ฝากถึงคนในองค์กรแบงค์สีเขียวๆ

ขอเกริ่นนิดนึงนะคะ อันนี้คือความคิดเห็นส่วนตัวและสิ่งที่ประสบพบเจอและสัมผัสมาจากคนรอบข้างและตัวเอง
     คือโดยส่วนตัวแล้ว เราชอบวิธีคิดและการบริหารงานของแบงค์นี้มากๆเลยนะคะ
ครั้งแรกเราได้ดูรายการของช่องเวิร์กพอยด์ ที่แบงค์นี้เป็นสปอนเซอร์ และผู้บริหารท่านนึงได้เป็นกรรมการในการตัดสินและคอมเม้น
เราได้ฟัง ได้ดูทัศนคติแล้วเราชอบแนวคิดเค้ามากเลยค่ะ

เรื่องแรก คือเราทำธุรกิจเล็กๆ แล้วก็ได้ให้แฟน ไปเปิดบัญชีที่แบงค์ สาขาในห้างสรรพค้าแห่งนึงซึ่งคนค่อนข้างใช้บริการเยอะ
            แฟนไปรอนานมากๆ กะจะเปิดบัญชีพร้อมทั้งทำบัตรเอทีเอ็ม เพื่อสะดวกในการทำธุรกรรมการเงิน
แต่ พนักงานบอกว่าบัตรเอทีเอ็มแบบธรรมดาหมดแล้วจะมาวันที่10 ซึ่งวันที่ไปเปิดบัญชีคือวันที่5
พนักงานก็บอกอีกว่า ถ้ารีบให้ทำบัตรประเภทอื่นไปก่อน มีบัตรต่างๆมากมาย ซึ่งเสียค่าธรรมเนียมหลายร้อย
เราจำไม่ได้แล้วว่ามีบัตรอะไรบ้าง แล้วแฟนเราก็ตัดสินใจไม่ทำแฟนแอบบ่นว่าพนักงานดูไม่ค่อยพอใจ
อันนี้เราก็ไม่ได้ถามต่อนะว่าเค้าทำยังไง แต่ก็บอกว่าพนักงานเค้าก็คงเหนื่อยมั้ง สาขานี้คนเยอะงี้
เค้ารับลูกค้าทั้งวันก็คงมีเซงๆบ้าง แล้วรอวันที่10 พอถึงวันที่10เรากับแฟนก็ไปทำบัตรเอทีเอ็มด้วยกัน
กดบัตรคิวแล้วก็รอซักพัก ซึ่งสาขานี้คนค่อนข้างเยอะ
พอถึงคิว พนักงานหญิงก็เรียก เราบอกพนักงานไปว่า มาทำบัตรเอทีเอ็มแบบธรรมดา
พนักงานก็บอกว่า บัตรยังไม่มา แล้วก็รีบถามว่า ใครบอกพี่ว่าบัตรมาวันนี้
เรากับแฟนก็งงๆ ไม่เข้าใจว่าถามทำไม เราไม่ได้จะเอาเรื่องอะไรเลยนะ พนักงานหญิงก็ถามซ้ำอีกๆ
แฟนเลยมองไปที่พนักงานชายที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เพราะคราวที่แล้วมาเปิดบัญชีกับเค้าแล้วเค้าก็บอกจริงๆ
พนักงานหญิงก็ตะโกนไปถามพนักงานชายคนนั้น ว่าบอกลูกค้าไปเหรอ ตะโกนกันไปมาพักนึง
เราเลยบอกว่า ไม่เป็นไร แล้วบัตรจะมาเมื่อไร พนักงานบอกว่า วันที่17เราก็ โอเค รอๆๆ
เราคิดว่าสถานการณ์นี้มันงง คือไม่มีพนักงานคนไหนเอ่ยคำว่าขอโทษเราเลย
มีแต่ว่ากันไปมา พนักงานหญิงก็รีบถามว่าใครบอก เหมือนอยากจะให้เราโทษคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง
ส่วนพนักงานชายคนที่บอก ก็ดูนิ่งๆเฉยๆ เราก็เค้าใจเลยว่าที่แฟนบอกว่าพนักงานไม่ค่อยพอใจ
คือหน้าตาเค้าไม่รับลูกค้าเลย Facepalm
แต่อันนี้เราเฉยๆนะ เพราะเราเคยทำงานแบบนี้มาก่อน ก็เข้าใจว่ามันน่าจะมีผิดพลาดกันบ้าง
แต่อยากจะให้ใช้สติในการแก้ปัญหาหน่อย คือแค่เอ่ยคำว่าขอโทษ หรือพูดจาให้อ่อนหวานกับลูกค้า
ถึงเราจะโดนผลกระทบเราก็คิดว่าเราจะใจเย็นขึ้น ถ้าเค้าเอาน้ำเย็นเข้าลูบเรา
เหตุการณ์นั้นเราไม่ได้โวยวายอะไรนะคะ แล้วก็ไม่ได้โกรธด้วย แค่อยากให้ปรับปรุงให้ดีขึ้นเท่านั้น

เรื่องที่สอง  หลังจากเราได้ดำเนินธุรกิจมาหลายเดือน เราก็มีความคิด อยากจะใช้บริการเครื่องรูดบัตรเครดิตกับทางแบงค์นี้ค่ะ
ศึกษามานิดหน่อย เราค่อนข้างถูกใจเครื่องรูดบัตรแบบพกพา เห็นมั้ย เราว่าผู้บริหาแบงค์นี้เค้าเก่งนะ
แค่เสียบกับสมาร์ทโฟนก็ใช้ได้เลย และก็ไม่มีค่าธรรมเนียม คือซื้อแล้วซื้อขาด เราว่ามันก็สะดวก
สำหรับการไปทำธุรกิจนอกสถานที่อะไรงี้ แล้วแถมไม่มีการผูกมัดใดๆกับแบงค์
นอกจากค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรแต่ละครั้ง  เราศึกษามาซักพัก

      แล้วก็จู่ๆวันนึง ก็มีพนักงานของแบงค์นี้ เดินมาแจกโบว์ชัวร์ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ค่ะ
เราก็สอบถามคร่าวๆ เค้าก็อธิบายมาค่อนข้างดี ด้วยความที่สนใจอยากจะทำอยู่แล้ว
เราก็เลยอยากทำ แต่ยังไงก็ขอโทรปรึกษาแฟนก่อน เพราะมันต้องใช้เอกสารของแฟน เพราะบัญชีเป็นชื่อแฟน
เรา : พี่ค่ะ หนูขอถามแฟนก่อนนะคะ
พนักงาน :ได้ค่ะ แต่วันนี้พี่อยู่ที่นี้วันสุดท้ายละนะคะ พี่มาจากสำนักงานใหญ่ ถ้าจะทำก็ต้องทำวันนี้เลย เพราะว่าเครื่องแบบนี้ที่สาขาไม่มี
             พวกพี่ได้รับอนุญาต ให้หิ้วเครื่องมาเสนอลูกค้าค่ะ
เรา : ได้ค่ะ พี่ยังอยู่แถวนี้ใช่มั้ยคะ เด่วหนูขอโทรหาแฟนก่อน แล้วจะโทรไปหาพี่นะ(ในโบว์ชัวร์ มีเบอร์โทร)
พนักงาน : ได้ค่ะ ยังไงก็โทรมานะ

หลังจากที่เราได้คุยกับแฟน และตกลงว่าจะสมัครใช้บริการเครื่องรูดบัตรนี้ เราก็โทรไปหาพี่เค้า
ตอนพี่เค้ามาหาเรา ประมาณ10 โมงกว่าๆเราโทรไป2ครั้ง ครั้งแรกโดนตัดสายทิ้ง ครั้งที่สองไม่รับ
เราก็คิดว่าเค้าคงยุ่ง คงคุยกับลูกค้ารายอื่น ถ้าเค้าว่างคงโทรกลับมา เราก็รอๆๆๆ เค้าก็ไม่โทรกลับมา
คิดว่าเที่ยงๆ น่าจะพักกินข้าวก็น่าจะโทรกลับมา  แต่ก็ไม่ได้โทรกลับมาเลย
เราเลยรอจนบ่ายโมงเลยโทรไปอีก พนักงานก็รับโทรศัพท์

เรา :พี่คะ หนู.... ที่คุยเมื่อกี้น่ะคะ คือสนใจจะใช้บริการเครื่องรูดบัตร
พนักงาน: อ่อ พอดีพี่กำลังจะไป....ซึ่ง(อยู่ห่างจากที่เราอยู่ประมาณ5กิโล)
เรา :อ่อค่ะ
พนักงาน : น้องอยู่ที่ไหนคะ
เรา : อยู่......
พนักงาน : ได้ๆ เด่วพี่ไป... แล้วจะวนกลับไปหานะช่วงบ่ายแก่ๆหน่อย
เรา : ได้ค่ะ พี่เสร็จธุระแล้วค่อยมาก็ได้ค่ะ หนูอยู่ถึง2-3ทุ่มเลยค่ะ
พนักงาน : ได้ค่ะ เด่วพี่ไปแล้วคุยกันเนอะ

จากนั้นเราก็รอๆๆๆๆๆ สามโมง สี่โมง ห้าโมง หกโมง ทุ่มนึง สองทุ่ม สามทุ่ม ประมาณทุ่มนึง
คือเราก็ไม่ได้ไปถามที่สาขาแถวนั้นนะ เพราะว่าพี่พนักงานคนนั้นเค้าก็บอกว่า
มีร้านค้าร้านนึงไปติดต่อที่สาขาแล้วที่สาขาก็ไม่มีเครื่อง มีแต่เค้าที่มาจากสำนักงานใหญ่ที่หิ้วเครื่องมาพร้อมให้บริการเลย
ในใจตอนนั้นปลงแล้วค่ะ เราก็คิดว่า ไม่เป็นไร ไม่มาก็ไม่ทำ ไม่โทรตามดีกว่า ขนาดโทรไปยังไม่ค่อยรับเลย
โทรไปแล้วโดนตัดสายก็จะเสียความรู้สึกอีก สุดท้าย วันนั้นพี่พนักงานคนนั้นเค้าก็ไม่ได้มาค่ะ
วันถัดไปก็ไม่ได้มา จนวันนี้ ผ่านมาหลายวันแล้ว ก็เงียบไปเลยยยยย
เราก็ไม่ได้รับการติดต่อหรืออะไรจากพี่พนักงานคนนั้นแต่อย่างใด ตอนนี้แล้วเราก็ตัดสินใจไม่ใช้บริการเครื่องรูดบัตรกับที่นี่แล้วค่ะ
ตอนนี้ถ้าจะใช้คงลองดูกับแบงค์อื่น คือเราคิดว่า พนักงานไม่ค่อยใส่ใจลูกค้าเลย เราอาจจะเป็นลูกค้าตัวเล็กๆมาก
ผลิตภัณฑ์ที่เราสนใจเป็นผลิตภัณฑ์เล็กๆ แต่เราแค่อยากมาเตือน ใครๆก็ตามที่อยู่ในองค์กรนี้ มันไม่มีประโยชน์เลย
ถ้าคุณจะพัฒนาผลิตภัณฑ์เจ๋งๆ ให้กับลูกค้า แต่คุณไม่ได้สนใจ ใส่ใจลูกค้าเลย คนคิดก็คิดไป พนักงานแบงค์มีหน้าที่ขายๆๆๆๆ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จนบางครั้งลืมหน้าที่หลักของตัวเอง คืองานบริการลูกค้าเพื่อรักษาลูกค้าปัจจุบันให้อยู่กับแบงค์ไม่เปลี่ยนใจไปแบงค์อื่น อ่อ เราโหลดแอ๊พที่ใช้กับเครื่องรูดบัตรนี้มาไว้ที่เครื่องแล้วด้วย แต่ก็ตัดสินใจลบออกไปละค่ะ เมื่อเช้านี้เองตัดใจๆๆ


อ่อ แล้วอีกอย่างเราไม่รู้ว่าที่แบงค์นี้เป็นเหมือนกันทุกสาขามั้ย พอเราเข้าไปใช้บริการ พนักงานจะตะโกนออกมาว่า "สวัสดีค่ะ/ครับ เชิญค่ะ/ครับ" ทำเหมือนพวกร้านสะดวกซื้อเลย แล้วการตะโกนมันก็ไม่ได้พร้อมเพรียงกันแต่อย่างใด คนนึงตะโกนออกมา แล้วอีกคนก็ตะโกนออกมาอีก มันฟังดูแปลกๆนะ คือเค้าตะโกนอะ อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่