สวัสดีค่าาาา ก่อนอื่นต้องบอกเลยนะคะว่าพี่คนนี้เขามีแฟนแล้ว(อย่าด่าเก๊าน้าาาT_T) เราเปนนักศึกษาฝึกงานค่ะ
ไม่ได้จะแย่งแฟนเขานะคะ คืออยากได้ไลน์เขาไว้คุยเฉยๆ หรือมีไว้ประดับบารมีเครื่องก็ได้อ่ะ 555555555555
เรากลัวว่าถ้าฝึกงานเสร็จแล้วต้องจากกันไปจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วจะลืมเขาน่ะค่ะ อีกอย่างคือกลัวเขาลืมเรามากกว่า
ตอนแรกเราก็แค่ปลื้มเขาเฉยๆ ค่ะจนตอนนี้กลายมาเปนชอบแล้ว คือพี่เขาชอบทำตัวแบบอ่อยเราอ่ะ(หรือคิดไปเอง?555555555555)
เราขอแทนชื่อพี่คนนั้นว่าพี่มิกแล้วกัน ขอเล่าตั้งแต่เริ่มแรกเลยนะที่รู้จักกัน
ตอนแรกเราก็ไม่ได้ชอบ ไม่ได้ปลื้มอะไรนะคะ เรากลัวเขาด้วยซ้ำ แต่พอนานวันเข้ามันเริ่มมีความรู้สึกค่ะ ขอเล่าเปนเหตุการณ์นะคะ
เหตุการณ์แรกที่ได้เจอกัน.. (ยังไม่รู้จักชื่อ)
วันนั้นเรามาทำงานเปนวันที่ห้าค่ะพวกเรื่องงานหรือพวกเอกสารเราก็ยังทำไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่
ที่ออฟฟิตเราจะมีพนักงานน้อยคนค่ะ(แต่เงินเดือนหนัก วันหยุดเยอะ เปิดตลอด24 และไม่ค่อยจะมี ผช.แท้ๆ เลย55555555 พี่มิกคือผู้รอดชีวิตค่ะ)
เวียนๆ กันไป วันนั้นพี่มิกนั่งโต๊ะคอนโทรลพอดีค่ะ(โต๊ะที่เปนคนเซ็นเกี่ยวกับเวลาเข้า-ออกงานและทำเอกสารทุกอย่างของวันนั้น)
แล้ววันนั้นบังเอิ๊ญญญญญ เรามาเข้างานสายพอดีพี่เขาก็จะต้องเปนคนเซ็นค่ะและก็พูดขึ้นมาว่า "สายมากนะ"
เราก็แบบ.. 10 นาทีเองแกรรรรร๊ หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีบทสนทนาอะไรเกิดขึ้นอีกเลยค่ะจนถึงเวลาที่จะต้องไปทำงานนอกออฟฟิต(พบลูกค้า)
เราที่เป็น นศฝ ก็ต้องไปปริ้นเอกสารที่มีรายชื่อของจำนวนลูกค้าทั้งหมดและเราจำไม่ได้ว่าต้องปริ๊นยังงัยค่ะเพราะมันเปนโปรแกรมอมาดิอุส
ซึ่งเราใช้ไม่เปนเลยสักนี้ดดดดด ไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ แต่เด็กฝึกงานคนเก่าเคยบอกว่าให้พี่เขาปริ๊นให้ก็ได้(พี่บางคนใจดีค่ะ)
เราก็เดินไปที่โต๊ะคอนโทรลแล้วเริ่มต้นบทสนทนากับพี่มิกอีกครั้ง
เรา : พี่คะ ปริ๊นรายชื่อลูกค้าให้หน่อยค่ะ
พี่มิก : ปริ๊นเองได้ป่ะ ทำเปนมั้ย?
เรา : ไม่เปนค่ะ เหนเพื่อนบอกให้พี่ปริ๊นให้ก็ได้อ่ะค่ะ หนูก็ยังไม่เคยทำ
พี่มิก : นี่มาวันที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย ทำไมยังทำไม่เปน?
เรา : วันที่ 5 ค่ะ
พี่มิก : งั้นเดววันนี้พี่ปริ๊นให้ก่อนแล้วกัน ที่จริงเราต้องเปนคนทำนะ(เสียงดุๆ(คือพี่เขาจะเปนคนหน้านิ่งๆ ค่ะ))
เรา : (อึ้งสิคะ ได้แต่เงียบแล้วก็ดูพี่เขาว่าปริ๊นยังงัย)
วันนั้นเราเข้ากะกับเพื่อนอีกคนนึงค่ะชื่อ อลิซ เราก็ไปถามอลิซค่ะว่าพี่คนนั้นชื่ออะไร ถ้าเขามานั่งโต๊ะคอนโทรลเราจะไม่ไปคุยกับเขาอีก
อลิซก็บอกว่า "เห้ย ปกติพี่เขาใจดีนะ" คืออยากบอกเพื่อนมากว่า เหรออออออ? คือทำหน้าโหดใส่กุขนาดนั้น
พอกลับจากพบลูกค้ากับผู้จัดการเราก็ต้องปริ๊นรายชื่ออีกค่ะว่าคนไหนมา คนไหนไม่มา
อินังอลิซก็ไปเข้าห้องน้ำค่ะ(คิดในใจเมิงมาขี้แตกไรตอนเน้)
เราก็ต้องไปขอพี่มิกปริ๊นอีกค่ะ เขาก็ถามเราว่าทีนี้ปริ๊นเปนยัง? เราก็บอกเปนแล้วค่ะแต่ยังไม่คล่อง เขาก็เลยให้เราลองปริ๊นเองค่ะ
พี่มิก : อ่ะ ไหนลองปริ๊นดิ้ จะดูว่าเปนจิงป่าว
เรา : ได้ค่ะ(นั่งเข้าระบบไปมั่วๆ แล้วก็ชะงักเพราะไปต่อไม่ได้)
พี่มิก : เอ้า ชักช้าจัง พี่จะทำงานอื่นต่อนะ
เรา : เอ่อคือออ หนูจำไม่ได้แล้วอ่ะค่ะ
พี่มิก : แล้วไม่บอกพี่ล่ะ นั่งเอ๋ออยู่นั่นแหละ มาเดวสอน
แล้วพี่เขาก็อ้อมมาข้างหลังเราค่ะ(อย่าเพิ่งคิดว่าจะเหมือนกอดนะคะ ไม่ใช่เลย5555555555)
พี่มิก : เอ้า เอามือ ออกจากเม้าส์ดิ จะให้พี่จับมือรึไง?
เรา : เอ่ออออ.. ค่ะๆๆๆ(แล้วเราก็ลุกจากเก้าอี้ตรงนั้น แล้วพี่เขาก็สอนว่าต้องทำอย่างนี้ก่อนนะ ต่อไปอย่างนั้นไรงี้)
พี่มิก : พอจะเข้าใจยัง?
เรา : เข้าใจแล้วค่ะ
พี่มิก : ชื่อไรเนี่ยเรา?
เรา : ชื่อเป้ค่ะ(แล้วเราก็กลับไปนั่งคีย์รายชื่อลูกค้าลงระบบ)
หลังจากวันนั้นมาถ้าเข้ากะไหนตรงกับพี่เขา พี่เขาก็จะเรียกใช้งานเราตลอดเลยค่ะ จะได้ยิน เป้ๆ ตลอดเลย และคำพูดก็ดูสนิทสนมมากขึ้น เช่น
ก่อนจะออกไปพบลูกค้า
พี่มิก : เป้ๆ หนูได้รายชื่อยัง?
เรา : ยังค่ะ กำลังจะไปปริ๊น
พี่มิก : เดวพี่ปริ๊นให้ค่ะ(พี่เขาพูดค่ะ ซึ่งเราแพ้ ผช แบบนี้และเราชอบมากกกกก)
กลับมาจากพบลูกค้า
เรา : พี่มิกคะขอปริ๊นรายชื่อค่ะ
พี่มิก : อ่อ งั้นเดวหนูเอาไฟล์นี้ไปคีย์ให้พี่หน่อย เดวพี่ปริ๊นให้นะคะ^^
เรา : อ่อได้ค่ะ(แล้วเราก็เอาไฟล์ไปคีย์ข้อมูลให้พี่เขาแล้วก็นั่งรอ นานมากกกกกกก รายชื่อก็ยังไม่ได้สักทีคืองานยุ่งมากวันนั้น)
เราเหนพี่เขางานยุ่งเลยเดินไปขอพี่ปริ๊นที่คอมอีกเครื่องนึง พี่เขาบอกใช้งานอยู่ให้ไปปริ๊นที่โต๊ะคอนโทรลนะ
เราเลยต้องเดินไปที่โต๊ะคอนโทรลค่ะ
ตอนนั้นถึงแม้จะสนิทกันมากขึ้นกว่าเดิมแต่ก็ยังกลัวเขาอยู่นะคะเลยไม่กล้าเซ้าซี้อะไร เราก็เดินไปที่โต๊ะคอนโทรลค่ะ
พี่มิก : เอาไรจ๊ะเป้
เรา : รายชื่อค่ะพี่มิก
พี่มิก : เอ้อพี่ลืมมมม งานยุ่งมาก เป้ปริ้นเองเลยนะ ขอโทดๆ
เรา : ไม่มีปัญหาค่ะ
พอก่อนที่เราจะกลับบ้านจะมีกะต่อไปมาเราก็ต้องปริ๊นไว้ให้กะต่อไปด้วย(เปนกะดึก) เลยต้องเดินไปที่โต๊ะคอนโทรลอีกครั้ง
เรา : พี่มิกคะขอปริ๊นรายชื่ออีกรอบนึง
พี่มิก : อ่อเคจ้ะ งั้นเดวพี่ปริ๊นให้นะ ไถ่โทษที่เมื่อกี้ไม่ได้ปริ๊นให้ ขอโทดอีกครั้งนะ
เรา : อ่ะเครรร ได้เลยค่ะ (หลังจากนั้นพี่เขาก็จะปริ๊นให้ตลอด)
เวลาที่เจอพี่เขาทุกวันเราก็ไม่เคยเหนพี่เขายิ้มเลยนะคะ เรายังคิดเลยว่าอิพี่คนนี้มันยิ้มเปนป้ะฟ้ะ-*-
นอกจากเวลาที่พี่ที่ออฟฟิตเขาเล่าเรื่องตลกๆ กันเขาก็จะขำแค่ "หึๆ" แค่นั้น ไม่เค๊ยยย ไม่เคยเหนพี่เขายิ้มเลยสักครั้งเดียว
เมื่อก่อนเวลาที่อยู่ในออฟฟิตกันสองคนเวลาเขาก็จะใช้งานก็จะเรียก "เป้จ๋าาาาาา มาเอาไฟล์ไปเก็บให้พี่หน่อยจิ" ทำแอ๊บแบ๊วใส่
บางทีก็ "เป้คะ มาหาพี่หน่อยเร็วใช้งานหน่อยค่ะ" เราก็จะแบบ "ค่าาาา หวานเชียวเวลาจะใช้งานเนี่ย"
พี่เขาก็พูดค่ะ จ๋า คะ ขา กับหลายคนนะคะ แต่จะชอบเรียกชื่อเราตลอด แต่เพื่อนเราบางคนก็บอกไม่เคยเหนเขาเรียกแบบนี้กับมันเลย
จนพักหลังมานี้เริ่มสนิทกัน ไม่กลัวเขาแล้วค่ะ กลายเปนปลื้มเขามันเริ่มจากวันที่ออกไปพบลูกค้ากับเขาแล้ววันนั้นเราเข้ากะดึกคนเดียว
บริษัทที่เราทำมีแต่ลูกค้าฝรั่งค่ะคือพี่เขาก็คุยกับฝรั่ง พูดภาษาอังกฤษได้ ฝรั่งเศสได้เราก็แบบ โอ้ยยยยย ปลื้ม(คือเราชอบ ผช ที่พูดภาาาอังกฤษได้ค่ะ)
เราก็แอบมองเขาค่ะ เขาดูมีเสน่ห์เวลาพูดคุย จะยิ้มแบบธรรมชาติ ซึ่งเหนได้ยากมากกกกกกกก แล้วช่วงนั้นพายุเข้า ฝนตกพอดี๊พอดี
พอพบลูกค้าเสร็จเราก็ต้องเดินไปขึ้นรถกลับออฟฟิตค่ะ(พี่เขาเปนคนขับ)
เขาก็เอายูนิฟอร์มที่เปนสูทหนาๆ ของบริษัทกางกันฝนให้เขาแล้วก็เดินไปค่ะ เราก็แบบอ้าววววว
เรา : เห้ยยย นี่พี่มาคนเดียวช้ะะะ ใช่ดิมีสูทหนิ
พี่มิก : เอ้าาา พี่มองไม่เหน โทดๆๆ สงสัยเราเตี้ยเกินไป 55555555
เรา : อเมซิ่งงงงง
พี่มิก : อะไรอเมซิ่ง?
เรา : นี่พี่หัวเราแบบนี้เปนด้วยอ่อ?(ไม่เคยเหน55555)
พี่มิก : เอ้าาา นี่คนนะเว้ย ทำไมจะหัวเราะไม่เปนล่ะคะ
เรา : ก็ไม่เคยเหนหนิคะ
พี่มิก : เดี๊ยะๆ เดวไม่ต้องกลับบริษัทเลย
เรา : โอ๋เอ๋ขอโทดน้าาาา
แล้วพี่เขาก็เอาสูทกางคลุมพี่เขาแล้วก็มาคลุมหัวเราไว้ด้วย
พอขึ้นรถเราก็หันไปเหนแขนอีกข้างนึงของพี่เขาเปียกซ่กจนถึงไหล่แต่ตัวเราไม่เปียกเลยสักกะนี้ดดดดด เดียวก็เลยแซวๆ เขา
เรา : แหม่ เปนห่วงเก๊าหรอออ แขนนี่ซ่กเชียวน้าาาา
พี่มิก : เห้ยย บ้าป่าว ฝนมันสาดพี่พอ(หน้าแดงด้วย นั้ลลากกกกก-///-)
เรา : อ่อออ หนูไม่เหนโดนเลยอ่ะ
พี่มิก : แหม่ ก็เดินเบียดพี่ซะขนาดนั้น กลัวตัวเองเปียกแต่ไม่กลัวพี่เปียกเล้ยยยย
เรา : มั่วล่ะๆ เดินห่างเปนกิโลค่ะคุนชายยยย(สาบานได้ ห่างจิงๆ)
พี่มิก : นั่งเงียบๆ ไป เดะถีบลงรถเลยหนิ(ยังหน้าแดงอยู่)
ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นมาทำให้เราปลื้มเขาค่ะ เขาคงไม่รู้สึกอะไรหรอก แต่ใจเรานี่เต้นแรงมากเลยแล้วก็คิดไปว่า คงแค่ทำหน้าที่สุภาพบุรุษเท่านั้น..
ต่อมาเรื่อยๆ เขาก็ใจดีกับเรามากขึ้น พูดคะ ขา กับเราตลอด แล้วก็ไม่ค่อยเหนพูดกับคนอื่นแล้ว คือจะพูดกับเราแค่คนเดียว
บริษัทเรามีต้องไปดูงานที่สนามบินด้วยแล้วก็ได้ขึ้นไปบนเครื่องบินด้วยซึ่งตอนนั้นเราเลิกงานแล้วก็เลยขอตามพี่เขาไปด้วยค่ะ
เรา : เพ่มิกกกกก ขอไปด้วยได้ป้ะ อยากไปดูเครื่องบินอ้ะ
พี่มิก : ไปดิ เดวพาขึ้นเครื่องบินด้วย
เรา : เห้ยดีอ่ะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยขึ้นเลยยยย
พี่มิก : ก็นี่งัยพาไปแล้ว มีเฟิร์สคลาสด้วยนะ
เรา : ดีอ้าาาาา (แล้วพี่เขาก็ยิ้มคนเดียว คือเราสังเกตน่ะ ตั้งแต่ปลื้มก็แอบมองเขาตลอดเลย)
พี่มิก : ฮั่นแน่ะ แอบมองความหล่อของพี่อีกแล้วนะเรา
เรา : เห้ยป่าว ไม่ได้มองงงง
พี่มิก : เหนหลายครั้งล้ะ แอบมองพี่แล้วก็ชอบทำหน้าหื่นๆ ตลอด มองไรคะ?
เรา : ป่าวสะหน่อย แล้วพี่ยิ้มไรคะ?
พี่มิก : เอ่อะ อ่อ ก็พี่แค่ไม่เคยพาน้องคนไหนไปสนามบินกับพี่งัย นี่คนแรกเลย(แล้วพี่เขาก็ยิ้มแบบเขินๆ)
เรา : (เขินนนนนนนนนน ตายค่าาากรูว์ ตายคร่าาาา)
เราก็ไม่รู้ว่าพี่เขาพูดจริงรึป่าวนะ วันต่อมาพอทำงานกับเพื่อนกะเดียวกันอีกคนนึงที่เปนเด็กเก่าเลยถามว่าเคยมีใครไปสนามบินบ้างป้ะ
คำตอบที่ได้คือ..................
แอบชอบพี่ที่ทำงานสุดโหด ทำยังงัยถึงจะได้คุยกับพี่เขาแบบเนียนๆ(เราฟินนนนน ขอปรึกษา18+)
ไม่ได้จะแย่งแฟนเขานะคะ คืออยากได้ไลน์เขาไว้คุยเฉยๆ หรือมีไว้ประดับบารมีเครื่องก็ได้อ่ะ 555555555555
เรากลัวว่าถ้าฝึกงานเสร็จแล้วต้องจากกันไปจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วจะลืมเขาน่ะค่ะ อีกอย่างคือกลัวเขาลืมเรามากกว่า
ตอนแรกเราก็แค่ปลื้มเขาเฉยๆ ค่ะจนตอนนี้กลายมาเปนชอบแล้ว คือพี่เขาชอบทำตัวแบบอ่อยเราอ่ะ(หรือคิดไปเอง?555555555555)
เราขอแทนชื่อพี่คนนั้นว่าพี่มิกแล้วกัน ขอเล่าตั้งแต่เริ่มแรกเลยนะที่รู้จักกัน
ตอนแรกเราก็ไม่ได้ชอบ ไม่ได้ปลื้มอะไรนะคะ เรากลัวเขาด้วยซ้ำ แต่พอนานวันเข้ามันเริ่มมีความรู้สึกค่ะ ขอเล่าเปนเหตุการณ์นะคะ
เหตุการณ์แรกที่ได้เจอกัน.. (ยังไม่รู้จักชื่อ)
วันนั้นเรามาทำงานเปนวันที่ห้าค่ะพวกเรื่องงานหรือพวกเอกสารเราก็ยังทำไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่
ที่ออฟฟิตเราจะมีพนักงานน้อยคนค่ะ(แต่เงินเดือนหนัก วันหยุดเยอะ เปิดตลอด24 และไม่ค่อยจะมี ผช.แท้ๆ เลย55555555 พี่มิกคือผู้รอดชีวิตค่ะ)
เวียนๆ กันไป วันนั้นพี่มิกนั่งโต๊ะคอนโทรลพอดีค่ะ(โต๊ะที่เปนคนเซ็นเกี่ยวกับเวลาเข้า-ออกงานและทำเอกสารทุกอย่างของวันนั้น)
แล้ววันนั้นบังเอิ๊ญญญญญ เรามาเข้างานสายพอดีพี่เขาก็จะต้องเปนคนเซ็นค่ะและก็พูดขึ้นมาว่า "สายมากนะ"
เราก็แบบ.. 10 นาทีเองแกรรรรร๊ หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีบทสนทนาอะไรเกิดขึ้นอีกเลยค่ะจนถึงเวลาที่จะต้องไปทำงานนอกออฟฟิต(พบลูกค้า)
เราที่เป็น นศฝ ก็ต้องไปปริ้นเอกสารที่มีรายชื่อของจำนวนลูกค้าทั้งหมดและเราจำไม่ได้ว่าต้องปริ๊นยังงัยค่ะเพราะมันเปนโปรแกรมอมาดิอุส
ซึ่งเราใช้ไม่เปนเลยสักนี้ดดดดด ไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ แต่เด็กฝึกงานคนเก่าเคยบอกว่าให้พี่เขาปริ๊นให้ก็ได้(พี่บางคนใจดีค่ะ)
เราก็เดินไปที่โต๊ะคอนโทรลแล้วเริ่มต้นบทสนทนากับพี่มิกอีกครั้ง
เรา : พี่คะ ปริ๊นรายชื่อลูกค้าให้หน่อยค่ะ
พี่มิก : ปริ๊นเองได้ป่ะ ทำเปนมั้ย?
เรา : ไม่เปนค่ะ เหนเพื่อนบอกให้พี่ปริ๊นให้ก็ได้อ่ะค่ะ หนูก็ยังไม่เคยทำ
พี่มิก : นี่มาวันที่เท่าไหร่แล้วเนี่ย ทำไมยังทำไม่เปน?
เรา : วันที่ 5 ค่ะ
พี่มิก : งั้นเดววันนี้พี่ปริ๊นให้ก่อนแล้วกัน ที่จริงเราต้องเปนคนทำนะ(เสียงดุๆ(คือพี่เขาจะเปนคนหน้านิ่งๆ ค่ะ))
เรา : (อึ้งสิคะ ได้แต่เงียบแล้วก็ดูพี่เขาว่าปริ๊นยังงัย)
วันนั้นเราเข้ากะกับเพื่อนอีกคนนึงค่ะชื่อ อลิซ เราก็ไปถามอลิซค่ะว่าพี่คนนั้นชื่ออะไร ถ้าเขามานั่งโต๊ะคอนโทรลเราจะไม่ไปคุยกับเขาอีก
อลิซก็บอกว่า "เห้ย ปกติพี่เขาใจดีนะ" คืออยากบอกเพื่อนมากว่า เหรออออออ? คือทำหน้าโหดใส่กุขนาดนั้น
พอกลับจากพบลูกค้ากับผู้จัดการเราก็ต้องปริ๊นรายชื่ออีกค่ะว่าคนไหนมา คนไหนไม่มา
อินังอลิซก็ไปเข้าห้องน้ำค่ะ(คิดในใจเมิงมาขี้แตกไรตอนเน้)
เราก็ต้องไปขอพี่มิกปริ๊นอีกค่ะ เขาก็ถามเราว่าทีนี้ปริ๊นเปนยัง? เราก็บอกเปนแล้วค่ะแต่ยังไม่คล่อง เขาก็เลยให้เราลองปริ๊นเองค่ะ
พี่มิก : อ่ะ ไหนลองปริ๊นดิ้ จะดูว่าเปนจิงป่าว
เรา : ได้ค่ะ(นั่งเข้าระบบไปมั่วๆ แล้วก็ชะงักเพราะไปต่อไม่ได้)
พี่มิก : เอ้า ชักช้าจัง พี่จะทำงานอื่นต่อนะ
เรา : เอ่อคือออ หนูจำไม่ได้แล้วอ่ะค่ะ
พี่มิก : แล้วไม่บอกพี่ล่ะ นั่งเอ๋ออยู่นั่นแหละ มาเดวสอน
แล้วพี่เขาก็อ้อมมาข้างหลังเราค่ะ(อย่าเพิ่งคิดว่าจะเหมือนกอดนะคะ ไม่ใช่เลย5555555555)
พี่มิก : เอ้า เอามือ ออกจากเม้าส์ดิ จะให้พี่จับมือรึไง?
เรา : เอ่ออออ.. ค่ะๆๆๆ(แล้วเราก็ลุกจากเก้าอี้ตรงนั้น แล้วพี่เขาก็สอนว่าต้องทำอย่างนี้ก่อนนะ ต่อไปอย่างนั้นไรงี้)
พี่มิก : พอจะเข้าใจยัง?
เรา : เข้าใจแล้วค่ะ
พี่มิก : ชื่อไรเนี่ยเรา?
เรา : ชื่อเป้ค่ะ(แล้วเราก็กลับไปนั่งคีย์รายชื่อลูกค้าลงระบบ)
หลังจากวันนั้นมาถ้าเข้ากะไหนตรงกับพี่เขา พี่เขาก็จะเรียกใช้งานเราตลอดเลยค่ะ จะได้ยิน เป้ๆ ตลอดเลย และคำพูดก็ดูสนิทสนมมากขึ้น เช่น
ก่อนจะออกไปพบลูกค้า
พี่มิก : เป้ๆ หนูได้รายชื่อยัง?
เรา : ยังค่ะ กำลังจะไปปริ๊น
พี่มิก : เดวพี่ปริ๊นให้ค่ะ(พี่เขาพูดค่ะ ซึ่งเราแพ้ ผช แบบนี้และเราชอบมากกกกก)
กลับมาจากพบลูกค้า
เรา : พี่มิกคะขอปริ๊นรายชื่อค่ะ
พี่มิก : อ่อ งั้นเดวหนูเอาไฟล์นี้ไปคีย์ให้พี่หน่อย เดวพี่ปริ๊นให้นะคะ^^
เรา : อ่อได้ค่ะ(แล้วเราก็เอาไฟล์ไปคีย์ข้อมูลให้พี่เขาแล้วก็นั่งรอ นานมากกกกกกก รายชื่อก็ยังไม่ได้สักทีคืองานยุ่งมากวันนั้น)
เราเหนพี่เขางานยุ่งเลยเดินไปขอพี่ปริ๊นที่คอมอีกเครื่องนึง พี่เขาบอกใช้งานอยู่ให้ไปปริ๊นที่โต๊ะคอนโทรลนะ
เราเลยต้องเดินไปที่โต๊ะคอนโทรลค่ะ
ตอนนั้นถึงแม้จะสนิทกันมากขึ้นกว่าเดิมแต่ก็ยังกลัวเขาอยู่นะคะเลยไม่กล้าเซ้าซี้อะไร เราก็เดินไปที่โต๊ะคอนโทรลค่ะ
พี่มิก : เอาไรจ๊ะเป้
เรา : รายชื่อค่ะพี่มิก
พี่มิก : เอ้อพี่ลืมมมม งานยุ่งมาก เป้ปริ้นเองเลยนะ ขอโทดๆ
เรา : ไม่มีปัญหาค่ะ
พอก่อนที่เราจะกลับบ้านจะมีกะต่อไปมาเราก็ต้องปริ๊นไว้ให้กะต่อไปด้วย(เปนกะดึก) เลยต้องเดินไปที่โต๊ะคอนโทรลอีกครั้ง
เรา : พี่มิกคะขอปริ๊นรายชื่ออีกรอบนึง
พี่มิก : อ่อเคจ้ะ งั้นเดวพี่ปริ๊นให้นะ ไถ่โทษที่เมื่อกี้ไม่ได้ปริ๊นให้ ขอโทดอีกครั้งนะ
เรา : อ่ะเครรร ได้เลยค่ะ (หลังจากนั้นพี่เขาก็จะปริ๊นให้ตลอด)
เวลาที่เจอพี่เขาทุกวันเราก็ไม่เคยเหนพี่เขายิ้มเลยนะคะ เรายังคิดเลยว่าอิพี่คนนี้มันยิ้มเปนป้ะฟ้ะ-*-
นอกจากเวลาที่พี่ที่ออฟฟิตเขาเล่าเรื่องตลกๆ กันเขาก็จะขำแค่ "หึๆ" แค่นั้น ไม่เค๊ยยย ไม่เคยเหนพี่เขายิ้มเลยสักครั้งเดียว
เมื่อก่อนเวลาที่อยู่ในออฟฟิตกันสองคนเวลาเขาก็จะใช้งานก็จะเรียก "เป้จ๋าาาาาา มาเอาไฟล์ไปเก็บให้พี่หน่อยจิ" ทำแอ๊บแบ๊วใส่
บางทีก็ "เป้คะ มาหาพี่หน่อยเร็วใช้งานหน่อยค่ะ" เราก็จะแบบ "ค่าาาา หวานเชียวเวลาจะใช้งานเนี่ย"
พี่เขาก็พูดค่ะ จ๋า คะ ขา กับหลายคนนะคะ แต่จะชอบเรียกชื่อเราตลอด แต่เพื่อนเราบางคนก็บอกไม่เคยเหนเขาเรียกแบบนี้กับมันเลย
จนพักหลังมานี้เริ่มสนิทกัน ไม่กลัวเขาแล้วค่ะ กลายเปนปลื้มเขามันเริ่มจากวันที่ออกไปพบลูกค้ากับเขาแล้ววันนั้นเราเข้ากะดึกคนเดียว
บริษัทที่เราทำมีแต่ลูกค้าฝรั่งค่ะคือพี่เขาก็คุยกับฝรั่ง พูดภาษาอังกฤษได้ ฝรั่งเศสได้เราก็แบบ โอ้ยยยยย ปลื้ม(คือเราชอบ ผช ที่พูดภาาาอังกฤษได้ค่ะ)
เราก็แอบมองเขาค่ะ เขาดูมีเสน่ห์เวลาพูดคุย จะยิ้มแบบธรรมชาติ ซึ่งเหนได้ยากมากกกกกกกก แล้วช่วงนั้นพายุเข้า ฝนตกพอดี๊พอดี
พอพบลูกค้าเสร็จเราก็ต้องเดินไปขึ้นรถกลับออฟฟิตค่ะ(พี่เขาเปนคนขับ)
เขาก็เอายูนิฟอร์มที่เปนสูทหนาๆ ของบริษัทกางกันฝนให้เขาแล้วก็เดินไปค่ะ เราก็แบบอ้าววววว
เรา : เห้ยยย นี่พี่มาคนเดียวช้ะะะ ใช่ดิมีสูทหนิ
พี่มิก : เอ้าาา พี่มองไม่เหน โทดๆๆ สงสัยเราเตี้ยเกินไป 55555555
เรา : อเมซิ่งงงงง
พี่มิก : อะไรอเมซิ่ง?
เรา : นี่พี่หัวเราแบบนี้เปนด้วยอ่อ?(ไม่เคยเหน55555)
พี่มิก : เอ้าาา นี่คนนะเว้ย ทำไมจะหัวเราะไม่เปนล่ะคะ
เรา : ก็ไม่เคยเหนหนิคะ
พี่มิก : เดี๊ยะๆ เดวไม่ต้องกลับบริษัทเลย
เรา : โอ๋เอ๋ขอโทดน้าาาา
แล้วพี่เขาก็เอาสูทกางคลุมพี่เขาแล้วก็มาคลุมหัวเราไว้ด้วย
พอขึ้นรถเราก็หันไปเหนแขนอีกข้างนึงของพี่เขาเปียกซ่กจนถึงไหล่แต่ตัวเราไม่เปียกเลยสักกะนี้ดดดดด เดียวก็เลยแซวๆ เขา
เรา : แหม่ เปนห่วงเก๊าหรอออ แขนนี่ซ่กเชียวน้าาาา
พี่มิก : เห้ยย บ้าป่าว ฝนมันสาดพี่พอ(หน้าแดงด้วย นั้ลลากกกกก-///-)
เรา : อ่อออ หนูไม่เหนโดนเลยอ่ะ
พี่มิก : แหม่ ก็เดินเบียดพี่ซะขนาดนั้น กลัวตัวเองเปียกแต่ไม่กลัวพี่เปียกเล้ยยยย
เรา : มั่วล่ะๆ เดินห่างเปนกิโลค่ะคุนชายยยย(สาบานได้ ห่างจิงๆ)
พี่มิก : นั่งเงียบๆ ไป เดะถีบลงรถเลยหนิ(ยังหน้าแดงอยู่)
ตั้งแต่เหตุการณ์นั้นมาทำให้เราปลื้มเขาค่ะ เขาคงไม่รู้สึกอะไรหรอก แต่ใจเรานี่เต้นแรงมากเลยแล้วก็คิดไปว่า คงแค่ทำหน้าที่สุภาพบุรุษเท่านั้น..
ต่อมาเรื่อยๆ เขาก็ใจดีกับเรามากขึ้น พูดคะ ขา กับเราตลอด แล้วก็ไม่ค่อยเหนพูดกับคนอื่นแล้ว คือจะพูดกับเราแค่คนเดียว
บริษัทเรามีต้องไปดูงานที่สนามบินด้วยแล้วก็ได้ขึ้นไปบนเครื่องบินด้วยซึ่งตอนนั้นเราเลิกงานแล้วก็เลยขอตามพี่เขาไปด้วยค่ะ
เรา : เพ่มิกกกกก ขอไปด้วยได้ป้ะ อยากไปดูเครื่องบินอ้ะ
พี่มิก : ไปดิ เดวพาขึ้นเครื่องบินด้วย
เรา : เห้ยดีอ่ะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยขึ้นเลยยยย
พี่มิก : ก็นี่งัยพาไปแล้ว มีเฟิร์สคลาสด้วยนะ
เรา : ดีอ้าาาาา (แล้วพี่เขาก็ยิ้มคนเดียว คือเราสังเกตน่ะ ตั้งแต่ปลื้มก็แอบมองเขาตลอดเลย)
พี่มิก : ฮั่นแน่ะ แอบมองความหล่อของพี่อีกแล้วนะเรา
เรา : เห้ยป่าว ไม่ได้มองงงง
พี่มิก : เหนหลายครั้งล้ะ แอบมองพี่แล้วก็ชอบทำหน้าหื่นๆ ตลอด มองไรคะ?
เรา : ป่าวสะหน่อย แล้วพี่ยิ้มไรคะ?
พี่มิก : เอ่อะ อ่อ ก็พี่แค่ไม่เคยพาน้องคนไหนไปสนามบินกับพี่งัย นี่คนแรกเลย(แล้วพี่เขาก็ยิ้มแบบเขินๆ)
เรา : (เขินนนนนนนนนน ตายค่าาากรูว์ ตายคร่าาาา)
เราก็ไม่รู้ว่าพี่เขาพูดจริงรึป่าวนะ วันต่อมาพอทำงานกับเพื่อนกะเดียวกันอีกคนนึงที่เปนเด็กเก่าเลยถามว่าเคยมีใครไปสนามบินบ้างป้ะ
คำตอบที่ได้คือ..................