเต้ก
เมนูปิ้งย่างตามแต่จะชอบฮะ
สลัดผัก (สดมาก)
บาร์บีคิว
อื่นๆสามารถสั่งได้คะ
บรรยากาศภูสนสวย เรียบง่าย เหมาะกับคนที่อยากมาพักที่สงบๆ จริงๆ
ครั้งนี้พวกเราเลยเลือกนอน 2 คืน
กะจะเฝ้าหมอกให้ได้
เช้าแล้ว เราไปดูหมอกกัน วันแรก (หมอกมาน้อยมากคะ พระอาทิตย์ไม่สาดแสง ท้องฟ้าไม่ประกายใด)
แต่บรรยากาศดีมากคะ
เดินทางจากที่พักไป จุดชมวิวตะเคียนโง๊ะ ใช้เวลาประมาณ ไม่เกิน 10 นาที ระยะทางประมาณ ไม่เกิน 3 กิโลเมตร
การเดินทางสะดวก จอดรถบริเวณลานพักรถ แล้วสามารถเดินขึ้นไปได้คะ
สามารถกางเต้นได้ หลายๆรีวิวคงบอกไปแล้ว
จนวันที่ 2 ที่เราไปเจอของขวัญจาก ธรรม-ชาติ
เราเชื่อนะว่า หลายๆสิ่งคงกำหนดไว้แล้ว ให้เราเจออะไร
การทำให้คู่รัก ถ่ายรูปแล้วดูรักกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย
เช่นกัน ไม่ง่ายสำหรับคนถ่ายภาพไม่มีความรัก >>> ตึ่งโป้ะ
จขกท.ชอบต้นสน คู่นี้มาก บางทีหลายๆอย่างก็ไม่ได้หายไปไหนหรอก เพียงแค่เราหลงลืมมันไป
ภาพ 2-3 ภาพนี้เราชอบมากเลย ในทริปนี้เรามากัน 5 คน
2 คู่เป็นคู๋รัก เราเลยอยากทำอะไรให้สักนิด ไม่รู้ว่าจะชอบกันไหมนะ แต่เราคันหนักมา คลุกดิน กลางป่าสน จ๊ะ ฟินมาก
บางความรักก็ไม่แน่ชัด แต่ก็รู้ว่ายังอยู่เคียงข้างกัน
บางความรักก็ชัดเจน จน เราแทบมองไม่เห็นบางอย่าง
บางความรัก ไม่ต้องมีถ้อยคำใดใด

สนไหม
ใน Route 12

.
เดินทางต่อ ไป PINO และวัดผาซ่อนแก้ว เย็นแล้ว รถไม่ติดแล้ว เราไปช่วง 23-25 หยุดยาว ทำให้ช่วงสายๆรถติด

คนเยอะจริงๆ แอบยืนข้างนอก ไม่ได้ขึ้นไปบนเจดีย์เหมือนรอบที่แล้ว

ผ่านละ PINO รอบนี้ไม่ลงเช่นกัน

ว้าบ ไป ดูแสงสูดท้าย กันดีกว่าก่อนจะกลับกัน แถว หลัง PINO
สิ้นแสงสุดท้าย ของทริปนี้ รีวิวนี้เที่ยวแบบชิล มากมาก อยากไปไหนไป หยุดไหนหยุด นี่มีหลงอีกนะ แอบฮา
จริงๆ การท่องเที่ยวมันก็เหมือน การทำความรู้จักคนใหม่ๆนั้น แหละ
บางทีมันเหมือนจะหลง แต่เราก็มั่นใจ เอะยังไง อยากให้ลองมาเที่ยวกันนะ เราว่าที่นี่มีมุม หลายๆมุมที่น่าสนใจทีเดียว
ค่อยๆ หายไป หายไป ดวงอาทิตย์
"ณ ตอนนี้ ยัง สงสัยตัวเองอยู่ มาเพชรบูรณ์ 2 ครั้งใน 1 เดือน"
นี่คงรักจังหวัดนี้เข้าแล้วสิเรา

แล้วเจอกันใหม่นะ เขาค้อ >>>>>
ขอบคุณที่ดูไป อ่านไป ข้ามไป เราแค่อยากบันทึกมันไว้อีกครั้ง >>>>
ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปทุกคนนะคะ ที่ได้มาเที่ยวกัน หลงกัน
ขอบคุณบ้านภูสนสวยที่ต้อนรับการกลับมาอีกครั้ง
ขอบคุณครอบครัว เตมียสูต เช่นเคย ที่ดูแลพวกเราอย่างดีในบ้านภูสนสวย
ขอบคุณตัวเองที่บ้า พอ ที่ตัดสินใจออกเดินทาง >>> บ๊ายยยยยยยย
[CR] เมื่อคนบ้า ออกตามหาหมอก ณ เขาค้อ จนตกหลุมรัก
http://pantip.com/topic/34267773
[CR]ห นี ก รุ ง >> ไ ป ห า ห ม อ ก ห นี ค น ห ล อ ก ๆ ไ ป ห า ด า ว ( เขาค้อ-เพชรบูรณ์ เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก)
กลับมาคราวนี้ อยากจะบอกว่า เมื่อวันที่ 3-4 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมานั้น
อยากไปเจอหมอกที่ภูทับเบิก แต่ก็เจอสภาพตามที่แต่ละท่านๆได้ไปเจอมา รถติด แคมป์แน่น
รีสอร์ทผุดขึ้นมาสีลูกกวาดบาดตา >>> คือมันไม่ใช่เลยนะฮะ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน
ออกเดินทางจาก กทม. 22.00 น. คืนวันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม 2558 ช่างเป็นเวลาที่ดีงามจริงๆ
ทำ Presentration งานเสร็จ รีบกลับหอ และรออะไรละคะ
ยัดของใส่กระเป๋าเลยคะ ชีวิตในเมืองกรุง กว่าจะถึงห้องก็เกือบสามทุ่ม มีเวลา 1 ชั่วโมง
ก่อนรถยนต์ส่วนตัวของเพื่อน และอีก 4 ชีวิตจะมารับใต้หอ
รถเคลื่อนมุ่งหน้าสู่ภูทับเบิก หวังจะเป็นแสงแรกของวันที่นี่
สภาพการจราจร ไม่ติดขัดมาก แต่ก็เห็นเพื่อนร่วมทางตลอดสาย
และเราก็ถึงไร่ริมผา เวลา 04.15 น. หื่มหนาวเลย หมอกมาตรึม ลุ้นแต่แสงของพระอาทิตย์จะมารึเปล่า .
และแล้วๆ ก็ไม่มาตามเคย ค่อนข้างเฟลสุดติ่ง เพราะ ผิดหวังเช่นเคยกับ หมอก และพระอาทิตย์ที่ไม่ส่องแสง 5555
ขำดีอะ มาสองรอบไม่เจอสองรอบ
ขากลับเราก็แวะกินมื้อเช้าบริเวณก่อนทางลง มีรถสวนขึ้นมาอย่างเยอะ และรถที่กำลังจะเคลื่อนยตัวลงเข้าก็เยอะมากเช่นกัน
นี่มันห้วยขวางดีดีนี่เอง ดีที่ เพื่อนของ จขกท.จอดไว้ โซนข้างล่างทำให้หนีจากวิกฤติตรงนั้นได้
แต่ก็ยังเจอสีสันของ อาหารสด พืชผักของชาวบ้าน แครอท สีสดใสเลยทีเดียว
สตรอเบอรี่ออกผลแล้ว
[img]http://f.pt
เลิกกันนะ ภูทับเบิก เราไปแล้วนะ 5555 อกหักรอบสองจ้า
แวะตรงไหล่ทางสักนิด พอมีไร่กะหล่ำให้เราได้ชื่นใจ ตรงนี้เป็นจุดพักรถระหว่างทางลงจ้า
เจอเด็กๆ ด้วย บางทีวัยใส ก็อยู๋กับเราไม่นาน
ระหว่างทางเจอป้าคนนี้ เสียดาย รถวิ่งเร็วไปนิด เก็บท้ายตะกร้าป้าไม่ครบ
คราวนี้เราจะไม่พลาดที่จะมาพักไม่ติดหรู ราคามิตรภาพ ติดสนอทแนบชิดจุดชมวิว
ประเด็นคือครั้งที่แล้วยังไม่เต็มอิ่มและอยากเจอหมอกที่จุดชมวิวตะเคียนโง๊ะ (วิว360 องศา ฟูจิเมืองไทย)
ห่างกับที่พัก 5-6 กิโลเมตรนั่นเอง และแล้วความฟินก็เริ่มขึ้น
ขออนุญาตรีวิวจากการเข้าพักจริงไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ได้คือการต้อนรับจากเจ้าของรีสอร์ท
รวมถึงนานาเมนูอาหารต่างๆ ที่นำมาให้เราได้ รับประทานกันในค่ำคืนนี้
บริเวณรีสอร์ทจะมีพื้นที่ สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ ปิ้งย่าง รอบกองไฟ
เด็กๆที่มาสามารถวิ่งเล่นสนุกสนาน
วันที่เราไป เจอนักท่องเที่ยวจากพัทลุง 1 คันรถตู้ โห พี่โคตรแนวขับมาจากใต้เพื่อสิ่งนี้
บริเวณรีสอร์ท มีดอกไม้เบ่งบานมาต้อนรับ
แม่แหวว เจ้าของที่นี่บอกว่า ต้องไปซื้อดอกไม้จากภูเรือเลยทีเดียว เพื่อได้พันธุ์กล้าที่แข็งแรง
บริเวณห้องพัก อย่างที่บอก ไม่ติดหรู เน้นเรียบง่ายสงบ เป็นส่วนตัว
มาดูเรื่อง เมนูอาหารต่างๆ ที่ต้องสั่งคือ
เห็ดหอมทอด
ปลาราดพริก
สเต้ก
เมนูปิ้งย่างตามแต่จะชอบฮะ
สลัดผัก (สดมาก)
บาร์บีคิว
อื่นๆสามารถสั่งได้คะ
นี่นั่งเด็ดยอดฟักม้งกับมือเลย สดจริงๆ อิอิ
บรรยากาศภูสนสวย เรียบง่าย เหมาะกับคนที่อยากมาพักที่สงบๆ จริงๆ
ครั้งนี้พวกเราเลยเลือกนอน 2 คืน
กะจะเฝ้าหมอกให้ได้
เช้าแล้ว เราไปดูหมอกกัน วันแรก (หมอกมาน้อยมากคะ พระอาทิตย์ไม่สาดแสง ท้องฟ้าไม่ประกายใด)
แต่บรรยากาศดีมากคะ
เดินทางจากที่พักไป จุดชมวิวตะเคียนโง๊ะ ใช้เวลาประมาณ ไม่เกิน 10 นาที ระยะทางประมาณ ไม่เกิน 3 กิโลเมตร
การเดินทางสะดวก จอดรถบริเวณลานพักรถ แล้วสามารถเดินขึ้นไปได้คะ
สามารถกางเต้นได้ หลายๆรีวิวคงบอกไปแล้ว
จนวันที่ 2 ที่เราไปเจอของขวัญจาก ธรรม-ชาติ
เราเชื่อนะว่า หลายๆสิ่งคงกำหนดไว้แล้ว ให้เราเจออะไร
การทำให้คู่รัก ถ่ายรูปแล้วดูรักกัน ไม่ใช่เรื่องง่าย
เช่นกัน ไม่ง่ายสำหรับคนถ่ายภาพไม่มีความรัก >>> ตึ่งโป้ะ
จขกท.ชอบต้นสน คู่นี้มาก บางทีหลายๆอย่างก็ไม่ได้หายไปไหนหรอก เพียงแค่เราหลงลืมมันไป
อย่าโดด นะเพื่อน 55555
ภาพ 2-3 ภาพนี้เราชอบมากเลย ในทริปนี้เรามากัน 5 คน
2 คู่เป็นคู๋รัก เราเลยอยากทำอะไรให้สักนิด ไม่รู้ว่าจะชอบกันไหมนะ แต่เราคันหนักมา คลุกดิน กลางป่าสน จ๊ะ ฟินมาก
บางความรักก็ชัดเจน จน เราแทบมองไม่เห็นบางอย่าง
บางความรัก ไม่ต้องมีถ้อยคำใดใด
สนไหม
เดินทางต่อ ไป PINO และวัดผาซ่อนแก้ว เย็นแล้ว รถไม่ติดแล้ว เราไปช่วง 23-25 หยุดยาว ทำให้ช่วงสายๆรถติด
คนเยอะจริงๆ แอบยืนข้างนอก ไม่ได้ขึ้นไปบนเจดีย์เหมือนรอบที่แล้ว
ผ่านละ PINO รอบนี้ไม่ลงเช่นกัน
ว้าบ ไป ดูแสงสูดท้าย กันดีกว่าก่อนจะกลับกัน แถว หลัง PINO
จริงๆ การท่องเที่ยวมันก็เหมือน การทำความรู้จักคนใหม่ๆนั้น แหละ
บางทีมันเหมือนจะหลง แต่เราก็มั่นใจ เอะยังไง อยากให้ลองมาเที่ยวกันนะ เราว่าที่นี่มีมุม หลายๆมุมที่น่าสนใจทีเดียว
ค่อยๆ หายไป หายไป ดวงอาทิตย์
นี่คงรักจังหวัดนี้เข้าแล้วสิเรา
ขอบคุณที่ดูไป อ่านไป ข้ามไป เราแค่อยากบันทึกมันไว้อีกครั้ง >>>>
ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปทุกคนนะคะ ที่ได้มาเที่ยวกัน หลงกัน
ขอบคุณบ้านภูสนสวยที่ต้อนรับการกลับมาอีกครั้ง
ขอบคุณครอบครัว เตมียสูต เช่นเคย ที่ดูแลพวกเราอย่างดีในบ้านภูสนสวย
ขอบคุณตัวเองที่บ้า พอ ที่ตัดสินใจออกเดินทาง >>> บ๊ายยยยยยยย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น