เอาภาพนี้มาแปะแทนเพราะไม่อยากเอาภาพสปอยล์ขึ้นภาพแรก
- ต่อจากตอนที่แล้วที่พระเอกนึกว่าคนน้องเป็นคนพี่เลยโผเข้ากอดเต็มรัก
- หลังรู้ว่าผู้หญิงที่ตัวเองกอดเข้าเป็นคนน้อง พระเอกก็ตกใจมาก อ้าปากขยับจะถามเรื่องผม
- แต่ถามยังไม่ทันจบประโยค คนน้องก็วิ่งพรวดพราดหนีกลับเข้าห้องตัวเองไปเลย
- พระเอกเห็นแบบนั้นก็เอาของกลับไปเก็บที่ห้อง รอจนเริ่มสงบสติได้ค่อยไปเคาะประตูเรียกที่ห้องคนน้องบอกว่าขอคุยด้วย คนน้องก็บอกแค่ประตูไม่ได้ล็อคแค่นั้น พระเอกเลยเปิดประตูเข้าไป
- พอเข้าไปถึงก็เห็นคนน้องนอนคว่ำหน้าอยู่กับเตียง มีวิกผมยาววางอยู่ข้างตัว พระเอกก็นั่งลงข้างเตียงบอกขอโทษที่กอดไปเมื่อกี้ แล้วถามถึงเรื่องวิกผม คนน้องก็บอกว่ายัยเอ๋อให้มาเพราะเมื่อก่อนเคยบ่นๆ ให้ยัยเอ๋อฟังว่าอยากไว้ผมยาว (ส่วนชุดที่สวมเป็นชุดใหม่ที่ไปซื้อกับยัยเอ๋อวันนี้) พระเอกก็รับคำเหมือนไม่ติดใจอะไรมาก
- เงียบกันไปพักหนึ่ง พระเอกก็บอกคนน้องเรื่องนิยายตัวเองได้รางวัลชนะเลิศ คนน้องได้ยินก็ทำท่าตกใจแกมดีใจ แต่ภายนอกดันแสดงทีท่าตอบยินดีไปแกนๆ พระเอกเห็นคนน้องทำท่าแบบนั้นก็น่าเสียไปนิดหน่อย
- พระเอกบอกคนน้องต่อว่าได้เงินรางวัลมา 3 แสนเยนด้วย ก็เลยว่าจะตอบแทนคนน้องที่ช่วยดูแลตลอดเวลาที่เขียนนิยายเรื่องนี้ และถามคนน้องว่าอยากได้อะไรมั้ย
- คนน้องก็หันมาบอกว่า
"งั้นวันอาทิตย์พรุ่งนี้ต้องทำตามที่ชั้นบอกทุกอย่างนะ"
- วันรุ่งขึ้น คนน้องก็ชวนพระเอกไปเที่ยวลานสเก็ตน้ำแข็ง คนน้องไถสเก็ตได้สบายๆ ในขณะที่พระเอกที่เล่นไม่เก่งนั้นแทบยืนไม่อยู่
- คนน้องเห็นพระเอกทำท่าเงอะงะจะล้มไม่ล้มแหล่แบบนั้นก็เลยเดินเข้าไปจับมือช่วยให้พระเอกยืนได้ แต่ปรากฏว่าพระเอกดันยืนทรงตัวไม่อยู่ล้มโครมลงไปคร่อมคนน้องในท่าโคตรล่อแหลมไปเลย
- หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ในข้างต้นขึ้นอีกสองสามครั้ง แต่ละครั้งทวีความหวาดเสียวขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็นการ์ตูนเซอร์วิสขายดีเรื่องหนึ่งของจัมป์สแควร์ไปเลย
- หลังเล่นสเก็ตน้ำแข็งเสร็จก็แวะมานั่งกินวาฟเฟิลกัน พระเอกก้มหัวขอโทษคนน้องยกใหญ่เรื่องที่ลานสเก็ต แต่คนน้องกลับไม่โกรธเรื่องที่ล้มท่ายากเลยแม้แต่น้อย (กลับงอนว่าตอนล้มแอบคิดใช่มั้ยว่า
"เล็กกว่าคนพี่" น่ะ)
- ระหว่างกินวาฟเฟิลกัน พระเอกก็เปรยๆ ขึ้นมาว่าตอนคนน้องบอกว่าวันนี้ทั้งวันให้ฟังคำพูดทุกอย่างนั่นนึกว่าจะขออะไรยากกว่านี้ซะอีก แต่กลับขอแค่มาลานสเก็ตกับมากินวาฟเฟิลแค่นี้ เรียกว่าธรรมดากว่าที่คิดเยอะเลย
- คนน้องก็บอกว่า
"ธรรมดาแบบนี้แหละดีแล้ว" (แปลง่ายๆ คือเข้าหาแบบธรรมดาไปเรื่อยๆ แล้วค่อยเพิ่มความแรงของการเข้าหาขึ้นเรื่อยๆ ไม่ให้รู้ตัวนั่นแล)
- หลังเที่ยวเล่นกันจนดึกก็กลับมาบ้านกัน เจอพ่อแม่ทำเค้กกับทำอาหารมาเลี้ยงฉลองที่พระเอกได้รางวัลชนะเลิศ พระเอกเห็นแบบนั้นเข้าก็ถึงกับซึ้งจนร้องไห้เลยทีเดียว
- กินเลี้ยงกับครอบครัวเสร็จ พระเอกก็มานั่งปั่นต้นฉบับเรื่องใหม่อย่างอารมณ์ดีสุดๆ (มีแอบคิดถึงคนพี่เป็นระยะๆ ด้วย)
- ระหว่างที่พระเอกกำลังนั่งปั่นงานเพลินๆ นั้นเอง คนน้องก็แอบเปิดประตูเข้ามาในห้องอย่างเงียบกริบจนพระเอกไม่รู้ตัว ก่อนจะเข้าไปปิดตาพระเอกจากด้านหลัง พระเอกโดนปิดตากะทันหันก็ชะงักถามโดยไม่หันไปมองว่ามีอะไรรึเปล่า ทำไมไม่เคาะประตูเรียกล่ะ
- คนน้องนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะตอบด้วยใบหน้าแดงซ่านว่า
"นี่เพิ่งจะ 5 ทุ่ม"
- คนน้อง (ทำตาเชื่อมหน้าแดง)
"วันนี้...ยังไม่หมดวันนะ"
สั้นๆ คำเดียวถึงทีมคุณน้องในตอนนี้...ฟินสิครับรออะไรอยู่
รอดูตอนหน้าโลดว่าคนน้องจะขออะไรพระเอกในช่วงเวลาที่เหลือแค่ 1 ชั่วโมงก่อนหมดวันนี้
Spoil] Domestic na Kanojo #71 - ทีมคุณน้องฟินตัวแตก ;D
- ต่อจากตอนที่แล้วที่พระเอกนึกว่าคนน้องเป็นคนพี่เลยโผเข้ากอดเต็มรัก
- หลังรู้ว่าผู้หญิงที่ตัวเองกอดเข้าเป็นคนน้อง พระเอกก็ตกใจมาก อ้าปากขยับจะถามเรื่องผม
- แต่ถามยังไม่ทันจบประโยค คนน้องก็วิ่งพรวดพราดหนีกลับเข้าห้องตัวเองไปเลย
- พระเอกเห็นแบบนั้นก็เอาของกลับไปเก็บที่ห้อง รอจนเริ่มสงบสติได้ค่อยไปเคาะประตูเรียกที่ห้องคนน้องบอกว่าขอคุยด้วย คนน้องก็บอกแค่ประตูไม่ได้ล็อคแค่นั้น พระเอกเลยเปิดประตูเข้าไป
- พอเข้าไปถึงก็เห็นคนน้องนอนคว่ำหน้าอยู่กับเตียง มีวิกผมยาววางอยู่ข้างตัว พระเอกก็นั่งลงข้างเตียงบอกขอโทษที่กอดไปเมื่อกี้ แล้วถามถึงเรื่องวิกผม คนน้องก็บอกว่ายัยเอ๋อให้มาเพราะเมื่อก่อนเคยบ่นๆ ให้ยัยเอ๋อฟังว่าอยากไว้ผมยาว (ส่วนชุดที่สวมเป็นชุดใหม่ที่ไปซื้อกับยัยเอ๋อวันนี้) พระเอกก็รับคำเหมือนไม่ติดใจอะไรมาก
- เงียบกันไปพักหนึ่ง พระเอกก็บอกคนน้องเรื่องนิยายตัวเองได้รางวัลชนะเลิศ คนน้องได้ยินก็ทำท่าตกใจแกมดีใจ แต่ภายนอกดันแสดงทีท่าตอบยินดีไปแกนๆ พระเอกเห็นคนน้องทำท่าแบบนั้นก็น่าเสียไปนิดหน่อย
- พระเอกบอกคนน้องต่อว่าได้เงินรางวัลมา 3 แสนเยนด้วย ก็เลยว่าจะตอบแทนคนน้องที่ช่วยดูแลตลอดเวลาที่เขียนนิยายเรื่องนี้ และถามคนน้องว่าอยากได้อะไรมั้ย
- คนน้องก็หันมาบอกว่า "งั้นวันอาทิตย์พรุ่งนี้ต้องทำตามที่ชั้นบอกทุกอย่างนะ"
- วันรุ่งขึ้น คนน้องก็ชวนพระเอกไปเที่ยวลานสเก็ตน้ำแข็ง คนน้องไถสเก็ตได้สบายๆ ในขณะที่พระเอกที่เล่นไม่เก่งนั้นแทบยืนไม่อยู่
- คนน้องเห็นพระเอกทำท่าเงอะงะจะล้มไม่ล้มแหล่แบบนั้นก็เลยเดินเข้าไปจับมือช่วยให้พระเอกยืนได้ แต่ปรากฏว่าพระเอกดันยืนทรงตัวไม่อยู่ล้มโครมลงไปคร่อมคนน้องในท่าโคตรล่อแหลมไปเลย
- หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ในข้างต้นขึ้นอีกสองสามครั้ง แต่ละครั้งทวีความหวาดเสียวขึ้นเรื่อยๆ จนแทบจะเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็นการ์ตูนเซอร์วิสขายดีเรื่องหนึ่งของจัมป์สแควร์ไปเลย
- หลังเล่นสเก็ตน้ำแข็งเสร็จก็แวะมานั่งกินวาฟเฟิลกัน พระเอกก้มหัวขอโทษคนน้องยกใหญ่เรื่องที่ลานสเก็ต แต่คนน้องกลับไม่โกรธเรื่องที่ล้มท่ายากเลยแม้แต่น้อย (กลับงอนว่าตอนล้มแอบคิดใช่มั้ยว่า "เล็กกว่าคนพี่" น่ะ)
- ระหว่างกินวาฟเฟิลกัน พระเอกก็เปรยๆ ขึ้นมาว่าตอนคนน้องบอกว่าวันนี้ทั้งวันให้ฟังคำพูดทุกอย่างนั่นนึกว่าจะขออะไรยากกว่านี้ซะอีก แต่กลับขอแค่มาลานสเก็ตกับมากินวาฟเฟิลแค่นี้ เรียกว่าธรรมดากว่าที่คิดเยอะเลย
- คนน้องก็บอกว่า "ธรรมดาแบบนี้แหละดีแล้ว" (แปลง่ายๆ คือเข้าหาแบบธรรมดาไปเรื่อยๆ แล้วค่อยเพิ่มความแรงของการเข้าหาขึ้นเรื่อยๆ ไม่ให้รู้ตัวนั่นแล)
- หลังเที่ยวเล่นกันจนดึกก็กลับมาบ้านกัน เจอพ่อแม่ทำเค้กกับทำอาหารมาเลี้ยงฉลองที่พระเอกได้รางวัลชนะเลิศ พระเอกเห็นแบบนั้นเข้าก็ถึงกับซึ้งจนร้องไห้เลยทีเดียว
- กินเลี้ยงกับครอบครัวเสร็จ พระเอกก็มานั่งปั่นต้นฉบับเรื่องใหม่อย่างอารมณ์ดีสุดๆ (มีแอบคิดถึงคนพี่เป็นระยะๆ ด้วย)
- ระหว่างที่พระเอกกำลังนั่งปั่นงานเพลินๆ นั้นเอง คนน้องก็แอบเปิดประตูเข้ามาในห้องอย่างเงียบกริบจนพระเอกไม่รู้ตัว ก่อนจะเข้าไปปิดตาพระเอกจากด้านหลัง พระเอกโดนปิดตากะทันหันก็ชะงักถามโดยไม่หันไปมองว่ามีอะไรรึเปล่า ทำไมไม่เคาะประตูเรียกล่ะ
- คนน้องนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะตอบด้วยใบหน้าแดงซ่านว่า "นี่เพิ่งจะ 5 ทุ่ม"
- คนน้อง (ทำตาเชื่อมหน้าแดง) "วันนี้...ยังไม่หมดวันนะ"
สั้นๆ คำเดียวถึงทีมคุณน้องในตอนนี้...ฟินสิครับรออะไรอยู่
รอดูตอนหน้าโลดว่าคนน้องจะขออะไรพระเอกในช่วงเวลาที่เหลือแค่ 1 ชั่วโมงก่อนหมดวันนี้