อายุ 25 ใครก็บอกว่าให้ระวังเรื่องเบญจเพส แต่สำหรับผมมันเริ่มที่ 30 ครับ และไม่ใช่แค่ปีเดียวครับ แต่คราวนี้เป็นระยะยาว มันเป็นผลจากการเข้าสู่สายอาชีพที่เรียกว่า Organizer Agency ครับ ผมเข้าสู่สายงานนี้ครั้งแรกอย่างจริงจังตอนเรียนจบ จนไปเรียนต่อเมืองนอก (ตอนอยู่เมืองนอกก็ได้ทำงานสาย Organizer) กลับมาก็ยังคงทำงานสายเดิม ก็เกือบ 15ปี สำหรับงานสายนี้ครับ ทำงาน (แบบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ติดต่อกันบางที 4วัน) เสร็จงานแล้วก็เลี้ยงดื่มเหล้าหนัก เที่ยวแบบ Work Hard, Play Hard Core ตอนเรียนจบน้ำหนัก 65 ผ่านไป หลายปี กลายเป็น 98ครับ จนถึงวัน นึงร่างกายมันไม่ไหว โดนที่บ้านบังคับให้ไปตรวจร่างกายแบบละเอียด ที่มีการนำเลือดไปตรวจ เพื่อดูค่าฮอร์โมนใน่รางกาย ค่าตรวจประมาณ 36,000 ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ตรวจเสร็จทางคุณหมอจะให้หนังสือมาเล่มนึง ในนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับผมทั้งหมด ว่า ผมมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอะไรบ้าง และระดับฮอร์โมนในร่างกายเป็นยังไงบ้าง ถ้าถามว่าราคาค่าตรวจแพงรึเปล่า เท่าที่ผมหาข้อมูลจากเวปของโรงพยาบาลที่ใช้ Lab เดียวกันกับที่นี่ ที่ รพ เค้าคิดค่าตรวจ 46,000บาทเลยหนะครับ ในเมื่อได้ผลตรวจเหมือนกัน มีแพทย์มาบรรยายให้ฟังถึงผล ผมก็เลือกที่ Clinic ใกล้บ้านผมแบบไม่ต้องคิดมากเลยครับ ก่อนตรวจต้องงดน้ำและอาหารทุกอย่าง 8ชั่วโมง แต่ผมงดไป 10ชั่วโมง ครับ ตื่นมา อาบน้ำแต่งตัวแล้วไปที่ Clinic ทันที สิ่งที่โดนคือ การเจาะเลือดเพื่อเอาไปตรวจ และการตรวจปัสสวะ เพื่อตรวจหาโลหะหนักในร่างกาย พอหลังเจาะเลือดเสร็จ ทาง Clinic จะมีข้าว Rice Burry พร้อมหมูอบมาให้ ครับ
ผ่านไป 2สัปดาห์
สรุป ผมต้องระวังเรื่องอาหารการกิน โดยเฉพาะอาหารทะเล เพราะร่างกายผมไม่สามารถย้อย อาหารทะเลได้ รวมไปถึง ต้องลดอาหารที่มีฮอร์โมนเพศหญิงเยอะ เช่น เต้าหู้ นมถั่วเหลือง ถั่ว ไก่ คือทั้งหมดที่บอกว่าของโปรดผมเลยครับ ที่สำคัญต้องนอนให้เป็นเวลาตามนาฬิกาของร่าง กาย และเริ่มลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ที่ขาดไม่ได้คือการเข้ารับการทำ Chelation ที่จะทำให้ร่าง กายขับสารโลหะหนักและสารพิษออกมาได้ แต่การทำ Chelation ให้ได้ผลดีก็ต้องพึ่งวิธีอื่น ด้วยครับ คือเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายในการย่อยอาหารและเร่งการขับถ่าย เพื่อไม่ให้มีสิ่ง ตกค้างในลำไส้เป็นเวลานานครับ
มาเริ่มที่การทำ Chelation ครับ
ขั้นตอนคือการใส่สารละลายโลหะหนักลงไปในน้ำเกลือที่จะผ่านสายและเข็มเข้าสู่ร่างกาย การทำ Chelation มีหลายที่ที่ให้บริการเพียงแต่ว่าสูตรของแต่ละที่จะไม่เหมือนกันครับ อย่างเช่นที่ที่ ผมทำคือ Limbic Clinic (ปุ๋ม ปนัดดา และ ทาทา ยังก็มาทำที่นี่ครับ) ทาง Clinic บอกว่า นอก จากสารละลายโลหะหนักแล้ว เค้าจะใส่วิตามินที่ร่างกายของผมต้องการลงไปด้วยเพื่อไม่ให้ ร่างกายของผมอ่อนแรงหลังจากทำ Chelation บางที่ ที่ไม่มีการใส่สารบำรุงเข้าไป ผลคือร่าง กายจะอ่อนแรงอยากสลบ ผลข้างเคียงของการทำ Chelation คุณหมอบอกว่า ร่างกายของผม จะเกิดอาการดื่มเหล้าได้นิดเดียวแล้วจะเมาอย่างรวดเร็ว ในใจของผมก็คิด
“อย่างผมเนี้ยนะจะ เมาง่าย ที่ผ่านมาคือต้องดื่มเป็นขวดถึงจะเริ่มเมา” ลางเนื้อชอบลางยา งานนี้ต้องลอง หลังเสร็จ งานอีเวนท์ ผมก็ไปดื่มกับน้องๆ น้องรินเหล้าเพียวๆ มาให้ผมตามเคยครับ แต่คราวนี้เหมือนมีพลังงานบางอย่างมาอยู่รอบๆ ตัวผมครับ คือพอแก้วเหล้ามาใกล้ปาก กลิ่นของเหล้าเข้าระบบ ทางเดินหายใจของผม
มือและแขนของผมก็เหมือนถูกกลุ่มพลังงานลึกลับผลักแก้วเหล้าออก จากปากทันทีครับ ผมก็แปลกใจ นึกว่าเส้นกระตุก ผมลองกลั้นหายใจแล้วดื่มเหล้าแก้วนั้นเข้าไป ร่างกายเหมือนโดนของแข็งกระแทกหัว คือมีอาการมึนเหมือนดื่มเหล้าเพียวๆ ไปขวดนึงเลย ครับ ตอนแรกผมก็คิดว่า ช่วงนี้งานหนัก นอนน้อย สงสัยร่างกายเลยเพลียง่าย คืนนั้นผมเลยกลับไปพักผ่อนก่อน
วันต่อมาร่างกายผมได้รับการพักผ่อนเต็มที่แล้ว ผมเลยลองดื่มเหล้าที่บ้านครับ คราวนี้เป็น Gin tonic ครับ ผลคือดื่มไป 3แก้ว แทบหลับเลยครับ ร่างกายผมพ่ายแพ้ต่อเหล้าอย่างเป็น ทางการ ขอแสดงความยินดีกับคุณหมอด้วยครับ
คุณหมอเป็นคนแรกที่ทำให้ผมเมาเหล้าภายใน 3แก้ว
สามเดือนหลังจากทำ Chelation ผลคือร่างกายมีแรง ไม่เพลียง่ายเหมือนก่อน ผิวที่เคยหยาบ กร้านก็ดีขึ้น สิวหายไปเยอะ ถามว่าหลังเริ่มทำ Chelation ยังโหมงานหนักเหมือนเดิมรึเปล่า ขอตอบว่าหนักเหมือนเดิมเลยครับ ยังคงทำงานแบบเรื่อง Freelance เลยครับ
การลดน้ำหนัก
ผมไม่มีเวลาไปเขาคอร์สลดน้ำหนักแน่นอนครับ แต่ผมใช้การทานพวกยาดักไขมัน ยาบล้อค แป้งครับ ผมลองหลายตัวเลยครับ เริ่มจาก Secret Slim ตามด้วย D24 แล้วมาที่ ซินิคอล (เม็ดฟ้ามหาประลับ) จนมาถึง CoB9
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมทาน Secret Slim และ D24ได้ อย่างละ2สัปดาห์ วันละ 2เม็ด ผลคือสภาพของผลในช่วงเช้า ตี5-7โมง จะมีการถ่ายอย่างรุนแรง จนผมรับตัวเองไม่ไหว เลยลองเปลี่ยนมาเป็น ซินิคอล ตามคำแนะนำของเพื่อนที่เป็นเภสัช เพื่อนบอกว่า ทานวันนึงอย่างให้เกิน 1เม็ด ผมทานได้ 3วันเลิกครับ เพราะตั้งแต่ ตี2 -8โมงเช้า ท้องไส้ของผมปั่นป่วนมากครับ สุดท้ายมาจบที่ CoB9 เพราะอย่างน้อยมันก็ไม่ได้ทำมาจากสารเคมี เพราะสกัดมาจากสารธรรม ชาติ ผมทานตัว CoB9 Original (ไม่รู้ว่าเรียกแบบนี้รึเปล่านะครับ) ทาน 2เม็ดคู่กับ One Step อีก 1เม็ด 3เดือนแรกผ่านไปน้ำหนักลงมา 4 กิโล และสามเดือนต่อมาลดลงอีก 2 รวม 6เดือน น้ำหนักลดลง 6กิโลครับ
เรื่องการทานยาดัก สังเกตุว่า ตอนถ่ายจะมีน้ำมัน ออกมามากน้อยตามชนิดของอาหารที่เราทาน ถ้าทานมากน้ำมันก็ออกมาเยอะ ซึ่งมันเป็นอุปสรรคในการเข้าห้องน้ำของผมมากครับ ขอขอบคุณบริษัทของผมที่ในห้อง น้ำมีสายฉีดชำระ และ โฟมล้างมือ Kirei (คิเรอิ) ที่ช่วยทำให้การเข้าห้องน้ำของผมดูเป็นสี พาสเทลครับ เพื่อการขับถ่ายที่ดี และให้กระเพาะและสำไส้สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ต้องมีตัวช่วยครับ เพราะแค่ Detox อย่างเดียวไม่ได้หมายความว่า ผนังลำไส้จะสะอาด
เพิ่งทราบว่ากระเพาะอาหารของคนเรามีความสำคัญกับระบบทั้งร่างกาย เพราะฉะนั้นการ ทำให้ผนังสำไส้สะอาดเพื่อลดการอักเสบของเยื้อบุกระเพาะเป็นสิ่งที่สำคัญ ทำไมถึงต้องทำให้ ผนังกระเพาะไม่เกิดการอักเสบ เพราะว่า เมื่อผนังกระเพาะเกิดการอักเสบ จะทำให้แป้งที่ เราทานแล้วไม่ได้ถูกย้อยอย่างสมบูรณ์ที่ปากนั้น หลุดเข้าร่างกายจนทำให้เกิดภาวะอ้วน ได้อันเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเบาหวานหรือโรคต่างๆ สารพัด แล้วต้องทำยังไงถึงจะทำความ สะอาดผนังกระเพาะหละ พอดีผมมีเพื่อนเป็นนักโภชนาการเค้าแนะนำ Fitline Basic ตัวชงกับน้ำรสส้มที่จะมีตัวขัดผนังกระเพาะ ในวงการ Anti Aging ที่เยอรมันใช้ แต่ปัญหา มันอยู่ที่ตัวแทนที่ไทยเลิกขายแล้ว เพราะตัวบริษัทแม่ที่เยอรมัน เห็นช่องทางการขายเลย จะมาเปิดบริษัทที่ไทยเพื่อขายเอง คือต้องรออีกนานกว่าจะมีทาน ตอนนี้ทางเพื่อนผมเลยแนะ นำให้ทาน Falicia คู่กับ ProBac 10plus โดย ProBac10plus เป็นพวก Pro-Biotic ประมาณ Yakult 10เท่า ทานช่วงเช้า และเที่ยง เพื่อปรับสภาพการย่อยอาหารในกระเพาะให้ดีมากขึ้น ส่วนตอนเย็นทาน CoB9 Fidano ตัวนี้ช่วยให้ระบบการย้อยทำงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วง เวลานอน ทำให้ตื่นมาแล้วจะถ่ายได้อย่างหมดจด
ผลของการทาน Fitline Basic + Falicia + ProBac 10plus + CoB9 Fidano ทำให้กระเพาะของผม อักเสบน้อยลง และ ทำให้ร่างกายผมสามารถย่อยอาหารโดยเฉพาะพวกแป้งที่ตกค้างในกระเพาะ นอกจากนั้นผมสังเกตผิวพรรณตามตัวและใบหน้าของผมกลับมาดีและนุ่มมากขึ้น สิวหายไปเลย ครับ สาเหตุของสิวเท่าที่อ่านมา มีหลายประเด็น คนส่วนใหญ่นึกถึงปัจจัยภายนอก เอะอะก็ล้าง หน้าให้สะอาด แต่น้อยคนที่จะคิดถึงการล้างระบบลำไส้และกระเพาะให้สะอาด เพราะลำไส้และ กระเพาะของเรานั้นจะดูดสิ่งสกปรกเข้าร่างกายและ ส่งผลไปยังผิวพรรณของเราโดยเฉพาะ ใบหน้าครับ
นอกจากการทานแล้ว การนอนอย่างเป็นเวลาและการออกกำลังถูกเพิ่มเข้ามาในชีวิตของผมครับ คุณหมอที่ Limbic บอกว่า ร่างกายคนเราจะสร้าง Growth Hormone ช่วง 4ทุ่มถึงตี2 ซึ่งถ้า ไม่สามารถนอนก่อน 4ทุ่มได้ อย่างน้อยก็ขอให้นอนก่อนเที่ยงคืน อย่างน้อยให้ร่างกายได้ซ่อม แซมตัวเองครับ แล้วก็ต้องตื่นตอนตี 5ครึ่งเพื่อมาออกกำลังกายช่วง 6โมง ถึง 7โมงเช้า ตอน เที่ยง ก่อนเริ่มงานช่วงบ่ายพยายามหาเวลางีบ 15นาที เพื่อให้สมองและร่างกายได้พัก ช่วง 3โมง ถึง 5โมงเย็น ลุกออกจากโต๊ะทำงานมายืดเส้นยืดสาย ออกกำลังหายเบาๆ บ้าง ถึงแม้ว่าจะ ทำ Chelation และการทานพวกยาดัก ยาช่วยย่อยต่างๆ แล้ว แต่มันก็เป็นเพียงแค่การล้างทำ ความสะอาดร่างกายเท่านั้นครับ แต่คนเราควรออกกำลังกายเพื่อสร้างพลังให้กับร่างกายใน การช่วยย่อยสารอาหารและสร้างสิ่งที่ เป็นประโยชน์ให้แก่ร่างกายครับ เข้าใจกันง่ายๆ ว่า
ทานอาหาร และ ออกกำลังกาย = เติมพลังให้แก่ระบบร่างกาย
Chelation + Detox + ยาดัก = การทำความสะอาดระบบร่างกาย
คนเราควรจะทำสองหัวข้อนี้ให้ครบควบคู่กันไปครับ
ผมถามคุณหมอว่าถ้าทำอย่างหนึ่งอย่างใดหละ จะได้รึเปล่า คุณหมอตอบอย่างเข้าใจง่ายๆ ว่า ถ้าออกกำลังกายอย่างเดียวแต่ไม่ทำความสำอาดระบบร่างกาย ก็เหมือนกับเรามีถังอยู่ 1ใบ ที่มีสิ่ง สกปรกอยู่จำนวนมาก ทำให้ถ้าเทสิ่งดีๆ เข้าไป มันก็รับได้แค่นิดเดียว เพราะฉะนั้นควรทำ ความสะอาดภาชนะของเรา
ในขณะที่ ถ้าทำความสะอาดร่างกายแต่ไม่มีอะไรใส่ลงไป ก็เหมือนกันเรามีภาชนะที่สะอาดแต่ ไม่มีสิ่งดีๆ ใสลงไป มันก็เป็นเพียงแค่ภาชนะเปล่าๆ ใบหนึ่งเท่านั้น คุณหมอตอบได้อย่างชัดเจน มากครับ
อาหารเสริม หรือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ควรทานเพิ่ม ที่คุณหมอแนะนำคือ Vintamin C + Selenium + Zinc + Co Q10 โดยที่ CoQ10 ควรแบ่งทานเป็น 3มื้อ มื้อละประมาณ 30mg ไม่แนะให้ทานเต็ม Dose ที่ 100mg ต่อวันแบบรวดเดียวครับ
สรุป เท่าที่เข้มงวดกับตัวเองมา 6เดือน น้ำหนักลดประมาณ 6กิโลครับ น้ำหนักลด ไขมันลด แต่มีกล้ามเพิ่มขึ้นมา ร่างกายสดชื่นตลอดทั้งวัน สุขภาพดีขึ้น ป่วยน้อยลง หน้าใสขึ้น และผมสามารถบริหารเวลาในการดำเนินชีวิตได้ดีขึ้นครับ
ขอแนะนำApp พวก Fitness ครับ ตอนนี่ที่ใช้อยู่คือ Fitbit (Android) + MyFitnessPal (iOS) เพราะมันจะเป็นตัวบอกว่า วันนึงเราทานอาหารไปแล้วกี่ Cal ครับ
ไม่ต้องโหมออกกำลังกาย แต่ทำให้สม่ำเสมอ ควบคุมการทาน ไม่ตามใจปากจนเกินไป รู้จักทานยาดัก และยาช่วยย่อย เพราะเมื่อร่างกายอายุถึง 30แล้ว ระบบการทำงานต่างๆ จะมีประสิทธิภาพลดลงครับ ที่สำคัญ เข้าไปพบแพทย์เพื่อให้ตัวเรารู้จักร่างกายของเรา มากขึ้นครับ ความรู้สึกว่าป่วย กับอาการป่วย ไม่เหมือนกัน และไม่ควรคิดไปเองครับ
สรุปอาหารเสริมที่ผมใช้ ณ ตอนนี้
สาย Boost (Vitamin B + FitLine AOP + Monster Energy Drink ตัวหลังนี่เป็นความชอบส่วนตัวครับ จริงๆ ผมดื่มพวกนี้แล้วง่วงครับ แต่มันอร่อยครับ) ช่วงไหนโหมงานหนักจะเพิ่มสายนี้เข้าไปครับ
สาย Detox (Falisia + CoB9 Fidano + FitLine Basics + ProBac 10plus) ล้างท้องอย่างงดงาม ทุกอย่างเป็นสี Pastel
สาย บำรุง (Alernten50 + Salmon Oil + Garlic1,000mg + Gingo120 + iCap บำรุงตา) ตัว Alernten50 ทานเช้า กลางวัน และ เย็น นอกนั้นทานมื้อเช้าครับ แต่ตัว Salmon Oil ให้ทานแยก ทิ้งระยะห่างครับ
เมื่อชีวิตเดินทางเข้ามาสู่สาย Anti-Aging
ผ่านไป 2สัปดาห์
สรุป ผมต้องระวังเรื่องอาหารการกิน โดยเฉพาะอาหารทะเล เพราะร่างกายผมไม่สามารถย้อย อาหารทะเลได้ รวมไปถึง ต้องลดอาหารที่มีฮอร์โมนเพศหญิงเยอะ เช่น เต้าหู้ นมถั่วเหลือง ถั่ว ไก่ คือทั้งหมดที่บอกว่าของโปรดผมเลยครับ ที่สำคัญต้องนอนให้เป็นเวลาตามนาฬิกาของร่าง กาย และเริ่มลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ที่ขาดไม่ได้คือการเข้ารับการทำ Chelation ที่จะทำให้ร่าง กายขับสารโลหะหนักและสารพิษออกมาได้ แต่การทำ Chelation ให้ได้ผลดีก็ต้องพึ่งวิธีอื่น ด้วยครับ คือเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายในการย่อยอาหารและเร่งการขับถ่าย เพื่อไม่ให้มีสิ่ง ตกค้างในลำไส้เป็นเวลานานครับ
มาเริ่มที่การทำ Chelation ครับ
ขั้นตอนคือการใส่สารละลายโลหะหนักลงไปในน้ำเกลือที่จะผ่านสายและเข็มเข้าสู่ร่างกาย การทำ Chelation มีหลายที่ที่ให้บริการเพียงแต่ว่าสูตรของแต่ละที่จะไม่เหมือนกันครับ อย่างเช่นที่ที่ ผมทำคือ Limbic Clinic (ปุ๋ม ปนัดดา และ ทาทา ยังก็มาทำที่นี่ครับ) ทาง Clinic บอกว่า นอก จากสารละลายโลหะหนักแล้ว เค้าจะใส่วิตามินที่ร่างกายของผมต้องการลงไปด้วยเพื่อไม่ให้ ร่างกายของผมอ่อนแรงหลังจากทำ Chelation บางที่ ที่ไม่มีการใส่สารบำรุงเข้าไป ผลคือร่าง กายจะอ่อนแรงอยากสลบ ผลข้างเคียงของการทำ Chelation คุณหมอบอกว่า ร่างกายของผม จะเกิดอาการดื่มเหล้าได้นิดเดียวแล้วจะเมาอย่างรวดเร็ว ในใจของผมก็คิด “อย่างผมเนี้ยนะจะ เมาง่าย ที่ผ่านมาคือต้องดื่มเป็นขวดถึงจะเริ่มเมา” ลางเนื้อชอบลางยา งานนี้ต้องลอง หลังเสร็จ งานอีเวนท์ ผมก็ไปดื่มกับน้องๆ น้องรินเหล้าเพียวๆ มาให้ผมตามเคยครับ แต่คราวนี้เหมือนมีพลังงานบางอย่างมาอยู่รอบๆ ตัวผมครับ คือพอแก้วเหล้ามาใกล้ปาก กลิ่นของเหล้าเข้าระบบ ทางเดินหายใจของผม มือและแขนของผมก็เหมือนถูกกลุ่มพลังงานลึกลับผลักแก้วเหล้าออก จากปากทันทีครับ ผมก็แปลกใจ นึกว่าเส้นกระตุก ผมลองกลั้นหายใจแล้วดื่มเหล้าแก้วนั้นเข้าไป ร่างกายเหมือนโดนของแข็งกระแทกหัว คือมีอาการมึนเหมือนดื่มเหล้าเพียวๆ ไปขวดนึงเลย ครับ ตอนแรกผมก็คิดว่า ช่วงนี้งานหนัก นอนน้อย สงสัยร่างกายเลยเพลียง่าย คืนนั้นผมเลยกลับไปพักผ่อนก่อน
วันต่อมาร่างกายผมได้รับการพักผ่อนเต็มที่แล้ว ผมเลยลองดื่มเหล้าที่บ้านครับ คราวนี้เป็น Gin tonic ครับ ผลคือดื่มไป 3แก้ว แทบหลับเลยครับ ร่างกายผมพ่ายแพ้ต่อเหล้าอย่างเป็น ทางการ ขอแสดงความยินดีกับคุณหมอด้วยครับ คุณหมอเป็นคนแรกที่ทำให้ผมเมาเหล้าภายใน 3แก้ว
สามเดือนหลังจากทำ Chelation ผลคือร่างกายมีแรง ไม่เพลียง่ายเหมือนก่อน ผิวที่เคยหยาบ กร้านก็ดีขึ้น สิวหายไปเยอะ ถามว่าหลังเริ่มทำ Chelation ยังโหมงานหนักเหมือนเดิมรึเปล่า ขอตอบว่าหนักเหมือนเดิมเลยครับ ยังคงทำงานแบบเรื่อง Freelance เลยครับ
การลดน้ำหนัก
ผมไม่มีเวลาไปเขาคอร์สลดน้ำหนักแน่นอนครับ แต่ผมใช้การทานพวกยาดักไขมัน ยาบล้อค แป้งครับ ผมลองหลายตัวเลยครับ เริ่มจาก Secret Slim ตามด้วย D24 แล้วมาที่ ซินิคอล (เม็ดฟ้ามหาประลับ) จนมาถึง CoB9
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องการทานยาดัก สังเกตุว่า ตอนถ่ายจะมีน้ำมัน ออกมามากน้อยตามชนิดของอาหารที่เราทาน ถ้าทานมากน้ำมันก็ออกมาเยอะ ซึ่งมันเป็นอุปสรรคในการเข้าห้องน้ำของผมมากครับ ขอขอบคุณบริษัทของผมที่ในห้อง น้ำมีสายฉีดชำระ และ โฟมล้างมือ Kirei (คิเรอิ) ที่ช่วยทำให้การเข้าห้องน้ำของผมดูเป็นสี พาสเทลครับ เพื่อการขับถ่ายที่ดี และให้กระเพาะและสำไส้สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ต้องมีตัวช่วยครับ เพราะแค่ Detox อย่างเดียวไม่ได้หมายความว่า ผนังลำไส้จะสะอาด
เพิ่งทราบว่ากระเพาะอาหารของคนเรามีความสำคัญกับระบบทั้งร่างกาย เพราะฉะนั้นการ ทำให้ผนังสำไส้สะอาดเพื่อลดการอักเสบของเยื้อบุกระเพาะเป็นสิ่งที่สำคัญ ทำไมถึงต้องทำให้ ผนังกระเพาะไม่เกิดการอักเสบ เพราะว่า เมื่อผนังกระเพาะเกิดการอักเสบ จะทำให้แป้งที่ เราทานแล้วไม่ได้ถูกย้อยอย่างสมบูรณ์ที่ปากนั้น หลุดเข้าร่างกายจนทำให้เกิดภาวะอ้วน ได้อันเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเบาหวานหรือโรคต่างๆ สารพัด แล้วต้องทำยังไงถึงจะทำความ สะอาดผนังกระเพาะหละ พอดีผมมีเพื่อนเป็นนักโภชนาการเค้าแนะนำ Fitline Basic ตัวชงกับน้ำรสส้มที่จะมีตัวขัดผนังกระเพาะ ในวงการ Anti Aging ที่เยอรมันใช้ แต่ปัญหา มันอยู่ที่ตัวแทนที่ไทยเลิกขายแล้ว เพราะตัวบริษัทแม่ที่เยอรมัน เห็นช่องทางการขายเลย จะมาเปิดบริษัทที่ไทยเพื่อขายเอง คือต้องรออีกนานกว่าจะมีทาน ตอนนี้ทางเพื่อนผมเลยแนะ นำให้ทาน Falicia คู่กับ ProBac 10plus โดย ProBac10plus เป็นพวก Pro-Biotic ประมาณ Yakult 10เท่า ทานช่วงเช้า และเที่ยง เพื่อปรับสภาพการย่อยอาหารในกระเพาะให้ดีมากขึ้น ส่วนตอนเย็นทาน CoB9 Fidano ตัวนี้ช่วยให้ระบบการย้อยทำงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วง เวลานอน ทำให้ตื่นมาแล้วจะถ่ายได้อย่างหมดจด
ผลของการทาน Fitline Basic + Falicia + ProBac 10plus + CoB9 Fidano ทำให้กระเพาะของผม อักเสบน้อยลง และ ทำให้ร่างกายผมสามารถย่อยอาหารโดยเฉพาะพวกแป้งที่ตกค้างในกระเพาะ นอกจากนั้นผมสังเกตผิวพรรณตามตัวและใบหน้าของผมกลับมาดีและนุ่มมากขึ้น สิวหายไปเลย ครับ สาเหตุของสิวเท่าที่อ่านมา มีหลายประเด็น คนส่วนใหญ่นึกถึงปัจจัยภายนอก เอะอะก็ล้าง หน้าให้สะอาด แต่น้อยคนที่จะคิดถึงการล้างระบบลำไส้และกระเพาะให้สะอาด เพราะลำไส้และ กระเพาะของเรานั้นจะดูดสิ่งสกปรกเข้าร่างกายและ ส่งผลไปยังผิวพรรณของเราโดยเฉพาะ ใบหน้าครับ
นอกจากการทานแล้ว การนอนอย่างเป็นเวลาและการออกกำลังถูกเพิ่มเข้ามาในชีวิตของผมครับ คุณหมอที่ Limbic บอกว่า ร่างกายคนเราจะสร้าง Growth Hormone ช่วง 4ทุ่มถึงตี2 ซึ่งถ้า ไม่สามารถนอนก่อน 4ทุ่มได้ อย่างน้อยก็ขอให้นอนก่อนเที่ยงคืน อย่างน้อยให้ร่างกายได้ซ่อม แซมตัวเองครับ แล้วก็ต้องตื่นตอนตี 5ครึ่งเพื่อมาออกกำลังกายช่วง 6โมง ถึง 7โมงเช้า ตอน เที่ยง ก่อนเริ่มงานช่วงบ่ายพยายามหาเวลางีบ 15นาที เพื่อให้สมองและร่างกายได้พัก ช่วง 3โมง ถึง 5โมงเย็น ลุกออกจากโต๊ะทำงานมายืดเส้นยืดสาย ออกกำลังหายเบาๆ บ้าง ถึงแม้ว่าจะ ทำ Chelation และการทานพวกยาดัก ยาช่วยย่อยต่างๆ แล้ว แต่มันก็เป็นเพียงแค่การล้างทำ ความสะอาดร่างกายเท่านั้นครับ แต่คนเราควรออกกำลังกายเพื่อสร้างพลังให้กับร่างกายใน การช่วยย่อยสารอาหารและสร้างสิ่งที่ เป็นประโยชน์ให้แก่ร่างกายครับ เข้าใจกันง่ายๆ ว่า
ทานอาหาร และ ออกกำลังกาย = เติมพลังให้แก่ระบบร่างกาย
Chelation + Detox + ยาดัก = การทำความสะอาดระบบร่างกาย
คนเราควรจะทำสองหัวข้อนี้ให้ครบควบคู่กันไปครับ
ผมถามคุณหมอว่าถ้าทำอย่างหนึ่งอย่างใดหละ จะได้รึเปล่า คุณหมอตอบอย่างเข้าใจง่ายๆ ว่า ถ้าออกกำลังกายอย่างเดียวแต่ไม่ทำความสำอาดระบบร่างกาย ก็เหมือนกับเรามีถังอยู่ 1ใบ ที่มีสิ่ง สกปรกอยู่จำนวนมาก ทำให้ถ้าเทสิ่งดีๆ เข้าไป มันก็รับได้แค่นิดเดียว เพราะฉะนั้นควรทำ ความสะอาดภาชนะของเรา
ในขณะที่ ถ้าทำความสะอาดร่างกายแต่ไม่มีอะไรใส่ลงไป ก็เหมือนกันเรามีภาชนะที่สะอาดแต่ ไม่มีสิ่งดีๆ ใสลงไป มันก็เป็นเพียงแค่ภาชนะเปล่าๆ ใบหนึ่งเท่านั้น คุณหมอตอบได้อย่างชัดเจน มากครับ
อาหารเสริม หรือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ควรทานเพิ่ม ที่คุณหมอแนะนำคือ Vintamin C + Selenium + Zinc + Co Q10 โดยที่ CoQ10 ควรแบ่งทานเป็น 3มื้อ มื้อละประมาณ 30mg ไม่แนะให้ทานเต็ม Dose ที่ 100mg ต่อวันแบบรวดเดียวครับ
สรุป เท่าที่เข้มงวดกับตัวเองมา 6เดือน น้ำหนักลดประมาณ 6กิโลครับ น้ำหนักลด ไขมันลด แต่มีกล้ามเพิ่มขึ้นมา ร่างกายสดชื่นตลอดทั้งวัน สุขภาพดีขึ้น ป่วยน้อยลง หน้าใสขึ้น และผมสามารถบริหารเวลาในการดำเนินชีวิตได้ดีขึ้นครับ
ขอแนะนำApp พวก Fitness ครับ ตอนนี่ที่ใช้อยู่คือ Fitbit (Android) + MyFitnessPal (iOS) เพราะมันจะเป็นตัวบอกว่า วันนึงเราทานอาหารไปแล้วกี่ Cal ครับ
ไม่ต้องโหมออกกำลังกาย แต่ทำให้สม่ำเสมอ ควบคุมการทาน ไม่ตามใจปากจนเกินไป รู้จักทานยาดัก และยาช่วยย่อย เพราะเมื่อร่างกายอายุถึง 30แล้ว ระบบการทำงานต่างๆ จะมีประสิทธิภาพลดลงครับ ที่สำคัญ เข้าไปพบแพทย์เพื่อให้ตัวเรารู้จักร่างกายของเรา มากขึ้นครับ ความรู้สึกว่าป่วย กับอาการป่วย ไม่เหมือนกัน และไม่ควรคิดไปเองครับ
สรุปอาหารเสริมที่ผมใช้ ณ ตอนนี้
สาย Boost (Vitamin B + FitLine AOP + Monster Energy Drink ตัวหลังนี่เป็นความชอบส่วนตัวครับ จริงๆ ผมดื่มพวกนี้แล้วง่วงครับ แต่มันอร่อยครับ) ช่วงไหนโหมงานหนักจะเพิ่มสายนี้เข้าไปครับ
สาย Detox (Falisia + CoB9 Fidano + FitLine Basics + ProBac 10plus) ล้างท้องอย่างงดงาม ทุกอย่างเป็นสี Pastel
สาย บำรุง (Alernten50 + Salmon Oil + Garlic1,000mg + Gingo120 + iCap บำรุงตา) ตัว Alernten50 ทานเช้า กลางวัน และ เย็น นอกนั้นทานมื้อเช้าครับ แต่ตัว Salmon Oil ให้ทานแยก ทิ้งระยะห่างครับ