สวัสดีคะเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน

หลังจากที่แอบซุ่มอ่านกระทู้ของชาวบ้านชาวช่องมาเยอะแล้ววันนี้ก็ได้ฤกษ์งามยามดีอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ความรักแบบ**ไม่สมหวัง**ของตัวเองให้ทุกคนฟังบ้าง (จะมีใครฟังป่าวแว๊)
เอาล่ะ เริ่มเลยดีกว่า 1 2 ซั่ม... !!
เราเป็นเด็กน้อยธรรมดาๆคนนึง เริ่มมีความรักครั้งแต่อนุบาล 5555555 แก่แดดไปป่ะว๊าา
เป็นความรักแบบเด็กน้อยมาก คือฉันแอบชอบเพื่อนคนนี้มาตั้งแต่อนุบาลยันม.3 55555555 นานเฟ่อร์
จนตอนนี้ไอเพื่อนที่เราแอบชอบนั้นแต่งงานมีลูกมีเมียไปละ 555555555555 ปล่อยผ่านให้เรื่องนี้เป็นความทรงจำดีๆในชีวิตต่อไป555
ความรักของเรากับคนแต่ละคนมันไม่แฮปปี้เอาซะเลย
คนแรก ตอน ม.1 นางเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่ร.รเรา ซึ่วตอนนั้นก็เล่นๆกันเนี่ยแหล่ะแซวกันไปหยอกกันมาจนสป๊าคกันติดคบกันได้แปปเดียวละก็เลิกแล้วก็วนอยู่อย่างนั้นแหล่ะคบๆเลิก(แบบแอบๆนะ)แต่ในระหว่างนั้นเราก็ชอบคนอื่นอยู่ด้วยนะซึ่งมันก็รู้และมันก็หึงและชอบพูดแซว ประมาณว่าชอบมากเปล่าเดี๋ยวไปขอเบอร์ให้5555555555แซวหรือประชดวะ55555555555 นึกถึงละฮา จนมาถึงตอนม.3 เรากับมันก็คบแบบจริงจังเปิดเผยทุกคนที่ร.รรู้ ครูรุ่นน้องรู้หมด55555555 อ๋อ อยากจะบอกตอนม.3มันฮอทมากนะจ๊าาาา รุ่นน้องนี่ชอบเต็ม (แต่เสียใจด้วยคะน้องคนนี้ของพี่คะพี่เปิดตัวแล้ว55555555) หมดสิทธิ์คะ เรามาคบกันตอนเทอม2ซึ่งเป็นเทอมสุดท้ายแล้วสุดท้ายจริงๆเพราะร.รเรามีแค่ม.3 ตอนนั้นเราก็คบกันได้พักนึงชีวิตตอนนั้นคือแบบแฮปปี้มากมีความสุขอ่าแกร อยากจิหยุดเวลานี้ไว้จังโลยย แต่ๆๆ!! วันสุดท้ายของการเรียนก็มาถึงวันนั้นคือแบบ

โคตรเศร้ามากคือกลัวไปหมดกลัวจะไม่ได้เจอกันกลัวว่ามันจะมีคนอื่นคือทุกๆอย่างอ่ะ แล้ววันนั้นก็เป็นวันของเทศกาลเขียนเสื้อเขียนเฟรนชิพให้กันเราจำได้ดีเลยมันบอกมันขอเขียนเป็นคนสุดท้ายเพราะไม่อยากให้ใครอ่านที่มันเขียนให้เราและมันอยากเป็นคนสุดท้ายของเรา เฮ้ยเมิงคือกูแบบซึ้งมากเมิงพูดอัลไลออกมา **เดี๋ยวจะพยายามเอารูปเฟรนชิพที่มันเขียนลงให้ดูถ้าลงได้** 5555555555 อ้อ ทุกคนเชื่อไหมว่าเรากับมันไม่เคยแม้แต่จะจับมือแบบจังๆกันเลยนะเว่ยคือ

ความรักครั้งนั้นบริสุทธิ์จ๊าดดด แต่อาจโดนตัวกันบ้างเล็กน้อยเวลาแกล้งกันตอนที่ยังไม่ได้คบกันแบบจริงจังน555555555555 พอจบม.3 ปิดเทอม ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเรียนต่อม.4หรือปวช.ที่อื่นในช่วงปิดเทอมตอนนั้นเราก็ยังคบกันอยู่แต่อาจจะไม่แฮปปี้เหมือนก่อนแล้วอาจเพราะความห่างไกลเราไม่ได้เจอกันไม่ได้อยู่ใกล้ๆชิดกันเหมือนตอนที่เรียนด้วยกันแล้วจนวันนึงเราได้มีโอกาสไปคุยกับผ.ช คนนึงซึ่งตอนนั้นเราคิดว่ามันโอเคนะกับการคุยพร้อมกันสองคนแต่พอเริ่มนานเข้าเรารู้สึกว่าเราไม่อยากหลอกแฟนเราแล้วเราเลยเลิกกับมันการเลิกของเราคือเลิกแบบไม่บอกเหตุผลไม่รับโทรศัพท์ไม่โทรไม่อะไรทั้งนั้นจนกระทั่งเราตัดสินใจบอกมันไปว้าเราคุยอยู่กับอีกคนนะซึ่งมันก็เข้าใจแล้วก็บอกว่ามันรู้แล้วรู้ตั้งนานแล้ว ตอนนั้นมันคงเสียใจมากแล้วเราเองก็รู้สึกผิดที่ทำกับมันแบบนั้นสุดท้ายเราก็เลิกคุยกับอีกคนนึงไปแต่เราก็ไม่ได้กลับไปคบกับมันนะ และมีวันนึงเหตุการณ์นี้ช็อคมากสำหรับเรามันเป็นอะไรที่แบบเห้ยทำไมทำแบบนี้ว่ะ... คือวันนั้นเราโทรไปคุยเล่นๆกับรุ่นน้องในร.ร ซึ่งปกติเราก็ส่งข้อความหากันเล่นกันตลอดอยู่แล้วแต่วันนั้นเราโทรไปแล้วเกิดรอสายซึ่งน้องมันก็รับสายเราแล้วก็พักสายอีกสายนึงไว้ก่อนแล้วเราก็ถามน้องมันว่า"เห้ยคุยกับใครอยู่แฟนหรอ"อารมณ์ประมาณแบบว่าแซวๆ. แล้วน้องมันก็บอกมาว่า เปล่าคุยกับ... (ชื่อแฟนคนที่เราบอกเลิกไป) เราก็แบบอ้าวเห้ยเมิงไปคุยกันได้ไงตอนไหนว๊าา ซึ่งน้องคนนั้นก็คือหนึ่งในบรรดารุ่นน้องที่ชอบแฟนเรา แล้วเราก็บอกว่า จริงหรอ ? ขอฟังเสียงหน่อยดิ แล้วหลังจากนั้นน้องมันก็จับประชุมสายคุยกันสามคนเรา-รุ่นน้อง-แฟนเก่าเรา โดยน้องมันบอกให้เราปิดเสเสียงของเราเอาไว้เวลาเราพูดหรือทำอะไรมันกับน้องจะได้ไม่ได้ยินเสียงหลังจากนั้นเราก็ฟังมันคุยกันซึ่งตอนนั้นเรายังไม่ได้ปิดเสียงเหมือนมันรู้ว่ารุ่นน้องกำลังประชุมสายกันเราเลยตัดสินใจวางสายไปเลยก็เลยไม่รู้ว่าสองคนนั้นคุยไรกันแต่จากที่คุยก้ปกติไม่ได้มีไร ผ่า😭😭😭นไปหลายช.มเรากะว่ามันคงคุยกันเสร็จแล้วละเราก็เลยโทไปคุยกับรุ่นน้องคนนั้นแล้วถามถึงเรื่องของสองคนนั้นก็ได้ความมาว่าตามที่น้องมันบอก**คุยกันปกติไม่ได้มีไรคุยแบบพี่น้อง เราก็แบบพูดในใจไม่ให้มันได้ยินว่า *หราาาพวกเมิงอย่ามาเนียนกูรุ้ทันน่าา*55555555555 แต่ในความเป็นจริงเราก็ได้พูดกลับไปว่า อืมถ้าจะคบกันก้คบกันไปเหอะแต่

เสียความรู้สึกว่ะ อะไรประมาณเนี่ย และหลังจากนั้นก้ปล่อยโฮออกมาหลังจากที่วางสายคุยเสร็จไปแล้วนะ55555555555555555555 งานดราม่าบังเกิด และเราก็มารู้ที่หลังจากนั้นว่า ไอทั้งสองคนมันแอบคุยกันตั้งนานล้าววก่อนที่เราจะมาแอบคุยกับผ.ชอีกคนอีก เจ็บสัสสสสสสสสส ไหมละเมิงทำกันได้ลงคอ
**ย้อนความไปก่อนหน้าก่อนที่เราจะบอกเลิกเลิกกับแฟนเราต้อนนั้นเราก็คุยกันปกติแต่อาจจะไม่แฮปปี้อย่างที่บอกเพราะตอนนั้นเราก็เริ่มระแวงแฟนเราจะไม่ระแวงได้ไงแม่มมีทั้งรอสายโทรไปกี่ทีๆรอบและบอกคุยกับเพื่อนไอ้เราก็เชื่อแต่ไม่สนิทใจ จนได้มีโอกาสมาคุยกับผ.ชอีกคนนั่นแหล่ะ คือจุดเปลี่ยนของความรักของเราครั้งนั้น ##ชีวิตจริงของเราไม่ใช่คนเจ้าชู้เลยจริงๆ จริงๆนะ55555555มันก้แค่อารมณถ้าจะคบกับอีกคนก้ต้องเลิกกับอีดคนก่อนมันถึงจะโอเคนี่แหล่ะชีวิตเรา## สาวน้อยผู้น่าสมเพช เอ้ย น่างสานนนนน5555555555
พอจบเรื่องนี้ไปชีวิตของเราก็เปลี่ยนไปเจอโลกภายนอกมากขึ้นเจอสังคมที่มันใหญ่มากขึ้นเจอเพื่อนใหม่และวิถีการใช้ชีวิตใหม่ๆมากขึ้นเมื่อเริ่มเข้ามาเรียนที่ ร.ร แห่งหนึ่ง
ตอนนั้นเราเลือกเรียนสายอาชีพไม่ใช่เราเลือกสิแม่เราเลือกให้ต่างหาก5555555555 ตอนนั้นแทบจะไม่รู้จักโลกภายนอกด้วยซ้ำว่ามันเป็นยังไงเพราะว่าโรงเรียนก่อนหน้าเป็นโรงเรียนที่อยู่ในชุมชนและใกล้บ้านเรามากเช้าไปเรียนเย็นกลับบ้านมีอยู่แค่เนี่ยชีวิตเสาร์อาทิตย์ก็มีเรียนคำว่าเรื่องเที่ยวเรื่องไรนี่ไม่เคยได้ไปกับเขาหรอกนอกจากทัศนศึกษาที่โรงเรียนพาไปนั่นแหล่ะถึงจะได้เที่ยวนอกบ้านสักครั้ง555555555555 ชีวิตเด็กบ้านๆก็แบบนี้แหล่ะจนมาเรียนที่โรงเรียนแห่งใหม่นี้
จากเดิมที่เคยตื่นสายโด่งเดินไปโรงเรียนตอนนี้ต้องมาเปลี่ยนเป็นนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนแทนทำให้เราต้องตื่นเช้ามากกกกๆเพราะจะได้ทันรถเมล์และทันเข้าแถวเพราะโรงเรียนเราอยู่ไกลมากและลึกลับมาก5555555555555555555
วันแรกเปิดเทอมแทบจะไม่รู้จักใครเลย (ก็แหงล่ะเด็กปี1เพิ่งเข้าเรียนใหม่นิจะรู้จักใครล่ะ)แต่โชคดีที่เรามีเพื่อนสนิทจากร.รเก่ามาเรียนด้วยแต่ก็นะ่นางก็เรียนคนละสาขากับเราอีก55555555555+
***ขอเล่าข้ามเลยดีกว่าเดี๋ยวมันจะยาวจนเกินปายย***
พอเริ่มอยู่ตัวทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางเราก็เริ่มมีกลุ่มมีแก๊งเพื่อนชะนีอย่างคนอื่นๆบ้างละ555555555555555 ตอนนั้นก็เริ่มมีคนเข้ามาชอบบ้าง(ซะส่วนน้อย)และก็ไปชอบเขาบ้าง(ซะเป็นส่วนใหญ่)5555555555555555555 ก็เด็กช่างมันเท่นะเออออ ฟินนน ขอบคุณขุ่นแม่ที่เลือกให้ลูกเรียนที่นี่ (/\) 55555555555(นอผุด) อย่างที่บอกว่าไปแอบชอบเขาซะเป็นส่วนใหญ่และก็จะไม่สมหวังซะเป็นส่วนใหญและไอซะส่วนใหญ่ก็เป็นพวกที่หล่อเลือกได้และพวดที่มีแฟนแล้วซะด้วยซิ55555555555555555 ไอเราก็รับประทานแห้วต่อไปคะ อ่อลืมบอกอีกละ (เล่าข้ามตลอด555) คือก่อนที่เราจะเข้ามาเรียนที่นี่อ่าก่อนหน้านั้นช่วงปิดเทอมคือบริษัทที่แม่เราทำงานอยู่มันรับนักเรียนช่วงปิดเทอมให้เข้าไปทำงานได้แม่เราก็เลยให้เรามาทำงานกับเพื่อนเราอีดคนนึง(คนที่ไปเรียนด้วยกัน)ก็มีเด็กนักเรียนหลายคนเข้ามาทำกันเยอะมากมายพอเข้าทำได้สักอาทิตย์นึงมั้งก็มีพนักงานในนั้นมาจีบ
เราก็ไม่คิดไรจีบก็จีบคุยก็คุยจนคุยกันมาเรื่อยๆจนเปิดเทอมมาได้สักพักนึงเราก็เลิกคุยเพราะเรามารู้ทีหลังจากแม่เราว่าไอหมอนั่นมันมีลูกมีเมียแล้ว และแม่เราก็สั่งให้เลิกคุยทันทีเราเลยเลิกคุยเลย !!!!
จบโหมดทำงานกลับมาสู่โหมดที่โรงเรียนต่อ...555555555555
**
แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะไม่มีใครสนใจเราน้าจ้าาาาาา ยังมีจ้าาายังมี บอกเลอออ 55555555555
ตอนนั้นอายุ 15-16 ความเป็นวัยรุ่นมันก็พลุ่งพล่านเดือดตลอดเวลา ความอยากรู้อยากเห็นมันก็มีอยู่ตลอดเวลานอแรดก็เช่นกัน 55555555555555 ตอนนั้นเราไปชอบรุ่นพี่อยู่คนนึงนางเรียนช่างไฟปีสุดท้ายละปวส2 ล่ะแหล่ะ คือแบบเป๊กอ่าแกรร ชอบมากกกกกกๆ ถึงขนาดเพ้อเฟสบุ๊คพร่ำเพ้อละเมอถึงนางตัลหลอดเวลา แล้วเพื่อนของนางก็รู้ไงว่าเราชอบ ทีนี้ก็เลยแซวกันใหญ่เลย และตอนนั้นชอบทำเนียนทักไปคุยกับเค้าก่อนตลอดแล้วนางก็ทำตัวเฟรนลี่เล่นขี้ เอ๊ย ขี้เล่นตลอดดด แล้วเวลาเราโพสไรไปนางก็จะชอบมาคอมเม้นแซวๆเราเหมือนมีท่าทีว่าจะเล่นด้วย ไอเราก็เป็นคนชอบเข้าข้างตัวเองซะด้วย เจอแบบนี้ไปก็เลยคิดว่าเค้าต้องมีใจให้ฉันแน่ๆเลย เขาชอบฉัน >//< บลาๆๆๆ จนในที่สุดความใจกล้าหน้าด้านของผู้หญิงผู้ที่เรียบร้อยเหมือนผ้ายับที่พับไว้อย่างฉันก็ผุดออกมา เราจึงตัดสินใจสารภาพรักกับรุ่นพี่นางนั้นผ่านเฟสบุ๊คไป แต่!! สิ่งที่ได้รับกลับมานั้น

โคตรโหดร้ายมากคือพี่เขาบอกว่า"เขาไม่ได้ชอบเราเขาไม่ชอบเด็กอายุเราห่างกันเกินไป(4ปี O.o) เขาคิดกับเราแต่น้อง น้อง น้อง"คำว่าน้องดังย้ำอยู่ในหัว
น้องงั้นหรอ? คือตอนนั้นเราเหวอมากแทบจะมุดแผ่นดินหนีได้เลย้เสียใจหนักมากโดนหักอกดังเปราะ ทำไมมันส้นTeen อารายแบบนี้ ฮือๆ T^T คำพูดนั้นของพี่เขามันฝังใจเราจนเราจำได้มาถึงทุกวันนี้ หลังจากนั้นเราก็เลยอันเฟรนนางไปเลย เวลาเจอหน้าก็พยายามเลี่ยงหลบ555555555 (เพราะอาย)ไม่กล้าสู่หน้า คือแบบไอเชี่ยอาไรว่ะเนี่ย พอเวลาผ่านไปๆ เราก็เริ่มที่จะปลงล่ะเริ่มที่จะยอมรับและปรับตัวใหม่พยายามไม่คิดและปล่อยผ่านไปจนคิดว่าคงจะพอแล้วแหล่ะกับความรักอะไรแบบเนี่ย แต่ก็ยังมิวายจ้าาา😁 ยังไม่เข็ดน้าาจ้าาา55555555555555
ช่วงนั้นก็มีคนจีบเราเหมือนกันนะแต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไรแต่มีอยู่คนนึงคือเราจำไม่ได้ว่าเริ่มต้นยังไงแต่จำได้แม่นเลยคือมีอยู่วันนึงที่เรากับเพื่อนของเราตกรถเมล์ไม่มีรถกลับบ้านด้วยความที่แบบแรตตอยากกลับรอบสุดท้ายไรงี้ก็ยืนรอรถกันอยู่หน้าร.รและก็มีคนที่เราคุยด้วยตอนนั้นและกลุ่มเพื่อนของมันอยู่ด้วย จนมันมืดมากๆแล้วหารถกลับกันไม่ได้ไม่รู้จะทำไงเพราะร.รของเราจะมีรถเมล์อยู่สายนึงวิ่งผ่านหน้าร.รของเราตลอดหรือจะเรียกว่าเป็นรถเมล์ร.รก็ได้บวกกับร.รของเรามันอยู่ลึกมากตลอดเส้นทางมาร.รจะมีแต่ทุ่งนาและป่าหญ้าเขียวขจีธรรมชาติฝุดๆ5555555 ถ้าใครเคยเรียนที่นั่นจะรู้ดีแต่โชคดีที่มีอาจารย์คนนึงยังไม่ได้กลับบ้านอาจารย์ขับรถออกจากร.รพอดี เห็นพวกเราไม่มีรถกลับบ้านก็เลยให้พวกเราติดรถร่วมฯ จ๊ะ รถร่วมรถเก็บศพนี่แหละจ๊ะ ออกมาด้วย555555555555555555555 ก็ยังดีกว่าไม่ได้กลับบ้านนอนเป็นศพโดนยุงกัดตายหน้าร.รให้อาจารย์เก็บละว่ะ สะพรึงไหมละเมิงงง55555555555้
แล้วพวกเราก็รอรถเมล์กันหน้าถนนใหญ่เพื่อที่จะกลับบ้านช่องกันอยู่นานโข ตอนนั้นมันก็มืดบรรยากาศก็พาไปอ่าเนอะแกรร มือของอีคนที่เราคุยด้วยมันก็เป็นปลาหมึกเลยจ๊ะ ตอนแรกจับมือเนียนๆคะ สักพักนางมีโอบเอวคร้าา คุณผู้โชมมมม เราก็แบบคงไม่เป็นหรอกมั้งอยู่กันตั้งหลายคนแต่หลายคนที่อยู่

ยืนข้างหน้าเราทั้งนั้นเลยรวมถึงเพื่อนเราด้วย มีเรากับมันยืนหน้ามืด5555อยู่ข้างหลังกันสองคน แต่ไม่ทันไรคะ รถเมล์ก็มาพอดี......
พอขึ้นรถเมล์ปุ๊บเราก็นั่งกับเพื่อนเราส่วนมันก็นั่งข้างหลังรถกับเพื่อนๆของมัน นั่งไปสักพักก็ถึงป้ายที่เพื่อนเราต้องลงแล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่เราผู้หญิงคนเดียวกับป้ากระเป๋ารถเมล์อีกคน พอรถขับไปได้สักพักรับรู้ได้ถึงร่างใหญ่ๆมานั่งข้างๆ ใช่คะ มันนั่นแหล่ะคะรีบลุกมานั่งกับเราทันที บรรยากาศมันพาไปอีกแล้วคะ555555555555555 รถเมล์มืดๆมีไฟสรัวๆนิดหน่อย แล้ว

เบาะนั่ง

สูงอีกคะ

เข้าทางเลย ไม่น่ารอดตรูไม่น่ารอด โดน... จะจะจับมืออีกแล้วคะ(อย่าคิดลึก) 555555555555555555555555
คนข้างหลังก็มองไม่เห็นหรอกว่าทำอะไร แต่ถึงจะเห็นก็ไม่อะไรหรอกนางแค่จับมือเราและเราก็คุยกันแน่นั้นจีจีคะ ไสยไสย 5555555555555555555555555555555555 #ขำหนักมาก#
เรื่องเล่าประสบการณ์ความรักจากปากของคนที่ไม่เคยสมหวังในความรัก
หลังจากที่แอบซุ่มอ่านกระทู้ของชาวบ้านชาวช่องมาเยอะแล้ววันนี้ก็ได้ฤกษ์งามยามดีอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ความรักแบบ**ไม่สมหวัง**ของตัวเองให้ทุกคนฟังบ้าง (จะมีใครฟังป่าวแว๊)
เอาล่ะ เริ่มเลยดีกว่า 1 2 ซั่ม... !!
เราเป็นเด็กน้อยธรรมดาๆคนนึง เริ่มมีความรักครั้งแต่อนุบาล 5555555 แก่แดดไปป่ะว๊าา
เป็นความรักแบบเด็กน้อยมาก คือฉันแอบชอบเพื่อนคนนี้มาตั้งแต่อนุบาลยันม.3 55555555 นานเฟ่อร์
จนตอนนี้ไอเพื่อนที่เราแอบชอบนั้นแต่งงานมีลูกมีเมียไปละ 555555555555 ปล่อยผ่านให้เรื่องนี้เป็นความทรงจำดีๆในชีวิตต่อไป555
ความรักของเรากับคนแต่ละคนมันไม่แฮปปี้เอาซะเลย
คนแรก ตอน ม.1 นางเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่ร.รเรา ซึ่วตอนนั้นก็เล่นๆกันเนี่ยแหล่ะแซวกันไปหยอกกันมาจนสป๊าคกันติดคบกันได้แปปเดียวละก็เลิกแล้วก็วนอยู่อย่างนั้นแหล่ะคบๆเลิก(แบบแอบๆนะ)แต่ในระหว่างนั้นเราก็ชอบคนอื่นอยู่ด้วยนะซึ่งมันก็รู้และมันก็หึงและชอบพูดแซว ประมาณว่าชอบมากเปล่าเดี๋ยวไปขอเบอร์ให้5555555555แซวหรือประชดวะ55555555555 นึกถึงละฮา จนมาถึงตอนม.3 เรากับมันก็คบแบบจริงจังเปิดเผยทุกคนที่ร.รรู้ ครูรุ่นน้องรู้หมด55555555 อ๋อ อยากจะบอกตอนม.3มันฮอทมากนะจ๊าาาา รุ่นน้องนี่ชอบเต็ม (แต่เสียใจด้วยคะน้องคนนี้ของพี่คะพี่เปิดตัวแล้ว55555555) หมดสิทธิ์คะ เรามาคบกันตอนเทอม2ซึ่งเป็นเทอมสุดท้ายแล้วสุดท้ายจริงๆเพราะร.รเรามีแค่ม.3 ตอนนั้นเราก็คบกันได้พักนึงชีวิตตอนนั้นคือแบบแฮปปี้มากมีความสุขอ่าแกร อยากจิหยุดเวลานี้ไว้จังโลยย แต่ๆๆ!! วันสุดท้ายของการเรียนก็มาถึงวันนั้นคือแบบ
**ย้อนความไปก่อนหน้าก่อนที่เราจะบอกเลิกเลิกกับแฟนเราต้อนนั้นเราก็คุยกันปกติแต่อาจจะไม่แฮปปี้อย่างที่บอกเพราะตอนนั้นเราก็เริ่มระแวงแฟนเราจะไม่ระแวงได้ไงแม่มมีทั้งรอสายโทรไปกี่ทีๆรอบและบอกคุยกับเพื่อนไอ้เราก็เชื่อแต่ไม่สนิทใจ จนได้มีโอกาสมาคุยกับผ.ชอีกคนนั่นแหล่ะ คือจุดเปลี่ยนของความรักของเราครั้งนั้น ##ชีวิตจริงของเราไม่ใช่คนเจ้าชู้เลยจริงๆ จริงๆนะ55555555มันก้แค่อารมณถ้าจะคบกับอีกคนก้ต้องเลิกกับอีดคนก่อนมันถึงจะโอเคนี่แหล่ะชีวิตเรา## สาวน้อยผู้น่าสมเพช เอ้ย น่างสานนนนน5555555555
พอจบเรื่องนี้ไปชีวิตของเราก็เปลี่ยนไปเจอโลกภายนอกมากขึ้นเจอสังคมที่มันใหญ่มากขึ้นเจอเพื่อนใหม่และวิถีการใช้ชีวิตใหม่ๆมากขึ้นเมื่อเริ่มเข้ามาเรียนที่ ร.ร แห่งหนึ่ง
ตอนนั้นเราเลือกเรียนสายอาชีพไม่ใช่เราเลือกสิแม่เราเลือกให้ต่างหาก5555555555 ตอนนั้นแทบจะไม่รู้จักโลกภายนอกด้วยซ้ำว่ามันเป็นยังไงเพราะว่าโรงเรียนก่อนหน้าเป็นโรงเรียนที่อยู่ในชุมชนและใกล้บ้านเรามากเช้าไปเรียนเย็นกลับบ้านมีอยู่แค่เนี่ยชีวิตเสาร์อาทิตย์ก็มีเรียนคำว่าเรื่องเที่ยวเรื่องไรนี่ไม่เคยได้ไปกับเขาหรอกนอกจากทัศนศึกษาที่โรงเรียนพาไปนั่นแหล่ะถึงจะได้เที่ยวนอกบ้านสักครั้ง555555555555 ชีวิตเด็กบ้านๆก็แบบนี้แหล่ะจนมาเรียนที่โรงเรียนแห่งใหม่นี้
จากเดิมที่เคยตื่นสายโด่งเดินไปโรงเรียนตอนนี้ต้องมาเปลี่ยนเป็นนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนแทนทำให้เราต้องตื่นเช้ามากกกกๆเพราะจะได้ทันรถเมล์และทันเข้าแถวเพราะโรงเรียนเราอยู่ไกลมากและลึกลับมาก5555555555555555555
วันแรกเปิดเทอมแทบจะไม่รู้จักใครเลย (ก็แหงล่ะเด็กปี1เพิ่งเข้าเรียนใหม่นิจะรู้จักใครล่ะ)แต่โชคดีที่เรามีเพื่อนสนิทจากร.รเก่ามาเรียนด้วยแต่ก็นะ่นางก็เรียนคนละสาขากับเราอีก55555555555+
***ขอเล่าข้ามเลยดีกว่าเดี๋ยวมันจะยาวจนเกินปายย***
พอเริ่มอยู่ตัวทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทางเราก็เริ่มมีกลุ่มมีแก๊งเพื่อนชะนีอย่างคนอื่นๆบ้างละ555555555555555 ตอนนั้นก็เริ่มมีคนเข้ามาชอบบ้าง(ซะส่วนน้อย)และก็ไปชอบเขาบ้าง(ซะเป็นส่วนใหญ่)5555555555555555555 ก็เด็กช่างมันเท่นะเออออ ฟินนน ขอบคุณขุ่นแม่ที่เลือกให้ลูกเรียนที่นี่ (/\) 55555555555(นอผุด) อย่างที่บอกว่าไปแอบชอบเขาซะเป็นส่วนใหญ่และก็จะไม่สมหวังซะเป็นส่วนใหญและไอซะส่วนใหญ่ก็เป็นพวกที่หล่อเลือกได้และพวดที่มีแฟนแล้วซะด้วยซิ55555555555555555 ไอเราก็รับประทานแห้วต่อไปคะ อ่อลืมบอกอีกละ (เล่าข้ามตลอด555) คือก่อนที่เราจะเข้ามาเรียนที่นี่อ่าก่อนหน้านั้นช่วงปิดเทอมคือบริษัทที่แม่เราทำงานอยู่มันรับนักเรียนช่วงปิดเทอมให้เข้าไปทำงานได้แม่เราก็เลยให้เรามาทำงานกับเพื่อนเราอีดคนนึง(คนที่ไปเรียนด้วยกัน)ก็มีเด็กนักเรียนหลายคนเข้ามาทำกันเยอะมากมายพอเข้าทำได้สักอาทิตย์นึงมั้งก็มีพนักงานในนั้นมาจีบ
เราก็ไม่คิดไรจีบก็จีบคุยก็คุยจนคุยกันมาเรื่อยๆจนเปิดเทอมมาได้สักพักนึงเราก็เลิกคุยเพราะเรามารู้ทีหลังจากแม่เราว่าไอหมอนั่นมันมีลูกมีเมียแล้ว และแม่เราก็สั่งให้เลิกคุยทันทีเราเลยเลิกคุยเลย !!!!
จบโหมดทำงานกลับมาสู่โหมดที่โรงเรียนต่อ...555555555555
**
แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะไม่มีใครสนใจเราน้าจ้าาาาาา ยังมีจ้าาายังมี บอกเลอออ 55555555555
ตอนนั้นอายุ 15-16 ความเป็นวัยรุ่นมันก็พลุ่งพล่านเดือดตลอดเวลา ความอยากรู้อยากเห็นมันก็มีอยู่ตลอดเวลานอแรดก็เช่นกัน 55555555555555 ตอนนั้นเราไปชอบรุ่นพี่อยู่คนนึงนางเรียนช่างไฟปีสุดท้ายละปวส2 ล่ะแหล่ะ คือแบบเป๊กอ่าแกรร ชอบมากกกกกกๆ ถึงขนาดเพ้อเฟสบุ๊คพร่ำเพ้อละเมอถึงนางตัลหลอดเวลา แล้วเพื่อนของนางก็รู้ไงว่าเราชอบ ทีนี้ก็เลยแซวกันใหญ่เลย และตอนนั้นชอบทำเนียนทักไปคุยกับเค้าก่อนตลอดแล้วนางก็ทำตัวเฟรนลี่เล่นขี้ เอ๊ย ขี้เล่นตลอดดด แล้วเวลาเราโพสไรไปนางก็จะชอบมาคอมเม้นแซวๆเราเหมือนมีท่าทีว่าจะเล่นด้วย ไอเราก็เป็นคนชอบเข้าข้างตัวเองซะด้วย เจอแบบนี้ไปก็เลยคิดว่าเค้าต้องมีใจให้ฉันแน่ๆเลย เขาชอบฉัน >//< บลาๆๆๆ จนในที่สุดความใจกล้าหน้าด้านของผู้หญิงผู้ที่เรียบร้อยเหมือนผ้ายับที่พับไว้อย่างฉันก็ผุดออกมา เราจึงตัดสินใจสารภาพรักกับรุ่นพี่นางนั้นผ่านเฟสบุ๊คไป แต่!! สิ่งที่ได้รับกลับมานั้น
น้องงั้นหรอ? คือตอนนั้นเราเหวอมากแทบจะมุดแผ่นดินหนีได้เลย้เสียใจหนักมากโดนหักอกดังเปราะ ทำไมมันส้นTeen อารายแบบนี้ ฮือๆ T^T คำพูดนั้นของพี่เขามันฝังใจเราจนเราจำได้มาถึงทุกวันนี้ หลังจากนั้นเราก็เลยอันเฟรนนางไปเลย เวลาเจอหน้าก็พยายามเลี่ยงหลบ555555555 (เพราะอาย)ไม่กล้าสู่หน้า คือแบบไอเชี่ยอาไรว่ะเนี่ย พอเวลาผ่านไปๆ เราก็เริ่มที่จะปลงล่ะเริ่มที่จะยอมรับและปรับตัวใหม่พยายามไม่คิดและปล่อยผ่านไปจนคิดว่าคงจะพอแล้วแหล่ะกับความรักอะไรแบบเนี่ย แต่ก็ยังมิวายจ้าาา😁 ยังไม่เข็ดน้าาจ้าาา55555555555555
ช่วงนั้นก็มีคนจีบเราเหมือนกันนะแต่เราก็ไม่ได้สนใจอะไรแต่มีอยู่คนนึงคือเราจำไม่ได้ว่าเริ่มต้นยังไงแต่จำได้แม่นเลยคือมีอยู่วันนึงที่เรากับเพื่อนของเราตกรถเมล์ไม่มีรถกลับบ้านด้วยความที่แบบแรตตอยากกลับรอบสุดท้ายไรงี้ก็ยืนรอรถกันอยู่หน้าร.รและก็มีคนที่เราคุยด้วยตอนนั้นและกลุ่มเพื่อนของมันอยู่ด้วย จนมันมืดมากๆแล้วหารถกลับกันไม่ได้ไม่รู้จะทำไงเพราะร.รของเราจะมีรถเมล์อยู่สายนึงวิ่งผ่านหน้าร.รของเราตลอดหรือจะเรียกว่าเป็นรถเมล์ร.รก็ได้บวกกับร.รของเรามันอยู่ลึกมากตลอดเส้นทางมาร.รจะมีแต่ทุ่งนาและป่าหญ้าเขียวขจีธรรมชาติฝุดๆ5555555 ถ้าใครเคยเรียนที่นั่นจะรู้ดีแต่โชคดีที่มีอาจารย์คนนึงยังไม่ได้กลับบ้านอาจารย์ขับรถออกจากร.รพอดี เห็นพวกเราไม่มีรถกลับบ้านก็เลยให้พวกเราติดรถร่วมฯ จ๊ะ รถร่วมรถเก็บศพนี่แหละจ๊ะ ออกมาด้วย555555555555555555555 ก็ยังดีกว่าไม่ได้กลับบ้านนอนเป็นศพโดนยุงกัดตายหน้าร.รให้อาจารย์เก็บละว่ะ สะพรึงไหมละเมิงงง55555555555้
แล้วพวกเราก็รอรถเมล์กันหน้าถนนใหญ่เพื่อที่จะกลับบ้านช่องกันอยู่นานโข ตอนนั้นมันก็มืดบรรยากาศก็พาไปอ่าเนอะแกรร มือของอีคนที่เราคุยด้วยมันก็เป็นปลาหมึกเลยจ๊ะ ตอนแรกจับมือเนียนๆคะ สักพักนางมีโอบเอวคร้าา คุณผู้โชมมมม เราก็แบบคงไม่เป็นหรอกมั้งอยู่กันตั้งหลายคนแต่หลายคนที่อยู่
พอขึ้นรถเมล์ปุ๊บเราก็นั่งกับเพื่อนเราส่วนมันก็นั่งข้างหลังรถกับเพื่อนๆของมัน นั่งไปสักพักก็ถึงป้ายที่เพื่อนเราต้องลงแล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่เราผู้หญิงคนเดียวกับป้ากระเป๋ารถเมล์อีกคน พอรถขับไปได้สักพักรับรู้ได้ถึงร่างใหญ่ๆมานั่งข้างๆ ใช่คะ มันนั่นแหล่ะคะรีบลุกมานั่งกับเราทันที บรรยากาศมันพาไปอีกแล้วคะ555555555555555 รถเมล์มืดๆมีไฟสรัวๆนิดหน่อย แล้ว
คนข้างหลังก็มองไม่เห็นหรอกว่าทำอะไร แต่ถึงจะเห็นก็ไม่อะไรหรอกนางแค่จับมือเราและเราก็คุยกันแน่นั้นจีจีคะ ไสยไสย 5555555555555555555555555555555555 #ขำหนักมาก#