[CR] ฮิตเหลือเกินเมือง "ปีนัง"

กระทู้รีวิว

เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาฯ ที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปเปิดประสบการณ์ที่ต่างประเทศเป็นครั้งแรก
เราเลือกไปปีนัง เพราะรีวิวจากหลายๆกระทู้ในพันทิปมันกระตุ้นต่อมอยาก (￣︶￣)/ ★

ปีนัง เป็นรัฐหนึ่งของประเทศมาเลเซี่ยตั้งอยู่ใกล้ๆประเทศไทยเลย
การเดินทางก็แล้วแต่ความสะดวกของเรา......
บางคนก็นั่งเครื่องไปลงสงขลา แล้วต่อรถตู่ไปอีกประมาณ 4-5 ชั่วโมง
แต่สำหรับเราไม่ชอบนั่งรถนานๆ ก็เลยเลือกนั่งเครื่องไปลงปีนังเลยทีเดียว อิอิ

สำหรับทริปนี้ใช้เวลาทั้งหมด 4 วัน 3 คืน ตั้งแต่วันที่ 9 - 12 ตุลาฯ ช่วงนั้นดันเกิดปัญหาหมอกควันพอดี
ก็แอบกังวลว่ามันจะกระทบอะไรไหม (◕‘_’◕) ลุ้นๆๆๆ

การเดินทาง : เราใช้บริการของ Thai Airasia ในราคาตั๋วไปกลับ กรุงเทพฯ - ปีนัง 12,653.60 บาท >> สองคนน้า
ค่าที่พัก : เลือกเป็น hostel ราคา 3,075 บาท ต่อสองคน ต่อสามคืน ก็ถือว่าถูกอยู่นะ
เงินติดกระเป๋า : สองคนแลกกันไปคนละ 3,500 บาท >>> ไปแลกที่Super rich ตอนนั้น 1 RM = 8.41 บาท

เริ่มรีวิวเลยดีกว่า
V
V

วันแรก

ขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง ออกเดินทางเวลาบ่าย 3.40

ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครี่งก็ถึง แต่ที่นู่นเวลาเดินเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง
ไปถึงก็ประมาณห้าโมงกว่าๆ แต่โชคไม่เข้าข้างเท่าไร ลงเครื่องมาก็เจอฝนปรอยๆเลย (T.T)

เดินออกจากgateมาก็เจอบูธขายซิมการ์ด มีประมาณ 3 บูธ 3 ค่าย
จัดเลยค่ะ จะได้ไม่พลาดโลกSocial ฮ่าาาาาาา

สามค่ายที่เห็นก็มี DTAC / HOTLINK / TUNE
เราเลือกTUNE ค่ะเลียนแบบรีวิวที่อ่านมา ^^ ราคา 25 RM ได้ปุ๊บโทรกลับบ้านเลย
ทางบ้านจะได้ไม่เป็นห่วง

หน้าตาประมาณนี้(ขอบคุณรูปจากในเน็ตค่ะ) ทางร้านเค้าก็จัดการใส่ให้เราเรียบร้อย พร้อมใช้

หลังจากรอรับกระเป๋าก็เดินออกมาที่ทางออก เจอคุณลุงคนจีนแก่ๆ ถือป้ายชื่อยืนรอรับเราอยู่
การเดินทางจากสนามบินเดินทางไปยังที่พักไม่ยากค่ะ เพราะใช้บริการรถรับส่งของเจ้าของบ้าน 5555
เค้าคิดค่ารถ 35 RM ค่อนข้างไกลจากสนามบินอยู่นะ

ระหว่างทางฝนตกหนักมาก ถึงที่พักก็ยังไม่หยุด ฮือออ
แผนที่วางกันไว้ว่าจะไปกินข้าวเย็นที่Gurney market จึงต้องยกเลิกไป

ถึงที่พักแล้วววว เราพักที่ Penang old house >> ดูรีวิวจาก เว็บ Airbnb เว็บนี้เค้าเชื่อถือได้จริงๆนะ

บรรยากาศหน้าบ้าน น่ารักดี ชอบมากๆ

เข้าไปในบ้านคุณลุงคนที่ขับรถไปรับ ก็พาไปที่ห้องพัก และสอนวิธีใช้อุปกรณ์ต่างๆภายในบ้าน
ล๊อคบ้าน เข้าบ้านยังไง คุณลุงน่ารัก และอัธยาศัยดีมากๆ บ้านที่เราพักเป็นบ้านของลูกชายเขา
และโชคดีที่วันทีเราไปพักไม่มีห้องอื่นเลย สบายย ทำตัวเหมือนอยู่บ้านตัวเอง
ระหว่างรอฝนหยุดก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ

ดูบรรยากาศภายในบ้านกัน

มุมรับแขก กับครัวเล็กๆ

ดึกละฝนก็ไม่หยุดซะที แต่หิวมากกกกกกกก
เลยต้องเดินลุยฝนออกไปหาอาหารประทังชีวิต
จากบ้านออกไปปากซอยไม่ไกลมาก เดินแป๊ปเดียวก็ถึง
ฝั่งตรงข้ามเป็นป้ายรถเมล์ เดินไปทางขวาก็เจอเซเว่น รอดตายแล้ววว

เซเว่นที่นี่ดีตรงที่มีที่ให้นั่งด้วย แต่การจัดร้านคล้ายๆ 108shopบ้านเรา

อาหารมื้อแรก

อยากกินข้าวนะ แต่ข้าวกล่องCP แพงเกินไป มึนตึ๊บ

ชอบตรงที่เปิดกระป๋องอ่ะ แอบมีลูกเล่นเขียนว่าMILO ด้วย

หลังจากเติมพลังแล้ว ก็เดินกันต่อ
ก่อนออกจากเซเว่นขอสำรวจสินค้าซะหน่อย

เดินย้อนกลับไป เริ่มต้นที่ปากซอยบ้าน ทีนี้เลี้ยวซ้ายจากหน้าปากซอย แล้วเดินเลียบถนนไปเรื่อยๆ
ก็ไปเจอกับซูปเปอร์มาเก็ตเล็กๆชื่อว่า Penang plaza
ตอนเข้าไปก็ดึกแล้ว ทางห้างก็เริ่มปิด และก็เอาของมาลดราคา
แต่ก็ไม่มีอะไรน่ากินเลย สรุปเลยได้แค่ 3 อย่างนี้มากินก่อนนอน (อีกอย่างไม่ได้ถ่าย)
กลับมานั่งกินที่บ้าน
PAMA = MAMAบ้านเรา
ส่วนขนมปังยี่ห้อนี้แต่ก่อนที่ไทยก็มีขายนะ แต่ตอนหลังทำไมหายไป

ของกินอีกอย่างคือโจ๊กถ้วย แต่รสชาติแบบ... แย่5555 คือกลิ่นมันเหม็นๆ แปลกๆ
เลยดูวันหมดอายุ แต่มันก็ยังไม่หมด อาจเป็นรสชาติแบบบ้านเค้า กลิ่นเครื่องเทศแรงๆ ไม่ฮิตเลยสำหรับเรา

ส่วนตัวแล้ว มื้อนี้ชอบเค้กที่สุดเพราะรสชาติดี ในราคาเบาๆ ส่วนไมโลนี่จืดไปหน่อยไม่เข้มข้น

มาดูห้องนอนกัน

ส่วนอันนี้คือห้องที่ผ่านการใช้งานของเราแล้ว
(ถ่ายตอนสวยๆมารูปเดียวเอง)

สำหรับห้องน้ำ เดินออกจากห้องก็เจอเลย
อันนี้ก็ไม่ได้ถ่ายอีกแล้ว แต่บอกเลยว่าห้องน้ำสะอาด สวยน่าใช้

แอบเข้าไปดูห้องอื่นๆ น่ารักทุกห้อง บางห้องก็มีห้องน้ำในตัว

วันที่สอง

เริ่มต้นด้วยอาหารเช้าที่ทางที่พักจัดให้ ที่นี่เค้ามีอาหารเช้าให้เรากินสามวันนะ คิดรวมกับค่าห้องนั้นหล่ะ
คุ้มจริงๆ

ไม่รู้ว่าเค้าเรียกว่าอะไร คือมันเป็นแป้งเหมือนโรตี แล้วราดด้วยน้ำมัสมั่น(คิดว่าใช่นะ)
รสชาติก็จืดๆ เค้าจัดให้พร้อมกับกาแฟ หรือไมโล แล้วแต่เราจะเลือก

พร้อมสำหรับการเดินทางแล้ว!!
ที่แรก "Penang hill" ก็ไปตามรีวิวนั่นแหละ ข้ามฟากจากซอยบ้านมาขึ้นรถป้ายรถเมล์
ขึ้นสาย103 ไปลงห้างKomtar แล้วต่อ204 ไปลงPenang hill

ถนนเป็นวันเวย์

ขอบคุณรูปจากในเน็ตค่ะ
Komtar bus terminal อารมณ์คล้ายๆ หัวลำโพงบ้านเรา ไม่ค่อยน่านั่งเท่าไร
รอรถอยู่ก็มีคนแปลกๆ มานั่งคุยด้วย พูดจาไม่รู้เรื่องอีกต่างหาก เหอะๆๆ เซ็ง

ลงรถเมล์ ต้องไปขึ้นรถรางต่อไปอีก เสียค่ารถรางอีก 6 RM

Penang hill สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 800 เมตร(เลขกลมๆ 55 อย่าเยอะ

)

ขึ้นไปถึงอากาศก็เย็นๆ สบายๆ แต่มองลงไปไม่เห็นวิวข้างล่างเลย เพราะหมอก(หรือควันก็ไม่รู้)หนามากๆ

ไม่ค่อยได้ถ่ายเท่าไร เพราะหมอกหนาถ่ายรูปไม่สวย

ที่ที่สองของวันคือวัดเก๊กล๊กซี
ลงจากเขามาขึ้นรถสายเดิมคือ204 ทั้งทริปใช้Google maps ตลอดการเดินทาง ช่วยได้มาก
ไม่หลงเลย

ถึงแล้ววัดที่เค้าว่าสวย ต้องไปนะ!!!!
แต่ส่วนตัวไม่ประทับใจบรรยากาศโดยรอบเลย ทีแรกหาทางเข้าไม่เจอ เดินเลยไปแล้วด้วยซ้ำ
แต่เคยอ่านรีวิว เค้าบอกทางเข้าจะเป็นซอกแคบๆ ข้างทางมีของขาย
พอเดินเข้าไป คือบรรยากาศข้างๆ มีของขายตามที่เค้าว่า แต่แอบมีกลิ่นอับ แป๊ก

พ่อค้าแม่ค้าพูดไทยได้นะ เชิญชวนกันซื้อของใหญ่เลย อยากจะหันไปบอกเหลือเกินที่บ้านชั้นสวย และดีกว่านี้อี๊กกกกกกกก ฮ่วยยย

ถึงแล้วจ้าบ่อเต่า!!!!! ภาพที่เห็นคือสกปรกที่สุด เต่านอนเกยกันเต็มบ่อที่มีน้ำขลุกขลิก สภาพบ่อทรุดโทรม
นี่หรือคือแหล่งท่องเที่ยว ไม่ประทับใจไม่ขอถ่ายรูปค่ะ
รีวิวหลอกเราาาาา เซ็ง

ขึ้นไปอีกสักระยะเกือบถึงวัดแล้ว แต่เจอถังขยะ ที่แบบขยะล้นๆ เน่ามั่กกก แถมมีคนบ้าดักอยู่อีก สยอง

เรากับเพื่อนเลยตัดสินใจไม่ไปต่อค่ะ แต่จริงๆ ข้างบนวัดน่าจะสวยแบบที่รีวิวว่าก็ได้นะ

ที่ที่สามทัวคาเฟ่ กันดีกว่าค่ะ
ที่นี่ชื่อว่า Purrfect cat cafe คล้ายๆ คาเฟ่แมวบ้านเราแหละ ต่างกันตรงที่เค้าจะแยกแมวไว้
คนละห้องกับโต๊ะของลูกค้า

เข้าไปถึงก็ไปสั่งอาหารที่เคาเตอร์ เขาจะมีราคาบังคับ เหมือนคิดค่าเข้าไปเล่นกับน้องแมว
จ่ายกันไปคนละ 18 RM ราคานี้จะรวม น้ำ 1 แก้ว กับเค้ก อีก 1 ชิ้นค่ะ

ละแวกนี้คาเฟ่เยอะค่ะ น่าเข้าหลายๆร้านเลย แต่ตังน้อยเลยต้องเลือกแค่ที่เดียว

แซ่บ!!!!!!!!!!!!!! แมวพิมพ์

เย็นพอดี กินข้าวเย็นกันที่Gurney plaza ไม่ไปละGurney drive
กลัวจะไปเจออาหารอินเดีย

ไปกินอาหารญี่ปุ่นกัน ร้านที่ว่าชื่อSushi King ที่ร้านก็จะมีสายพาน แล้วมีซูชิไหลมา
เราก็หยิบกินตามที่ชอบได้เลย ราคาก็ไม่แพงมาก
สั่งข้าวหน้าปลาแซลมอนมากินอีกอย่าง แซลมอนเยอะมากกกกกก จัดว่าคุ้ม
สองคน ข้าวหน้าแซลมอน 2 จาน ซูชิ 6 ชิ้น ราคาประมาณ 50 RM

วันที่สาม

นอกใจอาหารเช้าที่บ้าน ไปกินอาหารเหลาที่นี่เลย
Tai Tong Restoran

อร่อยเลิศ ที่นี่เวลาจะสั่งอาหารก็เดินตรงไปที่รถเข็นอาหารเลย(จริงๆเขาจะเข็นมาบริการตามโต๊ะ แต่เราใจร้อน หิว

)
แล้วก็ชี้ๆๆจะกินไร ยื่นกระดาษออเดอร์ให้เขา เขาก็จะเขียนๆ พอจะจ่ายเงินก็เอากระดาษใบนี้แหละยื่นให้
คิดเงิน

วันนี้วางแผนว่าจะไปเดินStreet arts อย่างเดียวเลย
ตามGoogle mapsไปเรื่อยๆ