ครม.ไฟเขียวยกเว้นภาษีนิติบุคคลฯ 20% ถาวร-เห็นชอบสิทธิประโยชน์ด้านภาษี Venture Capital 10 ปี จูงใจร่วมทุน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย
นายอภิศักดิ์ ตันตราวงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เกี่ยวกับมาตรการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจากเดิม 30% เหลือ 20% ของกำไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นการถาวร ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 ม.ค.59 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการคลายความกังวลให้ภาคธุรกิจเรื่องความไม่แน่นอนทางด้านภาษี
นอกจาก ครม.ยังมีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนกิจการเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกำหนดสิทธิประโยชน์โดยการลดภาษีนิติบุคคลและยกเว้นภาษีสำหรับเงินปันผลที่ได้รับเป็นระยะเวลา 10 ปี เพื่อส่งเสริมให้เกิดกิจการ Venture Capital ต่อไป และส่งเสริมให้นักคิดในประเทศไทยมีธุรกิจของตัวเอง โดยมีเงื่อนไข คือ ต้องเป็นบริษัทนิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนภายใต้กฎหมายไทย ไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และเป็นกิจการเป้าหมาย ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่ร่าง พ.ร.ฎ.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ทั้งนี้ กิจการเงินร่วมลงทุนเป้าหมายเพื่อเป็นการสนับสนุนให้มีการลงทุนของบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและทรัสต์ ให้ประกอบกิจการเงินร่วมลงทุนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาตลาดการลงทุนในประเทศไทย และส่งเสริมให้มีการลงทุนในกิจการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลักเป็นฐานในการประกอบกิจการตามประเภทอุตสาหกรรมที่สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กำหนด มีจำนวน 10 อุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร อุตสาหกรรมเพื่อประหยัดพลังงาน ผลิตพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุข อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมบริการและอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 6.อุตสาหกรรมวัสดุก้าวหน้า 7.อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและเครื่องประดับ 8.อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน 9.อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ และ 10.อุตสาหกรรมฐานการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษณ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า มาตรการกิจการร่วมลงทุน จะเป็นกลไกที่เป็นหัวใจกับธุรกิจที่ตังขึ้นใหม่ หรือผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งมีปัญหาทุนน้อย หนี้สูง สินเชื่อกู้ไม่ผ่าน มาตรการภาษี จึงเป็นการปลดล็อคตรงนี้ก่อน ในอนาคตอยากให้บริษัทใหญ่ ๆ เข้ามาร่วมลงทุนเป็น Coppereat venture คือ มาถือหุ้นในบริษัทเอสเอ็มอี เหมือนประเทศสิงคโปร์ สำหรับมาตรการกิจการยกเว้นภาษีนิติบุคคลเป็นการภาวร จะทำให้ธุรกิจไทยสามารถแข่งขันได้กับประเทศอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเพื่อนบ้าน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1444731350
ทักษิณ " คิด " ... ยิ่งลักษณ์ " สาน " >>> ทหาร " ทำ " อีกหนึ่งนโยบาย .. อิอิ
ครม.ไฟเขียวยกเว้นภาษีนิติบุคคลฯ 20%
นายอภิศักดิ์ ตันตราวงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เกี่ยวกับมาตรการปรับลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลจากเดิม 30% เหลือ 20% ของกำไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นการถาวร ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 ม.ค.59 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการคลายความกังวลให้ภาคธุรกิจเรื่องความไม่แน่นอนทางด้านภาษี
นอกจาก ครม.ยังมีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนกิจการเงินร่วมลงทุน (Venture Capital) และอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกำหนดสิทธิประโยชน์โดยการลดภาษีนิติบุคคลและยกเว้นภาษีสำหรับเงินปันผลที่ได้รับเป็นระยะเวลา 10 ปี เพื่อส่งเสริมให้เกิดกิจการ Venture Capital ต่อไป และส่งเสริมให้นักคิดในประเทศไทยมีธุรกิจของตัวเอง โดยมีเงื่อนไข คือ ต้องเป็นบริษัทนิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนภายใต้กฎหมายไทย ไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และเป็นกิจการเป้าหมาย ทั้งนี้ให้มีผลตั้งแต่ร่าง พ.ร.ฎ.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ทั้งนี้ กิจการเงินร่วมลงทุนเป้าหมายเพื่อเป็นการสนับสนุนให้มีการลงทุนของบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยและทรัสต์ ให้ประกอบกิจการเงินร่วมลงทุนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาตลาดการลงทุนในประเทศไทย และส่งเสริมให้มีการลงทุนในกิจการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลักเป็นฐานในการประกอบกิจการตามประเภทอุตสาหกรรมที่สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กำหนด มีจำนวน 10 อุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมอาหารและการเกษตร อุตสาหกรรมเพื่อประหยัดพลังงาน ผลิตพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุข อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมบริการและอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 6.อุตสาหกรรมวัสดุก้าวหน้า 7.อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและเครื่องประดับ 8.อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน 9.อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์ และ 10.อุตสาหกรรมฐานการวิจัย พัฒนาและนวัตกรรม
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษณ์ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวว่า มาตรการกิจการร่วมลงทุน จะเป็นกลไกที่เป็นหัวใจกับธุรกิจที่ตังขึ้นใหม่ หรือผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งมีปัญหาทุนน้อย หนี้สูง สินเชื่อกู้ไม่ผ่าน มาตรการภาษี จึงเป็นการปลดล็อคตรงนี้ก่อน ในอนาคตอยากให้บริษัทใหญ่ ๆ เข้ามาร่วมลงทุนเป็น Coppereat venture คือ มาถือหุ้นในบริษัทเอสเอ็มอี เหมือนประเทศสิงคโปร์ สำหรับมาตรการกิจการยกเว้นภาษีนิติบุคคลเป็นการภาวร จะทำให้ธุรกิจไทยสามารถแข่งขันได้กับประเทศอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศเพื่อนบ้าน
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1444731350
ทักษิณ " คิด " ... ยิ่งลักษณ์ " สาน " >>> ทหาร " ทำ " อีกหนึ่งนโยบาย .. อิอิ