ก่อนอื่นต้องขอทบทวนความเข้าใจกับทุกท่านว่า ประเทศไทยเรา มีสถาบันหลักอยู่ 3 สถาบันครับ คือ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
จริงอยู่ในมุมของภาพยนต์ ได้นำเสนอเรื่องจริงที่เป็นด้านมืดในวงการสงฆ์ เพื่อจุดประสงค์อันใดก็สุดแล้วแต่เจตนาของผู้สร้างครับ แต่เนื่องจากมีประชาชนหลายคน คิดกันไปเองว่าภาพยนต์เรื่องนี้ มีเจตนาตีแผ่ความฉาวโฉ่ของวงการผ้าเหลือง ซึ่งถ้าผู้สร้างมีเจตนาเช่นนั้นจริง ผมก็ขอประนามหนังเรื่องนี้ว่า มีเจตนาที่ทุเรศ
มาก เพราะการที่คุณจะยกเอาความผิดพลาดของผู้อื่น ข้อเสียของผู้อื่น มาตีแผ่ประจานในที่สาธารณะ มันเป็สิ่งที่แย่มาก เหมือนคำสุภาษิตที่ว่า "ไม้ล้มอย่าข้าม"
สถาบันศาสนา หรือวงการสงฆ์ นับตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึงทุกวันนี้ ท่านลืมแล้วหรือว่า ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของชาติไทยเรา ล้วนแล้วเกิดขึ้นมาจากรากฐานของพุทธศาสนาทั้งสิ้น การที่คุณจะยกเอาข้อเสื่อมเสียของวงการศาสนามาตีแผ่ มันจะทำให้กลุ่มคน จำนวนหนึ่ง ย้ำว่าแค่จำนวนหนึ่ง แต่อาจจะมากเป็นล้านคน ที่มีศาสนาแค่ในทะเบียนบ้าน ไม่เข้าใจคำสอนและธรรมวินัยของสงฆ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หรือไม่มีความรู้ในเรื่องศาสนาเลย แถมตนเองยังเป็นผู้ทุศีล ไม่ปฏิบัติตามคำสอนอีกด้วย คนแบบนี้ผมเชื่อว่า ถ้าเห็นข้อเสื่อมข้อเสียของวงการสงฆ์ เขาเหล่านั้น จะพากันรุมกระหน่ำซ้ำเติม ให้ไม้ที่กำลังจะล้ม ต้องถูกเหยียบย่ำจนจมดินอย่างแน่นอน
คนเหล่านั้น โดยเฉพาะเยาวชน จะพากันมองวงการศาสนาว่า ไม่จริง ไม่แท้ คำสอนจากพระไม่สนใจ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็แทบจะเป็นอย่างนั้น และบรรดาสื่อมวลชนก็ชอบที่จะลงข่าวด้านเสียๆของวงการสงฆ์อยู่แล้วด้วย เมื่อเยาวชนคนในชาติขาดความเชื่อเถือนับถือบุคลากรของศาสนา ศีลธรรม จริยะธรรม ก็จะไม่ศักสิทธิอีกต่อไป ผมไม่ได้เหมาว่าทั้งหมด แต่อย่างน้อยมันต้องมีผลพวงจากหนังเรื่องนี้บ้างแหละครับ ไม่มากก็น้อย
อย่าลืมนะครับว่าสถาบันศาสนา เป็นสถาบันหลักของชาติ คุณลองคิดดูหากผู้สร้างหนัง ลองเปลี่ยนมาเป็นมุมมองที่เสื่อมเสียของสถาบันหลักอื่นๆ เช่น ความเสื่อมของประเทศชาติ ความเสื่อมของประชาชนชั้นปกครอง หรือด้านอื่นๆ ผู้สร้างคงไม่กล้า หากแต่วงการสงฆ์ท่านไม่มีกฏหมายคุ้มครองไม่คิดจะสู้จะต่อต้านใคร ทุกวันนี้รับเอาลูกชาวบ้านมาบวชมาขัดเกลา อยู่ๆจะให้ถ่านกลายเป็นเพชรทันทีก็คงไม่ได้ จึงเป็นเรื่องธรรมดา ที่อาจเจอพระเถรเณรชี ที่ประพฤตนผิดพลาดเป็นเหตุให้ศาสนามัวหมอง นั่นก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้ารายบุคคลครับ แต่สำหรับในแง่ของภาพยนต์ ส่วนตัวผมเห็นว่า เมื่อสร้างออกมาแล้ว คนดูเป็นล้านคน จะเกิดวิกฤติศรัทธาต่อพุทธศาสนาอย่างมาก จึงไม่สมควรที่จะอนุญาติให้มีการนำเสนอฉายภาพยนต์ ที่ส่อเนื้อหาอันเป็นการบันทอน 3 สถาบันหลักของชาติไทยครับ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวครับ
กลับกัน ผู้สร้าง น่าจะสร้างหนัง ที่จรรโลงใจในด้านบวก เช่น หนังประวัติศาสตร์ศาสนาพุทธในไทย ว่ามายังไง พุทธศาสนาให้อะไรในสังผมบ้าง เป็นพื้นฐานของ จารีตประเพณีในสังคมไทยอย่างไร ความงดงามของวัฒณธรรมที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประเพณีเทศกาลต่างๆ แง่ดีทั้งนั้น ทำไมไม่หยิบยก
อีกอย่างก็คือ คณะสงฆ์ในประเทศไทย มี3แสนรูป วัดอีก3หมื่นวัด มีที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อุทิศชีวิตรักษาสืบอายุพุทธศาสนาก็มีมากมาย ทำไมไม่มองท่านเหล่านั้นบ้าง
ส่วนเรื่องประเด็นหนังแม่เบี้ยกอดจูบ ขายฉากเซ็กส์ นั่นเป็นโลกีวิสัยของมนุษย์สุดจะเยียวยา ผมไม่ขอพูดถึงเพราะมันกู่ไม่กลับ
นี่เป็นความเห็นส่วนตัว ใครจะถกเถียงอย่างไร ก็ตามอัถยาศัยครับ
อีกมุมมอง แบนหนัง อาบัติ
จริงอยู่ในมุมของภาพยนต์ ได้นำเสนอเรื่องจริงที่เป็นด้านมืดในวงการสงฆ์ เพื่อจุดประสงค์อันใดก็สุดแล้วแต่เจตนาของผู้สร้างครับ แต่เนื่องจากมีประชาชนหลายคน คิดกันไปเองว่าภาพยนต์เรื่องนี้ มีเจตนาตีแผ่ความฉาวโฉ่ของวงการผ้าเหลือง ซึ่งถ้าผู้สร้างมีเจตนาเช่นนั้นจริง ผมก็ขอประนามหนังเรื่องนี้ว่า มีเจตนาที่ทุเรศ
สถาบันศาสนา หรือวงการสงฆ์ นับตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึงทุกวันนี้ ท่านลืมแล้วหรือว่า ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของชาติไทยเรา ล้วนแล้วเกิดขึ้นมาจากรากฐานของพุทธศาสนาทั้งสิ้น การที่คุณจะยกเอาข้อเสื่อมเสียของวงการศาสนามาตีแผ่ มันจะทำให้กลุ่มคน จำนวนหนึ่ง ย้ำว่าแค่จำนวนหนึ่ง แต่อาจจะมากเป็นล้านคน ที่มีศาสนาแค่ในทะเบียนบ้าน ไม่เข้าใจคำสอนและธรรมวินัยของสงฆ์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หรือไม่มีความรู้ในเรื่องศาสนาเลย แถมตนเองยังเป็นผู้ทุศีล ไม่ปฏิบัติตามคำสอนอีกด้วย คนแบบนี้ผมเชื่อว่า ถ้าเห็นข้อเสื่อมข้อเสียของวงการสงฆ์ เขาเหล่านั้น จะพากันรุมกระหน่ำซ้ำเติม ให้ไม้ที่กำลังจะล้ม ต้องถูกเหยียบย่ำจนจมดินอย่างแน่นอน
คนเหล่านั้น โดยเฉพาะเยาวชน จะพากันมองวงการศาสนาว่า ไม่จริง ไม่แท้ คำสอนจากพระไม่สนใจ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็แทบจะเป็นอย่างนั้น และบรรดาสื่อมวลชนก็ชอบที่จะลงข่าวด้านเสียๆของวงการสงฆ์อยู่แล้วด้วย เมื่อเยาวชนคนในชาติขาดความเชื่อเถือนับถือบุคลากรของศาสนา ศีลธรรม จริยะธรรม ก็จะไม่ศักสิทธิอีกต่อไป ผมไม่ได้เหมาว่าทั้งหมด แต่อย่างน้อยมันต้องมีผลพวงจากหนังเรื่องนี้บ้างแหละครับ ไม่มากก็น้อย
อย่าลืมนะครับว่าสถาบันศาสนา เป็นสถาบันหลักของชาติ คุณลองคิดดูหากผู้สร้างหนัง ลองเปลี่ยนมาเป็นมุมมองที่เสื่อมเสียของสถาบันหลักอื่นๆ เช่น ความเสื่อมของประเทศชาติ ความเสื่อมของประชาชนชั้นปกครอง หรือด้านอื่นๆ ผู้สร้างคงไม่กล้า หากแต่วงการสงฆ์ท่านไม่มีกฏหมายคุ้มครองไม่คิดจะสู้จะต่อต้านใคร ทุกวันนี้รับเอาลูกชาวบ้านมาบวชมาขัดเกลา อยู่ๆจะให้ถ่านกลายเป็นเพชรทันทีก็คงไม่ได้ จึงเป็นเรื่องธรรมดา ที่อาจเจอพระเถรเณรชี ที่ประพฤตนผิดพลาดเป็นเหตุให้ศาสนามัวหมอง นั่นก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้ารายบุคคลครับ แต่สำหรับในแง่ของภาพยนต์ ส่วนตัวผมเห็นว่า เมื่อสร้างออกมาแล้ว คนดูเป็นล้านคน จะเกิดวิกฤติศรัทธาต่อพุทธศาสนาอย่างมาก จึงไม่สมควรที่จะอนุญาติให้มีการนำเสนอฉายภาพยนต์ ที่ส่อเนื้อหาอันเป็นการบันทอน 3 สถาบันหลักของชาติไทยครับ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวครับ
กลับกัน ผู้สร้าง น่าจะสร้างหนัง ที่จรรโลงใจในด้านบวก เช่น หนังประวัติศาสตร์ศาสนาพุทธในไทย ว่ามายังไง พุทธศาสนาให้อะไรในสังผมบ้าง เป็นพื้นฐานของ จารีตประเพณีในสังคมไทยอย่างไร ความงดงามของวัฒณธรรมที่เกิดขึ้นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ประเพณีเทศกาลต่างๆ แง่ดีทั้งนั้น ทำไมไม่หยิบยก
อีกอย่างก็คือ คณะสงฆ์ในประเทศไทย มี3แสนรูป วัดอีก3หมื่นวัด มีที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ อุทิศชีวิตรักษาสืบอายุพุทธศาสนาก็มีมากมาย ทำไมไม่มองท่านเหล่านั้นบ้าง
ส่วนเรื่องประเด็นหนังแม่เบี้ยกอดจูบ ขายฉากเซ็กส์ นั่นเป็นโลกีวิสัยของมนุษย์สุดจะเยียวยา ผมไม่ขอพูดถึงเพราะมันกู่ไม่กลับ
นี่เป็นความเห็นส่วนตัว ใครจะถกเถียงอย่างไร ก็ตามอัถยาศัยครับ