คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
สิทธิทางการคัาก็โดนตัด
ส่งออกก็ไม่กระเตื้อง เพราะบางประเทศมีกฏหมายควบคุมการค้าขายกับประเทศที่ไม่ได้รับการยอมรับ
นักท่องเที่ยวมีแต่จีน เพราะฝรั่งส่วนใหญ่กลัวเนื่องจากต้องดูเงื่อนไขของ insurance ก่อนว่าครอบคลุมหรือไม่กับการมาประเทศเรา
การบริโภคภายในก็ซบเซา เพราะคนไม่ค่อยมีเงิน ส่วนคนที่พอมีก็เลือกที่จะประหยัดไว้ก่อน หรือ ไม่ก็เก็บออมเอาไว้ให้มันอุ่นอกอุ่นใจ
ต า ย ค รั บ.....ตายยยยยยยยยยยยยยยยย
จ่าพิเชษฐ์
ส่งออกก็ไม่กระเตื้อง เพราะบางประเทศมีกฏหมายควบคุมการค้าขายกับประเทศที่ไม่ได้รับการยอมรับ
นักท่องเที่ยวมีแต่จีน เพราะฝรั่งส่วนใหญ่กลัวเนื่องจากต้องดูเงื่อนไขของ insurance ก่อนว่าครอบคลุมหรือไม่กับการมาประเทศเรา
การบริโภคภายในก็ซบเซา เพราะคนไม่ค่อยมีเงิน ส่วนคนที่พอมีก็เลือกที่จะประหยัดไว้ก่อน หรือ ไม่ก็เก็บออมเอาไว้ให้มันอุ่นอกอุ่นใจ
ต า ย ค รั บ.....ตายยยยยยยยยยยยยยยยย
จ่าพิเชษฐ์
ตกขอบ ถูกใจ, ธีร์ Civic ถูกใจ, ทาร์ซานน้อย ถูกใจ, Country Chef ถูกใจ, ปศุสัตว์ไฮโซ ถูกใจ, แม่ขนตางอน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2315657 ถูกใจ, พี่ผุย ขำกลิ้ง
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
การเมือง
JJNY : “ม.หอการค้าไทย” ระบุความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดต่ำสุดในรอบ 16 เดือน
นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ปัจจัยบวกที่มีอยู่ในขณะนี้ คือ คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น 3 มาตรการ วงเงินรวม 1.36 แสนล้านบาท และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี
ขณะที่ปัจจัยลบ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 2558 จาก 3% เหลือ 2.7% และปี 2559 จาก 4.1% เหลือ 3.7% ความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน การส่งออกที่ยังปรับลดลง โดยช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ติดลบ 4.92% ระดับราคาน้ำมันขายปลักในประเทศปรับเพิ่มขึ้น การอ่อนค่าของเงินบาท สะท้อนถึงการไหลออกของเม็ดเงินต่างขาติ และผู้บริโภคยังกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่ยังอยู่ระดับสูง
อย่างไรก็ดี คาดว่าในช่วงเดือน ต.ค.นี้ จะมีเม็ดเงินอัดฉีดจากรัฐบาลเข้าสู่ระบบมากขึ้นกว่าเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา และหากดัชนีความเชื่อมั่นในเดือน ต.ค.ปรับเพิ่มขึ้นพร้อมกันทั้งดัชนีในปัจจุบันและดัชนีในอนาคต จะเป็นสัญญาณบ่งชี้ได้ชัดว่าความเชื่อมั่นจะฟื้นได้หรือไม่ ซึ่งในไตรมาส 4 นี้ จะเห็นได้ชัดมากขึ้น