บทเรียนราคาแพง : เมื่อฉันมีคู่กรณีเป็นถึงเจ้าของบริษัทประกันแห่งหนึ่ง...

สวัสดีค่ะ เพิ่งตั้งกระทู้ในพันทิปครั้งแรก เพราะเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน กับการประสบเหตุรถชนโดยคู่กรณีเป็นถึงเจ้าของบริษัทประกันแห่งหนึ่ง

ประมาณ 13.40 น. ของวันนี้
เรากับเพื่อนๆก็นั่งรถกลับมาจากการกินข้าวกลางวันกันข้างนอกออฟฟิศโดยมีแฟนเราเป็นคนมาส่ง มันก็จะเกือบจะผ่านไปด้วยดีในวันนี้ถ้าไม่ได้มีเสียงโทรศัพท์จากแฟนเราดังขึ้นมาไม่ถึง 5 นาที่ ที่ได้มาส่งเรากับเพื่อนๆ
แฟน : เตงลงมาข้างหน่อยซิ
เรา : รถชนหล่ะซิ อืมๆ กำลังจะลงไปค่ะ

ทำไมถึงทักอย่างนั้น.. คือตั้งแต่ขับรถมาก็เคยประสบเหตุโดนรถเฉี่ยวชน เราผิดบ้าง เค้าผิดบ้าง ก็เรียกประกันเคลมกันไป ก็ไม่มีอะไร อุบัติเหตุมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ จริงมั้ยคะ?

พอลงไป เห็นแฟนยืนอยู่ข้างๆรถ แบบเหมือนไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น เพราะรถคู่กรณีหายไปแล้ว
เรา : ไหน ชนตรงไหน? แล้วรถคู่กรณีไปไหน?
แฟน : รปภ. ปล่อยไปแล้ว เค้าเป็นคนขับรถ เค้าบอกว่าต้องรีบไปรับเจ้านาย

แฟนเราก็เล่าว่า พอส่งเราเสร็จก็ขับรถกำลังวนออกจากที่ส่งเราตามปกติ พอใกล้จะมาถึงช่องที่จอดรถของผู้บริหารท่านนี้ รปภ. คนหนึ่งก็ยื่นมือมาทำท่าจะให้รถแฟนเราหยุด แต่แฟนเราไม่หยุดเพราะเห็นว่าไม่มีรถตาม แต่รถคันคู่กรณีก็ยังจะออกมาเลยชนช่วงบริเวณกันชนหน้าด้านขวาฝั่งคนขับเล็กน้อย (ตอนหลังพอลองมองรอยเลยเห็นว่าเป็นรอยเหมือนชนช่วงทะเบียนรถพอดี :'( )

เราก็เลยถาม รปภ. ว่า เจ้านายนี่ชื่ออะไรคะ เค้าก็ตอบว่า ชื่อคุณ ภ. ครับ เป็นผู้บริหารอยู่บริษัทประกันชั้น X นี่ละครับ
เราก็เลยเข้าใจเลยว่าทำไมปล่อยไป แต่ตอนนั้นบอกเลยนะ ว่าไม่ได้รู้สึกอะไรเลย ไม่ตกใจ ไม่ตื่นเต้น เพราะคิดว่าแค่เป็นอุบัติเหตุธรรมดา
แต่ไม่ใช่ค่ะ บอกเลย!

เราก็เลยบอก รปภ. ว่างั้นขอจอดรถที่นี่ก่อนนะคะ เพราะจะรอเรียกประกันมาเคลมทีเดียว และเดี๋ยวจะขึ้นไปแจ้งทางผู้บริหารท่านนี้เองว่าคนขับรถเค้ามาชนรถดิฉัน หลังจากนั้นเรากับแฟนก็ไปชั้นของที่ผู้บริหารท่านนี้อยู่ ได้ติดต่อเจอเลขาฯ แลกเบอร์กันไว้ และบอกเค้าว่าถ้าคันขับรถคันคู่กรณีมา ขอให้โทรเรียกดิฉันด้วย
ประมาณ 1 ชั่วโมงก็มีโทรศัพท์จากเลขาฯ โทรมาแจ้งว่ารถคันคู่กรณีมาแล้วนะคะ เราก็ลงไปและก็โทรเรียกประกันฝั่งเรา และไปดูรถคู่กรณี กับประกันฝั่งคู่กรณี ประโยคแรกที่เค้าพูดกับเรา "น้องนี่ชนรถเจ้าของบริษัทเลยหรอ เอาไปแทงหวยได้เลยนะ" เราก็เลยตอบไปว่า "คงไม่ใช่อะคะ" แอบคิดในใจว่า ไม่ใช่นายดิฉันอะคะ แต่ถ้าชนรถนายตัวเองหรือผู้บริหารของบริษัทที่ทำงานอยู่จริง คงไม่เป็นแบบนี้ว่ะ พอไปมองรถเค้าก็แอบดูว่ารถเค้ามีรอยตรงไหนมั้ย แต่ไม่เห็นเลยแหะ! ตอนนี้ก็ยังไม่คิดอะไรอีกค่ะ หลังจากนั้นก็ไปนั่งรอประกันตัวเองประมาณประมาณครึ่งชั่วโมง ประกันเราก็มา เราใช้ประกันของเอเชียพลัส

((ที่เรารู้สึกว่าการบริการเค้าใช้ได้เลย เราขับรถตั้งแต่ปี 1 ชนบ่อย เพราะขับรถไปกลับมหาวิทยาลัยทุกวัน บ้านไกล ก็เกิดอุบัติเหตุบ้างอะไรบ้าง มีเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง แต่ผิด-ถูก ก็เป็นไปตามนั้นไม่เคยเจอปัญหาเหมือนครั้งนี้ ก็ใช้เอเชียพลัสมาตั้งแต่เริ่มขับรถเลย เคยเปลี่ยนเป็นอีกเจ้าประกันอยู่ครั้งนึงรู้สึกไม่โอเคเท่าก็กลับมาเปลี่ยนใช้เอเชียพลัสเหมือนเดิม))

พอประกันเรามา เค้าก็มาถ่ายรถเรา มาสอบถามข้อมูลจากแฟนเรา และก็ไปคุยกับรถคู่กรณี เดินไปคุยกันพักนึงนึง ประกันเราก็เดินกลับมาบอกเราว่า
"ทางคู่กรณีเค้าบอกว่าเค้าไม่ได้ชนเราครับ"
เรานี่สตั๊นไปเลยจ่ะ แฟนเราก็ไม่พอใจมาก ก็นึกกันได้ว่าเห๊ยยย เรามีกล้องหน้ารถนะเว่ยย แต่มันไม่ง่ายขนาดนั้นค่ะ
เพราะกล้องเรา เปิด ไม่ ได้!!! ก็เลยบอกทางประกันฝั่งนู้นว่า ลองเอาเมมไปเปิดดูหน่อยได้มั้ยคะ เพราะมันดูจากกล้องเลยไม่ได้
ครั้งแรกที่เอาเมมไปเช็ค เอาเข้าไปเช็คที่ออฟฟิศของบริษัทประกันคู่กรณีก่อนเพราะอาคารสำนักงานเค้าอยู่ที่นี่พอดี หึหึ พอเอาไปให้เช็คก็ไม่สามารถเช็คได้เพราะติด security ของทางบริษัท เราก็เลยพูดแบบเสียงแข็งไปว่า ทำไมไม่เอามาให้ฝ่าย IT เราดูให้ตั้งแต่เราบอกตอนแรก รู้มั้ยมันเสียเวลาทำงานเรามากแล้วนะ สิ่งที่เจ้าหน้าที่ประกันภัยคู่กรณีเราตอบมามันทำให้เราโกรธจนน้ำตาไหล "เสียเวลามาก ก้ไปแจ้งความซิครับ" มัน ใช่ หรือ คะ กับคำพูดที่เค้ามาพูดกับเรา?!? โกรธมากก ตั้งแต่ไม่รับผิดชอบ แถมหัวหมอใส่เรา คือดูแลดีไปปะคะ เจ้าของบริษัทก็คือลูกค้าป่ะ คือคุณดูแลลูกค้าบริษัทประกันคุณด้วยการหัวหมอแบบนี้ทุกเคสมั้ยอะ
หลังจากนั้นเค้าก็ขึ้นไปที่ฝ่าย IT บริษัทที่เราทำงาน เราโทรไปขอให้พี่เค้าช่วยเปิดกล้องให้เราหน่อย พอเปิดไปไฟล์ในกล้องกลับไม่มีไฟล์ที่เราต้องการ พอพี่เค้าหาแล้วยังไม่มีแววเจอ เราก็เริ่มเซ็งละ ก็เลยหันไปถามประกันคู่กรณีว่า "ถ้าไม่เจอทำไง" เค้าก็ตอบเราว่า "ถ้าไม่เจอแสดงว่าเราก็ไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดเค้าได้ ถ้าเราฟ้อง เค้าก็ฟ้องเหมือนกัน แล้วสุดท้ายถ้าตำรวจสืบพยานไม่ได้ เราก็อาจจะโดนข้อหาแจ้งความเท็จ" ตอนนั้นเราโมโหจนจุกอกพูดไม่ออกเลย ก็ถามประกันฝั่งเรา เค้าก็ถามเราว่าตอนชน รถคู่กรณีอยู่ตรงนั้นตลอดมั้ย "เราก็ตอบว่าไม่ค่ะ เค้ารีบออกไปรับเจ้านาย" ประกันเราก็เลยบอกว่า "ถ้าเค้าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุตลอด ก็เป็นไปได้ที่เค้าจะไปลบหรือทำลายหลักฐาน" เราก็เลยคิดว่า เอาว่ะ จะสู้ จะสู้เพราะเราไม่ผิด และเค้าควรจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง!

สุดท้ายค่ะ เราก็ทำอะไรเค้าไม่ได้ เพราะวัตถุพยานเราอ่อนไป (จริงๆตรงนั้นมีกล้องวงจรปิด แต่มันส่องไม่เห็นช่วงที่เราชนกัน เค้าว่าอย่างนั้น) ตรงนั้นมีพยานบุคคลค่ะ ซึ่งเป็น รปภ. ของที่บริษัทนี่จ้าง ซึ่ง...เค้าก็คงไม่ได้ช่วยอะไรเราเท่าไร ประกันเราก็แนะนำเราว่าถ้าอย่างนี้เค้าสามารถทำเรื่องขอบริษัทให้อนุมัติได้โดยเราก็ไปลงบันทึกประจำวัน และทำเอกสารซึ่งเจ้าหน้าที่เคลมก็ยินดีจะช่วยทุกอย่าง (ต้องขอบคุณมากๆจริงๆค่ะ) แต่แฟนเราบอกว่าเนี่ยเรายังมีใบเคลมของประกันเจ้าเดิมที่ยังไม่ได้ใช้ มันมีอายุเคลม 1 ปี จะใช้ได้อยู่มั้ย ประกันก็เลยบอกว่างั้นก็ไม่ต้องเคลมกับเค้าให้เสียประวัติหรอก ก็เลยจบแบบเจ็บๆไป

ที่เล่ามาอย่างยืดยาว ก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์ค่ะ จริงๆเคยเจอมาก็มากนะคะ เห็นมาก็เยอะ ไอ้พวกชนแล้วบอกไม่ชน แต่ไม่เคยเจอกับตัวเองค่ะ
เลยอึ้ง ช็อค ตกใจ เสียใจ เบื่อ เศร้า เซ็ง นอยไปเลยแหละ จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ถ่ายรูปกันไว้ก่อนเลยนะคะถ้ายังไม่มีกล้องติดรถ หรือมี ลงทุนนิดนึงค่ะ
เราไม่รู้ว่าเราซื้อกล้องมาไม่ดีเอง (ก็หลักพันต้นๆอยู่นะคะ) หรือว่ายังไง แต่ก็โทษตัวเองด้วยที่มองโลกในแง่ดีเกินไป ไม่คิดว่าจะเจอพวกหัวหมอ!!!

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่