สวัสดีครับพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆทุกคน ผมชื่อหงอคง กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม เป็นเรื่องที่มีเค้าโครงเกิดขึ้นจริงทั้งหมด(ขอสงวนความจริงไว้บ้าง เดี๋ยวเจ้าตัวมาอ่านแล้วจะตกใจ 555+) มีอะไรก็บอกกล่าวกันได้นะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า...
ผมก็เป็นผู้ชายธรรมดาๆคนนึงเนี่ยแหละครับ หน้าตา สีผิว นิสัย ฐานะ เพื่อน ทุกอย่างกลางๆหมด ยกเว้นความสูงครับ ผมจบจากรร.ย่านBTSที่นั่งตุ๊กๆไปสยามได้ในราคา 80-120บาทครับ ผมนิสัยค่อนข้างที่จะเข้าใจโลก เข้าใจคนครับ ตอนอยู่รร.ผมก็เป็นคนกลางๆครับ ไม่เด่นมาก แล้วก็ไม่ด้อยมาก เพื่อนของผมตอนม.ปลายก็มีอยู่ทุกห้องตั้งแต่ดีที่สุดในชั้นยันไปถึงสุดท้าย มีทุกระดับครับ ผมขอข้ามเรื่องความรักในม.ปลายเลยนะครับ เพราะส่วนใหญ่ เวลาเครียดหรือfailก็จะมีเพื่อนที่กวนๆแหย่ๆกวนตีนๆมาทำให้ดีขึ้นตลอด พอผมขึ้นมหาลัย พวกเพื่อนๆผมก็แยกย้ายไปตามมหาลัยต่างๆ ส่วนผมได้มาอยู่ที่มหาลัยนึง ที่มีเรือธงส้มสามารถส่งผมขึ้นท่าได้ แล้วเดินเท้าอีกนิดก็ถึงม.ละ โชคดีหน่อยที่ยังมีเพื่อนที่จบมาจากโรงเรียนเดียวกับผมมาอยู่ด้วย แต่ก็ไม่เยอะหรอกครับ พอเข้ามาผมได้พบรุ่นพี่ และเพื่อนมากมาย ทั้งที่ตอนเจอแรกๆดีหลังๆเริ่มไม่โอเค และแรกๆไม่โอเคแต่หลังๆดีมาก มันก็เป็นปกติของทุกคนแหละครับที่เจอ แต่ผมค่อนข้างมั่นใจนะครับ ว่าผมเสมอต้นเสมอปลาย ทั้งการพูดจา กิริยามารยาทต่างๆ ตั้งแต่ต้น จนถึงตอนนี้ เราจะข้ามมาพูดถึงเรื่องความรักกันเลยนะครับ ผมยอมรับครับว่าผมเป็นคนที่ชอบคนเยอะมาก แต่ถึงยังไงผมก็รู้ตัวครับว่าผมไม่ได้เด่นไรมากมาย อิอิ คนแรก น. ผมเจอเธอครั้งแรก ผมก็รู้สึกว่า

ใช่อะ ผมก็เริ่มคุยกับเธอตั้งแต่นั้นมาก บ้านเธออยู่ไกลจากผมมาก แต่ผมก็ยังยอมกลับพร้อมกับเค้า เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ผมได้อยู่หอ เธอต้องกลับบ้านทุกวัน ผมก็ยังทักไลน์ไปหาเธอทุกวัน เธอเป็นคนเงียบๆ พูดเพราะ พอเปิดเทอมมาได้สักพัก ผมก็ตัดสินใจที่จะสารภาพกับเค้าไป ชีวิตตอนนั้น เหมือนขาข้างนึงได้เหยียบหญ้านุ่มๆสบายๆ แต่ขาอีกข้างรู้สึกเหมือนอยู่บนตะปูเรือใบ ผมจะเรียกเหตุการณ์นี้ว่า"ปิ๊บๆ"

ขก.พิมพ์อีก มันยาว) ผ่านมาสักพักเค้าก็ตอบมาว่า "เป็นเพื่อนกันดีกว่า" พอผมได้อ่าน คำว่าใจหายก็เข้ามาในร่างกายผมทันที แต่ผมก็รู้สึกโอเคนะที่บอกไป ตั้งแต่นั้นมา ผมกับเธอก็เพื่อนเพื่อนปกติกันต่อมาจนถึงปัจจุบัน พอมาคนที่2 ฌ. เธอคนนี้ ผิวสี ผอม ตัวเล็ก เธอก็กลับบ้านเหมือนกันครับ แต่ผมไม่มีโอกาสกลับกับเธอเพราะทั้งเรื่องเวลา แล้วทิศทางการกลับ เธอคนนี้ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่เร็วมาก ผมได้คุยกับเธอโดยผ่านการยุและเปิดประเด็นของเพื่อนคนนี้แหละครับ ผมได้มีโอกาสคุยกับเธอได้สักพัก แล้วผมก็ใช้ช่วงนี้ชวนเธอออกมากินข้าวที่หน้าม.อยู่หลายครับ ทั้งตอนกลางวัน ตอนเย็น และตอนค่ำ 2-4ครั้งได้ แล้วก็มีครั้งนึงผมได้ชวนเธอไปหาเพื่อนๆของผมที่ร้านเหล้า ทุกอย่างดูโอเคกันหมด แต่เธอคนนี้ผมไม่ได้บอกอะไรในใจของผมเลย แต่พอมาช่วงนึงเธอได้หายไป ไม่ตอบ ไม่อ่าน แล้วผมไปเปิดหน้าเฟสเค้า ผมเจอเธอตั้งคบสถานะกับคนๆนึง แล้วผมก็รู้สึกว่า ที่ผ่านมามันคืออะไร จริงอยู่ที่ผมไม่ยอมบอกอะไรเลย แต่ผมรู้สึกใจหายมากๆ แต่ผมก็เข้าใจ ทุกอย่างกลับเข้าสู่โหมดปกติ ต่อมาผมได้พบกับอีกคน คนที่3 น. เธอเป็นคนน่ารักแต่จุดพีคคือเธออยู่หอ เย่! แต่ถึงอย่างนั้น ผมเป็นคนค่อนข้างขี้อายครับ เลยไม่ค่อยสานสัมพันธ์เท่าไหร่ ตอนอยู่ในไลน์ ผมกับเธอพูดคุยกันเยอะมาก ผมรู้สึกมีหวังแต่เผื่อใจไว้เยอะมาก เพราะชีวิตจริงเวลาเจอกันที่ม. ผมไม่กล้าที่จะทักเธอ ความกล้าที่จะสบตาแทบจะยังไม่มี สุดท้ายคนนี้ก็ค่อยๆหายไป แต่ ณ ขณะที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ผมรู้สึกโอมากกับเหตุการณ์นี้ ต่อมาผมได้เจอเธอคนนี้ คนที่4 ร. ผมรู้สึกผู้หญิงสไตล์นี้แหละที่ชอบมาก ตรงใจ ห้าวๆ แกร่งๆ ตรงๆ คือใช่! แต่เธอดันกลับบ้าน 555 ผมได้คุยกับเธอในฐานะเพื่อนในตอนแรก ต่อมาผมก็ตัดสินใจ สารภาพกับเธอ เธอเป็นคนแรกที่ให้โอกาสผม ผมรู้สึกดีมาก แต่เธอก็บอกประมาณว่า "อย่าพยายามมากเลยเดี๋ยวเสียเวลา" พอพูดมาอย่างนี้ เป็นคนอื่นอาจจะมีหวั่นๆ แต่ผมนะหรอ 555 ไม่! ผมเป็นพวกหัวแข็งดื้นรั้น ผมเลยทำทุกอย่างเท่าที่ผู้ชายคนนึงจะสามารถทำให้ผู้หญิงคนนึงได้ แต่มีบางอย่างที่ผมลืมบอก ผมเป็นคนที่ไม่มีช่วงโปรโมชั่นในชีวิต แต่ถึงยังไงความรักเดิมๆก็เหมือนปากกาที่เขียนไปเรื่อยๆรอให้วันที่หมึกหมด สุดท้ายเธอก็บอกกับผมว่า ตอนนี้เธอมีคนชอบแล้วนะ แล้วบอกให้ผมเลิก แต่ผมก็ยัง ผมรู้สึกว่า ถ้าเธอยังไม่มีแฟน ผมก็จะสู้ต่อเรื่อยๆ เป็นพวกกัดไม่ปล่อย ถึงจะโดนตีจนเจ็บไปทั้งร่างกาย แต่ก็ยังยืนยังจนกว่าจะมีคนมาง้างปากออก สุดท้าย ไม่ใช่ใครอื่นที่มาง้างปากออก เธอเองนั่นแหละ ที่ง้างเองโดนใช้เครื่องทุ่นแรงคือความเงียบ จัดไปสิ ผมก็หงอย- 555 แต่ผมเข้าใจนะ ผมไม่ใช่ ทำไรมันก็ไม่ถูกใจเสมอไปหรอก 555+ แล้วมาถึงคนสุดท้ายในช่วงนี้แล้วครับ คนที่5 เธออยู่คนละมหาลัยกับผม ผมรู้จักเธอผ่านเพื่อนของผม เธอคนนี้ผมมีความรู้สึกต่างไปจากคนที่ผ่านๆมา ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไร แต่ที่รู้ๆคือ พอเธอหายไป ความกังวล จิตตก เครียด คิดมาก มันมาทันที ผมกับเธอมีโอกาสแค่คุยกันในไลน์เท่านั้น มันเป็นความผิดของผมเองที่ผมหาเวลาไปพบเธอไม่ได้ ทุกๆอย่างที่คุยกัน มันดีมาก ดีที่สุด แต่ถึงยังไง มีเริ่ม ก็ต้องมีจบ จะช้าจะเร็วแค่นั้น เหตุการณ์ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ความเงียบสยบการเคลื่อนไหว คนๆนี้ ทำให้ผมมีน้ำตาเกิดขึ้น ทั้งๆที่ผมสัญญาไว้กับตัวเองตั้งแต่เด็กๆแล้วว่า "จะไม่เสียน้ำตาให้กับคนไหนยกเว้นคนในครอบครัว" สุดท้าย ผมผิดสัญญา มันเกิดขึ้นจนได้ แต่ผมกับเธอนั้นก็จบอย่าง Happy Ending เข้าใจกันทั้ง2ฝ่าย
ทุกอย่างมันก็มีอยู่แค่นี้แหละครับ สำหรับผม ข้อคิดที่ได้จากแต่ละเหตุการณ์(สำหรับตัวผมเอง)
1.เจียมตัวเอง
2.ปากมีไว้ให้พูด ไม่ได้มีไว้ประดับใบหน้า
3.ความเป็นจริง กับ คีย์บอร์ด มันต่างกัน
4.คนไม่ใช่ ทำไรมันก็ผิด อย่ายื้อมาก แต่ยื้อได้ถ้าคิดว่าตัวเองsafety
5.เวลาไม่เคยรอใคร มีโอกาส ใช้ซะ อย่าคิดว่า คนที่คุยนั้นรอเราได้เสมอ
และอีกอย่าง ผม ไม่มีโปรโมชั่น ไม่เฟค ระวังตัว เข้าใจโลก เจียมตัว
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับชีวิตคู่ รักกันให้มากๆ ยิ่งโตความเป็นจริงก็ยิ่งมากขึ้น อย่าคบใครเพื่อความสนุกเลย คนเค้าเห็นแล้วมันดูไม่ดี จริงใจ ซื่อสัตย์ เข้าใจ พยายามสานต่อ แค่นี้มันก็ยาวละครับ สำหรับคนโสดอย่างผม ก็ขอให้เจอคนดีๆเข้ามาในชีวิต เจอแล้วก็อย่าคิดว่ามันจะมาใหม่ได้ ดูอย่างผมนะครับ ตั้งแต่เกิดมา ก็มีเพื่อนสนิทที่ชื่อ "โสด" กับ "เหงา" อยู่ด้วยเสมอ เพื่อน2คนนี้จะอยู่กับคุณทุกที่แหละครับ
1.ทั้ง"โสด"และ"เหงา"
2."โสด" แต่มีเพื่อนเลย"ไม่เหงา"
3."เหงา" แต่"ไม่โสด"
4."ไม่โสด"และ"ไม่เหงา"
จบละครับ มีอะไรติ ชม บอกได้นะครับ ผมเข้าใจ ขอบคุณครับที่มาอ่านกระทู้แรกของผม
17/10/2558 23:
*********** 20 8 6 7 23 15 14 24 1 5 8 7 24 21 4 24 3 ***********
ปล.รหัสลับอิอิ
ชีวิตอกหักของผม แล้วของคุณเป็นไงบ้าง???
เรื่องมีอยู่ว่า...
ผมก็เป็นผู้ชายธรรมดาๆคนนึงเนี่ยแหละครับ หน้าตา สีผิว นิสัย ฐานะ เพื่อน ทุกอย่างกลางๆหมด ยกเว้นความสูงครับ ผมจบจากรร.ย่านBTSที่นั่งตุ๊กๆไปสยามได้ในราคา 80-120บาทครับ ผมนิสัยค่อนข้างที่จะเข้าใจโลก เข้าใจคนครับ ตอนอยู่รร.ผมก็เป็นคนกลางๆครับ ไม่เด่นมาก แล้วก็ไม่ด้อยมาก เพื่อนของผมตอนม.ปลายก็มีอยู่ทุกห้องตั้งแต่ดีที่สุดในชั้นยันไปถึงสุดท้าย มีทุกระดับครับ ผมขอข้ามเรื่องความรักในม.ปลายเลยนะครับ เพราะส่วนใหญ่ เวลาเครียดหรือfailก็จะมีเพื่อนที่กวนๆแหย่ๆกวนตีนๆมาทำให้ดีขึ้นตลอด พอผมขึ้นมหาลัย พวกเพื่อนๆผมก็แยกย้ายไปตามมหาลัยต่างๆ ส่วนผมได้มาอยู่ที่มหาลัยนึง ที่มีเรือธงส้มสามารถส่งผมขึ้นท่าได้ แล้วเดินเท้าอีกนิดก็ถึงม.ละ โชคดีหน่อยที่ยังมีเพื่อนที่จบมาจากโรงเรียนเดียวกับผมมาอยู่ด้วย แต่ก็ไม่เยอะหรอกครับ พอเข้ามาผมได้พบรุ่นพี่ และเพื่อนมากมาย ทั้งที่ตอนเจอแรกๆดีหลังๆเริ่มไม่โอเค และแรกๆไม่โอเคแต่หลังๆดีมาก มันก็เป็นปกติของทุกคนแหละครับที่เจอ แต่ผมค่อนข้างมั่นใจนะครับ ว่าผมเสมอต้นเสมอปลาย ทั้งการพูดจา กิริยามารยาทต่างๆ ตั้งแต่ต้น จนถึงตอนนี้ เราจะข้ามมาพูดถึงเรื่องความรักกันเลยนะครับ ผมยอมรับครับว่าผมเป็นคนที่ชอบคนเยอะมาก แต่ถึงยังไงผมก็รู้ตัวครับว่าผมไม่ได้เด่นไรมากมาย อิอิ คนแรก น. ผมเจอเธอครั้งแรก ผมก็รู้สึกว่า
ทุกอย่างมันก็มีอยู่แค่นี้แหละครับ สำหรับผม ข้อคิดที่ได้จากแต่ละเหตุการณ์(สำหรับตัวผมเอง)
1.เจียมตัวเอง
2.ปากมีไว้ให้พูด ไม่ได้มีไว้ประดับใบหน้า
3.ความเป็นจริง กับ คีย์บอร์ด มันต่างกัน
4.คนไม่ใช่ ทำไรมันก็ผิด อย่ายื้อมาก แต่ยื้อได้ถ้าคิดว่าตัวเองsafety
5.เวลาไม่เคยรอใคร มีโอกาส ใช้ซะ อย่าคิดว่า คนที่คุยนั้นรอเราได้เสมอ
และอีกอย่าง ผม ไม่มีโปรโมชั่น ไม่เฟค ระวังตัว เข้าใจโลก เจียมตัว
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับชีวิตคู่ รักกันให้มากๆ ยิ่งโตความเป็นจริงก็ยิ่งมากขึ้น อย่าคบใครเพื่อความสนุกเลย คนเค้าเห็นแล้วมันดูไม่ดี จริงใจ ซื่อสัตย์ เข้าใจ พยายามสานต่อ แค่นี้มันก็ยาวละครับ สำหรับคนโสดอย่างผม ก็ขอให้เจอคนดีๆเข้ามาในชีวิต เจอแล้วก็อย่าคิดว่ามันจะมาใหม่ได้ ดูอย่างผมนะครับ ตั้งแต่เกิดมา ก็มีเพื่อนสนิทที่ชื่อ "โสด" กับ "เหงา" อยู่ด้วยเสมอ เพื่อน2คนนี้จะอยู่กับคุณทุกที่แหละครับ
1.ทั้ง"โสด"และ"เหงา"
2."โสด" แต่มีเพื่อนเลย"ไม่เหงา"
3."เหงา" แต่"ไม่โสด"
4."ไม่โสด"และ"ไม่เหงา"
จบละครับ มีอะไรติ ชม บอกได้นะครับ ผมเข้าใจ ขอบคุณครับที่มาอ่านกระทู้แรกของผม
17/10/2558 23:
*********** 20 8 6 7 23 15 14 24 1 5 8 7 24 21 4 24 3 ***********
ปล.รหัสลับอิอิ