สวัสดีทุกท่าน รีวิวนี้เอาสั่นๆกระชับๆและกัน
พอดีเกิดนึกอยากเที่ยวขึ้นมา ไม่รู้จะไปไหน
แพคกระเป๋าไปมันคนเดียวนี่แหละ ลุยสังขละเลย .

----เป้าหมายแรก ไปกินก๋วยเตี๋ยวฝั่งพม่า
----เป้าหมายที่สอง ไปตามหาสาวมอญในตำนาน
....ออกจากบ้าน 10.30 น วันเสาร์ที่17 ตค.58
--- มาเจอฝน ตรงไทรโยคใหญ่ ... ก็ต้องลุย เพราะเดี๋ยวไปถึงสังขละมืดค่ำจะหาที่พักลำบาก
หลังฝนฟ้าจะสดใสเสมอ
กว่าจะถึงก็ปาเข้าไป เกือบ6โมงเย็น หาที่นอนละทีนี้
หาที่นอนเสร็จก็หาของกินต่อ ที่สะพานมอญ ได้ชามะนาวมากินแก้วนึงเหลือบไปเห็น ฝูงชีปะขาวมาเล่นไฟ
มันเป็นความฟินอย่างหนึ่งเลยครับ . รู้สึกเพลินมาก ถ่ายรูปเล่น
สักพักเท่านั้นแหละ ไฟดับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ทั้ง สังขละเลย ความฟินจึงบังเกิด
ดาวนี่เต็มฟ้ามาเป็นทางช้างเผือกเลยทีเดียว เสียดายไม่มีขาตั้งกล้อง
จึงเอาไฟฉายมือถือ กับ แก้วชามะนาวที่กินหมดแล้ว มาทำโคมไฟให้เหล่าชีประขาวได้พักพิง
ค่ำคืนนี้ นอนแบบไม่มีไฟฟ้ากันเลยทีเดียว ดีนะไม่ร้อนเท่าไร
*******************************************
เช้าวันอาทิตที่18 สะดุ้งตืนขึ้นมาตอน 6โมงเช้า ต้องรีบออกไปหาไรกิน เติมพลัง เพราะว่าวันนี้จะต้องลุยยยยยเดี่ยว
7โมงเช้าออกจากที่พัก .
เป้าหมาย ชายแดน ไทย พม่า ฮล๊อคคนี. หมู่บ้านมอญแท้ๆ .
ทางไม่ได้ราบรื่นสักนิด แต่ทางแบบนี้ ชอบเลย สายลุยล้อหนามอย่างเรา
แต่ก็แอบเสียวเพราะคนเดียวจะลำบาก
ใช้เวลากับทางดินพอสมควรเลย . จนมาถึงชายแดน
ขออนุญาติเจ้าหน้าที่ ตชด. เข้าไปในเขตประเทศพม่าสักหน่อย. ไปตามหาเป้าหมาย 1 และ 2 ของเรา
ตรงนี้ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวนะครับ แต่ผมขอเจ้าหน้าที่เข้าไปหน่อย เค้าก็อนุโลมให้ครับ

เข้ามาก็เจอ เห็นชาวบ้านนั่งทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้เลยจอดไปถาม ปรากฎว่าเป็นถ่านหุงข้าวครับ

มาเจอ ศึกแห่ง ศักดิ์ที่มีบ้านเมืองเป็นเดิมพัน(เว่อร์)
เจ้าถิ่น พม่ารามัญ vs แดงหางดำอโยธยา (นี่ก็เวอร์)

ยิ่งเข้าไปลึกยิ่งทางเละ - -* ดับคาเนินเลยทีเดียว
ขับไปเรื่อยๆ มอง2ข้างทางแล้วก็พงกหัวหักทายชาวบ้านตลอดทาง
เค้าก็ยิ้มให้ทุกคน ขับไปสักพักก็มาสะดุดตา แบบว่าเบรคในทันทีทันใด เป้าหมายของเรา

ผมนี่รีบกางขาตั้ง แล้วเดินไปทำทีถามเส้นทางให้ไวเลยครับ .
คุยไปเรื่อย ก็ขอเขาถ่ายรูป เค้าก็เขินๆนะ
นี่แหละ ผิวพม่า นัยย์ตาแขก คิ้วนี่คมบาดใจจริงๆ.เสียเวลาอยู่ตรงนี้ สักพักใหญ่ๆเลย
5555555 คุยไปเรื่อย เขาฟังภาษาไทยออก แล้วก้พูดได้เป็นบางคำ

วัยรุ่นที่นี่ครับ .ผิวพรรณเค้าดีจริงๆ ไม่น่าเชื่อเหมือนกันนะ ที่ห่างไกลความเจริญขนาดนั้น
ผมไม่ได้หื่นนะ แค่ ชื่นชม ตวามสวยงามที่เป็นธรรมชาติไร้การปรุงแต่ง
เพราะมันเริ่มหาดูยากขึ้นทุกทีในสังคมเมือง
มุ่งหน้ากันต่อไป เป้าหมายต่อไป กินก๋วยเตี๋ยว

และเราก็มาเจอ สะพานไม้ สวยงามมมาก ใช้เวลาตรงนี้นานเหมือนกัน
ข้ามสะพานไปไม่ไกล เราก็เจอแล้ว ร้านก๋วยเตี๋ยว มื้อเที่ยงของผม
แม่ค้าใส่เสื้อโดนใจจริงๆ
ต่อด้วยน้ำแข็งใส 5 บาท ไม่มีความหวานเลย เค็มมาก.
แล้วก็นั่งคุยกับป้าเค้า สักพัก ดื่มเบียร์ ไป1กระป่อง มีเบียร์ขายซะด้วย . ไม่ค่อยเย็นหรอก.555
แต่ก็ยังดี ยังมีให้กิน . คนที่นี่ฟังไทยได้ แต่พูดไม่ค่อยได้.
สะดุดตาภาพๆนึงที่ติดอยู่ที่ผนังของร้าน
พ่อหลวงของเราครับ . ทรงพระเจริญ . ไม่ว่าชาวไทย หรือ เพื่อนบ้านของเรา รักในหลวงครับ
และสังเกตภาพขาวดำทางขวาสุด คือ พ่อของนางออกซานซูจีครับ ชาวพม่าจะนับถือมาก เห็นติดเกือบทุกบ้าน
ประมาณเที่ยงตรงผมก็ขับกลับ ออกจากพม่ากลับมาที่สังขละ หาที่ล้างตัว แล้วก็ ยิงยาวกลับ กทม.
สภาพทั้งคนทั้งรถนี่เละเทะเลยครับ.
****สิ่งที่ได้จากทริปนี้
********ได้มีเวลาใช้ชิวิตของตัวเอง ได้คุยกับตัวเอง ได้อยู่กับตัวเอง **ได้คิดถึงคนที่เรารัก ในเวลาที่เราเหงา
******** ได้หยุดมองความสุขรอบๆทาง อยากหยุดตรงไหนก็หยุด ไม่ต้องแคร์ใคร ตามใจเราสั่งการ
******** เวลาที่เราตั่งใจ แล้วเอาชนะใจตัวเอง แล้วลุยไปให้สุด
ผลที่เราได้มันชั่งน่าประทับใจและน่าจดจำจริงๆนะครับ กับเวลาที่ผมใช้ไปไม่ถึง2วันเต็ม 800 กว่า km.
*****ออกไปลุยกันเถอะครับ พี่น้อง . คนเดียวเราก้เที่ยวได้ สบายใจ.
BY.ANG.product
****** ขอ ขอบ คุณ ไอ้ตัวเล็ก ksr พันธ์แกร่งของผม . ที่อยู่ด้วยกัน และพาผมไปในที่ที่อยากจะไป
ปล.*******ใครที่จะไป ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะผ่านด่านนะครับ มีทั้งหมด3 ด่าน ด้วยกัน . อยู่ที่ดุลพินิจของทหาร
--เพราะเค้าห่วงความปลอดภัย และปัญหา . เป็นไรขึ้นมาคนที่ซวยคือคุณเองและเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยให้คุณเข้าไป
--มันเป็นการข้ามแดนที่ผิดนะครับ
[SR] 2วัน1คืน ฉายเดี่ยว.กทม-สังขละ-พม่า ตามหาสาวมอญในตำนาน ksr 110
พอดีเกิดนึกอยากเที่ยวขึ้นมา ไม่รู้จะไปไหน
แพคกระเป๋าไปมันคนเดียวนี่แหละ ลุยสังขละเลย .
----เป้าหมายแรก ไปกินก๋วยเตี๋ยวฝั่งพม่า
----เป้าหมายที่สอง ไปตามหาสาวมอญในตำนาน
....ออกจากบ้าน 10.30 น วันเสาร์ที่17 ตค.58
--- มาเจอฝน ตรงไทรโยคใหญ่ ... ก็ต้องลุย เพราะเดี๋ยวไปถึงสังขละมืดค่ำจะหาที่พักลำบาก
หลังฝนฟ้าจะสดใสเสมอ
กว่าจะถึงก็ปาเข้าไป เกือบ6โมงเย็น หาที่นอนละทีนี้
หาที่นอนเสร็จก็หาของกินต่อ ที่สะพานมอญ ได้ชามะนาวมากินแก้วนึงเหลือบไปเห็น ฝูงชีปะขาวมาเล่นไฟ
มันเป็นความฟินอย่างหนึ่งเลยครับ . รู้สึกเพลินมาก ถ่ายรูปเล่น
สักพักเท่านั้นแหละ ไฟดับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ทั้ง สังขละเลย ความฟินจึงบังเกิด
ดาวนี่เต็มฟ้ามาเป็นทางช้างเผือกเลยทีเดียว เสียดายไม่มีขาตั้งกล้อง
จึงเอาไฟฉายมือถือ กับ แก้วชามะนาวที่กินหมดแล้ว มาทำโคมไฟให้เหล่าชีประขาวได้พักพิง
ค่ำคืนนี้ นอนแบบไม่มีไฟฟ้ากันเลยทีเดียว ดีนะไม่ร้อนเท่าไร
*******************************************
เช้าวันอาทิตที่18 สะดุ้งตืนขึ้นมาตอน 6โมงเช้า ต้องรีบออกไปหาไรกิน เติมพลัง เพราะว่าวันนี้จะต้องลุยยยยยเดี่ยว
7โมงเช้าออกจากที่พัก .
เป้าหมาย ชายแดน ไทย พม่า ฮล๊อคคนี. หมู่บ้านมอญแท้ๆ .
ทางไม่ได้ราบรื่นสักนิด แต่ทางแบบนี้ ชอบเลย สายลุยล้อหนามอย่างเรา
แต่ก็แอบเสียวเพราะคนเดียวจะลำบาก
ใช้เวลากับทางดินพอสมควรเลย . จนมาถึงชายแดน
ขออนุญาติเจ้าหน้าที่ ตชด. เข้าไปในเขตประเทศพม่าสักหน่อย. ไปตามหาเป้าหมาย 1 และ 2 ของเรา
ตรงนี้ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวนะครับ แต่ผมขอเจ้าหน้าที่เข้าไปหน่อย เค้าก็อนุโลมให้ครับ
เข้ามาก็เจอ เห็นชาวบ้านนั่งทำอะไรอยู่ก็ไม่รู้เลยจอดไปถาม ปรากฎว่าเป็นถ่านหุงข้าวครับ
มาเจอ ศึกแห่ง ศักดิ์ที่มีบ้านเมืองเป็นเดิมพัน(เว่อร์)
เจ้าถิ่น พม่ารามัญ vs แดงหางดำอโยธยา (นี่ก็เวอร์)
ยิ่งเข้าไปลึกยิ่งทางเละ - -* ดับคาเนินเลยทีเดียว
ขับไปเรื่อยๆ มอง2ข้างทางแล้วก็พงกหัวหักทายชาวบ้านตลอดทาง
เค้าก็ยิ้มให้ทุกคน ขับไปสักพักก็มาสะดุดตา แบบว่าเบรคในทันทีทันใด เป้าหมายของเรา
ผมนี่รีบกางขาตั้ง แล้วเดินไปทำทีถามเส้นทางให้ไวเลยครับ .
คุยไปเรื่อย ก็ขอเขาถ่ายรูป เค้าก็เขินๆนะ
นี่แหละ ผิวพม่า นัยย์ตาแขก คิ้วนี่คมบาดใจจริงๆ.เสียเวลาอยู่ตรงนี้ สักพักใหญ่ๆเลย
5555555 คุยไปเรื่อย เขาฟังภาษาไทยออก แล้วก้พูดได้เป็นบางคำ
วัยรุ่นที่นี่ครับ .ผิวพรรณเค้าดีจริงๆ ไม่น่าเชื่อเหมือนกันนะ ที่ห่างไกลความเจริญขนาดนั้น
ผมไม่ได้หื่นนะ แค่ ชื่นชม ตวามสวยงามที่เป็นธรรมชาติไร้การปรุงแต่ง
เพราะมันเริ่มหาดูยากขึ้นทุกทีในสังคมเมือง
มุ่งหน้ากันต่อไป เป้าหมายต่อไป กินก๋วยเตี๋ยว
และเราก็มาเจอ สะพานไม้ สวยงามมมาก ใช้เวลาตรงนี้นานเหมือนกัน
ข้ามสะพานไปไม่ไกล เราก็เจอแล้ว ร้านก๋วยเตี๋ยว มื้อเที่ยงของผม
แม่ค้าใส่เสื้อโดนใจจริงๆ
ต่อด้วยน้ำแข็งใส 5 บาท ไม่มีความหวานเลย เค็มมาก.
แล้วก็นั่งคุยกับป้าเค้า สักพัก ดื่มเบียร์ ไป1กระป่อง มีเบียร์ขายซะด้วย . ไม่ค่อยเย็นหรอก.555
แต่ก็ยังดี ยังมีให้กิน . คนที่นี่ฟังไทยได้ แต่พูดไม่ค่อยได้.
สะดุดตาภาพๆนึงที่ติดอยู่ที่ผนังของร้าน
พ่อหลวงของเราครับ . ทรงพระเจริญ . ไม่ว่าชาวไทย หรือ เพื่อนบ้านของเรา รักในหลวงครับ
และสังเกตภาพขาวดำทางขวาสุด คือ พ่อของนางออกซานซูจีครับ ชาวพม่าจะนับถือมาก เห็นติดเกือบทุกบ้าน
ประมาณเที่ยงตรงผมก็ขับกลับ ออกจากพม่ากลับมาที่สังขละ หาที่ล้างตัว แล้วก็ ยิงยาวกลับ กทม.
สภาพทั้งคนทั้งรถนี่เละเทะเลยครับ.
****สิ่งที่ได้จากทริปนี้
********ได้มีเวลาใช้ชิวิตของตัวเอง ได้คุยกับตัวเอง ได้อยู่กับตัวเอง **ได้คิดถึงคนที่เรารัก ในเวลาที่เราเหงา
******** ได้หยุดมองความสุขรอบๆทาง อยากหยุดตรงไหนก็หยุด ไม่ต้องแคร์ใคร ตามใจเราสั่งการ
******** เวลาที่เราตั่งใจ แล้วเอาชนะใจตัวเอง แล้วลุยไปให้สุด
ผลที่เราได้มันชั่งน่าประทับใจและน่าจดจำจริงๆนะครับ กับเวลาที่ผมใช้ไปไม่ถึง2วันเต็ม 800 กว่า km.
*****ออกไปลุยกันเถอะครับ พี่น้อง . คนเดียวเราก้เที่ยวได้ สบายใจ.
BY.ANG.product
****** ขอ ขอบ คุณ ไอ้ตัวเล็ก ksr พันธ์แกร่งของผม . ที่อยู่ด้วยกัน และพาผมไปในที่ที่อยากจะไป
ปล.*******ใครที่จะไป ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะผ่านด่านนะครับ มีทั้งหมด3 ด่าน ด้วยกัน . อยู่ที่ดุลพินิจของทหาร
--เพราะเค้าห่วงความปลอดภัย และปัญหา . เป็นไรขึ้นมาคนที่ซวยคือคุณเองและเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยให้คุณเข้าไป
--มันเป็นการข้ามแดนที่ผิดนะครับ