Disneyland California First time (รูปเยอะนะคะ)

สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แบบจริงจังครั้งแรกของจขกท.เลยค่ะ จขทก. เป็นนักศึกษาในแคลิฟอเนียร์นะคะ ความจริงนี่ก็เป็นปีที่สองแล้วที่อยู่รัฐแคลิฟอเนียร์ในเมืองเดียวกับดิสนี่ย์แลนด์ แต่เราไม่เคยไปดิสนี่ย์แลนด์เลยยย ทั้งๆที่บ้านห่างออกไปแค่สิบนาที+ได้ยินเสียงพลุทุกวันตอนสองสามทุ่ม จขทก.เคยไป California adventure มาแล้วนะคะแต่ยังไม่เคยไปDisney park ทั้งๆที่สองอันนั้มันอยู่ติดกัน555 แต่ก็อยากลองไปดูซักครั้ง พอดีวันศุกร์ปีนี้โอกาศทองอันดีงามก็มาถึงค่ะเพราะอาจารย์แกยกเลิกคลาสแถมโฮสมัมยังชวนพอดี เลยจัดไปสิคะ

ตั๋ว: อย่างแรกเลยก็ต้องซื้อตั๋วค่ะ ออนไลน์ก็สะดวกดีนะคะแต่ซื้อหน้างานเลยก็ได้ไม่ต้องกลัว sold out ค่ะ สะดวกกว่าด้วย เพราะตั๋วออนไลน์ต้องสั่งล่วงหน้าแล้วก็ไม่ได้มีส่วนลดเพิ่มเติมด้วย
มีราคาตั๋วผู้ใหญ่ (อายุ10+) กับตั๋วเด็ก (3-9) ราคาไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่เลย (ประมาณสองร้อยบาท)
ราคาตั๋วก็ตามนี้เลยค่ะ ถ้าซื้อหลายวันก็จะได้ราคาถูกขึ้น


CA adventure เปิด 8โมงถึง4 ทุ่มค่ะ ค่อนข้างเล็กกว่าดิสนี่ย์แลนด์มาก เดินวันเดียวเล่นได้หมดทุกเครื่องค่ะ เครื่องเล่นสำหรับเด็กโตจะมีมากกว่าดิสนี่

Disney park เปิด 8โมงถึงเที่ยงคืนค่ะ เป็นสวนสนุกที่ใหญ่มวากกกก แนะนำว่าถ้าอยากเดินให้ทั่วก็ตั๋วสองวันถึงน่าจะเอาอยู่ค่ะ

Park Hopper คือสามารถเปลี่ยนจาก Disneyland ไป CA adventure ได้ภายในวันเดียวกันค่ะ ราคา $56

ที่จอดรถ: ในกรณีของจขกท.โฮสมัมขับรถไปค่ะ ไปจอดที่อาคารจอดรถของdisney ราคาค่อนข้างโหดหิน $18 ต่อคัน จากนั้นก็จะมีรถรางมารับเราไปหย่อนไว้หน้าดิสนี่เลย
จขทก.แนะนำว่าสำหรับนักท่องเที่ยว ถ้าพักใน disneyresort จะมีรถไฟต่อตรงจากโรงแรมมาให้เลย โฮสมัมบอกว่าถึงอยู่โรงแรมอื่นแต่ก็ขึ้นได้เหมือนกันนะคะ (จขทก.ไม่เคยขึ้นเลยบอกไม่ได้ค่ะ) รถบัสสาธารณะราคาค่อนข้างถูกแต่ต้องวางแผนเวลาดีๆหน่อย อีกทางเลือกที่ดีมากเลยคือเรียกuberเลย ง่ายสุด5555

ป.ล. ไม่เซลฟี่สติ๊กห้ามเอาเข้าแล้วนะคะ ถ้าเจ้าหน้าที่เห็นโดนริบหมดนะเออ

*ก่อนจะเริ่มจขทกต้องขอโทษไว้ล่วงหน้าเลยนะคะเพราะถ่ายภาพบ้างไม่ถ่ายบ้าง บางช่วงบางตอนก็ถ่ายซะเยอะ บางช่วงก็อาจจะไม่มีรูปประกอบนะคะ ถ้ามีคือรูปจะมาจากอากู๋ค่ะ*

วันศุกร์ที่สามสิบก็ออกจากบ้านตอนประมาณเก้าโมงค่ะ โฮสมัมตื่นมาแพคของกินตั้งแต่หกโมงเช้าแน่ะค่ะ(เพราะของกินในดิสนี่แพงมวากก) แพคน้ำที่แช่จนแข็งสิบกว่าขวด มะม่วง,แตงกวา,มันแกวหั่นใส่ถุงซิปล็อก ขนมนมเนย แล้วก็แซนวิชค่ะ แล้วก็ขับรถออกจากบ้านไปถึงอาคารจอดรถ ไปเช้าคนค่อนข้างโล่งค่ะ
(ลูกโฮสเล่าให้ฟังว่าเคยเป็นอาคารจอดรถที่ใหญ่ที่สุดจนกระทั่งจีนสร้างอาคารจอดรถที่มีที่จอดรถมากกว่า1ช่อง ไม่รู้นะว่าจริงมั้ยแต่ถ้าจริงก็เกรียนมาก555)
 
รูปจากgoogleค่ะ


แล้วก็เดินลงบันไดเลื่อนมาขึ้นรถราง


รถรางคือดีงามค่ะ สะอาด สวยงาม รวดเร็ว ตอนขากลับก็เดินมาที่เดิมค่ะ (แต่ต้องห้ามเลยตี1นะคะเพราะเค้าจะหยุดให้บริการหลังดิสนี่ปิดหนึ่งชั่วโมง)


แล้วพอลงจากรถรางแล้วเดินตรงไป ก่อนจะตรงถึงจุดซื้อตั๋วจะมี security checkก่อนให้เข้าไปนะคะ เตรียมเปิดกระเป๋ารอไว้ได้เลย แล้วก็เดินตรงไปซื้อตั๋วได้เลยค่ะ ถ้าไปเก้าโมงแถวไม่ยาวแน่นอนค่ะ


ซื้อตั๋วเสร็จปั๊ปเดินตรงมาอีกนิดจะเห็นทางเข้าทั้งของ Disneyกับ ​ca adventure ทันทีค่ะ (ca adventureอยู่ขวามือ Disney อยู่ซ้าย) ถึงแถวซื้อตั๋วไม่ยาวแต่แถวเข้าสวนสนุกนี่ยาวมั่กข่ะ แต่ก็ไม่เกินสิบนาทีได้เข้า


โฮสมัมบอกว่าขอไป ca adventureก่อนแล้ว ช่วงบ่ายเราจะเปลี่ยนไป disney กัน
ทางเข้าทางฝั่ง disney อยู่ตรงข้ามกันเลย แล้วนั่นก็คือรางรถไฟที่ต่อไป disney resort


ทางเข้า-ออก เก็บตั๋วให้ดีนะคะระวังหาย + เวลาออกเค้าอย่าลืมให้เค้าแสตมป์มือให้ด้วยนะคะไม่งั้น park hopper ก็ใช้ไม่ได้ กลับเข้าไปก็ไม่ได้ด้วย


อันนี้หลังจากเข้ามาค่ะ (ถ่ายมาแต่ต้นไม้ง่าา5555)


เดินเข้ามาอีกหน่อย ตึกที่เห็นนี่เป็นห้องอาหารค่ะ จขทก.ไม่ได้เข้าไปข้างในเลยไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู
ถัดจากตึกนี้จะมีสตาฟให้สอบถามข้อมูลได้ค่ะ


ช่วงต้นๆส่วนใหญี่จะเป็นพวกร้านอาหารกับร้านขายของที่ระลึกหมดเลยค่ะ  เครื่องเล่นจะอยู่ลึกๆหน่อย


ในภาพนี่คือจะเป็นวงเวียนเล็กๆค่ะ จะวงดนตรีมาเอนเตอร์เทนแบบคิ้วๆค่ะ แถวๆนี้จะเป็นบริเวณที่ได้ถ่ายกับดิสนี่คาแรคเตอร์แบบคลาสสิก (มิกกี้ มินนี่) ถ้าจะถ่ายรีบต่อคิวนะคะเพราะเค้าจะมาเป็นช่วงๆสลับกันไป สามารถขอให้ช่างภาพใช้โทรศัพท์เราถ่ายให้ได้
วงดนตรี


รถรางขึ้นฟรี มีแอร์มี ไกด์บรรยาย ไว้ขึ้นเวลาเมื่อยขา 555


เครื่องแรกที่เราตัดสินใจจะไปกันก็คือ tower of terror


คือต้องบอกก่อนเลยว่าเราเนี่ยไม่กลัวความสูงแต่เกลียดความรู้สึกที่โดนปล่อยจากที่สูงมากๆๆ ตอนขึ้นไอ้ตัวนี้ครั้งแรกเมื่อปีก่อนดันติงต๊องไงคะ เห็นตึกสูงๆนี่ก็นึกว่าคงเป็นรถไฟเหาะ ไม่ได้ดูตาม้าตาเรือเล้ยย พอจะเล่นนี่ถึงรู้เลยว่า “ช็อตนี้คือตายค่ะ” #ขุ่นแม่ลูกเกด แต่ด้วยความที่เด็กเค้าอยากขึ้นกันแล้วโฮสมัมต้องดูน้องคนเล็กสุด เราก็เลยเสียสละไป
นางเอกโน๊ะ


มานึกอีกทียังคิดเลยว่า ดูยังไงให้เป็นรถไฟเหาะ5555

ภายในตกแต่งได้น่ากลัวดีและสวยดีค่ะ


ภาพข้างล่างนี่ความจริงตรงมุมซ้ายจะมีตุ๊กตาคล้ายๆแอนนาเบลแบบตาถลนนั่งอยู่แต่เรากลัวเลยไม่ถ่ายมา 5555


ต่อแถวตั้งแต่นอกตึก พอเข้าตึกก็มีแถวต่อ แล้วก็เข้าห้องเค้าก็จะเล่าที่มาที่ไปให้เราฟัง พออกห้องก็มีแถวต่ออี๊กกก #แถวception นี่ขนาดตอนเก้าโมงนะ
ตอนก่อนเข้าห้อง


ตอนต่อแถวหลังจากออกจากห้อง ตกแต่งก็เปลี่ยนแนวค่ะ แต่ก็สวยอยู่ดี



ความจริงในห้องนี่ค่อนข้างมืดนะคะ แต่กล้องปรับแสงมาแล้วเลยดูเหมือนว่าสว่าง

เข้าห้องเชือด
สตาฟทุกคนคีฟคาแรคเตอร์มากค่ะ แกจะพยายามไม่ยิ้มเลยแต่ทุกคนคือเล่นมุกตัลหลอดน่ากลัวปนตลกๆดี


ก็ตามเสต็ปค่ะ พุ่งขึ้น แล้วเปิดหน้าต่างรับลมชมวิวจ้า(สูงประมาณตึก7-8ชั้น) แล้วปล่อยเบาๆเรียกน้ำย่อย ต่อด้วยพุ่งเบาๆไม่ปล่อย พุ่งขึ้นจังหวะชักกระตุก พุ่งอีกนิดแล้วปล่อยยาว ชักกระตุกอีกซักที รอบสุดท้ายเนี่ยพุ่งสูงแล้วเทเลยค่ะ ไม่ถงไม่ถามเรื่องสุขภาพซักคำ
ออกมานี่อายลูกโฮสมาก555 เรานี่กรี๊ดสุดคอหอย เค้านี่ไม่ร้องซักแอะ (8-9ขวบ) นี่หัวหดมากจับใหล่ลูกโฮสตลอด ไม่กล้าลืมตาด้วย #อายเด็กมั้ย

(ต่อจากอันนี้เลยหมดแรงเลย กล้องเกลิ้งไม่แบกล่ะ ขี้เกียจถ่าย ยัดใส่รถเข็นเด็กไว้เลย ฉะนั้นต่อจากนี้ภาพจะมากจากอากู๋เป็นส่วนใหญ่นะคะ 555)

หลังจากนั้นเราก็ไปเล่น Soarin’ Over California อารมณ์แบบ simulator เครื่องร่อนไปทั่วัฐแคลิฟอเนียร์
ส่วนตัวคือชอบมากกก ภาพสวย มีลมกับกลิ่นธรรมชาติประกอบ ค่อนข้างเหมือนจริง แอร์เย็นฉ่ำๆ แกว่งไปมา พอตื่นเต้นนิดๆ แต่ผ่อนคลายมากจริงๆ
จากgoogle


ทีนี้เราก็ไปต่อด้วย California screaming ค่ะ roller coaster ที่น่าจะผาดโผนสุดแล้วแหละใน ca adventure กับ Disney land
ส่วนตัวเครื่องนี้คือชอบที่สุดแล้วค่ะ ตอนเข้าคิวแถวไม่ได้ยาวมากด้วย ต่อแค่ประมาณสิบห้านาที ตอนครั้งแรกที่จขกท.มากับเพื่อนก็เล่นไปหกรอบได้ค่ะ (ใช้ fast pass) เพราะสนุกมวากก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
เครื่องเล่นที่ว่า แปลไทยคือ เสียงหวีดร้องของแคลิฟอเนียร์


แต่ก็มีเรื่องให้ขรรม(?) นิดหน่อยกับเครื่องนี้ตอนที่มากับเพื่อน เพราะตอนพวกเราจะเล่นรอบที่หก เราไปทานข้าวเที่ยงกันก่อน พอกลับมาเราก็มองข้ามสะพานไปก็งงๆว่าทำไม่มีคนต่อแถวเลย พอเงยหน้ามองเครื่องเล่นเนี่ยถึงรู้เลยว่ามันหยุดชะงัก ตอนแรกเราก็เฉยๆนะ
แต่พอดูชัดๆนี่คือตกใจมากเพราะคนมันยังอยู่บนนั้นเว่ย!! แล้วเป็นจุดที่แย่ที่สุดเลยด้วย เพราะมันเป็นยอดที่สูงสุดของเครื่องเล่นก่อนมันจะหักลงอ่ะ แล้วคือช่วงหัวของเครื่องนั้นลงเนินไปแล้วนิดนึงด้วยจ้า แถมช่วงตอนลงคือไม่มีบันไดด้วยไง มีแค่ตอนช่วงขึ้นมาจุดสูงที่สุด
ยอดนี้เลยจ้า จาก google


เวลาผ่านไปสิบกว่านาที เรานี่แบบเสียวแทนอ่ะ เพราะคนข้างหน้าเค้าก็ทนไม่ไหวมั้ง เค้าเลย “ลุก”ขึ้นมา นั่นแปลว่าตัวล็อกที่ทำหน้าที่เหมือนเข็มขัดอ่ะมันไม่ล็อกแล้วไง เพราะปกติต้องให้สตาฟกดปุ่มเท่านั้นถึงจะลุกได้ นั่นคืออึ้งที่สุดแล้ว สรุปคือทุกคนติดอยู่บนนั้นกว่าครึ่งชั่วโมงจ้า แต่พอซ่อมเสร็จปุ๊ปถามว่าเราไปเล่นต่อมั้ย...ก็เล่นค่ะ5555





ต่อจาก California screaming เราก็ไปต่อที่ Aladdin the musical ค่ะ ประทับใจฉากกับจินนี่ค่ะ นอกนั้นส่วนตัวคิดว่ายังเฉยๆกับอลาดินและจัสมินแต่โดยรวมก็เป็นมิวสิเคิลที่น่ารักดีค่ะ จินนี่คือฮามาก มุกนางนี่อินเทรนด์ตลอด ไมลี่ กับ จัสติน นางยังเอามาเล่น

ภาพทั้งหมดจาก google ค่ะเพราะเค้าไม่อนุญาตให้ถ่ายรูประหว่างแสดงค่ะ




พรมคือแอบฮา โผล่มาแค่หัว


ต่อมาเราก็ไปกันที่ ล่องแก่งจำลอง rapid ค่ะ เป็นการวัดดวงอย่างหนึ่งว่าจะแจ็กพอตจะแตกมั้ย ระดับความเปียกมีจากแห้งไปถึงซ่ก แล้วแต่ดวงจริมๆที่นั่งไม่เกี่ยว จขทก.เรียนรู้อย่างนึงเลยว่าเสื้อผ้าถึงเปียกแต่แดดแรงก็แห้งได้แต่ถุงเท้ากับรองเท้าผ้าใบนี่ไม่แห้งตามนะคะ
รูป google


ครั้งนี้เลยเดินไปขอถุงพลาสติกที่ร้านขายของที่ระลึกมาเลยค่าแล้วจัดการถอดรองเท้าถุงเท้าใส่ถุงพลาสติกค่ะ มีพี่แกคนนึงชมเลยว่า genious! เอาจริงๆคือเกลียดการใส่ถุงเท้าเปียกๆมากค่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
รูป google

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่