“ตาย ๆๆๆๆ นี่มันเรื่องอะไรกันนักกันหนาเนี้ยยย...”
อันนาพูดรัวเร็ว มือไม้สั่น อัยจึงต้องคอยปรามให้เพื่อนสาวเบาเสียงลง ทั้งคู่กำลังเดินทอดน่องอยู่บนชั้นสามของห้างบรอนซ์ บ่ายสี่โมงแล้ว อัยเพิ่งจะเลิกงานพิเศษมาหมาด ๆ ร่างสูงยังคงสวมแบบฟอร์มร้านอาหาร เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงกระโปรงสั้นสีเทาตุ่น สะพายกระเป๋าใบย่อม เดินช้า ๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ข้างสาวผมทองเพื่อนสนิทที่ออกอาการเหมือนประสาทเสีย
“แล้วแม่แกว่าไงมั่งล่ะ”
ตาสีฟ้าหันมาจ้องหล่อนเป๋ง อัยถอนใจ
“จะไปว่าไงล่ะ ฉันก็จำต้องอธิบายแม่ไปตามตรงนั่นแหละ แม่เสียสติไปเลยตอนเห็นฉันกับเควินสภาพนั้น”
หล่อนนึกถึงหน้าแม่ที่จ้องมองหล่อนตาค้าง หันมองเควินที สลับกับลูกสาวตัวเองที สภาพเปียกปอนทั้งเสื้อผ้าหัวหู ดูไม่จืด
“เลยต้องยอมให้เควินค้างกับแก”
อันนาต่อประโยค ยิ้มกริ่ม
“เออ... เฮ้ย! ไม่ใช่ค้างกับฉัน เขาแค่มาค้างที่บ้านฉัน ... แกนี่”
อัยโคลงหัว อันนาหัวเราะก๊าก
“ล้อเล่นน่า แล้ว...พวกแกทั้งคู่ก็เลยต้องขาดเรียนไปเมื่อวาน..?”
“อือ...ทำไงได้ล่ะ”
อัยไม่ยอมไปโรงเรียนเมื่อวานนี้ ด้วยเหตุที่ในตอนเช้าตรู่... นายเควินก็ยังอยู่ที่บ้านหล่อน เขาโทรบอกพ่อกับแม่ของเขาที่เรื่องเหตุสุดวิสัยเมื่อคืน มั่นใจล้านเปอร์เซ็นว่าเขาต้องมีปัญหากับโรงเรียนแน่ พ่อเขาจำต้องรีบบินมาคุยกับศาสตราจารย์โดยเร็วที่สุด
“นายเควินมีปัญหากับโรงเรียนแน่”
อันนาว่า
“ก็ใช่น่ะสิ นี่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เรียนต่อที่เพรสหรือเปล่า”
หน้านวลหมองลง อันนาก็พลอยถอนใจ
“ข่าวว่ากำลังโดนทัณฑ์บนอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร”
“เขาว่าเควินชอบออกมานอกหอพักเวลากลางคืน”
ออกนอกหอพักเวลากลางคืน....
อัยทวนคำในใจ เมื่อคืน...บทสนทนาของศาสตราจารย์มาร์คูสกับอาจารย์นาเรลก็ยังก้องในหู เด็กหอพัก...ที่ชอบออกมานอกห้องหลังเวลานอน อาจจะเป็นตัวการที่ปลอมเป็นผีหลอกแกล้งคนอื่น หวังทำลายชื่อเสียงโรงเรียนด้วย
แต่เมื่อคืน...เควินก็อยู่กับหล่อนด้วย ตอนนั้น... ตอนที่หล่อนสัมผัสได้ถึงเงาประหลาดนั่น!
อัยหรี่เสียงให้เบาลง เมื่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้อันนาฟัง สาวผมทองถึงกับอุทานออกมา หอบไหล่ตัวเองไว้น้อย ๆ เหมือนกับรู้สึกหนาว
“แกหมายความว่าโรงเรียนเรามีผีจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ”
อันนากระซิบ อัยส่ายหน้า
“ไม่รู้สิ... แต่น่ากลัวมากเลยจริง ๆ”
เพราะเจ้าผีไร้ร่างนี่ทีเดียว ที่เป็นเหตุให้อัยกับเควินตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากแบบนี้ ยังดี ที่มอเตอร์ไซค์ของอัย ยังพอไหว้วานลุงยามคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนบ้านของพี่ดาวช่วยเอามาส่งให้ เส้นสายเล็ก ๆ น้อย ๆ แลกกับขวดน้ำสีทองอำพันเป็นสินน้ำใจ ที่แม่หล่อนเป็นคนจัดการให้ เรื่องถึงได้เงียบลงง่าย ๆ
“เป็นห่วงก็แต่เควินนะ ไม่รู้จะยังไงต่อกับชีวิตดี”
อันนารำพึง อัยก็รู้สึกกังวลไม่น้อย นับเป็นการ ‘ร่วมชะตากรรม’ กันโดยแท้ ระหว่างเขากับหล่อนเมื่อคืนก่อน ทุกอย่างรอบตัวดูจะบีบคั้นให้ไม่รู้ที่ทางออกเสียหมด โชคดีที่ยังได้กลับบ้าน โชคดีที่หล่อนไม่เป็นอะไร ห่วงก็แต่พ่อนักเทนนิสหนุ่ม ทำกรรมไว้ก็เยอะ ไม่รู้ว่ารอบนี้ พ่อจะช่วยเขาไว้ได้แค่ไหน
“ว้าว! ร้าน Nico!!”
จู่ ๆ อันนาก็ร้องออกมาอย่างตื่นเต้น อัยหันตาม มองเห็นร้านรองเท้าแบรนด์หรู แบรนด์โปรด ของเพื่อนสาว เปิดไฟสว่างโร่ใหม่เอี่ยมอยู่กลางลานห้างชั้นสาม ร้าน ‘Nico (นิโค่) สปอร์ตชูส์ หรู ควรคู่ระดับไฮคลาส…เช่นคุณ’ สโลแกนเข้ากับอันนามาก อัยคิดขณะมองเพื่อนสาวถลาวิ่งเข้าร้าน ชนิดลืมเรื่องผีเมื่อครู่ไปเสียสนิท
“ตั้งแต่มาเปิดใหม่ที่ (ห้าง) บรอนซ์ ฉันยังไม่ได้เข้าไปดูเลย เห็นว่ามีคอลเลคชั่นใหม่มาแล้ว”
เจ้าหล่อนกรี๊ดกร๊าด ก้าวฉับ ๆ เข้าไปหามุมรองเท้าแฟชั่นอย่างคล่องแคล่ว ทั้งที่เพิ่งมาเป็นครั้งแรก ในร้านแบ่งเป็นโซนรองเท้ากีฬา กับรองเท้าแฟชั่นแยกกันระหว่างรองเท้าบุรุษ สตรี แต่ละด้านของผนังตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ลวดลายร้อนแรงสีสันแสบตา ผู้คนพลุกพล่านไม่เบา กับการฉลองร้านใหม่ลดราคา 20 – 60% ชนิดเรียกต่อมจ่ายเงินลูกค้าให้ทำงานระวิง
“ว้าว! สวยอ่า สวย ๆๆ”
อันนาปรี่เข้าไปลากเก้าอี้นวมมาเพื่อนั่งลองรองเท้าที่เพิ่งสอยติดมือมาสองคู่ ปาดหน้าหญิงผมทองรายหนึ่งไปชนิดผมปัดปลายจมูก ตาสีเทาจึงตวัดมองตามมาอย่างขุ่นเคือง อัยหันกลับไปรีบขอโทษแต่แล้วก็ต้องชะงัก
“มิสเฮเลน”
สะดุดรัก ภารกิจลับ ตอนที่ 6 ในร้าน Nico (นิโค)
อันนาพูดรัวเร็ว มือไม้สั่น อัยจึงต้องคอยปรามให้เพื่อนสาวเบาเสียงลง ทั้งคู่กำลังเดินทอดน่องอยู่บนชั้นสามของห้างบรอนซ์ บ่ายสี่โมงแล้ว อัยเพิ่งจะเลิกงานพิเศษมาหมาด ๆ ร่างสูงยังคงสวมแบบฟอร์มร้านอาหาร เสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงกระโปรงสั้นสีเทาตุ่น สะพายกระเป๋าใบย่อม เดินช้า ๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ข้างสาวผมทองเพื่อนสนิทที่ออกอาการเหมือนประสาทเสีย
“แล้วแม่แกว่าไงมั่งล่ะ”
ตาสีฟ้าหันมาจ้องหล่อนเป๋ง อัยถอนใจ
“จะไปว่าไงล่ะ ฉันก็จำต้องอธิบายแม่ไปตามตรงนั่นแหละ แม่เสียสติไปเลยตอนเห็นฉันกับเควินสภาพนั้น”
หล่อนนึกถึงหน้าแม่ที่จ้องมองหล่อนตาค้าง หันมองเควินที สลับกับลูกสาวตัวเองที สภาพเปียกปอนทั้งเสื้อผ้าหัวหู ดูไม่จืด
“เลยต้องยอมให้เควินค้างกับแก”
อันนาต่อประโยค ยิ้มกริ่ม
“เออ... เฮ้ย! ไม่ใช่ค้างกับฉัน เขาแค่มาค้างที่บ้านฉัน ... แกนี่”
อัยโคลงหัว อันนาหัวเราะก๊าก
“ล้อเล่นน่า แล้ว...พวกแกทั้งคู่ก็เลยต้องขาดเรียนไปเมื่อวาน..?”
“อือ...ทำไงได้ล่ะ”
อัยไม่ยอมไปโรงเรียนเมื่อวานนี้ ด้วยเหตุที่ในตอนเช้าตรู่... นายเควินก็ยังอยู่ที่บ้านหล่อน เขาโทรบอกพ่อกับแม่ของเขาที่เรื่องเหตุสุดวิสัยเมื่อคืน มั่นใจล้านเปอร์เซ็นว่าเขาต้องมีปัญหากับโรงเรียนแน่ พ่อเขาจำต้องรีบบินมาคุยกับศาสตราจารย์โดยเร็วที่สุด
“นายเควินมีปัญหากับโรงเรียนแน่”
อันนาว่า
“ก็ใช่น่ะสิ นี่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เรียนต่อที่เพรสหรือเปล่า”
หน้านวลหมองลง อันนาก็พลอยถอนใจ
“ข่าวว่ากำลังโดนทัณฑ์บนอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร”
“เขาว่าเควินชอบออกมานอกหอพักเวลากลางคืน”
ออกนอกหอพักเวลากลางคืน....
อัยทวนคำในใจ เมื่อคืน...บทสนทนาของศาสตราจารย์มาร์คูสกับอาจารย์นาเรลก็ยังก้องในหู เด็กหอพัก...ที่ชอบออกมานอกห้องหลังเวลานอน อาจจะเป็นตัวการที่ปลอมเป็นผีหลอกแกล้งคนอื่น หวังทำลายชื่อเสียงโรงเรียนด้วย
แต่เมื่อคืน...เควินก็อยู่กับหล่อนด้วย ตอนนั้น... ตอนที่หล่อนสัมผัสได้ถึงเงาประหลาดนั่น!
อัยหรี่เสียงให้เบาลง เมื่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนให้อันนาฟัง สาวผมทองถึงกับอุทานออกมา หอบไหล่ตัวเองไว้น้อย ๆ เหมือนกับรู้สึกหนาว
“แกหมายความว่าโรงเรียนเรามีผีจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ”
อันนากระซิบ อัยส่ายหน้า
“ไม่รู้สิ... แต่น่ากลัวมากเลยจริง ๆ”
เพราะเจ้าผีไร้ร่างนี่ทีเดียว ที่เป็นเหตุให้อัยกับเควินตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากแบบนี้ ยังดี ที่มอเตอร์ไซค์ของอัย ยังพอไหว้วานลุงยามคนหนึ่งที่เป็นเพื่อนบ้านของพี่ดาวช่วยเอามาส่งให้ เส้นสายเล็ก ๆ น้อย ๆ แลกกับขวดน้ำสีทองอำพันเป็นสินน้ำใจ ที่แม่หล่อนเป็นคนจัดการให้ เรื่องถึงได้เงียบลงง่าย ๆ
“เป็นห่วงก็แต่เควินนะ ไม่รู้จะยังไงต่อกับชีวิตดี”
อันนารำพึง อัยก็รู้สึกกังวลไม่น้อย นับเป็นการ ‘ร่วมชะตากรรม’ กันโดยแท้ ระหว่างเขากับหล่อนเมื่อคืนก่อน ทุกอย่างรอบตัวดูจะบีบคั้นให้ไม่รู้ที่ทางออกเสียหมด โชคดีที่ยังได้กลับบ้าน โชคดีที่หล่อนไม่เป็นอะไร ห่วงก็แต่พ่อนักเทนนิสหนุ่ม ทำกรรมไว้ก็เยอะ ไม่รู้ว่ารอบนี้ พ่อจะช่วยเขาไว้ได้แค่ไหน
“ว้าว! ร้าน Nico!!”
จู่ ๆ อันนาก็ร้องออกมาอย่างตื่นเต้น อัยหันตาม มองเห็นร้านรองเท้าแบรนด์หรู แบรนด์โปรด ของเพื่อนสาว เปิดไฟสว่างโร่ใหม่เอี่ยมอยู่กลางลานห้างชั้นสาม ร้าน ‘Nico (นิโค่) สปอร์ตชูส์ หรู ควรคู่ระดับไฮคลาส…เช่นคุณ’ สโลแกนเข้ากับอันนามาก อัยคิดขณะมองเพื่อนสาวถลาวิ่งเข้าร้าน ชนิดลืมเรื่องผีเมื่อครู่ไปเสียสนิท
“ตั้งแต่มาเปิดใหม่ที่ (ห้าง) บรอนซ์ ฉันยังไม่ได้เข้าไปดูเลย เห็นว่ามีคอลเลคชั่นใหม่มาแล้ว”
เจ้าหล่อนกรี๊ดกร๊าด ก้าวฉับ ๆ เข้าไปหามุมรองเท้าแฟชั่นอย่างคล่องแคล่ว ทั้งที่เพิ่งมาเป็นครั้งแรก ในร้านแบ่งเป็นโซนรองเท้ากีฬา กับรองเท้าแฟชั่นแยกกันระหว่างรองเท้าบุรุษ สตรี แต่ละด้านของผนังตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ลวดลายร้อนแรงสีสันแสบตา ผู้คนพลุกพล่านไม่เบา กับการฉลองร้านใหม่ลดราคา 20 – 60% ชนิดเรียกต่อมจ่ายเงินลูกค้าให้ทำงานระวิง
“ว้าว! สวยอ่า สวย ๆๆ”
อันนาปรี่เข้าไปลากเก้าอี้นวมมาเพื่อนั่งลองรองเท้าที่เพิ่งสอยติดมือมาสองคู่ ปาดหน้าหญิงผมทองรายหนึ่งไปชนิดผมปัดปลายจมูก ตาสีเทาจึงตวัดมองตามมาอย่างขุ่นเคือง อัยหันกลับไปรีบขอโทษแต่แล้วก็ต้องชะงัก
“มิสเฮเลน”