รู้สึกเครียดมาก ๆ เลยค่ะ เครียดจนไม่รู้จะไปปรึกษาใครดีแล้ว
เคยปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็เอาเราไปพูดลับหลัง เคยทำให้เราเสียใจหนักกว่าเดิม
จะปรึกษาพ่อแม่ ก็ปรึกษาไม่ได้ทุกเรื่อง รู้สึกว่าจะยิ่งค้างคามากเข้าใหญ่
หันไปรอบ ๆ ตัวก็รู้สึกเคว้งคว้างยังไงก็ไม่รู้ คนรอบตัวไม่ค่อยเข้าใจอีกต่างหาก
งั้นขอพื้นที่ได้ระบายหน่อยนะคะ
เรื่องที่เครียดก็อย่างเช่น
1. เรื่องเรียน : รู้สึกเครียดกับคะแนนมิดเทอมที่ออกมามากเลยค่ะ
มันช่างเลวร้ายเหลือเกิน จขกท.พยายามปรับตัวแล้วนะคะ อ่านหนังสือก็แล้ว
ตั้งแต่ก่อนมิดเทอม แต่กลับกลายเป็นว่าเราไม่ได้เข้าใจถึงแก่นแท้ของวิชานั้นเลย
ซึ่งพอจะหันไปถามเพื่อนก็พบว่าเพื่อนมันก็ไม่รอดเหมือนเรา เฮ้อ...
แต่จริง ๆ ก็มีวิชาที่ได้คะแนนอยู่ในระดับดีอยู่บ้างนะ ก็เลยไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเยอะเสียทั้งหมด
2. เรื่องเพื่อน : ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน
จขกท.ต้องทำงานพิเศษเพื่อหาทุนบางอย่าง (เด็กมหาลัยมีรุ่นจะเข้าใจดี)
ซึ่งมันตรงกับช่วงที่มีงานเฟรชชี่พอดี คราวนี้เวลามันชนกัน สมัครงานเขาก็รับเรียบร้อยแล้ว ทำให้เราเลือกไม่ได้
ต้องทำงานแทนที่จะไปช่วยเพื่อนทำฉาก ทำอุปกรณ์ รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันนะคะ
มีหลายครั้งที่แอบโดดงานมาช่วยทำ ทำนิด ทำหน่อย ใคร ๆ ก็รู้ก็เห็น
ตอนนั้นรู้สึกว่าอันที่ตัวเองช่วยทำจะไม่ได้เอาไปโชว์ด้วย (แอบเฟลบ้าง)
จนระยะเวลาผ่านไปถึงตอนนี้มีงานซุ้มปริญญา จขกท.ลาออกจากงานมาแล้วเพราะเรียนดิ่งลงเยอะ
ก็เลยพอมีเวลาช่วงเย็นมาช่วยทำ แต่ปรากฎว่าไป ๆ มาๆ รู้สึกเหมือนโดนทิ้งให้ทำอยู่คนเดียว
คนที่ควรมาช่วยก็ไม่มา ไม่รู้ว่าพวกเขาโกรธ จขกท. เรื่องที่ไปทำงานพิเศษหรือเปล่านะ?
อีกทั้งเวลาเรียน เพื่อนก็เริ่มไม่คุยกับ จขกท. มีงานอะไรก็ไม่บอก
บางทีจขกท.ตามแล้ว ก็บอกช้า เพื่อนๆ ชอบล้อ ชอบป่วน จขกท. อยู่หลายครั้ง
จขกท. ฟันเหยิน ก็โดนด่า
จขกท. มีปัญหาเรื่องสีฟัน ก็โดนด่าอีก
จขกท. ไม่สวยเหมือนคนอื่น ก็ยังโดนด่า
ขนาดนั่งเฉย ๆ ยังโดนด่าเลย แล้วรุมด่ากันเป็นกลุ่ม ไม่มีใครช่วยอะไรผู้หญิงคนนี้เลย
อีกทั้งทุกคนยังพากันหัวเราะอีกต่างหาก ทุกปัญหาข้างต้น จขกท.กำลังหาวิธีแก้ไขอยู่เรื่อย ๆ ได้ผลบ้าง ไม่ได้บ้าง
สุดท้ายแล้ว "เปลี่ยนตัวเองแค่ไหน ยังไงพวกมันก็รุมด่าอยู่ดี"
แกล้งเอาขยะมาใส่ในรถมอเตอร์ไซค์เราบ้าง แกล้งยกรถเราไปไว้ที่อื่นบ้าง
ล่าสุดเลยคือ รองเท้าคัตชูมันเหม็น เพื่อนบ่น จขกท. ก็พยายามแก้ไขแล้ว
เป็นคนที่มีเหงื่อออกง่าย ก็พยายามขัดเท้า
สุดท้ายปรากฎว่าเพราะมันอยู่ในที่ไม่ค่อยมีลม มันเลยอับ แก้ไม่หายสักที
เลยซื้อคู่ใหม่ใส่ไปก่อน คราวนี้เพื่อนผู้ชายทั้งกลุ่มมันก็ล้อ จขกท. อย่างงั้นอย่างงี้อีก
จากกลุ่มเล็ก ๆ ลามไปทั้งห้อง เรารู้สึกอายจนไม่กล้าไปมองหน้าใคร
มันเป็นปัญหาที่จขกท. พยายามฝืนยิ้มกับมันมาหลายครั้ง จนครั้งล่าสุดนี่แหละถึงเริ่มไม่ไหวแล้ว
จขกท. เคยบอกไปแล้วว่าจะไม่ดัดฟัน เพราะพ่อแม่ไม่อนุมัติ
ปรากฎว่าหลายคนก็ด่าจขกท. ว่าโง่บ้าง ลามไปถึงพ่อแม่ จขกท. เองว่าเขาแย่ ๆ
แค่ไม่ดัดฟัน ทำให้ จขกท. โดนมองไม่ดีอยู่หลายครั้ง
ฟันเหยิน ไม่มีสิทธิ์เชิดหน้าชูตาในสังคมเลยหรอ ?
หลายครั้งที่จขกท. ก็อยากดัดอยู่เหมือนกัน
แต่ปัญหา คือ เรายังไม่มีรายได้เป็นของตัวเองนี่แหละ "ไว้มีแล้ว จะทำก็ได้"
รู้สึกโดดเดี่ยวและเคว้งคว้างเหลือเกิน....
3. เรื่องความรัก : อาจจะเป็นสาเหตุใหญ่เลยที่ทำให้เครียดมาก เมื่อ 6 เดือนก่อน
จขกท.ได้บอกเลิกแฟนไป เพราะว่า เขาเริ่มทิ้งห่างกับจขกท. มาก
จนเราสงสัยเลยไปถามความเอาจากเพื่อนเขา
ปรากฎว่าที่เขาห่าง ๆ ไป เหตุผล คือ "เรายังดูแลตัวเองดีไม่พอ"
ในที่นี้คือ หน้ายังสิว ผมยังไม่เป็นทรง แต่งตัวไม่เก่ง ไม่เหมือนผู้หญิง
จขกท.ตอนแรก ๆ ยังไม่เครียดเท่าไร
แต่พอมาระยะหลังจากนั้น 1 เดือน เขาก็ทักมาคุย สองสามวันทักมา แล้วก็หายไป
ทุกครั้งที่ทักมาก็ต้องมีปัญหามาขอให้เราช่วยแก้อยู่เสมอ
แต่ทุกครั้งที่ช่วย เหมือนแบบจขกท. ไปขอร้องเขามากกว่า
ตัวอย่างเช่น
ก่อนมิดเทอมจะมาถึง เขาได้ขอให้เราช่วยไปติว Eng ให้เขาหน่อย
นัดกันไว้ว่าจะเจอกันเวลานี้นะ กลายเป็นว่าจขกท. ต้องเป็นฝ่ายรอให้เขามาเป็นชั่วโมง ๆ เลย
พอติวก็ไม่สนใจ ครั้งแรกว่าจะให้มันจบ ๆ ไปแล้ว แต่ปรากฎว่ายังนัดให้ไปรอบสอง
จขกท.ก็คิด "เออ ที่ติวครั้งก่อนอาจจะยังไม่เก็ท" เลยโอเคไป
ปรากฎว่าเขาก็เหมือนเดิม กิน นอน พอบอกข้อสอบอาจจะออกแนวนี้ เขาก็เออ ๆ แล้วก็เลิกติวไปเลย
กลายเป็นว่า จขกท. เสียเวลาไปถึงสองครั้งกับเขา (และเกือบจะมีครั้งที่สาม แต่พอแล้วล่ะ ให้เราได้ติวของเราบ้าง)
ทุก ๆ ครั้งที่มีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเล็ก หรือ ใหญ่ เขาก็ต้องมาขอความช่วยเหลือจากจขกท.
แต่ดูสิ! ตอนที่ จขกท. มีปัญหาอะไร ไม่เคยพึ่งเขาได้เลย
เชื่อไหมว่าตอนแรก ๆ เขาเคยพูดว่าจะไปเที่ยวสวนผีเสื้อด้วยกัน จนตอนนี้ก็ยังไม่ทำตามที่พูด
จขกท.เคยชวนไปแล้ว ก็ไม่ไป ชวนไปทำอะไรดี ๆ ร่วมกัน ก็ไม่ไป
จนสุดท้ายจขกท. ก็ต้องไปคนเดียว
ทำไม จขกท. ต้องเป็นฝ่ายที่เดินเข้าหาเขาตลอดด้วย?
ยอมรับนะว่ายังมีความรู้สึกดี ๆ ยังผูกพันอยู่ แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เหมือนกัน
พอบอกไปตรง ๆ เขาก็ชอบเปลี่ยนเรื่อง ชอบหลีกเลี่ยง แล้วก็กลับมาเป็นใหม่เหมือนเดิม
ทำให้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา มันสะสมเรื่อย ๆ จนไม่รู้จะไปพูดกับใครดี ไม่รู้ว่าเขาจะเอายังไงกับเรากันแน่
หลายครั้งที่ต้องเจอหน้ากัน ทั้งในโรงอาหาร ร้านไส้กรอก ร้านถ่ายเอกสาร
ข้างตึกเรียน ข้างถนนในมหาวิทยาลัย จขกท.รู้สึกอึดอัดมาก ที่ต้องฝืนยิ้มให้กัน
ได้ยินชื่อเขาแต่ละครั้ง ก็ยิ่งรู้สึกแย่ค่ะ
อาการปัจุบัน
จขกท. รู้สึกเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ กับชีวิตนะคะ บางครั้งนั่งรถเเมล์ก็นั่งเหม่อลอย จนเกือบเลยป้าย
รู้สึกเศร้า และ หดหู่ ทุกครั้งที่ยืนอยู่คนเดียว
อยู่ท่ามกลายคนเป็นสิบ เป็นร้อยก็ยังรู้สึกว่างเปล่า บางครั้งก็ปวดหัว
หน้ามืด เหงื่อออกหน้าเยอะ ตัวหนักอึ้ง
บางครั้งข้ามสะพานลอย เผลอเหม่อ ตาลอย คิดเรื่องเครียด ๆ อยู่ กลายเป็นว่าจำไม่ได้ "เรามายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?"
เดิน ๆ อยู่ ก็เกิดลืม "จะไปทำอะไรต่อ"
ช่วงระยะนี้ชีวิตอืดอาด ช้ามาก ๆ รู้สึกว่าเวลาแต่ละวิ มันนานจริง ๆ
นอนไม่ค่อยหลับ บางทีก็ต้องพึ่งยาแก้แพ้
หรือบางครั้ง นอนหลับ ก็หลับยาวเลยจนตื่นสาย ไม่อยากลุกอีกต่างหาก
แต่ทุก ๆ คืน กลางดึก จขกท. จะปวดฉี่ตลอด
ทุก ๆ วันนี้รู้สึกอยากกินอะรไต่อมิอะไรมากมายเหลือเกิน จขกท.รู้สึกว่ายิ่งเครียดมากเท่าไร ก็ยิ่งหิวจนตาลาย
ไม่ค่อยอยากคุยกับใครเท่าไร แต่ติด Facebook เป็นพิเศษ
หงุดหงิดง่ายมาก มีคนถามว่าทำไมไม่มาเรียน ก็พาลใส่เขาเฉย (ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน)
ฝันร้ายบ่อยมาก ๆ ฝันร้ายที่สุด คือ ฝันว่าแฟนเก่ามีคนใหม่แล้ว และเขาเอามาเปรียบเทียบกับเรา (ทำให้สะดุ้งตื่นขึ้นมาและนอนต่อไม่ได้เลย)
และพอฝันอะไรน่ากลัว ๆ จขกท.ก็จะเริ่มคิดหวาดระแวงไปทั่ว
เสพติดแป๊ปซี่มาก ๆ ไม่ได้ดื่มสักวันจะเหมือนใจจะขาด อยากได้ความหวานเข้ามาทดแทน
อยากร้องไห้ แต่ทำยังไงก็ร้องไม่ออก
และคืนนี้ จขกท. ก็เครียดจนทนไม่ไหวแล้ว เลยร้องไห้ออกมา แต่มันก็ร้องไม่สุดอยู่ดี มันค้าง ๆ ค่ะ
แล้วที่สำคัญ จขกท. ไม่สามารถห้ามความคิดตัวเองได้เลย ห้ามคิดเรื่องเครียด ๆ ไม่ได้สักที
เหมือนมันวนเวียนอยู่ในหัว หมกหมุ่นกับมัน จนไม่มีสมาธิทำอะไรเลย
เหนื่อย ๆ นะคะ จะพูดกับใคร ก็กลัวเขาจะด่าตลอด
พยายามทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น แต่เพราะเหตุผลความเครียดข้างบนนี่แหละค่ะ
เคยไปเปิดหูเปิดตาตัวเอง เที่ยวคนเดียว พยายามทำตัวเข้มแข็งเข้าไว้
แต่พอเพื่อนเริ่มตีตัวออกห่าง แฟนเก่าก็ไม่รู้จะเอายังไงกับเรา การเรียนที่มีแต่ความกดดัน และงานที่ยาก
เลยทำให้จิตใจเริ่มหวั่นไหวและแย่ลง
จขกท. ถึงจะรู้สึกแย่แค่ไหนก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายตัวเองนะคะ
และ จขกท. ยังพอยืนไหว แต่รู้สึกใจเริ่มทรุดลงไปทุกที ๆ
กลัวเหมือนกันว่าวันหนึ่งถ้าเก็บไว้เยอะกว่านี้ จะกลายเป็นบ้า
จขกท.เคยระบายใน facebook นะคะ แต่ไม่มีใครเข้าใจและว่าเราเพ้อเจ้อ
ไล่ให้ไปนอนบ้าง คือ นอนไม่หลับเพราะคิดมาก นี่มันแก้ยากเหมือนกันนะ
ก็เลยตัดสินใจมาระบายในนี้แทน ขอใช้พื้นที่เล็ก ๆ แห่งนี้ มาขอคำปรึกษาว่าควรทำยังไงดี กับ คนที่ไม่รู้จัก
น่าจะได้ผลโอเคกว่าคนรอบข้างหลาย ๆ คน
***ช่วย จขกท. ด้วยนะคะ เริ่มรู้สึกไม่ไหวแล้ว
ขอบคุณค่ะ
รู้สึกเครียด ไม่รู้จะไปปรึกษาใครดีแล้วค่ะ :'(
เคยปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็เอาเราไปพูดลับหลัง เคยทำให้เราเสียใจหนักกว่าเดิม
จะปรึกษาพ่อแม่ ก็ปรึกษาไม่ได้ทุกเรื่อง รู้สึกว่าจะยิ่งค้างคามากเข้าใหญ่
หันไปรอบ ๆ ตัวก็รู้สึกเคว้งคว้างยังไงก็ไม่รู้ คนรอบตัวไม่ค่อยเข้าใจอีกต่างหาก
งั้นขอพื้นที่ได้ระบายหน่อยนะคะ
เรื่องที่เครียดก็อย่างเช่น
1. เรื่องเรียน : รู้สึกเครียดกับคะแนนมิดเทอมที่ออกมามากเลยค่ะ
มันช่างเลวร้ายเหลือเกิน จขกท.พยายามปรับตัวแล้วนะคะ อ่านหนังสือก็แล้ว
ตั้งแต่ก่อนมิดเทอม แต่กลับกลายเป็นว่าเราไม่ได้เข้าใจถึงแก่นแท้ของวิชานั้นเลย
ซึ่งพอจะหันไปถามเพื่อนก็พบว่าเพื่อนมันก็ไม่รอดเหมือนเรา เฮ้อ...
แต่จริง ๆ ก็มีวิชาที่ได้คะแนนอยู่ในระดับดีอยู่บ้างนะ ก็เลยไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเยอะเสียทั้งหมด
2. เรื่องเพื่อน : ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 1 เดือนก่อน
จขกท.ต้องทำงานพิเศษเพื่อหาทุนบางอย่าง (เด็กมหาลัยมีรุ่นจะเข้าใจดี)
ซึ่งมันตรงกับช่วงที่มีงานเฟรชชี่พอดี คราวนี้เวลามันชนกัน สมัครงานเขาก็รับเรียบร้อยแล้ว ทำให้เราเลือกไม่ได้
ต้องทำงานแทนที่จะไปช่วยเพื่อนทำฉาก ทำอุปกรณ์ รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันนะคะ
มีหลายครั้งที่แอบโดดงานมาช่วยทำ ทำนิด ทำหน่อย ใคร ๆ ก็รู้ก็เห็น
ตอนนั้นรู้สึกว่าอันที่ตัวเองช่วยทำจะไม่ได้เอาไปโชว์ด้วย (แอบเฟลบ้าง)
จนระยะเวลาผ่านไปถึงตอนนี้มีงานซุ้มปริญญา จขกท.ลาออกจากงานมาแล้วเพราะเรียนดิ่งลงเยอะ
ก็เลยพอมีเวลาช่วงเย็นมาช่วยทำ แต่ปรากฎว่าไป ๆ มาๆ รู้สึกเหมือนโดนทิ้งให้ทำอยู่คนเดียว
คนที่ควรมาช่วยก็ไม่มา ไม่รู้ว่าพวกเขาโกรธ จขกท. เรื่องที่ไปทำงานพิเศษหรือเปล่านะ?
อีกทั้งเวลาเรียน เพื่อนก็เริ่มไม่คุยกับ จขกท. มีงานอะไรก็ไม่บอก
บางทีจขกท.ตามแล้ว ก็บอกช้า เพื่อนๆ ชอบล้อ ชอบป่วน จขกท. อยู่หลายครั้ง
จขกท. ฟันเหยิน ก็โดนด่า
จขกท. มีปัญหาเรื่องสีฟัน ก็โดนด่าอีก
จขกท. ไม่สวยเหมือนคนอื่น ก็ยังโดนด่า
ขนาดนั่งเฉย ๆ ยังโดนด่าเลย แล้วรุมด่ากันเป็นกลุ่ม ไม่มีใครช่วยอะไรผู้หญิงคนนี้เลย
อีกทั้งทุกคนยังพากันหัวเราะอีกต่างหาก ทุกปัญหาข้างต้น จขกท.กำลังหาวิธีแก้ไขอยู่เรื่อย ๆ ได้ผลบ้าง ไม่ได้บ้าง
สุดท้ายแล้ว "เปลี่ยนตัวเองแค่ไหน ยังไงพวกมันก็รุมด่าอยู่ดี"
แกล้งเอาขยะมาใส่ในรถมอเตอร์ไซค์เราบ้าง แกล้งยกรถเราไปไว้ที่อื่นบ้าง
ล่าสุดเลยคือ รองเท้าคัตชูมันเหม็น เพื่อนบ่น จขกท. ก็พยายามแก้ไขแล้ว
เป็นคนที่มีเหงื่อออกง่าย ก็พยายามขัดเท้า
สุดท้ายปรากฎว่าเพราะมันอยู่ในที่ไม่ค่อยมีลม มันเลยอับ แก้ไม่หายสักที
เลยซื้อคู่ใหม่ใส่ไปก่อน คราวนี้เพื่อนผู้ชายทั้งกลุ่มมันก็ล้อ จขกท. อย่างงั้นอย่างงี้อีก
จากกลุ่มเล็ก ๆ ลามไปทั้งห้อง เรารู้สึกอายจนไม่กล้าไปมองหน้าใคร
มันเป็นปัญหาที่จขกท. พยายามฝืนยิ้มกับมันมาหลายครั้ง จนครั้งล่าสุดนี่แหละถึงเริ่มไม่ไหวแล้ว
จขกท. เคยบอกไปแล้วว่าจะไม่ดัดฟัน เพราะพ่อแม่ไม่อนุมัติ
ปรากฎว่าหลายคนก็ด่าจขกท. ว่าโง่บ้าง ลามไปถึงพ่อแม่ จขกท. เองว่าเขาแย่ ๆ
แค่ไม่ดัดฟัน ทำให้ จขกท. โดนมองไม่ดีอยู่หลายครั้ง
ฟันเหยิน ไม่มีสิทธิ์เชิดหน้าชูตาในสังคมเลยหรอ ?
หลายครั้งที่จขกท. ก็อยากดัดอยู่เหมือนกัน
แต่ปัญหา คือ เรายังไม่มีรายได้เป็นของตัวเองนี่แหละ "ไว้มีแล้ว จะทำก็ได้"
รู้สึกโดดเดี่ยวและเคว้งคว้างเหลือเกิน....
3. เรื่องความรัก : อาจจะเป็นสาเหตุใหญ่เลยที่ทำให้เครียดมาก เมื่อ 6 เดือนก่อน
จขกท.ได้บอกเลิกแฟนไป เพราะว่า เขาเริ่มทิ้งห่างกับจขกท. มาก
จนเราสงสัยเลยไปถามความเอาจากเพื่อนเขา
ปรากฎว่าที่เขาห่าง ๆ ไป เหตุผล คือ "เรายังดูแลตัวเองดีไม่พอ"
ในที่นี้คือ หน้ายังสิว ผมยังไม่เป็นทรง แต่งตัวไม่เก่ง ไม่เหมือนผู้หญิง
จขกท.ตอนแรก ๆ ยังไม่เครียดเท่าไร
แต่พอมาระยะหลังจากนั้น 1 เดือน เขาก็ทักมาคุย สองสามวันทักมา แล้วก็หายไป
ทุกครั้งที่ทักมาก็ต้องมีปัญหามาขอให้เราช่วยแก้อยู่เสมอ
แต่ทุกครั้งที่ช่วย เหมือนแบบจขกท. ไปขอร้องเขามากกว่า
ตัวอย่างเช่น
ก่อนมิดเทอมจะมาถึง เขาได้ขอให้เราช่วยไปติว Eng ให้เขาหน่อย
นัดกันไว้ว่าจะเจอกันเวลานี้นะ กลายเป็นว่าจขกท. ต้องเป็นฝ่ายรอให้เขามาเป็นชั่วโมง ๆ เลย
พอติวก็ไม่สนใจ ครั้งแรกว่าจะให้มันจบ ๆ ไปแล้ว แต่ปรากฎว่ายังนัดให้ไปรอบสอง
จขกท.ก็คิด "เออ ที่ติวครั้งก่อนอาจจะยังไม่เก็ท" เลยโอเคไป
ปรากฎว่าเขาก็เหมือนเดิม กิน นอน พอบอกข้อสอบอาจจะออกแนวนี้ เขาก็เออ ๆ แล้วก็เลิกติวไปเลย
กลายเป็นว่า จขกท. เสียเวลาไปถึงสองครั้งกับเขา (และเกือบจะมีครั้งที่สาม แต่พอแล้วล่ะ ให้เราได้ติวของเราบ้าง)
ทุก ๆ ครั้งที่มีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะเล็ก หรือ ใหญ่ เขาก็ต้องมาขอความช่วยเหลือจากจขกท.
แต่ดูสิ! ตอนที่ จขกท. มีปัญหาอะไร ไม่เคยพึ่งเขาได้เลย
เชื่อไหมว่าตอนแรก ๆ เขาเคยพูดว่าจะไปเที่ยวสวนผีเสื้อด้วยกัน จนตอนนี้ก็ยังไม่ทำตามที่พูด
จขกท.เคยชวนไปแล้ว ก็ไม่ไป ชวนไปทำอะไรดี ๆ ร่วมกัน ก็ไม่ไป
จนสุดท้ายจขกท. ก็ต้องไปคนเดียว
ทำไม จขกท. ต้องเป็นฝ่ายที่เดินเข้าหาเขาตลอดด้วย?
ยอมรับนะว่ายังมีความรู้สึกดี ๆ ยังผูกพันอยู่ แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เหมือนกัน
พอบอกไปตรง ๆ เขาก็ชอบเปลี่ยนเรื่อง ชอบหลีกเลี่ยง แล้วก็กลับมาเป็นใหม่เหมือนเดิม
ทำให้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา มันสะสมเรื่อย ๆ จนไม่รู้จะไปพูดกับใครดี ไม่รู้ว่าเขาจะเอายังไงกับเรากันแน่
หลายครั้งที่ต้องเจอหน้ากัน ทั้งในโรงอาหาร ร้านไส้กรอก ร้านถ่ายเอกสาร
ข้างตึกเรียน ข้างถนนในมหาวิทยาลัย จขกท.รู้สึกอึดอัดมาก ที่ต้องฝืนยิ้มให้กัน
ได้ยินชื่อเขาแต่ละครั้ง ก็ยิ่งรู้สึกแย่ค่ะ
อาการปัจุบัน
จขกท. รู้สึกเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ กับชีวิตนะคะ บางครั้งนั่งรถเเมล์ก็นั่งเหม่อลอย จนเกือบเลยป้าย
รู้สึกเศร้า และ หดหู่ ทุกครั้งที่ยืนอยู่คนเดียว
อยู่ท่ามกลายคนเป็นสิบ เป็นร้อยก็ยังรู้สึกว่างเปล่า บางครั้งก็ปวดหัว
หน้ามืด เหงื่อออกหน้าเยอะ ตัวหนักอึ้ง
บางครั้งข้ามสะพานลอย เผลอเหม่อ ตาลอย คิดเรื่องเครียด ๆ อยู่ กลายเป็นว่าจำไม่ได้ "เรามายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?"
เดิน ๆ อยู่ ก็เกิดลืม "จะไปทำอะไรต่อ"
ช่วงระยะนี้ชีวิตอืดอาด ช้ามาก ๆ รู้สึกว่าเวลาแต่ละวิ มันนานจริง ๆ
นอนไม่ค่อยหลับ บางทีก็ต้องพึ่งยาแก้แพ้
หรือบางครั้ง นอนหลับ ก็หลับยาวเลยจนตื่นสาย ไม่อยากลุกอีกต่างหาก
แต่ทุก ๆ คืน กลางดึก จขกท. จะปวดฉี่ตลอด
ทุก ๆ วันนี้รู้สึกอยากกินอะรไต่อมิอะไรมากมายเหลือเกิน จขกท.รู้สึกว่ายิ่งเครียดมากเท่าไร ก็ยิ่งหิวจนตาลาย
ไม่ค่อยอยากคุยกับใครเท่าไร แต่ติด Facebook เป็นพิเศษ
หงุดหงิดง่ายมาก มีคนถามว่าทำไมไม่มาเรียน ก็พาลใส่เขาเฉย (ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน)
ฝันร้ายบ่อยมาก ๆ ฝันร้ายที่สุด คือ ฝันว่าแฟนเก่ามีคนใหม่แล้ว และเขาเอามาเปรียบเทียบกับเรา (ทำให้สะดุ้งตื่นขึ้นมาและนอนต่อไม่ได้เลย)
และพอฝันอะไรน่ากลัว ๆ จขกท.ก็จะเริ่มคิดหวาดระแวงไปทั่ว
เสพติดแป๊ปซี่มาก ๆ ไม่ได้ดื่มสักวันจะเหมือนใจจะขาด อยากได้ความหวานเข้ามาทดแทน
อยากร้องไห้ แต่ทำยังไงก็ร้องไม่ออก
และคืนนี้ จขกท. ก็เครียดจนทนไม่ไหวแล้ว เลยร้องไห้ออกมา แต่มันก็ร้องไม่สุดอยู่ดี มันค้าง ๆ ค่ะ
แล้วที่สำคัญ จขกท. ไม่สามารถห้ามความคิดตัวเองได้เลย ห้ามคิดเรื่องเครียด ๆ ไม่ได้สักที
เหมือนมันวนเวียนอยู่ในหัว หมกหมุ่นกับมัน จนไม่มีสมาธิทำอะไรเลย
เหนื่อย ๆ นะคะ จะพูดกับใคร ก็กลัวเขาจะด่าตลอด
พยายามทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น แต่เพราะเหตุผลความเครียดข้างบนนี่แหละค่ะ
เคยไปเปิดหูเปิดตาตัวเอง เที่ยวคนเดียว พยายามทำตัวเข้มแข็งเข้าไว้
แต่พอเพื่อนเริ่มตีตัวออกห่าง แฟนเก่าก็ไม่รู้จะเอายังไงกับเรา การเรียนที่มีแต่ความกดดัน และงานที่ยาก
เลยทำให้จิตใจเริ่มหวั่นไหวและแย่ลง
จขกท. ถึงจะรู้สึกแย่แค่ไหนก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายตัวเองนะคะ
และ จขกท. ยังพอยืนไหว แต่รู้สึกใจเริ่มทรุดลงไปทุกที ๆ
กลัวเหมือนกันว่าวันหนึ่งถ้าเก็บไว้เยอะกว่านี้ จะกลายเป็นบ้า
จขกท.เคยระบายใน facebook นะคะ แต่ไม่มีใครเข้าใจและว่าเราเพ้อเจ้อ
ไล่ให้ไปนอนบ้าง คือ นอนไม่หลับเพราะคิดมาก นี่มันแก้ยากเหมือนกันนะ
ก็เลยตัดสินใจมาระบายในนี้แทน ขอใช้พื้นที่เล็ก ๆ แห่งนี้ มาขอคำปรึกษาว่าควรทำยังไงดี กับ คนที่ไม่รู้จัก
น่าจะได้ผลโอเคกว่าคนรอบข้างหลาย ๆ คน
***ช่วย จขกท. ด้วยนะคะ เริ่มรู้สึกไม่ไหวแล้ว
ขอบคุณค่ะ