คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ไปที่นี่ครับ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ตั้งอยู่ในสำนักงานอัยการจังหวัด มีทุกจังหวัด
ให้คำปรึกษาช่วยเหลือได้ ค่าใช้จ่ายในการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกทั้งหมด ประมาณ1200บาท เป็นค่าธรรมเนียมศาล
เอกสารคราวๆ อย่างละ4ชุดถ่ายสำเนา
1.ใบมรณะบัตรผู้ตาย
2.บัตรประชาชนผู้ตาย
3.ทะเบียนบ้านผู้ตาย
4.บัตรประชาชนผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก
5.ทะเบียนบ้านผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก
6.ใบมรณะบัตรตา กับ ยาย อย่างละ1ใบกรณีเสียชีวิต
7.ทะเบียนบ้าน+บัตรประชาชน พ่อ กับ น้องสาว
วันไปติดต่อเอา พ่อ กับ น้องสาวไปด้วย เพื่อเซ็นเอกสารต่อหนัาเจ้าหน้าที่อัยการ ที่สำนักงานอัยการ
ปล.อย่าลืมเอาเอกสารตัวจริงทุกฉบับไปด้วย
ให้คำปรึกษาช่วยเหลือได้ ค่าใช้จ่ายในการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกทั้งหมด ประมาณ1200บาท เป็นค่าธรรมเนียมศาล
เอกสารคราวๆ อย่างละ4ชุดถ่ายสำเนา
1.ใบมรณะบัตรผู้ตาย
2.บัตรประชาชนผู้ตาย
3.ทะเบียนบ้านผู้ตาย
4.บัตรประชาชนผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก
5.ทะเบียนบ้านผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก
6.ใบมรณะบัตรตา กับ ยาย อย่างละ1ใบกรณีเสียชีวิต
7.ทะเบียนบ้าน+บัตรประชาชน พ่อ กับ น้องสาว
วันไปติดต่อเอา พ่อ กับ น้องสาวไปด้วย เพื่อเซ็นเอกสารต่อหนัาเจ้าหน้าที่อัยการ ที่สำนักงานอัยการ
ปล.อย่าลืมเอาเอกสารตัวจริงทุกฉบับไปด้วย
แสดงความคิดเห็น
+++ การจะขอเป็นผู้จัดการมรดก ทำอย่าไรครับ +++
ส่วนตัวผมมีน้องสาว 1 คน อายุเกิน 20 ทั้งคู่แล้ว แต่น้องสาวไม่ได้อยู่ กทม. เลยไปศาลไม่สะดวก
อยากทราบว่า ถ้าผมจะยืนให้ตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกคนเดียว ต้องให้พ่อกับน้องสาวไปยืนยันรึเปล่าครับ ว่าเห็นด้วย
คือทั้ง 2 เห็นด้วยกับผมครับ ไม่ได้จะฮุบคนเดียวนะครับ
อีกอย่างถ้าจะทำเองได้ไหมครับ หรือว่าต้องจ้างทนายจะสะดวกกว่าครับ และทำเองยุ่งยากมากไหมครับ
และเรื่องมรดก ถ้าผมเขียนลงไปว่าคุณแม่มีเท่านี้ แต่ทีหลังไปทราบอีกว่า มีอีก เราต้องไปติดต่อศาล ยื่นคำร้องอีกไหมครับ เพราะไม่แน่ใจว่าที่รู้เนี่ยครบรึเปล่าครับ
และข้อสุดท้าย ถ้าผมเป็นผู้จัดการมรดก ผมก็มีสิทธิ์ที่จะนำสินทรัพย์ของคุณแม่แจกจ่ายให้น้องได้ใช่ไหมครับ อย่างที่ดิน ก็จะไม่โดนค่าโอนใช่ไหมครับ หรือว่าทั้งหมดจะมาเข้าผมก่อน แล้วผมค่อยโอนให้น้อง ที่กรมที่ดินอีกทีครับ อ้อมีหุ้นในพอร์ตคุณแม่ด้วยครับ
ขอบคุณครับ