รู้สึกอย่างไร เมื่อแม่แสดงความรักแบบสองมาตฐาน??

กระทู้คำถาม
ก็พอเข้าใจนะค่ะ ว่าลูกทุกคนรักแม่ และแม่ก็รักลูกตัวเองทุกคน แต่จะเท่าหรือไม่เท่านี่บางทีการแสดงออกของแม่ก็ทำให้ฉันอดน้อยใจไม่ได้เลยค่ะ
คือขออธิบายลักษณะของแม่เรานะ ...แม่เราเป็นคุยเก่ง เข้ากับคนง่าย เชื่อคนง่าย  แต่ถ้าใครอยู่ใกล้ก็ต้องชอบค่ะ ..เราก็รักแม่มากค่ะ แม่ไม่เคยตะคอกเราเลยสักครั้งค่ะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นแม่ตะคอกเลยค่ะ ..แต่ในความรัก ก็มีความไม่เข้าใจปนอยู่ ว่าสิ่งที่แม่ทำมันคืออะไร แล้วทำไม...แม่ถึงให้ความรักเราไม่เท่ากัน!!!!
จะลองยกตัวอย่าง ที่เป็นอยู่ทึกวันนี้นะค่ะ.....
-ตอนเด็กๆ ประมาณ  6-7 ขวบได้ค่ะ เคยเเกล้งน้องสาวด้วยการตีแบบหยอกเบาๆที่แขนพร้อมจั้กกะจี้ สีหน้าเราก็หัวเราแบบ เห้ย แฮปปี้อ่ะ แบบได้เล่นกับน้องประมาณนี้  (น้องสาวหัวปีท้ายปีกับเราค่ะ) แต่น้องไม่สนุกด้วย แม่เดินผ่านมาพอดี น้องสาวเลยวิ่งไปเกาะขาแม่แลับอกว่าเราตีเข่า เขาเจ็บ แม่ก็หน้าเปลี่ยนสีเลยทะเลาะ อยู่ๆก็โกรธเราเหมือนเราไปทำอะไรร้ายแรงมากๆมา ตอนนั้นแม่พึ่งอาบน้ำเสร็จ ในมือถือเสื้อชั้นใน แม่ก็เอาเสื้อชั้นในมาฟาดที่ตัวเรา พร้อมถามว่าแกล้งน้องทำไมๆๆๆ แม่ตีตัวเราแบบโมโห ตอนนั้น เราตกใจมากค่ะ ที่แม่ทำเราแบบนี้ทำไม เราผิดมากขนาดนั้นเลยหรือแม่ เศร้า มันเป็นคำถามที่ฝังใจ และภาพนั้นก็ติดอยู่ในใจมาถึงทุกวันนี้ค่ะ
- เวลามีเรื่องเล่า หรือเหตุการณ์สำคัญๆของเครือญาติ เช่น ญาติแต่งงาน ญาติเสียชีวิต หรือมีอะไรน่ารู้ที่เกิดขึ้นกับคนใกล้ชิดของทางครอบครัว บ่อยครั้งดิฉันก็ได้รับรู้เรื่องนั้นเป็นคนสุดท้าย หรือบางทีก็ไม่รู้เลย เพราะแม่จะเล่าให้น้องสาวฟังตลอดค่ะ เหมือนมีอะไรก็คุยกับน้องสาวแค่คนเดียว ทั้งๆที่เราก็อยากคุยกับแม่ใจจะขาดเหมือนกัน แต่เค้าไม่มาเล่าหรือบอกอะไรเราเหมือนคุยกับน้องสาวบ้างเลย
- มาถึงเรื่องเงินบ้าง เราเรียนอยู่ปีหนึ่ง (ปกติ เรียนปี2 แล้วค่ะ เราซิ่ว) ทำให้เรียนปีเดียวกับน้องสาว น้องสาวเรียนมาเลเซียค่ะ ส่วนเราซิ่วมาเรียนมหาลัยในไทย เอกชน เราเลยคิดกู้เงินเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระแม่ดีกว่า (เราคิดแบบนั้นจริงๆนะค่ะ) และทุกๆเดือน ทางบ้านจะส่งเงินให้ใช้เดือนละ5000 บาท ทั้งเราทั้งน้องเลยค่ะ คนละ5000บาท แม่ชอบโทรมาย้ำเสมอให้เราประหยัด อย่าซื้อของไม่จำเป็น แต่มีเวลานานๆทีเรากลับบ้าน เราชอบโชว์เสื้อตัวใหม่ให้แม่ดูค่ะ. ก็โดนบ่นกลับมาเลยรถ ว่าซื้อทำไม เปลืงเงินเกินไปนะ จนเราหงอยไปเลยค่ะ แต่เวลาที่น้องสาวมีอะไรใหม่ๆมา ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เสื้อผ้า หรืออะไรก็ตาม ซึ่งราคาสูงกว่าแน่นอนค่ะ (เพราะน้องสาวเราใช้เสื้อมือหนึ่ง เราชอบเสื้อมือสองค่ะ ) เมื่อแม่เห็น แม่รู้ แม่กลับอมยิ้ม ไม่ก็ชมเลยค่ะ ว่าสวยนะ เลือกเก่งนะ ....  ต่อมน้อยเนื้อน้อยใจพลุกพล่านเลยค่ะวินาทีนั้น
-มีครั้งหนึ่งตอนจบมัธยมปีที่3ใหม่ๆ จะขึ้น ม4 เราขอพ่อเรียนที่นนทบุรี เป็น ร ร ในฝันเราเลยค่ะ ฝันอยากเรียนมานานตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่เราต้องมากินแห้วค่ะ. เพราะพ่อไม่ให้ไป พ่อให้เรียนที่ๆพ่อเลือกไว้แล้ว แต่เมื่อน้องเรียนจบ ม3 พ่อและแม่พาน้องไปสมัครที่ ร ร ที่เราเคยอยากไปนั่นแหละค่ะ วันไปสมัครเราก็ได้ไปด้วยค่ะ ได้แต่ยืนดู น้ำตาคลอ ตอนนั้นใครถามอะไรก็ไม่ตอบค่ะ. ปากมั่นสั่น น้ำตานี่คลออยู่เต็มเบ้าตาเลยค่ะ คือถ้าเกิดอ้าปากพูดแลัวน้ำตาไหลแน่นอนค่ะ
-มาถึงเรื่องนี้บ้างค่ะ ตอนเป็นวัยรุ่น ม5 เรามีแฟนค่ะ แต่ที่บ้านกีดกันไม่อนุญาติให้มีแฟน. ไม่ชอบให้ลูกๆมีแฟน ประมาณนี้ค่ะ เราเลยเลี่ยง เพื่อให้พ่อแม่สบายใจ ภายใต้ความจ้องการคุยของเรา เราเลยออกมาคุยที่ห้องนั่งเล่นตอนดึกๆเป็นบางวันค่ะ. บ้านเราเวลาจะเข้าห้องน้ำก็ต้องผ่านห้องนั่งเล่นค่ะ  ซึ่งมีหลายครั้งมากที่แม่ออกมาเจอเราคุยโทรศัพท์ บางทีแม่ก็มาเข้าห้องน้ำ บางทีแม่ก็ตั้งใจแอบฟังอยู่สักพักแล้วโผล่มา (ใช่ค่ะ เรารู้ตัวว่าแม่แอบฟัง. แต่เพราะเรายังหวังไว้ลึกๆในใจว่าแม่จะเข้าใจเรา ให้แม่ได้ยินในสิ่งที่เราพูด แม่จะได้รู้ว่ามันไม่มีอะไรเกินเลย แต่มันไม่เป็นอย่างที่เราคิด) แม่ด่าเราทุกครั้ง ด่าเหมือนเราหนีตามผู้ชายคนนั้นไปแล้วเลย แต่กลับกัน ช่วงหลังๆ เราไม่คุยโทรศัพท์เลยค่ะ เข้านอนเร็ว มีแต่น้องสาวที่ดูทีวีจนถึงเที่ยงคืนที่ห้องนั่งเล่น ซึ่งเราก็รู้ดีว่าเค้าคุยโทรศัพท์กับแฟนแต่ดูทีวีกลบเกลื่อน และแน่นอนค่ะ แม่เราก็รู้ดี แม่เดินไปเข้าห้องน้ำแล้วเห็นน้องคุย แม่แค่พูดบอกกับน้องว่าอย่านอนดึกนะ. แล้วเดินเข้าห้องไป  คือพอเราเห็นเหตุการณ์เราก็เข้าห้องไปถามแม่เลยว่า แม่นี่มันอะไรอ่ะ น้องทำได้แต่เราทำแล้วแม่ด่าเรานี่น่ะ? แม่พูดประโยคนี้กลับมา"ใครทำอะไรก็ได้กับตัวเอง " ซึ่งเรางงมาก ทุกครั้งที่เราน้อยใจ เราจะถามแม่ตรงๆค่ะ ว่าทำไมเราทำไม่ได้ แม่ก็ชอบตอบคำๆนี้กลับมา ซึ่งมันไม่เครีย พอเราถามมาก ก็หาว่าเราพูดยาก พูดไม่รู้เรื่อง เราเลยกลับมาที่ห้อง เราแอบมานอนร้องไห้ทุกครั้งที่ต้องผิดใจกับแม่เรื่องนี้ เราไม่เข้าใจ ว่าทำไมแม่แสดงอาการไม่เหมือนกันระหว่างสิ่งที่เราทำกับสิ่งที่น้องทำ ซึ่งเรื่องแม่เห็นน้องคุยโทรศัพท์นี่หลายครั้งมากแล้วค่ะ พอเป็นเรา แค่จับโทรศัพท์เล่นโทรศัพท์ ก็ถามทันทีว่าคุยกับใคร ทั้งที่ไม่ได้คุยอะไรเลย แค่หยิบมาดูมาเล่นเกมส์ T____T
-บ้านเรามีสวนมะพร้าวค่ะ มีวันหนึ่ง พ่อขนมะพร้าวมาเต็มรถสามล้อ เอามาให้เราปลอกเปลือก(มีเหล็กที่ใช้แกะค่ะ แต่ต้องใช้ความถนัดพอสมควรจึงจะปลอกเปลือกกับเหล็กนี้ได้) พ่อขนมาเยอะมากค่ะ (70ลูกได้มั้ง) พ่อบอกว่าถ้าแกะหมดนี่ตังค์ที่ขายจะให้เราหมด. (ตีว่าทั้งหมดนี่3500฿ คราวๆนั้นค่ะเราจำไม่ค่อยได้ว่าลูกละเท่าไหร่ในช่วงนั้นถ้าขาย แต่จะบอกว่ามะพร้าวแพงมากค่ะแถวบ้าน) เราเลยตกลง ซึ่งตอนนั้นแม่นั่งอยู่และเห็นเหตุการทั้งหมด พ่อขับรถออกไปเพราะมอบหมายเราแล้ว เราจ้องมองดูกองมะพร้าว และคิดว่าถ้ามัเยอะแบบนี้เมื่อยมือแน่ค่ะถ้าแกะเปลือกอยู่คนเดียว จึงวานแม่ให้มาช่วยหน่อยนะ แล้วแบ่งครึ่ง แม่เอาสองส่วน เราเอาหนึ่งส่วนก็ได้ เราบอกแม่ว่าเราทำทั้งหมดคนเดียวเสร็จไม่ทันส่งขายแน่ แม่ได้ยินที่เราพูด แต่แม่ก็ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน แล้วเดินออกไปหน้าบ้านไปคุยกับญาติๆข้างบ้านเรื่องจิปาทะค่ะ เราก็นั่งทำ ในใจก็คิดว่าเดี๋ยวแม่คุยเสร็จก็คงเข้ามาช่วยเองแหละ ก็ไม่ได้อะไรมากค่ะ แต่นั่นเอง จู่ๆแม่ก็จับมอไซด์และขี่ออกไปอย่างหน้าตาเฉย โดยไม่บอกเราสักคำว่าไปไหน ทั้งๆที่เราสบตาแล้วบอกว่า แม่จะไปไหนแม่ช่วยหนูทำนี่ก่อนดิแม่ ร้องไห้ แม่ขับรถออกไปเลยค่ะ กลับมาอีกทีก็ตอนแกะเปลือกเสร็จหมดทุกลูกค่ะ ทั้ง70ลูกแกะหมด (ดีที่คุณย่าเดินผ่ามาตอนแกะค่ะ ตอนนั้นแกะพลางน้ำตาคลอเบ้าพลาง คิดแต่สิ่งที่แม่ทำในหัว ย่าก็เดินผ่านหน้าบ้าน ถามว่าทำไมทำคนเดียว ย่าเลยเข้ามาช่วยนั่งแกะค่ะ ..คือแกะมะพร้าวเป็นอาชีพของปู่กับย่าตั้งแต่พ่อยังเป็นเด็กค่ะ ย่ามีสวนมะหร้าวซึ่งตอนนี้ก็ยกให้พ่อเป็นที่เรียบร้อยค่ะ) พ่อกลับมาเอามะพร้าวที่เราแกะเสร็จใส่ในกระสอบและพาไปขาย ได้ตังค์มาก็ให้เราทั้งหมด แล้วพ่อก็ขับรถกลับไปทำสวนต่อ ส่วนแม่ที่กลับมาแล้วเห็นตอนเราได้ตังค์ ก็ถามเราเลยว่าไม่ให้แม่บ้างเหรอ? เอามาบ้างแม่จะเอาไปแบ่งให้น้องสาว (ลืมบอกไปค่ะ น้องสาวก็มีค่ะวันนั้น แต่นอนยังไม่ตื่น ซึ่งตอนที่เรานั่งแกะมะพร้าวคือตั้งแต่8โมงเช้า-10โมง และได้ตังค์ค่ามะพร้าวตอนเที่ยงค่ะ ซึ่งตอนนั้นน้องสาวก็เดินมาเห็นเราแกะมะพร้าว2-3ครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร คือมองแล้วหันหลังเดินกลับเข้าห้องไปนอนต่อ. และพึ่งตื่นขึ้นมาอาบน้ำในตอนเที่ยง ซึ่งแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรน้อง ผิดกับวันที่เราตื่นช้านะค่ะ แค่7.30 แม่ก็เดินเข้ามาบ่นแล้วว่าไปเรียนโรงเรียนประจำมาก็ไม่ได้อะไรเลย นอนกินบ้านกินเมือง จนเราทนฟังคำบ่นไม่ไหว ลุกขึ้นไปอาบน้ำ และทำไรเรื่อยเปื่อยโดยไม่นอนเลย ส่วนน้องที่ยังนอนอยู่แม่ก็ไม่เข้าไปปลุกหรือบ่นเลยค่ะ ปล่อยให้นอนจนกว่าจะตื่นเอง คือ..........เห้ออออ!!) เราก็เลยบอกแม่ว่าได้ไงอ่ะแม่เราทำคนเดียว ดีนะที่ย่ามาช่วย แล้วนี่แม่จะให้เราแบ่งเงินให้คนที่นอนอยู่เฉยๆเนี่ยนะ!!? แม่ก็โมโหเลยค่ะ บอกว่าเป็นพี่ประสาอะไร เรื่องเงินไม่รู้จักแบ่งปันน้อง เรากับแม่ผิดใจกันค่ะ พูดไปมาๆจนเราไม่คุยกับแม่ แต่พอค่ำของวันนั้น เราอยู่ไม่ได้ค่ะ ที่ต้องทำให้แม่ไม่สบายใจ เราเลยเอาเงินที่ได้แบ่งให้แม่ไปครึ่งนึงของที่ได้มา ซึ่งแม่จะเอาไปแบ่งให้น้องสาวหรือไม่ อันนั้นเราก็ไม่ว่าค่ะ เราปลงไปเลยค่ะ แม่ก็หายโกรธเรา
-เรื่องโทรศัพท์ไอโฟน..!!!!!!
มันกลายเป็นค่านิยมไปแล้วมั้งค่ะ แต่เราไม่เห่อค่ะ ปัจจุบันเราช้าsumsung galaxy y เครื่องเล็กๆที่ไม่มีกล้องหน้าอ่ะ ซื้อมาจากเงินของเราเองนี่แหละ
แต่น้องเราใช้ ไอโฟน5s. ทีแรกเราไม่ได้สงสัยอะไรสักนิดค่ะ(ก็คิดในใจว่า น้องใช้ไอโฟนเราก็ชื่นชมว่าน้องเก่งเนอะ เก็บตังค์ซื้อใช้ได้เนี่ย )
แต่มีวันนึง เราเล่นโทรศัพท์แม่ พอดีมีไลน์จากเพื่อนแม่เข้ามา แม่อาบน้ำอยู่ เราก็ตะโกนไปบอกว่ามีคนส่งไลน์มานะแม่ แม่ตะโกนกลับมาว่า เปิดดูหน่อย เค้าส่งอะไรมา ตอบกลับให้ด้วย เราก็ทำตามที่แม่สั่งค่ะ พอเสร็จ สายตาบังเอิญไปเห็นกล่องเเชทระหว่างแม่กับน้องสาวค่ะ เราเลยเสียมารยาทไปนิด เปิดดูหน่อยล่ะกัน น่าจะคุยขำๆกันเหมือนที่แม่ไลน์หาเรามั้ง ก็เปิดอ่านค่ะ อ่านไปเรื่อยๆ จนสะดุดที่บทสนทาเรื่องเกรดค่ะ
ย่อๆมา นะ แม่: เป็นไงบ้างลูก
          น้องสาว: สอบอยู่ แม่อย่าลืมนะ หลังสอบที่สัญญากันไว้ ถ้าสอบผ่านแม่จะซื้อไอโฟนให้อ่ะ
                   แม่: ได้จ้ะลูก เพื่อลูก แม่ให้ได้ทุกอย่าง ขอแค่ลูกตั้งใจเรียนก็พอ
          น้องสาว : จ้าา ยิ้ม
      และก็มีบทสนทนาที่ยืดยาว แต่ย่อให้ว่าแม่ได้ซื้อไอโฟนให้น้องสาวจริงๆ
ซึ่งเราอึ้งมากค่ะ เราไม่เคยขออะไรแม่แบบนี้เลย ทั้งๆที่เกดรเราดีทุกเทอม ไม่ได้ยอตัวเองนะค่ะ อันนี้พูดเลย เกรดขึ้นทุกเทอม และอีกอย่างขนาดเราขอตังค์แม่ ยังโดนบ่นๆเลยว่าทำไมใช้เงินหมดเร็วจัง ประหยัดๆหน่อย ทั้งๆที่วันนั้นมันเป็นต้นเดือน เราก็โทรไปถูกวันแล้ว (แม่จะให้เงินทุกๆต้นเดือน)
ผ่านไปสองวันเราทนไม่ไหวค่ะ ถามแม่เลยว่าแม่ซื้อไอโฟนให้น้องอ้อ? แม่ไม่บอกหนูเลยนะ? แม่ก็ตอบว่าไม่ได้ซื้อ ไม่มีตังค์หรอก เศร้า. (แต่ข้อมูลในไลน์ที่คุยกันมันชัดเจนมากนะว่าแม่ได้ซื้อให้น้องสาวจริงๆ เราแค่ไม่เข้าใจว่าแม่จะปิดบังเราไปทำไม?????)
  นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งจากหลายๆเหตุการณ์ที่เราเคยได้เจอมา
จนบางที เราเกิดคำถามอยู่ในหัวค่ะ. ว่าเราเป็นลูกแม่กับพ่อจริงๆรึเปล่า ทำไมความรัก และการดูแลที่เราได้รับมันกลับไม่เหมือนกัน มันทำให้เราน้อยใจ แม้เราจะถามแม่ออกไปทุกครั้งที่เกิดความน้อยใจ แต่คำตอบของแม่ไม่ได้ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นเลยค่ะ
*ปล.เราจะไม่ตั้งคำถามว่าเราเป็นลูกแม่รึเปล่าถ้าไม่รู้เรื่องนี้ค่ะ ......... คือมีญาติสนิทมาเปิดปากความลับให้เราฟังว่า  ก่อนที่พ่อจะมาแต่งงานกับแม่ พ่อเคยถูกจับแต่งงานกับผู้หญิงใกล้ๆบ้านของพ่อที่ทางผู้ใหญ่หาให้ แต่แต่งกันได้ไม่เกินครึ่งปี พ่อก็ไปทำงานที่ภูเก็ตค่ะ ไปเจอกับแม่และปิ้งกับแม่ ส่วนผู้หญิง(ที่แต่งงานกับพ่อนั้น)ตั้งท้อง  พอไปบอกพ่อ พ่อก็บอกว่าไม่ใช่ลูกของพ่อในท้อง (เราก็ไม่รู้หรอกนะว่าความจริงลูกในท้องเป็นลูกใคร แต่ถ้าเป็นลูกพ่อ บอกตรงๆเราสงสารเธอมาก ร้องไห้ ) โดยพ่อให้เหตุผลว่า ผู้หญิงคนนี้เล่นชู้กับชายอื่นหลายคน ผู้หญิงก็เคยตามไปขอให้พ่อกลับมาอยู่ด้วยกัน แต่พ่อไม่เอา สุดท้ายก็อย่ากันค่ะ ผู้หญิงก็ไปมีชีวิตใหม่ พ่อก็แต่งงานกับแม่
((( ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะค่ะ อยากพูดมานานเหลือเกิน อึดอัดมากๆค่ะ เพราะทุกวันนี้ก็เป็นอยู่แบบนี้)))
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่