กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ต่อยอดมาจากกระทู้คราวก่อน
http://pantip.com/topic/34341864
หลังจากที่รัฐบาลไม่สามารถบังคับพระองค์เจ้าออศค่าให้ทำตามคำสั่งได้
ท่านนายกฯจึงได้จัดตั้งศาลชุดพิเศษขึ้นมา
แน่นอนค่ะ ในเมื่อรัฐบาลเป็นผู้จัดตั้ง ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามคาด
รัฐบาลเป็นฝ่ายชนะ
และ…(XII)…พระองค์ท่านที่ประทับลี้ภัยการเมืองไปอยู่ที่อังกฤษ
ที่ตกเป็นจำเลยของรัฐบาลในชุดนั้น ก็โดนตัดสินให้แพ้คดีความ
และต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดเป็นจำนวนเงินกว่า 6,000,000 บาท ในยุคสมัยนั้นไม่รู้ว่าต้องเอาเท่าไรคูณ
ในช่วงที่มีการฟ้องร้อง พระองค์ท่านต้องต่อสู้กับอำนาจรัฐบาลที่มีฐานอำนาจค่อนข้างเข้มแข็ง
ขณะที่พระองค์ตกอยู่ในฐานะเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด
เนื่องจากต้องต่อสู้ภายนอกประเทศ และทรงสูญเสียอำนาจที่มีก่อนหน้านั้นไปเกือบทั้งหมดให้กับคณะปฎิวัตร
ทำให้มีความยากลำบากในการทำเรื่องสู้คดี
สมเด็จใน (XII)……ในพระองค์ท่านก็ต้องตกเป็นจำเลยตามพระราชสวามีด้วย
ต้องการที่จะกอบกู้เกียรติยศกลับคืนมา และรับสั่งว่า
จะสู้ให้ถึงที่สุด
แต่ทว่าช่วงนั้นอยู่ในภาวะสงคราม การต่อสู้ก็มีความยากลำบากมาก
อย่างไรก็ตามพระองค์ท่านก็ทรงต่อสู้อย่างอาจหาญ และสู้ตลอดมาจนศาลพิพากษา.
ในการต่อสู้คดีนี้ฝ่ายจำเลยมีหม่อมเจ้าอุปลีสาณ ชุมพล เป็นตัวแทน
และมีมิสเตอร์ V.H. Jakes ชาวอังกฤษ ซึ่งเปิดสำนักงานทนายความอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นทนายความ.
ส่วนทางอังกฤษพระองค์ท่านก็ได้ทรงปรึกษาวิธีการต่อสู้คดีกับมิสเตอร์ R.D. Craig
ที่ปรึกษากฎหมายของพระองค์ และร่วมบริษัทว่าความบริษัทเดียวกันกับมิสเตอร์เจกส์ ด้วย.
คดีนี้ใช้เวลาอยู่ประมาณ 2 ปีเศษ. ในวันที่ 30 เดือนกันยายน พศ 2484
ศาลก็ได้ตัดสินให้พระองค์ทรงแพ้คดี แต่พระองค์ก็ไม่อาจทรงทราบได้ถึงผลการตัดสิน
เพราะก่อนหน้านั้น 4 เดือน, พระองค์สิ้นไปแล้ว, คงเหลือแต่….. จำเลยที่ 2 เพียงพระองค์เดียว…
หมายเหตุ เรื่องรายละเอียดของคดีประวัติศาสตร์ยึดทรัพย์
จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องลึกลับหรือพูดไม่ได้ ลองไปหาอ่านดูค่ะ
พระยาพหลพลพยุหเสนาในช่วงเป็นนายก กับการจัดตั้งศาลพิเศษ ในการฟ้องร้องยึดทรัพย์สินทั้งหมด
หลังจากที่รัฐบาลไม่สามารถบังคับพระองค์เจ้าออศค่าให้ทำตามคำสั่งได้
ท่านนายกฯจึงได้จัดตั้งศาลชุดพิเศษขึ้นมา
แน่นอนค่ะ ในเมื่อรัฐบาลเป็นผู้จัดตั้ง ผลลัพธ์ก็เป็นไปตามคาด
รัฐบาลเป็นฝ่ายชนะ
และ…(XII)…พระองค์ท่านที่ประทับลี้ภัยการเมืองไปอยู่ที่อังกฤษ
ที่ตกเป็นจำเลยของรัฐบาลในชุดนั้น ก็โดนตัดสินให้แพ้คดีความ
และต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดเป็นจำนวนเงินกว่า 6,000,000 บาท ในยุคสมัยนั้นไม่รู้ว่าต้องเอาเท่าไรคูณ
ในช่วงที่มีการฟ้องร้อง พระองค์ท่านต้องต่อสู้กับอำนาจรัฐบาลที่มีฐานอำนาจค่อนข้างเข้มแข็ง
ขณะที่พระองค์ตกอยู่ในฐานะเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด
เนื่องจากต้องต่อสู้ภายนอกประเทศ และทรงสูญเสียอำนาจที่มีก่อนหน้านั้นไปเกือบทั้งหมดให้กับคณะปฎิวัตร
ทำให้มีความยากลำบากในการทำเรื่องสู้คดี
สมเด็จใน (XII)……ในพระองค์ท่านก็ต้องตกเป็นจำเลยตามพระราชสวามีด้วย
ต้องการที่จะกอบกู้เกียรติยศกลับคืนมา และรับสั่งว่า จะสู้ให้ถึงที่สุด
แต่ทว่าช่วงนั้นอยู่ในภาวะสงคราม การต่อสู้ก็มีความยากลำบากมาก
อย่างไรก็ตามพระองค์ท่านก็ทรงต่อสู้อย่างอาจหาญ และสู้ตลอดมาจนศาลพิพากษา.
ในการต่อสู้คดีนี้ฝ่ายจำเลยมีหม่อมเจ้าอุปลีสาณ ชุมพล เป็นตัวแทน
และมีมิสเตอร์ V.H. Jakes ชาวอังกฤษ ซึ่งเปิดสำนักงานทนายความอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นทนายความ.
ส่วนทางอังกฤษพระองค์ท่านก็ได้ทรงปรึกษาวิธีการต่อสู้คดีกับมิสเตอร์ R.D. Craig
ที่ปรึกษากฎหมายของพระองค์ และร่วมบริษัทว่าความบริษัทเดียวกันกับมิสเตอร์เจกส์ ด้วย.
คดีนี้ใช้เวลาอยู่ประมาณ 2 ปีเศษ. ในวันที่ 30 เดือนกันยายน พศ 2484
ศาลก็ได้ตัดสินให้พระองค์ทรงแพ้คดี แต่พระองค์ก็ไม่อาจทรงทราบได้ถึงผลการตัดสิน
เพราะก่อนหน้านั้น 4 เดือน, พระองค์สิ้นไปแล้ว, คงเหลือแต่….. จำเลยที่ 2 เพียงพระองค์เดียว…
หมายเหตุ เรื่องรายละเอียดของคดีประวัติศาสตร์ยึดทรัพย์
จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องลึกลับหรือพูดไม่ได้ ลองไปหาอ่านดูค่ะ