[CR] 3 คน 2 คัน 2 วัน 1 คืน

สวัสดีครับ ผมชื่อพีครับ มาเขียนรีวิวนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว เนื่องจากพอจะมีเวลาว่างๆ ก็เลยจะเอารูปภาพเก่าๆเมื่อหน้าหนาวเดือน มกราคม 2558 มีให้ชมกันนะครับ (เนื่องจากใช้ ไอแผดแต่งภาพสีเพี้ยนบ้างเนื่องจากอัพลงเฟสบุ๊คแต่ไม่คิดว่าจะเอาลงพันทิพ อย่าว่าผมนะครับ แฮร่ๆๆ)

เหตุการณ์บางอย่างอาจจะหลงลืมไปบ้างต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะครับ แต่จะพยายามอธิบายรายละเอียดให้ครบถ้วนครับ

พวกเรา 3 คน เป็นมนุษย์เงินเดือนครับ ทำงานกันคนละที่วันๆ ทำแต่งานอยู่แต่ในเมืองหลวงอันวุ่นวาย จึงหาโอกาสดีดีหนีเมืองไปสูดอากาศบริสุทธิ์เสียหน่อย
พวกเรานัดกันว่าเช้ามืดวันที่ 10 มกราคมเราจะมาเจอกันที่เซนทรัลพระราม9 เวลาตี 5.30 ครับ


เย็นวันที่ 9 พอเลิกงานปุ๊ป ผมรีบดิ่งกลับที่พักทันทีเพิ่มเตรียมของให้พร้อมก่อนที่จะออกเดินทางในรุ่งเช้าของวันถัดไป ที่ขาดไม่ได้คือเต๊นท์และเสื้อผ้าอุ่นๆเพื่อไปรับลมหนาวที่เขาใหญ่




นาฬิกาปลุกตี 4.30 ผมลุกอาบน้ำแล้วเตรียมจัดแจงยกของที่เตรียมไว้ขึ้นรถแล้วผูกให้แน่นก่อนจะออกไปพบพรรพวกอีก 2 คันที่เซ็นทรัลพระราม9 ก่อนจะออกเดินทางมุ่งหน้าไปถนนรังสิต-นครนายกโดยวิ่งเส้นเลียบด่วนรามอินทรา ก่อนจะแวะทานอาหารเช้าที่หน้าหมู่บ้านสิรารมย์



หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ก็เดินทางต่อเพื่อเข้าเส้นรังสิต-นครนายก วิ่งมาใกล้ถึงเมืองนครนายกเพื่อนผมก็โบกมือให้เลี้ยวเข้าปั๊มเก่าปั๊มนึง เพื่อพักรถแล้วพักก้นด้วย อิอิ




พอหายเหนื่อยก็มุ่งหน้าเข้าเมืองเพื่อไปปราจีนบุรี (และเราต้องหาวงเวียนทางขึ้นเขาใหญ่ให้เจอ).......และแล้วก็มาถึง พอมาถึงวงเวียนก็แวะปั๊มน้ำมันก่อนเลยไม่ได้ปวดท้องนะครับ แวะเติมน้ำมัน แต่ประเด็นคือกว่าจะเติมได้แสนลำบากเพราะเชือกที่มัดสัมภาระไว้นั้นมันรุงรังเหลือเกิน 555



หลังจากเติมน้ำมันเสร็จแล้วมัดของเข้าที่เดิมก็มาเตรียมซื้อของที่จะต้องทำกินในคืนนี้ เรา 3 คน(ลงขันคนละ 500 บาท) ก่อนแยกย้ายกันไปหาของที่ต้องการโดยจอดรถไว้หน้า 7-11 ใครเสร็จก่อนให้มารอที่ 7-11แล้วก็กินเตี๋ยวต้มยำกันคนละชาม(เติมพลังคนก่อนมุ่งหน้าขึ้นเขาใหญ่)




เติมน้ำมันคนและน้ำมันรถพร้อมแล้ว ก็มุ่งหน้าขึ้นไปอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เลยครับ ทางขึ้นนั้นถนนดีมากครับเป็นทางเรียบตรงและมีต้นไม้สองข้องทาง มาถึงก็ยังไม่ได้จ่ายค่าเข้าหลอกครับ เพราะมาว่ามีรถกลุ่มที่มาถึงก่อน 100 กว่าคันได้ ระหว่างรอคิวนานมากดูแล้ววุ้นวาย พวกเราจึงแอบไปเข้าวัดเข้าวาก่อนจะดีกว่า เพื่อให้จิตใจสงบ...แต่เราจำชื่อวัดไม่ได้อ่า T____T




หลังจากที่ได้ถ่ายรูปสักพัก พวกเราก็ชวนกันขึ้นเขาใหญ่กันต่อเพื่อไม่ให้เสียเวลาเกินไป....แต่พอมาถึงก็เจอพี่พี่อีกกลุ่มมากันเยอะเหมือนกัน แต่พวกเราฉซยจังหวะที่พี่พี่เค้าถ่ายรูปรีบชิงตีตั๋วผ่านด่านเข้าไปก่อนเลย อิอิ



หลังจากตีตี๋วผ่านด่านไปแล้ว เส้นทางข้างหน้าคือของพวกเรา ..... พวกเราขับกันไปเรื่อยๆ ถนนโล่งๆ ขับไปได้สักพักเจอรถติดครับ พระเจ้าอะไรกันนี่ พวกเราก็ค่อยๆแซงขึ้นไปเรื่อยๆ และแล้ว!!! เราก็เจอต้นเหตุที่ทำให้รถติดครับ นั่นคือช้างป่า(ผมไม่สามารถจอดถ่ายรูปได้ ได้แต่รอจังหวะมันออกข้างทางแล้วพวกเราก้ไปกันต่อตื่นเต้นมากครับ) ขับมาเรื่อยๆ จุดแรกที่พวกเราแวะกันคือ ผาเดียวดายครับ ระวางทางผมเจอสิ่งที่สวยงามจึงโบกมือให้พรรพวกจอดครับเพื่อถ่ายรูปfacebook ครับ ^______^




ถ่ายรูปเสร็จก็รีบดิ่งขึ้นเขามาที่ ผาเดียวดายเลยครับ การที่เราได้มายืน ณ จุดนี้บอกตรงๆ เรื่องงานและความวุ่นวายในเมืองที่อยู่ในหวมันหายไปในบัดดล






เดี๋ยวมาต่อนะครับ ขออนุญาติทานข้าวก่อนครับ...............................

มาต่อนะครับ.... หลังจากที่เรายืนชมทัศนียภาพตามแนวเขาที่ไกลสุดลูกหูลูกตาจนอิ่มเอิบแล้ว พวกเราก็ถอนกำลัง ลงมาเพื่อเตรียมไปหาพื้นที่สำหรับนอนคืนนี้ โดยที่เราจะไปสร้างคฤหาสน์ที่ ผากล้วยไม้กันครับ เมื่อไปถึงก็พบว่า เฮ๋ยยยย เพื่อนบ้านเราเพียบเลย คนหนาแน่นมาก

และแล้วเราก็ได้ที่พักกัน...แล้วทำอาหารทานด้วยกัน เมนูคืนนี้คือ หมูย่างทาเนยทานกันข้าวสวยที่ซื้อก่อนทางขึ้นเขาใหญ่ ต้มมาม่าร้อนๆเอาไว้ซดคลายหนาว แล้วก็ชงโอวันตินกิน พวกเรานั่งคุยกันได้สักพักก็มีกวางตัวใหญ่เดินมาเยี่ยมพวกเราถึงหน้าเต็นท์แล้วก้เดินจากไป สามทุ่มกว่าๆ ระยะทางทำให้เราเหนื่อยล้าผสมกับอากาสหนาวๆเราจึงมุดตัวเข้าไปนอน เพื่อที่จะรีบตื่นเช้าไปเที่ยวกันต่อ



เช้าแล้ว....เสียงผู้คนคุยกัยเจียวจาว บ้างเก็บเต็น บ้างถ่ายรูป ส่วนพวกเราล้างหน้าแปลงฟัน จุดเตาทำอาหารเช้าทานกัน เช้านี้เสนอเมนู ผัดหมี่โคราช(ที่เราซื้อมาสำเร็จรูป) หมูย่างทาเนย กับโอวันตินร้อนๆ ก่อนจะผับฐานแล้วถ่ายรูปป้ายผากล้วยไม้เป็นที่ระลึกก่อนออกเดินทางต่อไป




หลังจากพับฐานอาบน้ำแต่งตัวทั้งคนทั้งรถเสร็จแล้วเราก็เดินทางไปน้ำตกเหวสุวัตและเดินเล่นตามเส้นทางธรรมชาติให้ร่างกาบอบอุ่น



หลังจากเดินอบอุ่นร่างกายตามเส้นทางธรรมชาติแล้วพวกเราก็ไปต่อที่หอส่องสัตว์ ซึ่งต้องจอดรถไว้ข้างหน้าแล้วเดินเท้าต่อเข้าไป ระหว่างทางเดินเข้าไป เป็นทางดินลาดบ้างชันบ้างสลับกันไป และแล้วก็พบหอส่องสัตว์ หลังจากขึ้นชมความงามของธรรมชาติได้สักพัก....เราก็ต้องลงมา ทั้งๆที่ยังไม่ยากลงมาแต่เวลามันบีบเสียเหลือเกิน



หลังจากเดินออกมาจากหอส่องสัตว์เราก็แวะถ่ายรูปตามทางมาเรื่อยๆ ก่อนที่จะแวะซื้อของฝากแวะทานอาหารกลางวันให้เต็มที่ก่อนที่จะเดินทางกลับ กทม อันแสนวุ่นวายอีกครั้ง



ถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ ถึงบ้าน 1 ทุ่มกว่าๆครับ



สรุปทริปนี้ หมดไป คนละ 1000 นิดๆครับ  ขอบคุณครับที่ติดตามชมครับ

ปล. ตั้งหัวกระทู้ผิดจร้าาาาา
ชื่อสินค้า:   เขาใหญ่
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่