ไม่น่าเชื่อ ทนายมะกันจะคิด ๓ พันดอล ก็เลยมาขอให้ช่วยทำ จึงรู้ว่าจริง
ที่น่าแปลก คือ ฝ่ายหญิงไทยเป็นแม่หม้าย เขาบอกว่า จะแต่งงานใหม่ ทางฝ่ายทะเบียนไทย ต้องให้เปลี่ยนนามสกุลไปใช้นามสกุลเดิมตอนโสด
เปลี่ยนนามสกุลแล้ว แต่งงานแล้ว เธอไม่ได้ใช้นามสกุลสามีใหม่ คงกลัวจะยุ่งยากกับวีซ่าท่องเที่ยว ที่มีอยู่ในหนังสือเดินทางที่ใช้นามสกุลสามีเดิม
องค์กรสากล เคยส่งเธอไปทำงานในเมกา ๖ เดือน ด้วยวีซ่า L เธอเก็บเอกสาร พร้อมด้วยหมายเลข Social Security และ W-2
ก่อนไปเธอแปลเอกสารเอง แล้วไปให้กรมการกงสุลรับรอง เช่นสูติบัตร มรณะบัตรของสามีเดิม เอกสารเปลี่ยนชื่อ และทะเบียนสมรสใหม่
เธอบอกว่า ตอนไปขอใบรับรองประวัติจากตำรวจ เขาจะให้ไปทำหนังสือเดินทางใหม่ ตามบัตรประชาชนใหม่ เธอเลยต้องขอให้ตำรวจที่รู้จักขอให้ทำตามหนังสือเดินทางเก่านั้น
ตอนเข้าเมกา ตม.มะกันให้อยู่เที่ยวเต็มที่นาน ๖ เดือน เธอบอกว่า ธนาคารใหญ๋ที่สามีใช้ ไม่ยอมให้มีชื่อเธอร่วมด้วย จึงต้องไปเปิดบัญชีร่วมกันที่ธนาคารเล็กๆโดยใช้นามสกุลสามีเดิมตามหนังสือเดินทาง ค่าน้ำค่าไฟมีชื่อร่วมได้ แต่ใบเสร็จมีชื่อสามีคนเดียว แต่ชื่อเจ้าของบ้านสามี มีชื่อร่วมได้โดยเธอก็ใช้นามสกุลของใหม่ ในใบสมัครเธอบอกว่า ใช้นามสกุลโสดเป็นขื่อกลาง และนามสกุลสามีใหม่เป็นามสกุลใหม่ แล้วก็ส่งไปทุกอย่าง พร้อมกับของสามี และเช็คค่าธรรมเนียม รวมกันแล้วราว ๑๔๐๐ ดอล เอกสารเต็มซอง Priority Mail มาตราฐานธรรมดา ค่าส่งถูก ๕ หรือ ๖ ดอล มีใบของ ตม ที่ให้แจ้งทาง Email ว่าได้รับเอกสารต่างๆแล้ว แต่ทาง ตม ก็ไม่ได้ส่งEmail มาบอก
ส่งไปกลางเดือนกรกฏา พอปลายเดือน ก็มี จม จาก ตม ๓ ๔ ฉบับ ว่าไดรับเอกสารหมายเลขนั้นหมายเลขนี่
ต้นเดือนสิงหา ได้ใบนัดให้ไปทำ Biometric กลางเดิอนสิงหา พอต้นกันยาได้บัตรอายุ ๑ ปีทำงานได้ และเดินทางเข้าออกได้ ระหว่างรอใบเขียว
พอกลางกันยา นัดสัมภาษณ์ทั้งสองคน วันที่ ๘ ตุลา คนละที่กับที่ทำ Biometric
เธอบอกว่า จนท ให้สาบานว่าตอบด้วยความสัตย์จริง ส่วนใหญ๋ก็ถามตามใบสมัครที่กรอกไป จนท ถามว่าธนาคารที่มีชื่อร่วมเปิดเมือไร สามีก็อธิบายไป จนท บอกว่าเข้าใจ และบอกว่า ผ่าน จะแจ้งไปที่ที่ทำใบเขียว ก็คงจะได้รับ ๓ ๔ อาทิตย์ พอวันที่ ๑๖ ตรวจ Tracking บอกว่า ส่งใบเขียวออกวันที่ ๑๖ วันที่ ๒๒ ก็ได้รับทางPriority Mail เธอก็เอาไปขอบัตร Social Security ใหม่ ฟรี เห็นบอกว่าก็คงจะได้รับ ๓ ๔ อาทิตย์ นะ
หญิงแต่งในไทยไปวีซ่าท่องเที่ยว ขอใบเขียว ๓ เดือนได้
ที่น่าแปลก คือ ฝ่ายหญิงไทยเป็นแม่หม้าย เขาบอกว่า จะแต่งงานใหม่ ทางฝ่ายทะเบียนไทย ต้องให้เปลี่ยนนามสกุลไปใช้นามสกุลเดิมตอนโสด
เปลี่ยนนามสกุลแล้ว แต่งงานแล้ว เธอไม่ได้ใช้นามสกุลสามีใหม่ คงกลัวจะยุ่งยากกับวีซ่าท่องเที่ยว ที่มีอยู่ในหนังสือเดินทางที่ใช้นามสกุลสามีเดิม
องค์กรสากล เคยส่งเธอไปทำงานในเมกา ๖ เดือน ด้วยวีซ่า L เธอเก็บเอกสาร พร้อมด้วยหมายเลข Social Security และ W-2
ก่อนไปเธอแปลเอกสารเอง แล้วไปให้กรมการกงสุลรับรอง เช่นสูติบัตร มรณะบัตรของสามีเดิม เอกสารเปลี่ยนชื่อ และทะเบียนสมรสใหม่
เธอบอกว่า ตอนไปขอใบรับรองประวัติจากตำรวจ เขาจะให้ไปทำหนังสือเดินทางใหม่ ตามบัตรประชาชนใหม่ เธอเลยต้องขอให้ตำรวจที่รู้จักขอให้ทำตามหนังสือเดินทางเก่านั้น
ตอนเข้าเมกา ตม.มะกันให้อยู่เที่ยวเต็มที่นาน ๖ เดือน เธอบอกว่า ธนาคารใหญ๋ที่สามีใช้ ไม่ยอมให้มีชื่อเธอร่วมด้วย จึงต้องไปเปิดบัญชีร่วมกันที่ธนาคารเล็กๆโดยใช้นามสกุลสามีเดิมตามหนังสือเดินทาง ค่าน้ำค่าไฟมีชื่อร่วมได้ แต่ใบเสร็จมีชื่อสามีคนเดียว แต่ชื่อเจ้าของบ้านสามี มีชื่อร่วมได้โดยเธอก็ใช้นามสกุลของใหม่ ในใบสมัครเธอบอกว่า ใช้นามสกุลโสดเป็นขื่อกลาง และนามสกุลสามีใหม่เป็นามสกุลใหม่ แล้วก็ส่งไปทุกอย่าง พร้อมกับของสามี และเช็คค่าธรรมเนียม รวมกันแล้วราว ๑๔๐๐ ดอล เอกสารเต็มซอง Priority Mail มาตราฐานธรรมดา ค่าส่งถูก ๕ หรือ ๖ ดอล มีใบของ ตม ที่ให้แจ้งทาง Email ว่าได้รับเอกสารต่างๆแล้ว แต่ทาง ตม ก็ไม่ได้ส่งEmail มาบอก
ส่งไปกลางเดือนกรกฏา พอปลายเดือน ก็มี จม จาก ตม ๓ ๔ ฉบับ ว่าไดรับเอกสารหมายเลขนั้นหมายเลขนี่
ต้นเดือนสิงหา ได้ใบนัดให้ไปทำ Biometric กลางเดิอนสิงหา พอต้นกันยาได้บัตรอายุ ๑ ปีทำงานได้ และเดินทางเข้าออกได้ ระหว่างรอใบเขียว
พอกลางกันยา นัดสัมภาษณ์ทั้งสองคน วันที่ ๘ ตุลา คนละที่กับที่ทำ Biometric
เธอบอกว่า จนท ให้สาบานว่าตอบด้วยความสัตย์จริง ส่วนใหญ๋ก็ถามตามใบสมัครที่กรอกไป จนท ถามว่าธนาคารที่มีชื่อร่วมเปิดเมือไร สามีก็อธิบายไป จนท บอกว่าเข้าใจ และบอกว่า ผ่าน จะแจ้งไปที่ที่ทำใบเขียว ก็คงจะได้รับ ๓ ๔ อาทิตย์ พอวันที่ ๑๖ ตรวจ Tracking บอกว่า ส่งใบเขียวออกวันที่ ๑๖ วันที่ ๒๒ ก็ได้รับทางPriority Mail เธอก็เอาไปขอบัตร Social Security ใหม่ ฟรี เห็นบอกว่าก็คงจะได้รับ ๓ ๔ อาทิตย์ นะ