คือเรื่องเป็นอย่างนี้ครับ ขอท้าวความก่อน
เราเป็น 1 ในผุ้รับมรดกครับ ซึ่งเป็นมรดกของญาติ แกไม่มีครอบครัวครับ และแกก็ป่วย และเสียชีวิตแล้ว
ซึ่งก็จะมีบรรกดาญาติๆท่านอื่นๆด้วย นอกเหนือจากเรา ซึ่งไม่เคยมาสนใจหรือดูดำดูดีอะไร จนกระทั่งทราบว่าญาติเราที่ป่วยนั้น มีทรัพย์สินอยู่พอสมควรครับ
ทั้งหลายก็เข้ามาพยายามดูแล ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ญาติเราคนนี้ ที่ป่วย ก่อนหน้านี้ มีปัญหากันเยอะมากๆกับญาติคนอื่นๆ ซึ่งพอแกเริ่มป่วยแกก็เหมือนเริ่มปลงครับ อยากให้อะไรๆ มันกลับมาเป็นญาติที่ดีกันเหมือนเดิม ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว
ทีนี้ในช่วงชีวิตที่แกป่วย เราจะเป็นคนดูแลแก พาแกไปเจาะเลือด ดูแลเรื่องยา ต่างๆ นาๆ ครับ ที่นี้ ทางญาติอีกท่าน (ซึ่งเค้าไม่ค่อยชอบเรา ด้วยสาเหตุต่างๆ นาๆ) พอทราบว่าญาติเรา(ที่ป่วย) มีมรดก ก็เริ่มเข้ามาดูแล และจัดแจงในเรื่องของทรัพย์สิน เพราะเค้าเองก็มีลูก และเค้าเองก็พูดว่า ลูกเค้าเองก็ต้องมีส่วนได้ในสินทรัพย์นี้เช่นกัน ทีนี้ ญาติเราเอง(ที่ป่วย) ก็ไม่อยากมีปัญหาอะไรกับใคร และอยากให้ญาติรักกัน ก้เลยพยายามแบ่งให้เท่าๆกัน ก็มีทั้งเงินและที่ดิน และใช่ครับ รวมถึงบ้านที่แกอยู่ด้วย ซึ่งมูลค่าค่อนข้างสูง แต่ที่อยากจะพูด คือเรื่องของบ้านหลังนี้ครับ เพราะผมเองอยู่ดูแลแกมาตลอด อยู่มาหลายปี และแกก็พยายามให้เราย้ายเข้าทะเบียนบ้านมาก่อน เพื่อจะได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ต่อไป คือแกจงใจจะบอกญาติทุกคนแหละ ว่าหลังนี้ให้เรานะ เราก็เลยทำตามประสงค์แก เพราะแกรู้ว่า ตรงนี้มูลค่าสูง และเป็นที่ต้องการของญาติคนอื่นๆด้วย แต่แล้ว... ช่วงสุดท้ายของชีวิต แกตั้งใจจะทำพินัยกรรมครับ ซึ่งทางอีกฝั่งรู้เข้า เลยดึงตัวเองไปดูแลเอง อ้างว่า ตัวเค้าเองก็ป่วย เป็นห่วงน้อง แต่ก็มาดูแลไม่ไหว อยากให้ไปอยุ๋ด้วยก็เลยเอาตัวแกไป และว่าทอเรา ว่าเราไม่มีความสามารถ ดูแลไม่ดี ดูแลไม่ได้ และก็เป็นไปตามคาด เค้าหาคนมาทำพินัยกรรม กับญาติเรา และไม่บอกเราด้วย ไม่ให้เราดู ไม่ให้เราไปฟัง(ทำนองว่าแอบทำ) และใช่ครับ ไปอยู่ที่นั่นไม่นาน ญาติผมก็เสียเลย......
ทีนี้ จุดที่งงก็คือ ตอนงานศพเสร็จ เค้าไม่ยอมเปิดพินัยกรรม พร้อมกับเอาพินัยกรรมไปไว้กับญาติอีกคนที่ ตจว. และนัดทำบุญ 50 วัน แล้วจะมาเปิด เราก็ไม่ได้อะไรคิดอะไรครับ แล้วแต่ ไม่อยากมีปากเสียง พอครบ 50 วันก็มาเปิดพินัยกรรม ก็ตามคาดครับ บ้านหลังนี้เป็นของผมเอง ก็ได้เซ็นพินัยกรรมไว้ให้ครับ พร้อมกับมีการพิมพ์ปิดท้ายแปลกๆ ว่าถ้าผมขายหรือจำนอง บ้านหลังนี้ จะตกสู่ญาติฝั่งนั้นทันที ซึ่งเราก็ไม่ค้านเพราะเราไม่คิดจะขายอยู่แล้ว และได้ตั้งผู้จัดการมรดกเป็นญาติอีกคน ที่มีส่วนได้รับมรดกชิ้นอื่นๆที่แกมีครับ (เนื่องด้วยอายุที่เป็นรุ่นพี่และเค้าก็อาสาขอเป็นเอง อันนี้ญาติที่เสียเค้าบอกเราเอง)
ระยะเวลา ตั้งแต่ญาติที่เสียไป จนตอนนี้ 1 ปี ครึ่งแล้วครับ ยังไม่มีการดำเนินการโอนที่ให้เราเลย
จนกระทั่งเราทวงถาม ก็หาว่า เราจะรีบทำไม ยังไงก็โอนอยู่แล้ว
ที่นี้ข้อผิดปกติ ที่ผมคิดว่ามันผิดปกติคือ
1.เค้าไปแต่งตั้งตัวเองที่ศาล เพื่อเป็นผู้จัดการมรดก อันนี้ไม่งง แต่ที่งงคือ เค้ามาเรียกค่าทนายจากเรา 10,000 บาท บอกให้เราหารจ่าย จากจำนวนเต็ม 20,000 บาท คือไม่แจ้ง ไม่บอกล่วงหน้า ไม่ปรึกษาอะไรเลย ทางผมเอง ซึ่งอยากจบเรื่องแล้ว ก็เลยไม่ต่อเรื่องราวครับ เลยตกลง หารจ่ายก็ได้
2.เรื่องเสร็จจากศาลไปอีก ครึ่งปี เค้าแจ้งมาว่า อยากได้เอกสารเพิ่มจากเรา (ลืมบอกว่าหลังจากที่ญาติเราเสียไป ครึ่งปี เค้ามาขอโฉนดตัวจริงไปแล้วเพื่อนำไปขึ้นศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก) แต่เค้าอยากได้หนังสือรับรองสิ่งปลูกสร้างเพิ่มด้วย แล้วก็ทะเบียนบ้านตัวจริงของเรา
ซึ่งข้อนี้ งงมาก เพราะเราถามที่ ที่ดินแล้ว ทาง จนท. แจ้งว่า สามารถเอามาพร้อมกัน วันที่โอนได้เลย หลักการคือ โอนเข้าหาผู้จัดการมรดก แล้วโอนสู่ผู้รับได้เลย ภายในวันนั้น แต่สิ่งที่เค้าโทรมาหาเราคือ เค้าอ้างว่า ตามกฏหมาย ต้องเอาไปให้เค้า แล้วเค้าก็ต้องโอนเข้าไปเป็นชื่อเค้าก่อน แล้วก็ต้องทำการสลักหลังโฉนดไว้ด้วย แล้วเค้าว่างอีกทีเมื่อไหร่ ถึงจะนัดเราโอนมาเป็นของเรา เราเลยถามว่า จำเป็นต้องทำขั้นตอนนั้นหรอ เค้าตอบกลับมาแบบดูถูกเรา ว่าเราไม่รู้เรื่องกฏหมายอะไร ว่าเราค่อนข้างเสียหายพร้อมใช้อารมณ์ในน้ำเสียง เราเลยแจ้งไปว่าเราถามที่ดินมา ไปทำได้เลยนี่นา เค้าถึงกับโมโห และต่อว่า จนท.ที่ดินที่ให้ข้อมูลเรา ว่าพวกนั้นมันโง่ ไม่รู้กฏหมาย ให้ข้อมูลเท็จ พร้อมทั้งขู่ขอชื่อ จนท. คนนั้นด้วย แล้วเราก็เลยยืนยันว่า ไปเจอกันที่ที่ดินเลยดีกว่าครับ เอกสารอันนี้ ขอไม่ส่งไปให้ เค้าเลยด่าเราแบบใช้อารมณ์สุดๆ คำพูดแบบเสียหายมาก แจกของลับเอยไรเอย แล้วก็ทำหนังสือมาหาที่บ้านเราเอง พร้อมของความประมาณว่าเราให้เราส่งเอกสารไปให้ ภายใน 3 วัน ไม่งั้นจะดำเนินตามกฏหมาย
เลยอยากจะถามว่า ผมควรทำอย่างไร หรือว่าสิ่งที่เค้าพูดมา คือขั้นตอนมันตามนั้น หรือเค้ามีเจตนาอะไรที่ไม่ดีไหมครับ ผมควรปรึกษาหาทนายมาช่วยไหมหรือต้องทำตามเค้า ผมกังวลมาก เพราะเป็นสมบัติที่ญาติเค้าตั้งใจให้เราจริงๆ กลัวเค้าโอนไปก่อนแล้วจะสร้างเงื่อนไขต่างๆนาๆ ก่อนที่จะโอนให้เรา ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
มรดกพินัยกรรมตัวร้าย
เราเป็น 1 ในผุ้รับมรดกครับ ซึ่งเป็นมรดกของญาติ แกไม่มีครอบครัวครับ และแกก็ป่วย และเสียชีวิตแล้ว
ซึ่งก็จะมีบรรกดาญาติๆท่านอื่นๆด้วย นอกเหนือจากเรา ซึ่งไม่เคยมาสนใจหรือดูดำดูดีอะไร จนกระทั่งทราบว่าญาติเราที่ป่วยนั้น มีทรัพย์สินอยู่พอสมควรครับ
ทั้งหลายก็เข้ามาพยายามดูแล ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ญาติเราคนนี้ ที่ป่วย ก่อนหน้านี้ มีปัญหากันเยอะมากๆกับญาติคนอื่นๆ ซึ่งพอแกเริ่มป่วยแกก็เหมือนเริ่มปลงครับ อยากให้อะไรๆ มันกลับมาเป็นญาติที่ดีกันเหมือนเดิม ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว
ทีนี้ในช่วงชีวิตที่แกป่วย เราจะเป็นคนดูแลแก พาแกไปเจาะเลือด ดูแลเรื่องยา ต่างๆ นาๆ ครับ ที่นี้ ทางญาติอีกท่าน (ซึ่งเค้าไม่ค่อยชอบเรา ด้วยสาเหตุต่างๆ นาๆ) พอทราบว่าญาติเรา(ที่ป่วย) มีมรดก ก็เริ่มเข้ามาดูแล และจัดแจงในเรื่องของทรัพย์สิน เพราะเค้าเองก็มีลูก และเค้าเองก็พูดว่า ลูกเค้าเองก็ต้องมีส่วนได้ในสินทรัพย์นี้เช่นกัน ทีนี้ ญาติเราเอง(ที่ป่วย) ก็ไม่อยากมีปัญหาอะไรกับใคร และอยากให้ญาติรักกัน ก้เลยพยายามแบ่งให้เท่าๆกัน ก็มีทั้งเงินและที่ดิน และใช่ครับ รวมถึงบ้านที่แกอยู่ด้วย ซึ่งมูลค่าค่อนข้างสูง แต่ที่อยากจะพูด คือเรื่องของบ้านหลังนี้ครับ เพราะผมเองอยู่ดูแลแกมาตลอด อยู่มาหลายปี และแกก็พยายามให้เราย้ายเข้าทะเบียนบ้านมาก่อน เพื่อจะได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ต่อไป คือแกจงใจจะบอกญาติทุกคนแหละ ว่าหลังนี้ให้เรานะ เราก็เลยทำตามประสงค์แก เพราะแกรู้ว่า ตรงนี้มูลค่าสูง และเป็นที่ต้องการของญาติคนอื่นๆด้วย แต่แล้ว... ช่วงสุดท้ายของชีวิต แกตั้งใจจะทำพินัยกรรมครับ ซึ่งทางอีกฝั่งรู้เข้า เลยดึงตัวเองไปดูแลเอง อ้างว่า ตัวเค้าเองก็ป่วย เป็นห่วงน้อง แต่ก็มาดูแลไม่ไหว อยากให้ไปอยุ๋ด้วยก็เลยเอาตัวแกไป และว่าทอเรา ว่าเราไม่มีความสามารถ ดูแลไม่ดี ดูแลไม่ได้ และก็เป็นไปตามคาด เค้าหาคนมาทำพินัยกรรม กับญาติเรา และไม่บอกเราด้วย ไม่ให้เราดู ไม่ให้เราไปฟัง(ทำนองว่าแอบทำ) และใช่ครับ ไปอยู่ที่นั่นไม่นาน ญาติผมก็เสียเลย......
ทีนี้ จุดที่งงก็คือ ตอนงานศพเสร็จ เค้าไม่ยอมเปิดพินัยกรรม พร้อมกับเอาพินัยกรรมไปไว้กับญาติอีกคนที่ ตจว. และนัดทำบุญ 50 วัน แล้วจะมาเปิด เราก็ไม่ได้อะไรคิดอะไรครับ แล้วแต่ ไม่อยากมีปากเสียง พอครบ 50 วันก็มาเปิดพินัยกรรม ก็ตามคาดครับ บ้านหลังนี้เป็นของผมเอง ก็ได้เซ็นพินัยกรรมไว้ให้ครับ พร้อมกับมีการพิมพ์ปิดท้ายแปลกๆ ว่าถ้าผมขายหรือจำนอง บ้านหลังนี้ จะตกสู่ญาติฝั่งนั้นทันที ซึ่งเราก็ไม่ค้านเพราะเราไม่คิดจะขายอยู่แล้ว และได้ตั้งผู้จัดการมรดกเป็นญาติอีกคน ที่มีส่วนได้รับมรดกชิ้นอื่นๆที่แกมีครับ (เนื่องด้วยอายุที่เป็นรุ่นพี่และเค้าก็อาสาขอเป็นเอง อันนี้ญาติที่เสียเค้าบอกเราเอง)
ระยะเวลา ตั้งแต่ญาติที่เสียไป จนตอนนี้ 1 ปี ครึ่งแล้วครับ ยังไม่มีการดำเนินการโอนที่ให้เราเลย
จนกระทั่งเราทวงถาม ก็หาว่า เราจะรีบทำไม ยังไงก็โอนอยู่แล้ว
ที่นี้ข้อผิดปกติ ที่ผมคิดว่ามันผิดปกติคือ
1.เค้าไปแต่งตั้งตัวเองที่ศาล เพื่อเป็นผู้จัดการมรดก อันนี้ไม่งง แต่ที่งงคือ เค้ามาเรียกค่าทนายจากเรา 10,000 บาท บอกให้เราหารจ่าย จากจำนวนเต็ม 20,000 บาท คือไม่แจ้ง ไม่บอกล่วงหน้า ไม่ปรึกษาอะไรเลย ทางผมเอง ซึ่งอยากจบเรื่องแล้ว ก็เลยไม่ต่อเรื่องราวครับ เลยตกลง หารจ่ายก็ได้
2.เรื่องเสร็จจากศาลไปอีก ครึ่งปี เค้าแจ้งมาว่า อยากได้เอกสารเพิ่มจากเรา (ลืมบอกว่าหลังจากที่ญาติเราเสียไป ครึ่งปี เค้ามาขอโฉนดตัวจริงไปแล้วเพื่อนำไปขึ้นศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก) แต่เค้าอยากได้หนังสือรับรองสิ่งปลูกสร้างเพิ่มด้วย แล้วก็ทะเบียนบ้านตัวจริงของเรา
ซึ่งข้อนี้ งงมาก เพราะเราถามที่ ที่ดินแล้ว ทาง จนท. แจ้งว่า สามารถเอามาพร้อมกัน วันที่โอนได้เลย หลักการคือ โอนเข้าหาผู้จัดการมรดก แล้วโอนสู่ผู้รับได้เลย ภายในวันนั้น แต่สิ่งที่เค้าโทรมาหาเราคือ เค้าอ้างว่า ตามกฏหมาย ต้องเอาไปให้เค้า แล้วเค้าก็ต้องโอนเข้าไปเป็นชื่อเค้าก่อน แล้วก็ต้องทำการสลักหลังโฉนดไว้ด้วย แล้วเค้าว่างอีกทีเมื่อไหร่ ถึงจะนัดเราโอนมาเป็นของเรา เราเลยถามว่า จำเป็นต้องทำขั้นตอนนั้นหรอ เค้าตอบกลับมาแบบดูถูกเรา ว่าเราไม่รู้เรื่องกฏหมายอะไร ว่าเราค่อนข้างเสียหายพร้อมใช้อารมณ์ในน้ำเสียง เราเลยแจ้งไปว่าเราถามที่ดินมา ไปทำได้เลยนี่นา เค้าถึงกับโมโห และต่อว่า จนท.ที่ดินที่ให้ข้อมูลเรา ว่าพวกนั้นมันโง่ ไม่รู้กฏหมาย ให้ข้อมูลเท็จ พร้อมทั้งขู่ขอชื่อ จนท. คนนั้นด้วย แล้วเราก็เลยยืนยันว่า ไปเจอกันที่ที่ดินเลยดีกว่าครับ เอกสารอันนี้ ขอไม่ส่งไปให้ เค้าเลยด่าเราแบบใช้อารมณ์สุดๆ คำพูดแบบเสียหายมาก แจกของลับเอยไรเอย แล้วก็ทำหนังสือมาหาที่บ้านเราเอง พร้อมของความประมาณว่าเราให้เราส่งเอกสารไปให้ ภายใน 3 วัน ไม่งั้นจะดำเนินตามกฏหมาย
เลยอยากจะถามว่า ผมควรทำอย่างไร หรือว่าสิ่งที่เค้าพูดมา คือขั้นตอนมันตามนั้น หรือเค้ามีเจตนาอะไรที่ไม่ดีไหมครับ ผมควรปรึกษาหาทนายมาช่วยไหมหรือต้องทำตามเค้า ผมกังวลมาก เพราะเป็นสมบัติที่ญาติเค้าตั้งใจให้เราจริงๆ กลัวเค้าโอนไปก่อนแล้วจะสร้างเงื่อนไขต่างๆนาๆ ก่อนที่จะโอนให้เรา ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ