ในช่วงปี พศ 2475-2478 การเมืองไทยช่วงนั้นถือว่าร้อนแรงมากช่วงหนึ่ง
เพราะอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านแผ่นดิน และอยู่ในช่วงหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ไม่นาน
มีเหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจและน่าเศร้ามากเกิดขึ้น
นั่นก็คือ พระองค์เจ้าออศคาร์นุทิศฯ (ที่เป็นผู้สำเร็จราชการในเพลานั้น) ทรงปลงพระชนม์ตัวเอง
สาเหตุเกิดมาจากที่ พระองค์โดน
มรสุมการเมืองกดดัน บีบคั้น
จากรัฐบาลในชุดของ พระยาพหลพลพยุหเสนา ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
ทำให้พระองค์ ทรงเครียดหนัก แต่ทว่าพระองค์ก็ไม่ยอมทำตามที่
รัฐบาลร้องขอ
เมื่อโดนบีบคั้นจิตใจมากๆ บวกกับความอ่อนล้าเหนื่อยหน่ายในพระราชหฤทัย
ราวกับเหมือนจะหมดสิ้นหนทางออก
และเมื่อทางรัฐบาลมีอำนาจมากกว่าพระองค์
พระองค์จึงตัดสินใจปลงพระชนม์ตัวเอง วิธีที่ใช้ปลงพระชนม์นั้นต้องถือว่า
เด็ดขาดและเหี้ยมหาญจริงๆค่ะ
เลือดขัตติยะ
สีน้ำเงินที่เข้มข้น
ไหลนองราวกับจะบอกรัฐบาลในชุดนั้นว่า
เกียรติยศและศักดิ์ศรี มีราคาเหนือสิ่งอื่นใด
แม้นจะยอมพลีชีพพระองค์เอง ก็ทรงยอม
หมายเหตุ สิ่งที่รัฐบาลชุดนั้นร้องขอ ดิฉันคงไม่อาจนำมาพูดในที่นี้ได้
ถ้าใครต้องการทราบว่าเรื่องอะไร ให้ไปค้นหาได้เองค่ะ ไม่ใช่เรื่องลี้ลับอะไร
และนักประวัติศาสตร์การเมืองหลายคนก็ทราบดี แต่ทว่าดิฉันเกรงว่าอาจจะไม่เหมาะสมที่จะมาพูด ณ ที่แห่งนี้
พระยาพหลพลพยุหเสนา นายกรัฐมนตรีคนที่2 กับอำนาจที่เหนือกว่า…. พระองค์เจ้าออศคาร์ ยอมพลีชีพเพื่อผดุงเกียรติยศและศักดิ์ศรี
เพราะอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านแผ่นดิน และอยู่ในช่วงหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองได้ไม่นาน
มีเหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจและน่าเศร้ามากเกิดขึ้น
นั่นก็คือ พระองค์เจ้าออศคาร์นุทิศฯ (ที่เป็นผู้สำเร็จราชการในเพลานั้น) ทรงปลงพระชนม์ตัวเอง
สาเหตุเกิดมาจากที่ พระองค์โดนมรสุมการเมืองกดดัน บีบคั้น
จากรัฐบาลในชุดของ พระยาพหลพลพยุหเสนา ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
ทำให้พระองค์ ทรงเครียดหนัก แต่ทว่าพระองค์ก็ไม่ยอมทำตามที่รัฐบาลร้องขอ
เมื่อโดนบีบคั้นจิตใจมากๆ บวกกับความอ่อนล้าเหนื่อยหน่ายในพระราชหฤทัย
ราวกับเหมือนจะหมดสิ้นหนทางออก
และเมื่อทางรัฐบาลมีอำนาจมากกว่าพระองค์
พระองค์จึงตัดสินใจปลงพระชนม์ตัวเอง วิธีที่ใช้ปลงพระชนม์นั้นต้องถือว่า เด็ดขาดและเหี้ยมหาญจริงๆค่ะ
เลือดขัตติยะสีน้ำเงินที่เข้มข้น
ไหลนองราวกับจะบอกรัฐบาลในชุดนั้นว่า เกียรติยศและศักดิ์ศรี มีราคาเหนือสิ่งอื่นใด
แม้นจะยอมพลีชีพพระองค์เอง ก็ทรงยอม
หมายเหตุ สิ่งที่รัฐบาลชุดนั้นร้องขอ ดิฉันคงไม่อาจนำมาพูดในที่นี้ได้
ถ้าใครต้องการทราบว่าเรื่องอะไร ให้ไปค้นหาได้เองค่ะ ไม่ใช่เรื่องลี้ลับอะไร
และนักประวัติศาสตร์การเมืองหลายคนก็ทราบดี แต่ทว่าดิฉันเกรงว่าอาจจะไม่เหมาะสมที่จะมาพูด ณ ที่แห่งนี้