สวัสัดีครับก่อนที่จะเล่านี่เป็นครั้งแรกของผมที่เข้ามาตั้งกระทู้ ผิดพลาดอย่างไรขอโทษด้วยนะครับ (ส่วนมากจะอ่านอย่างเดียว)
มาเริ่มเลยดีกว่า ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่ามันเป็นความรักที่ผมคิดว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีๆระหว่างเพื่อนสมัยประถมนะครับ(และผมก็ยังตามหามันอยู่)
เมื่อ10กว่าปี ผมได้เข้าไปศึกษาเล่าเรียนอยู่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งแถว สุขภิบาล3 ตรงถนนรามคำแหงนี่แหละครับ เป็นโรงเรียนเอกชน หาไม่ยาก หรอกครับลงสะพานเล็กๆมองซ้ายมือก็เห็นแล้ว ตอนประถมผมก็อยู่กับเพื่อนๆกินเล่นนอนตามประสาเด็กๆ กับเพื่อนคนอื่นๆตอนเด็กๆตอนนั้นคิดว่ามาโรงเรียนก็มานอนมาเล่นกับเพื่อนๆแต่ชวงช่วงหลังๆผมโดนแกล้งเยอะแยะ โดนผลักจนล้มหัวเข่าแตกเลือดอาบก็โดนมาแล้ว จนถึงตอนนี้แผลเป็น มันก็ตราตรึงอยู่เลยครับ ตอนนั้นผมก็มีเพื่อนที่รู้จักอยู่ไม่กี่คนหรอกครับ แต่ที่สนิทกันก็มีอยู่ครับ หยอกล้อและเล่นมาด้วยกันตามประสาเด็กๆที่เขาเล่นกัน ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าผมมารู้จักเขาและสนิทกับเพื่อนคนนี้ได้อย่างไง นึกยังไงก็นึกไม่ออก
ผมจำได้ว่าเขาชื่อ "ดิว'' ส่วนชื่อจริงผมก็จำไม่ค่อยได้ ชื่อจริงเขาเรียกยากอยู่พอสมควร เขาเป็นผู้ชายนะครับ ด้วยความที่เราโชคดีด้วยมั้งครับได้อยู่ห้องเดียวกันมาตลอดน่าจะตั้งแต่อนุบาลเลยมั้งจนถึง ป.4
หลังจากที่ตัวผมสนิทกับ ดิว และรู้จักกันมาระยะนึง ตามประสา สมัยโน้นอ่ะเนอะอย่าคิดไรมาก มีเพื่อนสนิทที่สนิทและเป็นห่วงเราก็ถือเป็นกำไรของชีวิตแล้ว. และเวลามันก็ผ่านไปเรื่อยๆ ที่ผมบอกไว้ข้างบนว่าเรียนถึงแค่ ป.4 นั้นเป็นเพราะว่าผมต้องย้าย จากโรงเรียนเดิมที่อยู่ตอนนั้นมาอยู่อีกโรงเรียนหนึ่งแถวบางกะปิ มาต่อ ป.5 ที่นั้นครับ มันเลยทำให้ผมต้องจากเพื่อนโรงเรียนเก่า โดยที่ผมไม่ได้ลากับเพื่อนคนไหนสักคน ด้วยความที่เราไม่ค่อยรู้ประสีประสาอะไรมากนักให้ไปไหนก็ไปทำอะไรก็ทำนองนี้ มันยังเด็กอะเนอะตอนนั้น หลังจากนั้นเขาก็โทรมาหาผม ที่บ้าน แต่บอกก่อนเลยว่าสมัยโน้นยังไม่มีโทรศัพท์ใช้กันคนละเครื่องเหมือนสมัยนี้นะครับ มีเรื่องอ่ะไรจะคุยกัน สายตรงลูกเดียว เบอร์บ้านเท่านั้นครับ ตอนนั้นแม่ผมก็รับสายตลอดเวลาที่เขาโทรมาหา ตอนแรกผมก็รู้สึกรำคาญนะครับโทรมาจังเลยไอ้คนนี้ แต่บ่นไม่ได้เลย พักหลังๆ เริ่มไม่ค่อยโทรมาคุยเท่าไร นานๆ ที ส่วนมากคุยกันตามประสาเด็กๆบ้านๆล่ะครับ การบ้านโน้นนี่นั้น แต่หลังจากที่ผมออกโรงเรียน ถ อักษรย่อและกันเนอะ ไอ้ดิว คน เนี้ย มันก็โทรมานะ ด้วยความสงสัยหรือเป็นห่วงก็ไม่รู้มัน โทรมาถามว่า ย้ายรร. ไปทำไม ? เพื่อนๆ เขาก็คิดถึงกลับมาเร็วๆเลยนะ ตอนนั้นผมก็ดีใจนะ ว่า เห้ยยย เพื่อนเรามันยังคิดถึงเราว่ะ แต่เราก็ไม่ได้ตอบมันไปนะ ก็เปลี่ยนเรื่องคุย ถามโน้นถามนี้ ก็มีเพื่อนคนอื่นๆโทรมาถามบ้างนะ เเต่ผมก็รู้สึกเฉยๆ ไม่เหมือนกับ ดิว ที่โทรมา เพราะเราสนิทเป็นเพื่อนที่เข้าใจกันมั้ง
แต่หลังจากนั้น...มันก็หายไปเลยนะครับไม่โทรมาหา ไม่อะไรทั้งนั้น ส่วนเราก็เหมือนลงแดง ทำไมไม่โทรมาว้ะ พอได้ยินเสียงโทรศัทพ์ที่บ้าน ดังงง ขึ้น ผมนี่รีบลุกขึ้น ไปรับทันที ไม่สนใจว่าใครจะโทรมา ขอให้มัน คนนั้นโทรมาอย่างเดียวนะตอนนั้น เพราะเราคิดถึงมันด้วยล่ะมั้ง แต่พอรับสายแล้ว ก็ไม่ใช่มัน... เราก็ไม่เสียใจมากนักหรอก แต่หลังจากนั้นเราเลยตัดสินใจ วิ่งออกไปหน้าปากซอย ห่างไม่ไกลจากหน้าบ้านมากหนักเพื่อไปหาตู้โทรศัทพ์หยอดเหรียญ โดยที่อีกมือกำกระดาษเบอร์โทรเบอร์บ้านของมันไว้ ตัดสินใจอยู่ตั้งนานแนะ ในที่สุด....ก็โทรไปหาแม้งเลย ตื่นเต้นมากกกครับตอนนั้น...
อยากคุยก็อยากคุย แต่ผมเป็นคนที่ขี้อายมากๆๆ อายเสียงตัวเองบอกไม่ถูก อ่อลืมบอกไปว่าเบอร์ที่ได้มาก็เหมือน แลกๆกันอ่ะครับตอนเรียน(มั้ง) ก็ขอมาหลายคนอยู่นะครับแต่ ส่วนมาก มีแต่ ดิว นี่แหละ โทรมาถามอยู่ตลอดเราก็ไม่รู้คนอื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะทำไมถึงต้องเลือกโทรไปหามัน งงจนถึงทุกวันนี้
หลังจากที่ผมตัดสินใจโทรไปหาเขา พอรับสายปุ้บ แม่เขารับครับ 555 ตอนนั้น อุส่าดีใจคิดว่า มันจะอยู่แถวนั้นและเดินมารับสาย แต่ผมก็คุยกับแม่เขานะครับ ถามว่า ขอสายดิว หน่อยครับ แม่เขาก็ถามว่า จากไหนคะ ตอนนั้นเราก็นึกในใจ (จากไหนอ่ะไรว้ะ) ผมก็บอกว่า เป็นเพื่อนกับ ดิว ครับ เรียนด้วยกันตอนประถมแล้วคุณแม่เขาก็บอกกลับมาว่า อ่อ ดิว ไปข้างนอก ไปเรียนพิเศษ บลาๆๆๆ แม่เขาก็ถามมาอีกว่า มีอะไรด่วนไหมคะ ผมก็บอกไม่มีครับ งั้นเด็วโทรไปใหม่ครับ ผมวางสายทันที (โห่ตอนนั้นผมนี่โคตรนอยยเลย)แต่ ช่างมัน เด๋วมันก็คงโทรมาหาเองแหละมั้งถ้าคิดถึงกัน5555 นะตอนนั้นนะครับ แต่หลังจากนั้น.....ก็เงียบบบหายไปนาน ปีถึง สองปีได้มั้งครับ ไม่ได้ติดต่อกันเลย
แต่... มันมีเรื่องนึงที่ผมคิดถึงทีไร ก็ยิ้มขึ้นมาทุกครั้งที่นึกถึง หลังจากที่เขาหายไปนานพอควรหลังจากนั้น ก็มีเสียงโทรสับดังขึ้นมา ตอนนั้นผมอยู่หลังบ้านไม่ได้ยินเสียงเลย แล้วแม่ผมก็เรียกว่า เด็กโทรมา ตอนนั้นผมก็คิดแล้วคิดอีก ใครกัน เด็กที่ไหน ก็เดินงง มึนๆ ไปรับโทรศัพท์ ปรากฏว่า ดิว มันโทรมา ถาม ว่าสบายดีไหม เป็นอย่างไงบ้าง ? ต่างๆนาๆ แต่มันมาสะดุด ตรงที่ ดิวมันบอกว่า.....
เนี้ย มันอะพูดคำหยาบได้แล้วนะ แล้ว อ่ะพูดได้ยัง ? ตอนนั้นผม หัวเราะดังรั่นเลย ขำ จริงๆนะ แหม่มีโทรมาอวดเราด้วยว่าพูดคำหยาบได้แล้ว จะบอกว่า สมัยโน้นคำหยาบมันยังเข้ามาไม่ถึงยุคนั้นน่ะครับ ในความคิดผมนะ คนอื่นๆอาจจะพูดบ้าง แต่ สมัยที่ผมเรียนประถมอยู่นั้นส่วนมาก ก็มีแต่ แก เรา เอง เธอ ฉัน มากกว่า ส่วนน้อยมากๆๆที่จะได้ยิน ไม่เหมือนสมัยนี้ พ้นไฟกันตั้งเเต่ ป.1 เลยมั้ง แต่ช่างเถอะครับ เเต่หลังจากนั้นที่เขาโทรมาอวดโน้นนี้นั้นผมก็รู้สึกเหมือนตัวผมจะทำอะไรมันก็มีความสุข มีรอยยิ้มและร่าเริงทั้งวัน จนผมรู้สึกได้อย่างนั้นจริงๆนะครับ แปลกมากๆ
เพราะแบบนี้มั้งครับ ทำให้ผมลืมความทรงจำดีๆแบบนี้ไม่ได้เลย ผมยังนึกถึงมันอยู่ตลอดเวลา จนปัจจุบัน ตอนนี้ผม อยู่ปี 3 แล้วครับ อายุก็20 ปี แล้ว ก็ยังนึกถึง มันอยู่ตลอดเวลา มันคงอยู่ในความทรงจำสมัยเด็กของผมไปแล้วมั้ง เพราะเขาดีกับผมจริงๆ แต่.....หลังจากที่ผมคุยโทรศัพท์ครั้งนั้นมันก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้ยินเสียงเขาอีก มาจนถึงตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าเขา จะไปอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่ มีความสุขดีอยู่หรือเปล่า ! ผมไม่ได้ติดต่อกับเขาอีกเลยด้วยภาระต่างๆนาๆทำให้ผมเปลี่ยนเบอร์อยู่ตลอดจนลืมและหาเบอร์โทรของมันไม่เจออีกต่างหากกรรมจริงๆ มันเป็นเวลา สิบกว่าปีแล้วมั้งครับ ที่ไม่ได้เจอกันอีกเลย
ที่ผมมาตั้งกระทู้นี้ ผมก็อยากจะเจอกับมันอีกสักครั้ง ถึงแม้การเจอกัน มันจะ ไม่ถึง 1% ก็ตาม แต่อย่างผมอยากรู้ว่ามัน ยังสบายดีอยู่ไหม! มีแฟนไปแล้วกี่คน ! อยากให้รู้ว่าเพื่อนคนนี้ไม่เคยลืมเลยว่ะ (ผมหวังว่ามันจะเข้ามาอ่านเรื่องที่ผมเล่าไปนะ อยากให้มันเห็นจริงๆ ผมว่ามันต้องจำเรื่องที่เล่าได้เเน่ๆหลังจากที่มันอ่านกระทู้นี้คงรู้ว่าผมเป็นใครแน่ๆ 55555)
สิบกว่าปีแล้วพึ่งจะออกมาตามหาตัวมัน ป่านนี้คงลืมกันไปแล้วมั้งเนอะ
ขอให้พี่ๆเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ช่วยๆกันแชร์ไปให้ถึงมันด้วยนะครับ อยู่ๆก็นึกถึงมันขึ้นมา ขอให้เจอด้วยเถอะเพี้ยงงง....
จาก (ชื่อขนมระเบิด) ยังไงติดต่อมานะ
ความรู้สึกที่ผมมีในตอนนั้น ให้กับเพื่อนคนสนิทสมัยประถมไปหมดแล้ว
มาเริ่มเลยดีกว่า ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่ามันเป็นความรักที่ผมคิดว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีๆระหว่างเพื่อนสมัยประถมนะครับ(และผมก็ยังตามหามันอยู่)
เมื่อ10กว่าปี ผมได้เข้าไปศึกษาเล่าเรียนอยู่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งแถว สุขภิบาล3 ตรงถนนรามคำแหงนี่แหละครับ เป็นโรงเรียนเอกชน หาไม่ยาก หรอกครับลงสะพานเล็กๆมองซ้ายมือก็เห็นแล้ว ตอนประถมผมก็อยู่กับเพื่อนๆกินเล่นนอนตามประสาเด็กๆ กับเพื่อนคนอื่นๆตอนเด็กๆตอนนั้นคิดว่ามาโรงเรียนก็มานอนมาเล่นกับเพื่อนๆแต่ชวงช่วงหลังๆผมโดนแกล้งเยอะแยะ โดนผลักจนล้มหัวเข่าแตกเลือดอาบก็โดนมาแล้ว จนถึงตอนนี้แผลเป็น มันก็ตราตรึงอยู่เลยครับ ตอนนั้นผมก็มีเพื่อนที่รู้จักอยู่ไม่กี่คนหรอกครับ แต่ที่สนิทกันก็มีอยู่ครับ หยอกล้อและเล่นมาด้วยกันตามประสาเด็กๆที่เขาเล่นกัน ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าผมมารู้จักเขาและสนิทกับเพื่อนคนนี้ได้อย่างไง นึกยังไงก็นึกไม่ออก
ผมจำได้ว่าเขาชื่อ "ดิว'' ส่วนชื่อจริงผมก็จำไม่ค่อยได้ ชื่อจริงเขาเรียกยากอยู่พอสมควร เขาเป็นผู้ชายนะครับ ด้วยความที่เราโชคดีด้วยมั้งครับได้อยู่ห้องเดียวกันมาตลอดน่าจะตั้งแต่อนุบาลเลยมั้งจนถึง ป.4
หลังจากที่ตัวผมสนิทกับ ดิว และรู้จักกันมาระยะนึง ตามประสา สมัยโน้นอ่ะเนอะอย่าคิดไรมาก มีเพื่อนสนิทที่สนิทและเป็นห่วงเราก็ถือเป็นกำไรของชีวิตแล้ว. และเวลามันก็ผ่านไปเรื่อยๆ ที่ผมบอกไว้ข้างบนว่าเรียนถึงแค่ ป.4 นั้นเป็นเพราะว่าผมต้องย้าย จากโรงเรียนเดิมที่อยู่ตอนนั้นมาอยู่อีกโรงเรียนหนึ่งแถวบางกะปิ มาต่อ ป.5 ที่นั้นครับ มันเลยทำให้ผมต้องจากเพื่อนโรงเรียนเก่า โดยที่ผมไม่ได้ลากับเพื่อนคนไหนสักคน ด้วยความที่เราไม่ค่อยรู้ประสีประสาอะไรมากนักให้ไปไหนก็ไปทำอะไรก็ทำนองนี้ มันยังเด็กอะเนอะตอนนั้น หลังจากนั้นเขาก็โทรมาหาผม ที่บ้าน แต่บอกก่อนเลยว่าสมัยโน้นยังไม่มีโทรศัพท์ใช้กันคนละเครื่องเหมือนสมัยนี้นะครับ มีเรื่องอ่ะไรจะคุยกัน สายตรงลูกเดียว เบอร์บ้านเท่านั้นครับ ตอนนั้นแม่ผมก็รับสายตลอดเวลาที่เขาโทรมาหา ตอนแรกผมก็รู้สึกรำคาญนะครับโทรมาจังเลยไอ้คนนี้ แต่บ่นไม่ได้เลย พักหลังๆ เริ่มไม่ค่อยโทรมาคุยเท่าไร นานๆ ที ส่วนมากคุยกันตามประสาเด็กๆบ้านๆล่ะครับ การบ้านโน้นนี่นั้น แต่หลังจากที่ผมออกโรงเรียน ถ อักษรย่อและกันเนอะ ไอ้ดิว คน เนี้ย มันก็โทรมานะ ด้วยความสงสัยหรือเป็นห่วงก็ไม่รู้มัน โทรมาถามว่า ย้ายรร. ไปทำไม ? เพื่อนๆ เขาก็คิดถึงกลับมาเร็วๆเลยนะ ตอนนั้นผมก็ดีใจนะ ว่า เห้ยยย เพื่อนเรามันยังคิดถึงเราว่ะ แต่เราก็ไม่ได้ตอบมันไปนะ ก็เปลี่ยนเรื่องคุย ถามโน้นถามนี้ ก็มีเพื่อนคนอื่นๆโทรมาถามบ้างนะ เเต่ผมก็รู้สึกเฉยๆ ไม่เหมือนกับ ดิว ที่โทรมา เพราะเราสนิทเป็นเพื่อนที่เข้าใจกันมั้ง
แต่หลังจากนั้น...มันก็หายไปเลยนะครับไม่โทรมาหา ไม่อะไรทั้งนั้น ส่วนเราก็เหมือนลงแดง ทำไมไม่โทรมาว้ะ พอได้ยินเสียงโทรศัทพ์ที่บ้าน ดังงง ขึ้น ผมนี่รีบลุกขึ้น ไปรับทันที ไม่สนใจว่าใครจะโทรมา ขอให้มัน คนนั้นโทรมาอย่างเดียวนะตอนนั้น เพราะเราคิดถึงมันด้วยล่ะมั้ง แต่พอรับสายแล้ว ก็ไม่ใช่มัน... เราก็ไม่เสียใจมากนักหรอก แต่หลังจากนั้นเราเลยตัดสินใจ วิ่งออกไปหน้าปากซอย ห่างไม่ไกลจากหน้าบ้านมากหนักเพื่อไปหาตู้โทรศัทพ์หยอดเหรียญ โดยที่อีกมือกำกระดาษเบอร์โทรเบอร์บ้านของมันไว้ ตัดสินใจอยู่ตั้งนานแนะ ในที่สุด....ก็โทรไปหาแม้งเลย ตื่นเต้นมากกกครับตอนนั้น...
อยากคุยก็อยากคุย แต่ผมเป็นคนที่ขี้อายมากๆๆ อายเสียงตัวเองบอกไม่ถูก อ่อลืมบอกไปว่าเบอร์ที่ได้มาก็เหมือน แลกๆกันอ่ะครับตอนเรียน(มั้ง) ก็ขอมาหลายคนอยู่นะครับแต่ ส่วนมาก มีแต่ ดิว นี่แหละ โทรมาถามอยู่ตลอดเราก็ไม่รู้คนอื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะทำไมถึงต้องเลือกโทรไปหามัน งงจนถึงทุกวันนี้
หลังจากที่ผมตัดสินใจโทรไปหาเขา พอรับสายปุ้บ แม่เขารับครับ 555 ตอนนั้น อุส่าดีใจคิดว่า มันจะอยู่แถวนั้นและเดินมารับสาย แต่ผมก็คุยกับแม่เขานะครับ ถามว่า ขอสายดิว หน่อยครับ แม่เขาก็ถามว่า จากไหนคะ ตอนนั้นเราก็นึกในใจ (จากไหนอ่ะไรว้ะ) ผมก็บอกว่า เป็นเพื่อนกับ ดิว ครับ เรียนด้วยกันตอนประถมแล้วคุณแม่เขาก็บอกกลับมาว่า อ่อ ดิว ไปข้างนอก ไปเรียนพิเศษ บลาๆๆๆ แม่เขาก็ถามมาอีกว่า มีอะไรด่วนไหมคะ ผมก็บอกไม่มีครับ งั้นเด็วโทรไปใหม่ครับ ผมวางสายทันที (โห่ตอนนั้นผมนี่โคตรนอยยเลย)แต่ ช่างมัน เด๋วมันก็คงโทรมาหาเองแหละมั้งถ้าคิดถึงกัน5555 นะตอนนั้นนะครับ แต่หลังจากนั้น.....ก็เงียบบบหายไปนาน ปีถึง สองปีได้มั้งครับ ไม่ได้ติดต่อกันเลย
แต่... มันมีเรื่องนึงที่ผมคิดถึงทีไร ก็ยิ้มขึ้นมาทุกครั้งที่นึกถึง หลังจากที่เขาหายไปนานพอควรหลังจากนั้น ก็มีเสียงโทรสับดังขึ้นมา ตอนนั้นผมอยู่หลังบ้านไม่ได้ยินเสียงเลย แล้วแม่ผมก็เรียกว่า เด็กโทรมา ตอนนั้นผมก็คิดแล้วคิดอีก ใครกัน เด็กที่ไหน ก็เดินงง มึนๆ ไปรับโทรศัพท์ ปรากฏว่า ดิว มันโทรมา ถาม ว่าสบายดีไหม เป็นอย่างไงบ้าง ? ต่างๆนาๆ แต่มันมาสะดุด ตรงที่ ดิวมันบอกว่า.....
เนี้ย มันอะพูดคำหยาบได้แล้วนะ แล้ว อ่ะพูดได้ยัง ? ตอนนั้นผม หัวเราะดังรั่นเลย ขำ จริงๆนะ แหม่มีโทรมาอวดเราด้วยว่าพูดคำหยาบได้แล้ว จะบอกว่า สมัยโน้นคำหยาบมันยังเข้ามาไม่ถึงยุคนั้นน่ะครับ ในความคิดผมนะ คนอื่นๆอาจจะพูดบ้าง แต่ สมัยที่ผมเรียนประถมอยู่นั้นส่วนมาก ก็มีแต่ แก เรา เอง เธอ ฉัน มากกว่า ส่วนน้อยมากๆๆที่จะได้ยิน ไม่เหมือนสมัยนี้ พ้นไฟกันตั้งเเต่ ป.1 เลยมั้ง แต่ช่างเถอะครับ เเต่หลังจากนั้นที่เขาโทรมาอวดโน้นนี้นั้นผมก็รู้สึกเหมือนตัวผมจะทำอะไรมันก็มีความสุข มีรอยยิ้มและร่าเริงทั้งวัน จนผมรู้สึกได้อย่างนั้นจริงๆนะครับ แปลกมากๆ
เพราะแบบนี้มั้งครับ ทำให้ผมลืมความทรงจำดีๆแบบนี้ไม่ได้เลย ผมยังนึกถึงมันอยู่ตลอดเวลา จนปัจจุบัน ตอนนี้ผม อยู่ปี 3 แล้วครับ อายุก็20 ปี แล้ว ก็ยังนึกถึง มันอยู่ตลอดเวลา มันคงอยู่ในความทรงจำสมัยเด็กของผมไปแล้วมั้ง เพราะเขาดีกับผมจริงๆ แต่.....หลังจากที่ผมคุยโทรศัพท์ครั้งนั้นมันก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้ยินเสียงเขาอีก มาจนถึงตอนนี้ ผมไม่รู้ว่าเขา จะไปอยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่ มีความสุขดีอยู่หรือเปล่า ! ผมไม่ได้ติดต่อกับเขาอีกเลยด้วยภาระต่างๆนาๆทำให้ผมเปลี่ยนเบอร์อยู่ตลอดจนลืมและหาเบอร์โทรของมันไม่เจออีกต่างหากกรรมจริงๆ มันเป็นเวลา สิบกว่าปีแล้วมั้งครับ ที่ไม่ได้เจอกันอีกเลย
ที่ผมมาตั้งกระทู้นี้ ผมก็อยากจะเจอกับมันอีกสักครั้ง ถึงแม้การเจอกัน มันจะ ไม่ถึง 1% ก็ตาม แต่อย่างผมอยากรู้ว่ามัน ยังสบายดีอยู่ไหม! มีแฟนไปแล้วกี่คน ! อยากให้รู้ว่าเพื่อนคนนี้ไม่เคยลืมเลยว่ะ (ผมหวังว่ามันจะเข้ามาอ่านเรื่องที่ผมเล่าไปนะ อยากให้มันเห็นจริงๆ ผมว่ามันต้องจำเรื่องที่เล่าได้เเน่ๆหลังจากที่มันอ่านกระทู้นี้คงรู้ว่าผมเป็นใครแน่ๆ 55555)
สิบกว่าปีแล้วพึ่งจะออกมาตามหาตัวมัน ป่านนี้คงลืมกันไปแล้วมั้งเนอะ
ขอให้พี่ๆเพื่อนๆที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ช่วยๆกันแชร์ไปให้ถึงมันด้วยนะครับ อยู่ๆก็นึกถึงมันขึ้นมา ขอให้เจอด้วยเถอะเพี้ยงงง....
จาก (ชื่อขนมระเบิด) ยังไงติดต่อมานะ