อันนี้ถือเป็นเรื่องเล่านะครับ
ผมมีเพื่อนคนนึงรู้จักกันมานานล่ะ เค้ามีแฟนคนนึงก็เก็บเงินร่วมกันครับ แฟนจัดการให้ผู้ชายเอามาใช้วันล่ะสองสามร้อย ชีวิตมีความสุขดีเพราะค่าใช้จ่ายผู้ชายไม่เยอะมีแต่ค่าเดินทางกับค่ากิน
เวลาสังสรรค์เพื่อน ๆ ก็ช่วยกันออกให้ก่อน แล้วให้บิลเค้าไปเบิกแฟน แนบหลักฐานด้วยการถ่ายรูปหมู่ (ให้แฟนเพื่อนเอาไปหารหลังบิล)
อาหารการกินเพื่อนก็กินข้าวแกงอะไรนี่ล่ะครับ 20 - 30 บาทว่าไป
ผ่านไปสองสามปีเพื่อนได้อัพตำแหน่งเป็นฝ่ายบริหาร เลยขอแฟนซื้อรถขับไปตรวจงานซักคัน ขอ City CNG ได้ Fino ก็โอเคปกติ มีน้อยใช้น้อย (แฟนเค้ามีรถยนต์ซื้อหลังจากเป็นแฟนกันตรงนี้เพื่อนแอบปาดน้ำตาเบา ๆ)
เข้าเรื่องเลยล่ะกัน วันนึงเพื่อนทะเลาะกับแฟนหนักมาก เก็บของมานอนหอเพื่อนอีกคน ปรากฏว่าแฟนเค้าขอเลิก (เรื่องไรข้ามไปเน๊าะ เพราะไม่ใช่แก่นของกระทู้นี้) จนตอนหลังเลิกกันจริง ๆ และผู้ชายไม่ได้ทำผิดหรือมีเด็กอะไร
สิ่งที่ผู้ชายเหลือมาตั้งตัว
คือมอเตอร์ไซด์หนึ่งคันกับเงินนิดหน่อยพอจ่ายค่ามัดจำหอได้
คอนโดกู้ร่วมยกให้ผู้หญิงไป
รถยนต์ยกให้ผู้หญิงไปเพราะชื่อผู้หญิง
สิ่งที่ผมจะบอกคือ การที่จะให้ฝ่ายใดฝ่ายนึงบริหารจัดการเงิน คุณต้องมีบัญชีที่ละเอียด มีข้อตกลงร่วมกัน (ถ้าวันนึงทุกอย่างไม่เหมือนเดิมจะทำยังไง)
ทั้งสองฝ่ายควรใช้หลักการเก็บเงินในสัดส่วนเท่า ๆ กัน คือยึดหมดก็ควรยึดหมดทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายนึงมีเงินตัวเองผ่อนรถยนต์สบาย อีกฝ่ายนั่งรถเมล์ไปทำงานงก ๆ
ผมไม่ได้บอกว่าต้องระแวงหรือไม่ไว้ใจกัน
มันเป็นเรื่องเล่านะครับ
ปล.ตอนนี้เพื่อนผมคนนี้สบายดีครับ กลับมาตั้งตัวได้ (เงินเดือนกลาง ๆ) มีแฟนใหม่แล้ว ใช้จ่ายปกติ กำลังจะมีครอบครัว ยินดีกะเพื่อนจริง ๆ
ผมมีอุทาหรณ์เรื่องใช้เงินวันล่ะ 200 มาเล่าให้ฟังครับ
ผมมีเพื่อนคนนึงรู้จักกันมานานล่ะ เค้ามีแฟนคนนึงก็เก็บเงินร่วมกันครับ แฟนจัดการให้ผู้ชายเอามาใช้วันล่ะสองสามร้อย ชีวิตมีความสุขดีเพราะค่าใช้จ่ายผู้ชายไม่เยอะมีแต่ค่าเดินทางกับค่ากิน
เวลาสังสรรค์เพื่อน ๆ ก็ช่วยกันออกให้ก่อน แล้วให้บิลเค้าไปเบิกแฟน แนบหลักฐานด้วยการถ่ายรูปหมู่ (ให้แฟนเพื่อนเอาไปหารหลังบิล)
อาหารการกินเพื่อนก็กินข้าวแกงอะไรนี่ล่ะครับ 20 - 30 บาทว่าไป
ผ่านไปสองสามปีเพื่อนได้อัพตำแหน่งเป็นฝ่ายบริหาร เลยขอแฟนซื้อรถขับไปตรวจงานซักคัน ขอ City CNG ได้ Fino ก็โอเคปกติ มีน้อยใช้น้อย (แฟนเค้ามีรถยนต์ซื้อหลังจากเป็นแฟนกันตรงนี้เพื่อนแอบปาดน้ำตาเบา ๆ)
เข้าเรื่องเลยล่ะกัน วันนึงเพื่อนทะเลาะกับแฟนหนักมาก เก็บของมานอนหอเพื่อนอีกคน ปรากฏว่าแฟนเค้าขอเลิก (เรื่องไรข้ามไปเน๊าะ เพราะไม่ใช่แก่นของกระทู้นี้) จนตอนหลังเลิกกันจริง ๆ และผู้ชายไม่ได้ทำผิดหรือมีเด็กอะไร
สิ่งที่ผู้ชายเหลือมาตั้งตัว
คือมอเตอร์ไซด์หนึ่งคันกับเงินนิดหน่อยพอจ่ายค่ามัดจำหอได้
คอนโดกู้ร่วมยกให้ผู้หญิงไป
รถยนต์ยกให้ผู้หญิงไปเพราะชื่อผู้หญิง
สิ่งที่ผมจะบอกคือ การที่จะให้ฝ่ายใดฝ่ายนึงบริหารจัดการเงิน คุณต้องมีบัญชีที่ละเอียด มีข้อตกลงร่วมกัน (ถ้าวันนึงทุกอย่างไม่เหมือนเดิมจะทำยังไง)
ทั้งสองฝ่ายควรใช้หลักการเก็บเงินในสัดส่วนเท่า ๆ กัน คือยึดหมดก็ควรยึดหมดทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายนึงมีเงินตัวเองผ่อนรถยนต์สบาย อีกฝ่ายนั่งรถเมล์ไปทำงานงก ๆ
ผมไม่ได้บอกว่าต้องระแวงหรือไม่ไว้ใจกัน
มันเป็นเรื่องเล่านะครับ
ปล.ตอนนี้เพื่อนผมคนนี้สบายดีครับ กลับมาตั้งตัวได้ (เงินเดือนกลาง ๆ) มีแฟนใหม่แล้ว ใช้จ่ายปกติ กำลังจะมีครอบครัว ยินดีกะเพื่อนจริง ๆ