ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำอย่างไร

เรื่องมีอยู่ว่าแฟนกับเพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนกันตอนที่เป็นทหาร แล้วมีความตั้งใจจะเปิดร้านแอร์ร่วมกันเลยส่งเพื่อนคนนี้ไปฝากร้านแอร์ของน้าตัวเองที่กรุงเทพ ให้เรียนรู้งาน ตั้งแต่ปี 2551 เราแต่งงานกับแฟนปี 2557 แฟนก็เปิดร้านแอร์ และเครื่องกรองน้ำ แฟนทำงานรัฐวิสาหกิจด้วย เปิดร้านได้ตอนเย็นและเสาร์อาทิตย์ เราเลยลาออกจากงานย้ายมาอยู่กับแฟน  ที่อยู่และเปิดร้านเป็นอาคารพานิชย์ 3 คูหาแบบด้านบนเชื่อมต่อกัน 2 ห้อง ด้านล่างเชื่อมกันหมดค่ะ เคยไม่ชอบเพื่อนแฟนตอนแต่งงาน ไปถ่ายพรีเวดดิ้งก็ไปด้วย ขับรถยนต์ไม่เป็น หิวข้าวก็ให้แฟนเราพาไปกิน เสียเวลามาก ไปกินข้าวด้วยกันแล้วบอกเราว่าถ้าเรายังไม่ย้ายมาจะให้แฟนตัวเองเปิดร้านกาแฟเพราะตัวเองชอบกินกาแฟ ตอนนั้นเราก็ไม่เคยรู้จักเขา เราก็อึ้งๆแต่ไม่ได้โต้ตอบอะไร บอกแฟนว่าไม่ชอบ
     เราย้ายมาอยู่กับแฟน แฟนกลัวเราเหงาเฝ้าร้านคนเดียว เลยจะให้เปิดร้านกาแฟอีกห้องนึง เราก็ลงทุนเอง ร้านตกแต่งเอง หมดไปเกือบแสน เราก็ลงทุนเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ และตู้น้ำไว้ทาวเฮ้าส์ของครอบครัวแฟนในตัวเมือง มี 2 ห้อง ปล่อยเช่า 1 ห้อง ก็ได้เดือนละประมาณ 3,000 รายได้ทั้งหมดพอจ่ายค่างวดรถเก๋งของเรา จากเงินเก็บสำรองจ่ายงวดรถของเราเอามาลงทุนหมด เฮ้อ
    เราย้ายมาอยู่พ่อแฟนก็หาคนงานมาให้ 1 คน ตอนแรกทำงานดี หลังๆเก่งแต่ปาก สุดท้ายโกงร้านเราไปเกือบ เกือบสองแสน เพิ่งมารู้ว่าช่างคนนี้เคยติดคุกคดีฉ้อโกงมาก่อน เอิ่มพ่อทำไมไม่บอกเราอะ ตอนนี้ใครมาสมัครงานเช็คประวัติกับตำรวจเลย ไม่ให้โอกาสคนแบบนี้อีกแล้ว (ทำไมถึงโดนโกงได้เดี๋ยวมีคนสงสัย) เราแท้งลูกอยู่โรงพยาบาลหลายวันแฟนก็ไม่มีเวลาไปเก็บเงินลูกค้าค่ะ เขาเลยเชิดเงินไปเลย  เรากับแฟนก็เริ่มต้นธุรกิจอีกครั้ง คือจนมาก เงินเก็บก็หมด เลยได้โอกาสให้เพื่อนแฟนมาทำซักที มาถึงให้เป็นผู้ร่วมธุรกิจตามที่ตกลงกันไว้จะได้เงินตอนที่ได้งานเท่านั้น  แฟนก็ให้เริ่มทำโดยเขียนรายการของ กลับบอกว่าไม่ทำจะขอเป็นลูกน้อง แฟนให้เงินเดือน 8,000  บาท ถ้าไม่มีงานที่ร้านให้ไปทำกับพ่อหรือน้องชายแฟน ครอบครัวทำธุรกิจรับเหมาโครงสร้างเหล็กค่ะ ที่อยู่ ค่าน้ำไฟ ฟรี  ข้าวฟรี กับข้าวซื้อมาเผื่อให้ถึงพรุ่งนี้ตอนเช้าด้วย(เงินเดือนก็ให้ทำไมไม่ซื้อเองวะ เราคิด)
   ตอนเช้าเขาจะลงมาเปิดร้านให้ แต่งตัวลงมาข้างล่างไม่เรียบร้อยไม่ใส่เสื้อใส่แต่กางเกงเห็นร่องก้นดำๆ ข้างหน้าจะเห็นปิกัสจูแล้ว กินเหล้าหน้าบ้าน แล้วไม่เก็บให้เรียบร้อย มีก้นบุหรี่ วางเต็ม เราก็บอกแฟนแฟนบอกไปทำได้ 3 วันก็เหมือนเดิม แฟนเราบอกให้เอาน้ำแข็งมาใส่ถังให้หน่อย เขาก็ไปเอามาใส่แต่ไม่ปิดฝา น้ำแข็งก็ละลายเนอะ เราเห็นเลยพูดกับแฟนว่าทำเหมือนเด็กส่งน้ำแข็ง เทปุ๊บแล้วก็ไป (เราว่าน้ำแข็งไม่สะอาด เวลาละลายแล้วมีแต่เศษฝุ่นตะกอนลอยเต็มเลย ส่งช้ามาก เลยตัดสินใจซื้อเครื่องทำน้ำแข็ง 10 กิโล) เราก็พูดตลกสนุกสนานเหมือนวันที่ผ่านมา แต่เพื่อนแฟนกลับพูดว่า หัดทำเองบ้างสิ เราก็เลยพูดว่า ว่าอะไรนะ เขาก็เปลี่ยนเรื่องคุยก็เลยถามแฟนว่าพี่เขาว่าเค้าใช่ไหม แฟนก็บอกว่าใช่ ตั้งแต่นั้นมาเราก็วางตัวใหม่ เป็นเจ้าของบ้าน มีเขาเป็นช่างในร้าน ไม่คุยเล่นด้วย ไม่ต่อปากต่อคำ เขาชอบใช้แฟนเรา วันนึงกินก๋วยเตี๋ยวเราก็ไปเอาถ้วยแฟนเรากำลังแกะถุง ส่วนเพื่อนแฟน แกะเสร็จแล้ว มานั่งลงแล้วบอกแฟนเราไปเปิดทีวี แฟนบอกแป็บนึงแล้วเขาก็พูดว่าเร็วๆๆดิ แฟนเราเลยวางถุงแล้วไปเปิดให้ เราก็ถามว่าทำไมไม่เปิดเอง หันหน้ามามองเราแล้วไม่ตอบ  เวลาเราถามประมาณว่ากินข้าวแล้วเหรอ ชวนกินข้าว เขาก็จะเงียบไม่ตอบแล้วเดินไปเลย เวลาจะให้แฟนเราพาไปซื้อของหรือกับข้าวจะกระซิบบอกหรือเรียกให้ไปหาแล้วขับรถพาเขาไป คือมันให้ความรู้สึกแบบนิเราเป็นเมียหลวงเหรอ เราไม่กินข้าวเย็นแฟนก็เป็นคนกินอะไรง่ายๆ และก็อีกครั้งกลับมาจากทำงาน ถามว่าไม่มีกับข้าวเหรอ(ตาไม่มีเหรอทำไมไม่ซื้อมาละ เราคิด) แฟนเราเลยบอกว่าไม่มีก็ไปซื้อที่ตลาดเดี๋ยวพาไป เขาก็มาเร่ง ซึ่งแฟนเราคุยไลน์กะลูกค้าอยู่ บอกจริงๆไม่ถึง 5 นาที เขาไม่พอใจแล้วบอกว่าไม่ไปแล้วก็เดินไปไหนไม่รู้ ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าเขาไม่ได้ไปด้วยกัน เราก็แปลกใจอ้าวทำไมกลับมาคนเดียว แล้วก็ตักข้าว เอาจานช้อนขึ้นไปห้องตัวเอง ซักพักแฟนก็กลับมาเลยถามว่าทำไม่พี่เขาไม่ไปด้วย แฟนบอกว่าไม่รู้ ซื้อผัดไทมาให้เขาและกับข้าวของวันพรุ่งนี้ให้ด้วย อันนี้ก็ดีเกิน เรานิเริ่มไม่พอใจละ ต้นไม้ของเพื่อนแฟน เราก็ซื้อกระถาง ดิน ใส่ให้  3 กระถาง  ก่อนหน้านี้รดน้ำต้นไม้ให้เราแต่รดแบบขอไปทีบ่ายมาต้นไม้ก็เหี่ยวละ เราก็โอเคนะ  แต่ตอนนี้เอาต้นไม้ตัวเองไปแอบไว้แล้วก็รดแต่ต้นไม้ตัวเอง พอวันไหนไม่มีกับข้าวอีกแฟนเราก็ติดคุยกับลูกค้า มาสั่งเราให้โทรหาแฟนเราแล้วให้ซื้อกับข้าวมาด้วย  คือแฟนไปคุยงานแล้วยังให้ไปซื้อกับข้าวอีก มันเกินไปไหม เราก็คุยกับแฟนว่าสิ่งที่เขาทำมันมากเกินไป รถเราก็มี(รถกระบะมิซซูแคปสำหรับช่าง) ก็ไม่ไปหัดขับรถกินแต่เหล้าตอนเย็น อยากไปซื้อข้าวก็ขับไปสิ มันจะสามเดือนแล้วที่มาอยู่ แฟนเราเอาแต่เงียบ แล้วพูดว่าช่างมัน เราเบื่อมาก เราเลยบอกว่าโอเคงั้นอยู่ใครอยู่มัน จบ!! พอเช้ามาก็ไปคุยกันแล้วมาบอกว่าพี่เขาจะไปอยู่บ้าน อ้าวแล้วที่คุยกันเมื่อคืนละ เราก็จะพยายามปรับความรู้สึกตัวเองไง แล้วทำไมเป็นแบบนี้ เราก็แค้น โมโห อิจฉา ริษยา ที่เขาไม่พอใจแล้วก็จะกลับบ้านหนีปัญหาโดยให้แฟนเราไปส่งเพราะรถไม่มีขับรถไม่เป็น  เป็นแต่จักรยาน แต่ก็ไม่มีอยู่ดี เราเลยโพสต์ในเฟสบุ๊คเราเช่นกัน "เคยไหม? มีปัญหาก็อยากหนีกลับบ้าน ฉันก็อยากกลับแต่บ้านฉันอยู่ไกล ฉันมีรถ ขับรถเป็น แต่ขึ้นลงเขากลัวจริงๆ ที่สำคัญไม่มีมีเงิน" แม่แฟนมาเห็น เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น แม่แฟนอยู่ต่างประเทศ เราก็เล่าให้ฟังหมด แม่เลยบอกว่าเดี๋ยวแม่กลับไปจัดการให้ ไม่ถึงสามวันพ่อมาบอกเราว่าจะให้เพื่อนแฟนคนนี้ไปอยู่โกกัง ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไป รอแม่มามั้ง  เราก็เข้าใจแฟนนะที่ง้อเขาเพราะไม่มีช่างที่ไว้ใจได้ ไม่ขโมยของในรถ เราไม่รู้จะทำยังไง บางครั้งเราโกรธที่ไม่ฟังเราระบายเลย เข้าข้างเพื่อนตลอดเวลาก็เลือกมาเลย เอาความจริง จขกท. คิดถึงบ้าน พ่อแม่ พี่น้อง บ้านที่สบาย ถึงแม้จะไม่มีงานคือไม่อยากเป็นครูพ่อกะแม่บังคับ พ่อกับแม่น่าจะเข้าใจลาออกจากวงการครูแล้วอะถ้าจะเข้าไปก็ลำบากอีก เดี๋ยวยาวค่ะ แต่จะไปเปิดร้านกาแฟที่บ้านกับพี่สาว เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญน่าจะประทังชีวิตไปได้ แต่ก็รักแฟนมาก เลยอยากมีลูกซักคนจะได้ยืนได้เร็วกลัวลูกอดตาย แต่ก็มีแบบธรรมชาติไม่ได้แล้ว เฮ้อ  ถ้าคนที่อ่านแล้วคิดเห็นยังไงพูดได้เลยนะคะ
อยากรู้ความคิดเห็นคนอื่นคิดยังไง ที่ไม่รู้จักเรา รู้สึกสับสน ขอบคุณค่ะ

ที่คิดถามวันนี้รู้สึกตัวเองไม่ไหวแล้ว เป็นโรคจิตนิดๆ โดยการตัดรากต้นไม้พี่เขาแล้วเสียบใหม่ ให้มันตาย ร้ายไหม แต่ไม่ทำให้ดีขึ้นเลย รู้สึกแย่มาก
รู้สึกว่าตัวเองคิดได้ไงวะ ที่เรียนมาไม่ช่วยไรเลย หรือจะเครียดไปกลับบ้านก็ไม่มีเงิน ยิ่งจะเครียดไปใหญ่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่