พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
ถ้าผู้ใดว่าอย่างทำความดี ก็ได้แก่ ให้ทาน
แล้วก็รักษาศีลให้บริสุทธิ์อยู่เท่านั้นแล้ว
ไม่สนใจเรื่อง
"สมาธิภาวนา" เช่นนี้
ก็เรียกว่า
ผู้นั้นทำความดีไม่ก้าวหน้า
เพียงแค่ให้ทาน รักษาศีล เท่านั้น
นั่นมันยังมีเวลาเสื่อมได้อยู่ จิตใจนี้น่ะ
บางทีมันก็อาจเสื่อมจากบุญกุศลอันนั้นได้
เพราะว่าผู้นั้นไม่ได้ “รักษาจิต” ของตนเรื่อยไป
ปล่อยให้กิเลสมันเกิดขึ้นในใจมากขึ้นไป
ธรรมดาแหละใจนี้เมื่อไม่ได้สำรวมระวังรักษาแล้ว
เช่นนี้มันก็ต้องสั่งสมกิเลสให้มากขึ้นไปเรื่อยๆแหละ
เพราะเหตุปัจจัยที่จะให้บุคคลสะสมกิเลสขึ้น
มันมีอยู่มากมายในโลกอันนี้นะ
ก็ "รูป เสียงกลิ่น รส เครื่องสัมผัสต่างๆ" เหล่านี้แหละ
เมื่อบุคคลไม่รู้เท่าไม่รู้แจ้งตามเป็นจริงแล้ว
มันก็เป็นเหตุให้เกิดความโลภความโกรธความหลง
มานะทิฏฐิอะไรขึ้นได้ทั้งนั้นเลย
...
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ
"กรรมปางก่อน"
ให้ทาน รักษาศีลเท่านั้นยังเสื่อมได้อยู่ : หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
พระอาจารย์เหรียญ วรลาโภ
วัดอรัญญบรรพต
อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
...
ถ้าผู้ใดว่าอย่างทำความดี ก็ได้แก่ ให้ทาน
แล้วก็รักษาศีลให้บริสุทธิ์อยู่เท่านั้นแล้ว
ไม่สนใจเรื่อง "สมาธิภาวนา" เช่นนี้
ก็เรียกว่า ผู้นั้นทำความดีไม่ก้าวหน้า
เพียงแค่ให้ทาน รักษาศีล เท่านั้น
นั่นมันยังมีเวลาเสื่อมได้อยู่ จิตใจนี้น่ะ
บางทีมันก็อาจเสื่อมจากบุญกุศลอันนั้นได้
เพราะว่าผู้นั้นไม่ได้ “รักษาจิต” ของตนเรื่อยไป
ปล่อยให้กิเลสมันเกิดขึ้นในใจมากขึ้นไป
ธรรมดาแหละใจนี้เมื่อไม่ได้สำรวมระวังรักษาแล้ว
เช่นนี้มันก็ต้องสั่งสมกิเลสให้มากขึ้นไปเรื่อยๆแหละ
เพราะเหตุปัจจัยที่จะให้บุคคลสะสมกิเลสขึ้น
มันมีอยู่มากมายในโลกอันนี้นะ
ก็ "รูป เสียงกลิ่น รส เครื่องสัมผัสต่างๆ" เหล่านี้แหละ
เมื่อบุคคลไม่รู้เท่าไม่รู้แจ้งตามเป็นจริงแล้ว
มันก็เป็นเหตุให้เกิดความโลภความโกรธความหลง
มานะทิฏฐิอะไรขึ้นได้ทั้งนั้นเลย
...
ส่วนหนึ่งจากพระธรรมเทศนาหัวข้อ "กรรมปางก่อน"