สวัสดีครับเมื่อวันที่6ตุลาคมที่ผ่านมาได้มีโอกาศมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ด้วยการขี่เจ้าYamaha Nmax เที่ยวแบบวันเดียวนะครับโพสนี้เป็นโพสแรกนะครับถ้าผิดพลาดประการใดติเตือนได้นะครับ เริ่มกันเลยนะครับ บอกเส้นทางก่อนนะครับ ผมไปเข้าด่านเข้าเขาใหญ่เส้นสระบุรีครับลงด่านปราจีน เพื่อจะมาเที่ยวนครนายกต่อแล้วก็กลับทางนครนายกเข้ากรุงเทพเลย.

ตัวแรงครับตื่นแต่เช้าเลยออกจากบ้านผมตี5.15ครับ
พอไปรับแฟนผมที่5แยกลาดพล้าวผมก็ยิงยาวเส้นรังสิต-สระบุรี ยาวๆกันเลยที่เดียวพอเลยฟาร์มโชคชัย(ทางขวามือนะครับสังเกตุไม่อยากจะผ่านฟาร์มอื่นๆมาก่อน) จะมีทางให้เบี่ยงซ้ายเพื่อขึ้นสะพานเลี้ยวขาวเข้าถนนธนะรัตน์แล้วก็ตรงยาวๆมาเลยจะเจอ ปาริโอ(palio)เขาใหญ่อยู่ทางซ้ายมือ สามารถแวะถ่ายรูปหรือซื้อของที่ระทึกได้นะครับ

เดินไม่ทั่วนะครับ แต่ไหนๆก็มาแล้วควรแวะครับเพราะขากลับไม่ได้กลับทางนี้อิอิ
เส้นนี้ก่อนเข้าด่านมีปั้มน้ำมันให้เติมนะครับควรเติมน้ำมันให้เติมก็ดีนะครับจะได้สบายใจเวลาขี่บนเขาใหญ่

เจ้าNmaxตัวเกือบแรงของผมแวะเติมพลังก่อนขึ้นเขา
ขี่ตรงมาเรื่อยๆครับจะสุดที่ด่านทางขึ้นเขาใหญ่ก็ตามระเบียบถ่ายรูปเลยครับ555

พอเข้าด่านไปนิดเดียวขวามือจะเจอศาลเจ้าพอเขาใหญ่นะครับจอดไหว้เอาขวัญกำลังได้เลยครับ
ขี่ต่อไปอีก14โลจะเจอจุดบริการนักท่องเที่ยวแต่ระหว่างจะมีจุดชมวิวสวยมากครับมองเห็นข้างล่างไม่แน่ใจว่าใช่รีสอร์ทหรือเปล่า

วิวสวยมากครับนี้แค่จุดแรกยังประทับใจขนาดนี้เลย
พอมาถึงจุดบริการนักท่องเที่ยวจะมีคนมานั่งวาดรูปกันน่าจะเป็นนักศึกษานะครับนักท่องเที่ยวก็เยอะครับมีน้องกวางเดินเต็มเลยครับตรงจุดนี้ดูอุ่นใจดีครับเพราะไม่ได้มาวันหยุดคนอาจจะบางตาเวลาขี่ตามทางแทบจะไม่มีรถสวนเลย

เข้าไปประทับตราแล้วเราก็มุ่งหน้ากันไปต่อนิดเดียวครับจะเจออ่างเก็บน้ำสายศร

โพสท่าซะหน่อย อิอิ
ขี่ต่อมาเรื่อยจะมีเนินส่องสัตว์แต่คงจอดรถแล้วเดินไม่ไหวครับขอผ่านเพราะเวลาจำกัดจริงๆครับขี่ต่อมาเรื่อยๆจะเจอแยกเลี้ยวขวากับตรงครับถ้าเลี้ยวขวาจะไปทางออกด่านปราจีน ผมเลือกตรงก่อนนะครับเก็บที่เที่ยวฝั่งนี้ก่อน ตรงมาจะเจอจุดการเต็นท์ลำตะคองทางซ้ายมือครับ

มีพี่กวางเยอะดีครับพี่ๆอุทยานบอกเข้าไปถ่ายใกล้ๆเลยแต่เกรงใจพี่กวางครับขอแค่นี้พอ
พอออกมาก็มุ่งหน้าไปต่อจะเจอผากล้วยไม้ทางขาวมือครับ

ไม่ได้แวะครับแค่ถ่ายรูปเก็บไว้แล้วไปต่อเลยไปเรื่อยจนสุดทางก็มาถึงน้ำตกเหวสุวัตครับเก็บภาพบรรยากาศสักหน่อย

วางมาดซะหน่อย555ตามใจคนถ่ายครับ

หนทางอีกไกลครับ555

สภาพเริ่มไม่ไหวแหระครับ
แล้วเราก็ไปกันต่อครับกลับมายังทางแยกที่นี้เราต้องเลี้ยวซ้ายครับขี่มาอีกหน่อยเจอป้ายไปผาเดียวดายแล้วครับแต่พี่ที่เฝ้าทางขึ้นบอกปิดครับเพราะมีดินสไลด์ครับพี่เขาก็บอกเราครับว่าตรงไปเรื่อยจะมีที่เที่ยวอีกคือน้ำตกเหวนรก เราก็ไปต่อเลยครับไม่รอช้ามาถึงกลางทางเจอเลยครับเจ้าถิ่นแต่ที่พี่อุทยานมาอำนวยความสะดวกให้พี่เข้าค่อยๆเดินเข้าข้างทาง จอดรอไม่นานครับพี่อุทายานก็โบกให้ผ่านมาได้ครับ

ดีนะครับเจอแค่ตัวเดียว กลัวเหมือนกันนะครับ

มันคือบ้านของเค้าครับเราแค่ผู้อาศัยทาง
ตรงตามทางมาจะเจอป้ายน้ำตกเหวนรกทางซ้ายมือ จอดรถแล้วทำใจให้พร้อมเดินต่อไปอีก1kg พร้อมลงบรรได200ขั้น ขาไปสบายมากขากลับนี้รู้เรื่องเลย

สวยมากครับแต่นึกถึงตอนขากลับแล้วน้ำตาจิไหล
เดินทางกันต่อครับเวลาจำกัด พอออกจากน้ำตกก็ขี่ไปตามทางไม่นานก็จะเจอด่านเข้า-ออก เขาใหญ่ครับ พอออกด่านแล้วผมก็เลี้ยวขวาเข้าซอยข้างด่านเลยเพื่อจะมา อ่างเก็บน้ำวังบอน-เขื่อนขุนด่าน ตามทางถ้าจำไม่ผิด33 kg. ครับจะมาถึงเขื่อนขุนด่าน มีป้ายบอกตลอดทางครับไปตามป้ายเขื่อนขุนด่าน จะเจอสามแยกที่บอกเลี้ยวขวาไปอ่างเก็บน้ำวังบอน1kg แวะไปเก็บภาพกันเลยครับออกนอกเส้นทางไม่ไกลนัก

น้องเกือบแรงของผม หล่อเลย

ท่าประจำตัวสักหน่อย 555

เอามั้งๆ

ยื่นแบ๋วสักภาพ
เป็นวิวที่สบายตาดีครับไม่มีใครเลยวันที่ผมไปเลยปล่อยอารมณ์ได้เต็มที่
เอาละครับมุ่งหน้าสู่เขื่อนขุนด่าน วิ่งตามทางป้ายบอกเลยครับก็จะเจอเขื่อน แต่ผมยังไม่ได้แวะเขื่อนนะครับ ผมไปแวะฝากท้องที่7-11แถวๆน้ำตกวังตะไคร้ก่อน กองทัพเดินด้วยท้องครับ จัดข้าวกล่อง มาม่า ขนมปัง น้ำเปล่า ก็อิ่มดีนะครับ มีพี่ๆเข้ามาถามครับว่ามาจาก กทม หรือครับ ผมตอบครับผมมาจาก กทม ครับมาเที่ยวเขาใหญ่ เข้าทางปากช่องออกทางปราจีน มา นครนายก ต่อพี่ถามต่ออีกแล้วพักที่ไหนครับ ผมบอกไม่ได้ค้างครับมาวันเดียวครับ แกก็โหเลยครับ นึกว่าค้างแถวนี้จะได้มานั่งคุยกัน มีคนถามหลายจุดมากครับ พอมีคนถามเราก็รู้สึกดีนะครับที่ได้แบ่งปันได้แชร์ความรู้สึกให้พี่ๆเค้าฟัง

น่ากินมะครับ อารมณ์หิวกินไรก็อร่อยครับ
อิ่มแล้วขี่กลับไปเขื่อนกันต่อ.คนค่อนข้างเยอะครับหาวิวถ่ายรูปกับนั้งพักก่อนขี่รถกลับ กทม ครับ

กว่าจะว่างถ่ายแบบเดี่ยวๆคนเยอะมากครับ

คือหมดแรงครับแต่ยังไหว

พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้วมาถูกจังหวะซะด้วย อิอิ

เปิดตัวคนซ้อนหน่อยครับ ไปได้ทุกที่ครับแค่มีคนๆนี้ไปกับผมด้วย
แล้วเราก็ได้เวลากลับบ้านเรากันแล้วออกจากเขื่อนขุนด่านน่าจะ6โมงกว่าๆครับ ขากลับเส้นองครักษ์มึดมากครับแมลงตัวเล็กๆก็มีตลอดทางเลยชน กระจกหมวกกันน็อคซะมองไม่เห็นเลย เราต้องแวะปั้นก่อนออกเส้นองครักษ์เพื่อเอาผ้าจุ่มน้ำมาเช็ดกระจก เต็มเลยตามเลยครับพอมามองที่เสื้อโหเยอะกว่ากระจกหมวกอีกก็ปัดออกครับจังหวะมีครอบครัว ครอบครัวนึงมาจอดรถเข้าห้องน้ำ พี่คนขับเข้ามาทักครับว่าไปเที่ยวไหนมาครับผมก็เล่าให้แกฟัง แล้วแกก็บอกผมว่าพี่ให้สติกเกอร์น้องละกันกลุ่มพี่เอง พี่แกขับไม่แน่ใจว่า ชอปเปอร์ หรือ ฮาร์เลย์ พี่แกบอกผมแต่ผมคงเพลียมากจน งง ว่าคันไหนต้องขออภัยด้วยนะครับ แกบอกกลุ่มแกจะขี่ ปทุม รังสิต ครับ

ขอบคุณพี่มากเลยนะครับที่เข้ามาทักกันแล้วก็ยังให้สติกเกอร์ผมอีก
แล้วก็ยิงยาวกลับ กทม กันเลยครับ ทริปนี้ผมใช้เงินไปไม่ถึง600บาทนะครับไม่รวมน้ำมันถังแรกที่เติมไว้อยู่แล้วนะครับ ถามเหนื่อยไหม ตอบเลยครับเหนื่อยมาก แต่มันได้อะไรๆกลับมาเยอะมากครับได้ ถ้าผิดพลาดประการได้ติชมได้ครับโพสครั้งแรกนะครับ ขอบคุณมากครับ รูปทุกใบกล้องมือถือทั่วๆไปเลยครับ
เที่ยวเขาใหญ่-อ่างเก็บน้ำวังบอน-เขื่อนขุนด่าน one day trip
ตัวแรงครับตื่นแต่เช้าเลยออกจากบ้านผมตี5.15ครับ
พอไปรับแฟนผมที่5แยกลาดพล้าวผมก็ยิงยาวเส้นรังสิต-สระบุรี ยาวๆกันเลยที่เดียวพอเลยฟาร์มโชคชัย(ทางขวามือนะครับสังเกตุไม่อยากจะผ่านฟาร์มอื่นๆมาก่อน) จะมีทางให้เบี่ยงซ้ายเพื่อขึ้นสะพานเลี้ยวขาวเข้าถนนธนะรัตน์แล้วก็ตรงยาวๆมาเลยจะเจอ ปาริโอ(palio)เขาใหญ่อยู่ทางซ้ายมือ สามารถแวะถ่ายรูปหรือซื้อของที่ระทึกได้นะครับ
เดินไม่ทั่วนะครับ แต่ไหนๆก็มาแล้วควรแวะครับเพราะขากลับไม่ได้กลับทางนี้อิอิ
เส้นนี้ก่อนเข้าด่านมีปั้มน้ำมันให้เติมนะครับควรเติมน้ำมันให้เติมก็ดีนะครับจะได้สบายใจเวลาขี่บนเขาใหญ่
เจ้าNmaxตัวเกือบแรงของผมแวะเติมพลังก่อนขึ้นเขา
ขี่ตรงมาเรื่อยๆครับจะสุดที่ด่านทางขึ้นเขาใหญ่ก็ตามระเบียบถ่ายรูปเลยครับ555
พอเข้าด่านไปนิดเดียวขวามือจะเจอศาลเจ้าพอเขาใหญ่นะครับจอดไหว้เอาขวัญกำลังได้เลยครับ
ขี่ต่อไปอีก14โลจะเจอจุดบริการนักท่องเที่ยวแต่ระหว่างจะมีจุดชมวิวสวยมากครับมองเห็นข้างล่างไม่แน่ใจว่าใช่รีสอร์ทหรือเปล่า
วิวสวยมากครับนี้แค่จุดแรกยังประทับใจขนาดนี้เลย
พอมาถึงจุดบริการนักท่องเที่ยวจะมีคนมานั่งวาดรูปกันน่าจะเป็นนักศึกษานะครับนักท่องเที่ยวก็เยอะครับมีน้องกวางเดินเต็มเลยครับตรงจุดนี้ดูอุ่นใจดีครับเพราะไม่ได้มาวันหยุดคนอาจจะบางตาเวลาขี่ตามทางแทบจะไม่มีรถสวนเลย
เข้าไปประทับตราแล้วเราก็มุ่งหน้ากันไปต่อนิดเดียวครับจะเจออ่างเก็บน้ำสายศร
โพสท่าซะหน่อย อิอิ
ขี่ต่อมาเรื่อยจะมีเนินส่องสัตว์แต่คงจอดรถแล้วเดินไม่ไหวครับขอผ่านเพราะเวลาจำกัดจริงๆครับขี่ต่อมาเรื่อยๆจะเจอแยกเลี้ยวขวากับตรงครับถ้าเลี้ยวขวาจะไปทางออกด่านปราจีน ผมเลือกตรงก่อนนะครับเก็บที่เที่ยวฝั่งนี้ก่อน ตรงมาจะเจอจุดการเต็นท์ลำตะคองทางซ้ายมือครับ
มีพี่กวางเยอะดีครับพี่ๆอุทยานบอกเข้าไปถ่ายใกล้ๆเลยแต่เกรงใจพี่กวางครับขอแค่นี้พอ
พอออกมาก็มุ่งหน้าไปต่อจะเจอผากล้วยไม้ทางขาวมือครับ
ไม่ได้แวะครับแค่ถ่ายรูปเก็บไว้แล้วไปต่อเลยไปเรื่อยจนสุดทางก็มาถึงน้ำตกเหวสุวัตครับเก็บภาพบรรยากาศสักหน่อย
วางมาดซะหน่อย555ตามใจคนถ่ายครับ
หนทางอีกไกลครับ555
สภาพเริ่มไม่ไหวแหระครับ
แล้วเราก็ไปกันต่อครับกลับมายังทางแยกที่นี้เราต้องเลี้ยวซ้ายครับขี่มาอีกหน่อยเจอป้ายไปผาเดียวดายแล้วครับแต่พี่ที่เฝ้าทางขึ้นบอกปิดครับเพราะมีดินสไลด์ครับพี่เขาก็บอกเราครับว่าตรงไปเรื่อยจะมีที่เที่ยวอีกคือน้ำตกเหวนรก เราก็ไปต่อเลยครับไม่รอช้ามาถึงกลางทางเจอเลยครับเจ้าถิ่นแต่ที่พี่อุทยานมาอำนวยความสะดวกให้พี่เข้าค่อยๆเดินเข้าข้างทาง จอดรอไม่นานครับพี่อุทายานก็โบกให้ผ่านมาได้ครับ
ดีนะครับเจอแค่ตัวเดียว กลัวเหมือนกันนะครับ
มันคือบ้านของเค้าครับเราแค่ผู้อาศัยทาง
ตรงตามทางมาจะเจอป้ายน้ำตกเหวนรกทางซ้ายมือ จอดรถแล้วทำใจให้พร้อมเดินต่อไปอีก1kg พร้อมลงบรรได200ขั้น ขาไปสบายมากขากลับนี้รู้เรื่องเลย
สวยมากครับแต่นึกถึงตอนขากลับแล้วน้ำตาจิไหล
เดินทางกันต่อครับเวลาจำกัด พอออกจากน้ำตกก็ขี่ไปตามทางไม่นานก็จะเจอด่านเข้า-ออก เขาใหญ่ครับ พอออกด่านแล้วผมก็เลี้ยวขวาเข้าซอยข้างด่านเลยเพื่อจะมา อ่างเก็บน้ำวังบอน-เขื่อนขุนด่าน ตามทางถ้าจำไม่ผิด33 kg. ครับจะมาถึงเขื่อนขุนด่าน มีป้ายบอกตลอดทางครับไปตามป้ายเขื่อนขุนด่าน จะเจอสามแยกที่บอกเลี้ยวขวาไปอ่างเก็บน้ำวังบอน1kg แวะไปเก็บภาพกันเลยครับออกนอกเส้นทางไม่ไกลนัก
น้องเกือบแรงของผม หล่อเลย
ท่าประจำตัวสักหน่อย 555
เอามั้งๆ
ยื่นแบ๋วสักภาพ
เป็นวิวที่สบายตาดีครับไม่มีใครเลยวันที่ผมไปเลยปล่อยอารมณ์ได้เต็มที่
เอาละครับมุ่งหน้าสู่เขื่อนขุนด่าน วิ่งตามทางป้ายบอกเลยครับก็จะเจอเขื่อน แต่ผมยังไม่ได้แวะเขื่อนนะครับ ผมไปแวะฝากท้องที่7-11แถวๆน้ำตกวังตะไคร้ก่อน กองทัพเดินด้วยท้องครับ จัดข้าวกล่อง มาม่า ขนมปัง น้ำเปล่า ก็อิ่มดีนะครับ มีพี่ๆเข้ามาถามครับว่ามาจาก กทม หรือครับ ผมตอบครับผมมาจาก กทม ครับมาเที่ยวเขาใหญ่ เข้าทางปากช่องออกทางปราจีน มา นครนายก ต่อพี่ถามต่ออีกแล้วพักที่ไหนครับ ผมบอกไม่ได้ค้างครับมาวันเดียวครับ แกก็โหเลยครับ นึกว่าค้างแถวนี้จะได้มานั่งคุยกัน มีคนถามหลายจุดมากครับ พอมีคนถามเราก็รู้สึกดีนะครับที่ได้แบ่งปันได้แชร์ความรู้สึกให้พี่ๆเค้าฟัง
น่ากินมะครับ อารมณ์หิวกินไรก็อร่อยครับ
อิ่มแล้วขี่กลับไปเขื่อนกันต่อ.คนค่อนข้างเยอะครับหาวิวถ่ายรูปกับนั้งพักก่อนขี่รถกลับ กทม ครับ
กว่าจะว่างถ่ายแบบเดี่ยวๆคนเยอะมากครับ
คือหมดแรงครับแต่ยังไหว
พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้วมาถูกจังหวะซะด้วย อิอิ
เปิดตัวคนซ้อนหน่อยครับ ไปได้ทุกที่ครับแค่มีคนๆนี้ไปกับผมด้วย
แล้วเราก็ได้เวลากลับบ้านเรากันแล้วออกจากเขื่อนขุนด่านน่าจะ6โมงกว่าๆครับ ขากลับเส้นองครักษ์มึดมากครับแมลงตัวเล็กๆก็มีตลอดทางเลยชน กระจกหมวกกันน็อคซะมองไม่เห็นเลย เราต้องแวะปั้นก่อนออกเส้นองครักษ์เพื่อเอาผ้าจุ่มน้ำมาเช็ดกระจก เต็มเลยตามเลยครับพอมามองที่เสื้อโหเยอะกว่ากระจกหมวกอีกก็ปัดออกครับจังหวะมีครอบครัว ครอบครัวนึงมาจอดรถเข้าห้องน้ำ พี่คนขับเข้ามาทักครับว่าไปเที่ยวไหนมาครับผมก็เล่าให้แกฟัง แล้วแกก็บอกผมว่าพี่ให้สติกเกอร์น้องละกันกลุ่มพี่เอง พี่แกขับไม่แน่ใจว่า ชอปเปอร์ หรือ ฮาร์เลย์ พี่แกบอกผมแต่ผมคงเพลียมากจน งง ว่าคันไหนต้องขออภัยด้วยนะครับ แกบอกกลุ่มแกจะขี่ ปทุม รังสิต ครับ
ขอบคุณพี่มากเลยนะครับที่เข้ามาทักกันแล้วก็ยังให้สติกเกอร์ผมอีก
แล้วก็ยิงยาวกลับ กทม กันเลยครับ ทริปนี้ผมใช้เงินไปไม่ถึง600บาทนะครับไม่รวมน้ำมันถังแรกที่เติมไว้อยู่แล้วนะครับ ถามเหนื่อยไหม ตอบเลยครับเหนื่อยมาก แต่มันได้อะไรๆกลับมาเยอะมากครับได้ ถ้าผิดพลาดประการได้ติชมได้ครับโพสครั้งแรกนะครับ ขอบคุณมากครับ รูปทุกใบกล้องมือถือทั่วๆไปเลยครับ