ถ้าเชื่อพระเจ้าแล้วชีวิตเป็นแบบนี้ เลิกเชื่อดีกว่า

เราเกิดในครอบครัวคริสเตียน ตั้งแต่เล็กจนโตเชื่อพระเจ้ามาตลอด ไปโบสถ์ตลอด ไม่เคยนอกลู่นอกทาง แต่เราไม่รู้สึกว่าเราได้รับการเจิมหรือสัมผัสพระวิญญาณบริสุทธิ์เลย เพียงแต่ชีวิตก็มีสันติสุขดี เวลามีความทุกข์ยาก มีปัญหา พระเจ้าก็ทรงมาทันเวลาเสมอ แต่พอเราแต่งงาน ทั้งๆ ที่เชื่อฟังพระเจ้า คือยอมที่จะแต่งงานกับผู้ชายจนๆ ที่รักพระเจ้า เราไม่คิดเลยว่าพระเจ้าจะใจร้ายกับชีวิตของคริสเตียนคนหนึ่งได้ถึงขนาดนี้ เริ่มจากสามีกู้เงินมาลงทุน แต่โดนโกง คือเจ้าของกิจการเดิมหลอกว่าที่ตรงนี้ต่อสัญญาได้เรื่อยๆ แต่เอาเข้าจริง เจ้าของที่ทำหนังสือแจ้งเจ้าของเดิมไปแล้วว่าจะเอาที่ไปทำอย่างอื่น แต่เขามาหลอกเซ้งต่อให้เรา สรุปว่าเงินสูญไปล้านกว่าบาท ทั้งที่เป็นเงินกู้แบบเอาบ้านไปจำนอง เราต้องใช้เงินเดือนเราเองจ่ายหนี้ทุกเดือน เพราะธุรกิจแฟนไม่มีแล้ว แต่เงินแต่ละเดือนก็ไม่พอ เราต้องสมัครบัตรกดเงินสดเพื่อเอาเงินมาจ่ายค่างวด สมัครสินเชื่อส่วนบุคคลเอาเงินมาใช้จ่าย ต้องขายทรัพย์สิน เช่น โน้ตบุ้ค กล้อง ทอง ขายจนไม่เหลือ เราพยายามแระกาศขายบ้านมาใช้หนี้ แต่ประกาศขายมานานก็ขายไม่ได้ อุตส่าห์อดอาหารอธิษฐานเวลามีคนมาดูบ้าน ขอให้ขายได้ แต่ก็ขายไม่ได้ แฟนเราจบไม่สูง รายได้เขาน้อยไม่พอกิน จึงอุตส่าห์คิดหาลู่ทางทำธุรกิจแต่ก็มาโดนโกง ทั้งๆ ที่เราอธิษฐานก่อนตัดสินใจลงทุน เราเชื่อมาตลอดว่าพระเจ้ารักเรา เชื่อว่าพระเจ้าจะช่วยให้เราพ้นจากสภาพนี้ แต่นี่เรารอมาเกิน 2 ปีแล้ว ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลย เราตัดสินใจแล้วว่าจะปล่อยให้ธนาคารฟ้อง เพราะเราไม่มีสิทธิ์กู้เงินเพิ่มแล้ว แฟนเราพยายามหางานเสริมทำ แต่เงินก็ยังไม่พอจ่ายหนี้แต่ละเดือน เราเองทำงานประจำ เงินเดือนก็ไม่พอค่าใช้จ่าย เพราะทุกวันนี้เป็นหนี้เพิ่มเรื่อยๆ เราอธิษฐานมา 2 ปีกว่า พระเจ้าไม่ตอบอะไรเลย แม้แต่สัญญาณอะไรที่พอจะเป็นความหวังก็ไม่มี แฟนเรายังคงรักพระเจ้าและทำงานรับใช้ แต่เราบอกตรงๆ ว่าเราหมดใจแล้ว เราคิดว่าพระเจ้าเกลียดเรา ฟังคำพยานของพี่น้องแล้ว เรายิ่งรู้สึกว่าพระเจ้าเกลียดเรา และรักแค่บางคน ช่วยแค่บางคน ตอนนี้เราเลิกอธิษฐานแล้ว เพราะหมดหวังกับพระเจ้าแล้ว พระองค์คงเลือกคนที่จะช่วย และคนนั้นก็ไม่ใช่เรา ตอนนี้เราคิดว่า พระองค์คงไม่ได้รักมนุษย์ทุกคนอย่างที่พระคัมภีร์บอกหรอก และพระเจ้าก็ไม่ได้ทรงพระเมตตาอย่างที่พวกครูรวีสอนเราตอนเด็กๆ เราจะเลิกเป็นคริสเตียนดีมั้ย