เด็กบ้านแตก

สวัสดีค่ะ
นี่เป็นกระทู้แรก ผิดพลาดอะไรขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ
อาจจะเขียนงง(มากๆ) เราเรียงลำดับเหตุการณ์ไม่ถูกเลยค่ะสับสนไปหมด

เริ่มเรื่องเลยคือ พ่อแม่ของเราเลิกกันตอนเรา2-3ขวบ(ไม่แน่ใจค่ะเพราะตอนนั้นเด็กมาก) โดยที่แม่เราแต่งงานใหม่กับหนุ่มตาสีน้ำข้าว แล้วพ่อเรามีเมียอยู่แล้วค่ะ ส่วนเราต้องอยู่ในการดูแลของพ่อจนกว่าจะถึงอายุ 18 ปี ตามคำตัดสินของศาล แต่แม่จะพาเราไปเที่ยวได้ตามที่พ่อเห็นสมควรค่ะ ซึ่งแม่จะโทรหาเราอาทิตย์ละครั้ง และพาไปเที่ยวปีละครั้งค่ะ เราไม่ได้มองว่าที่เขาเลิกกันเขาจะไม่รักเรา หรือเราจะขาดความอบอุ่นอะไร เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ใช้ชีวิตปกติมาโดยตลอด

แต่สิ่งที่ไม่ปกติคือนิสัยของพ่อและแม่เราค่ะ พ่อกับแม่เราเนี่ยจะกรอกหูเราตลอดค่ะแม่ก็จะบอกว่าพ่อเนี่ยเป็นโรคจิต ชอบใช้กำลังค่ะ ส่วนพ่อก็จะว่าแม่เป็นโรคจิต ประสาทหลอนเป็นต้น เริ่มจากคุณพ่อก่อนนะคะ พ่อเราจะบ้าอำนาจค่ะ ใครขัดใจไม่ได้เลย ต้องถูกเสมอในทุกๆเรื่อง(ถึงแม้ความจริงจะผิด) ชอบอ้างเหตุผลป่วยๆ ที่มันไม่น่าเอามาเป็นเหตุผลรองรับในเรื่องนั้นได้ ชอบใช้อารมณ์ และที่สำคัญคือไม่ชอบเสียหน้า ไม่ชอบเสียฟอร์ม เยอะแยะค่ะ จากนิสัยที่เล่ามา ทำให้เราโดนว่าบ่อยๆค่ะ ยกตัวอย่างเหตุการณ์สมมตินะคะ แกชอบแช่เบียร์ในช่องฟรีซหลายๆขวด แล้วลืมค่ะ พอเราไปเปิดเจอเบียร์มันก็แตกหมดแล้ว เราเลยบอกแกค่ะ ว่าเนี่ยมันแตกอีกแล้วนะ ทำไมไม่คอยดู คอยเอาลงมาไว้ข้างล่างบ้าง แกก็จะพูดประมาณว่ามีสิทธิ์อะไรไปสอนแก แล้วบ่นอีกยาวค่ะ เห็นแกเป็นตัวอะไร? นี่พ่อนะ ซึ่งในความคิดเราเนี่ยเราว่าเราไม่ได้สอนนะเราแค่พูดให้ฟัง (หรือในทางฝั่งคนฟังจะคิดว่าเราสอนคะ) แล้วแกจะชอบถามค่ะ ถามแบบต้องการคำตอบ ซึ่งเราเลือกที่จะเงียบค่ะ เพราะถ้าเราตอบไปแกจะว่าเราเถียง ก้าวร้าว แต่สุดท้ายเราก็ต้องตอบค่ะ(เพราะแกจะตวาดจนกว่าจะตอบเลยค่ะ) พอเราตอบไปก็โดนด่าชุดใหญ่ เราต้องทนกับนิสัยแบบนี้มา 10กว่าปี

เราอยากเป็นล่ามภาษา(ประเทศที่คุณแม่ไปอยู่) แต่พ่อไม่อนุญาตค่ะ แอนตี้สุดชีวิตสุดท้ายเหมือนโดนยัดเยียดให้อยากเป็นหมอ แม่ก็อยากให้เป็นหมอ เราก็เลยคิดว่าเราคงอยากเป็นหมอนั่นแหละ...

แล้วช่วงนี้พ่อเราไม่มีเงินใช้ค่ะ เราเลยต้องใช้เงินที่แม่โอนมาให้ในธนาคารออกตังค่าเรียนเองทั้งหมด ทั้งค่าเทอม และค่าเรียนพิเศษ ถ้าช่วงไหนเงินไม่พอใช้ก็ต้องโทรบอกแม่ค่ะ เพราะเรารู้ว่าพ่อไม่มี ทำให้ช่วงนี้เราโทรคุยกับแม่มากขึ้น เราก็มีระบายกับแม่บ้างว่าเราโดนพ่อว่าอย่างนู้นอย่างนี้ แม่ก็บอกให้ใจเย็นๆค่ะ ถ้าไปเถียงเขา เขาจะตีตายเลยนะ แล้วเรื่องก็เกิดค่ะ เมื่อวานนี้เรานั่งคุยกับเพื่อนข้างบ้านอยู่ชื่อพี่บี(นามสมมติ) คุยเรื่องร้านหมอ X เนี่ย คิดค่ารักษาแพงมากๆ แล้วพ่อเราก็โผล่มาค่ะ มาพูดกับพี่บีว่าร้านคุณ X เนี่ยคิดถูก(พ่อเราหมายถึงร้านถ่ายเอกสาร ร้านถ่ายเอกสารกับร้านหมอชื่อเหมือนกันค่ะ) พี่บีก็ทำหน้างงค่ะ เราเลยพูดกับพ่อว่าเขาคุยเรื่องร้านหมอกันอยู่ พ่อเราก็สตั๊นไปนิดนึงแล้วพูดเรื่องร้านถ่ายเอกสารต่อ พยายามไม่ให้หน้าแตกค่ะ แต่พี่บีก็แอบงงอยู่ เราเลยบอกพ่อไปว่าพ่อไปวิ่งเถอะ แล้วเรากับพี่บีก็ขำค่ะ(หรือเราขำคนเดียว ไม่แน่ใจ) ด้วยความที่พ่อเราหน้าเสียไปแล้วเขาเลยพูดกับเราว่า ไม่ควรทำแบบนี้ (เราก็คิดในใจแล้ว ถ้าพ่อไปวิ่งกลับมาเราต้องโดนด่าแน่ๆ) ลางสังหรณ์แม่นมากค่ะ พอพ่อกลับบ้านมาก็ด่าเราค่ะ ทำไมทำนิสัยแบบนี้ ไล่แกเป็นหมูเป็นหมาต่อหน้าชาวบ้าน ทำไมต้องทำแบบนั้น เราก็ตอบไปค่ะว่า ไม่ได้ไล่"เธอ"หนูแค่พูดเล่นขำๆ เราหลุดคำว่าเธอไปค่ะเพราะเราชินเวลาพูดกับแม่เลี้ยง แกเลยฟาดมือลงมาบริเวณใกล้ๆท้ายทอยเราค่ะ (พ่อเราเป็นนักมวยเก่า ฟาดมาเต็มแรงคอไม่หักก็บุญแล้วค่ะ) เหมือนเราโดนด่ามานานแล้ว รวมทั้งเก็บกดด้วยเราเลยหัวเราะค่ะ นาทีนี้เราคิดว่าเราบ้าไปแล้ว พอเราขำแกก็ฟาดมาอีกทีค่ะ แล้วแกก็ด่าเราต่อ แต่ที่เราทนไม่ได้คือ แกด่าเราเหมือนเห็นแก่เงินค่ะ อย่าคิดว่าแม่เราจะดี เห็นเขามีเงินหน่อยก็เข้าข้างเขา etc. (เรายังปวดคออยู่เลย ตอนนั้นรู้สึกเหมือนจะอ้วกด้วยค่ะ) ทีนี้เราขำหนักกว่าเดิมค่ะ แถมร้องไห้ด้วย เลือกไม่ถูกเลยค่ะว่าจะขำก่อนหรือร้องไห้ก่อน ตอนนั้นเหมือนสติแตกไปแล้ว แม่เลี้ยงเลยเข้ามาห้ามทัพ พาพ่อออกไปนอกห้อง แต่เรายังนั่งขำอยู่เหมือนคนบ้า นาทีนั้นเราคิดว่าบ้าไปเลยก็ดีเราเบื่อนรกบนดินที่นี่แล้วเหมือนกัน แต่เราไม่บ้าค่ะ(แย่จัง...) แม่เลี้ยงเลยพาเราไปอาบน้ำค่ะ เราก็มองที่ขาตัวเอง รอยเล็บเต็มเลย แถมหนังถลอกด้วย จำไม่ได้เลยค่ะว่าไปจิกขาตัวเองตอนไหน ก้มดูเล็บมือตัวเองก็เห็นเศษหนังในซอกเล็บค่ะ(หนังหรือขี้ไคลไม่แน่ใจ) พอเราเห็นเราก็ว่าเห้ยมันสวยดีนะ แล้วเราก็ขำลั่นห้องน้ำเลยค่ะ เมื่อวานเราขำและร้องไห้ไปทั้งวัน แล้วเราปวดหัวมาก เราก็คิดนะนอนไปเลยปวดหัวขนาดนี้จะตายไหมนะ ตายก็ดีนอนแล้วไม่ต้องตื่นหรอก แต่สุดท้ายก็ตื่นมาบ่นในกระทู้นี้จนได้

จริงๆเราเจอเรื่องทำนองนี้บ่อยมาก เขาชอบโกรธเรื่องไร้สาระ แต่เหมือนคราวนี้เราทนไม่ไหวแล้ว เรารู้สึกเหมือนเราจะเป็นบ้า เราไม่รู้ต้องทำยังไงดีเลยมาบ่นมาระบายในนี้ เราแอบคิดว่าอยากไปเช่าบ้านอยู่เอง แต่คงเอาตัวไม่รอด วางแผนฆ่าตัวตายแต่ก็กลัวอีกอย่างกว่าเราจะตายแม่เลี้ยงคงเข้ามาเห็นแล้วพาเราไปโรงพยาบาลก่อน เราเหนื่อยเหลือเกินค่ะที่ต้องมารองรับอารมณ์พ่อ เราแอบเป็นเด็กเก็บกดนะ คงเพราะเรามีความอดทนน้อยเกินไป

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่