สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
สมัยนายกทักษิณ เรากำลังจะเป็นผู้นำในย่านอาเซียน ตั้งเป้าเป็นคู่แข่งกับสิงคโปร์
นโยบายด้านเศรษฐกิจตอนนั้นเน้นเชิงรุก เช่น
1. การทูตเชิงรุก แสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกด้าน
2. พัฒนาและสร้างสันติภาพระหว่างประเทศ ภายใต้กรอบแห่งสหประชาชาติและองค์กรซึ่งประเทศไทยเป็นสมาชิก
3. เพิ่มบทบาทเชิงรุกในสังคมระหว่างประเทศ เริ่มจากกลุ่มอาเซียนไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และภูมิภาคอื่นๆ
4. ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศรวมทั้งของภาคเอกชนไทยแรงงานไทย และคนไทยในต่างประเทศ
นายกทักษิณเคยบอกว่าต้องทำตัวเองให้แข็งแกร่งเป็นที่พึ่งพิงของเพื่อนบ้านได้ มีวิสัยทัศน์การบริหารและความเป็นผู้นำ
ไม่เคยมองแต่ว่าปล่อยทุกสิ่งให้เป็นไปตามกลไกการตลาดโลก
แล้วดูวันนี้อย่าว่าแต่จะเป็นผู้นำในย่านนี้เลยเราถอยไปไกลลิบ เรื่องคิดจะกินบุญเก่าเรื่องการท่องเที่ยวลืมไปได้เลย
ทุกวันนี้ประเทศเพื่อนบ้านเราเขาก็กลายเป็นคู่แข่งสำคัญไปหมดแล้ว
อยากให้หลายๆ คนได้ยอมรับความจริงกันได้แล้ว เลิกหลอกตัวเอง ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีทางแก้ปัญหาได้อย่างถูกทาง
นโยบายด้านเศรษฐกิจตอนนั้นเน้นเชิงรุก เช่น
1. การทูตเชิงรุก แสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกด้าน
2. พัฒนาและสร้างสันติภาพระหว่างประเทศ ภายใต้กรอบแห่งสหประชาชาติและองค์กรซึ่งประเทศไทยเป็นสมาชิก
3. เพิ่มบทบาทเชิงรุกในสังคมระหว่างประเทศ เริ่มจากกลุ่มอาเซียนไปยังภูมิภาคเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และภูมิภาคอื่นๆ
4. ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของประเทศรวมทั้งของภาคเอกชนไทยแรงงานไทย และคนไทยในต่างประเทศ
นายกทักษิณเคยบอกว่าต้องทำตัวเองให้แข็งแกร่งเป็นที่พึ่งพิงของเพื่อนบ้านได้ มีวิสัยทัศน์การบริหารและความเป็นผู้นำ
ไม่เคยมองแต่ว่าปล่อยทุกสิ่งให้เป็นไปตามกลไกการตลาดโลก
แล้วดูวันนี้อย่าว่าแต่จะเป็นผู้นำในย่านนี้เลยเราถอยไปไกลลิบ เรื่องคิดจะกินบุญเก่าเรื่องการท่องเที่ยวลืมไปได้เลย
ทุกวันนี้ประเทศเพื่อนบ้านเราเขาก็กลายเป็นคู่แข่งสำคัญไปหมดแล้ว
อยากให้หลายๆ คนได้ยอมรับความจริงกันได้แล้ว เลิกหลอกตัวเอง ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีทางแก้ปัญหาได้อย่างถูกทาง
ความคิดเห็นที่ 19
ตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามา ก็ทำเป็นอยู่สองเรื่อง คือ "กู้เงิน" กับ "ขึ้นภาษี"
แต่จะขึ้นเท่าไร ก็คงไม่พอ เพราะใช้จ่าย แต่ละอย่าง มือเติบสุดๆ
ไมค์อันละแสน ทีวี เครื่องละครึ่งล้าน พอมีประชาชนทักท้วง
ก็เอาตัวรอด ได้ด้วยวลี "ไม่ได้โกง แค่ ส่วนต่างเยอะ"
ตอนนี้ก็ แว่วว่าจะขึ้นภาษีที่ดินอีก
พวกนกหวีดที่บอกว่าไม่เอาคนโกง ไม่รู้ว่าตอนนี้หายหัวไปไหนหมด?
แต่จะขึ้นเท่าไร ก็คงไม่พอ เพราะใช้จ่าย แต่ละอย่าง มือเติบสุดๆ
ไมค์อันละแสน ทีวี เครื่องละครึ่งล้าน พอมีประชาชนทักท้วง
ก็เอาตัวรอด ได้ด้วยวลี "ไม่ได้โกง แค่ ส่วนต่างเยอะ"
ตอนนี้ก็ แว่วว่าจะขึ้นภาษีที่ดินอีก
พวกนกหวีดที่บอกว่าไม่เอาคนโกง ไม่รู้ว่าตอนนี้หายหัวไปไหนหมด?
ความคิดเห็นที่ 3
เป็นข่าวร้ายที่ไม่อาจปฏิเสธและบิดเบือนได้อีกแล้ว ต่อให้ไม่ใช่เลขต่ำสุดขนาดนี้ แต่ความเป็นอยู่ และเงินในกระเป๋าของประชาชนส่วนใหญ่น้อยค่าลง มันสะท้อนให้เห็นสถานการณ์ชัดเจนขึ้นทุกวัน ...
คนรวยมากๆ อาจจะยังไม่รู้สึก เพราะห้างไฮโซกลางเมืองยังมีคนเดินเล่นกันอยู่
มนุษย์เงินเดือนในบริษัทที่ยังพอมีความมั่นคง ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ อาจจะยังได้รับผลกระทบไม่มากนัก แค่รู้สึกว่าต้องระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
แต่คนงานลูกจ้างในโรงงานสายการผลิตหลายแห่ง เกษตรกรที่พึ่งฟ้าพึ่งฝน รวมถึงเจ้าของ SME ที่สายป่านยาวไม่พอ ล้วนได้รับผลกระทบกันเต็มๆโดยถ้วนหน้ามาพักใหญ่ๆแล้ว
หวังว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ จะออกผลสัมฤทธิ์อย่างที่คาดกันเร็ววันนี้
.
คนรวยมากๆ อาจจะยังไม่รู้สึก เพราะห้างไฮโซกลางเมืองยังมีคนเดินเล่นกันอยู่
มนุษย์เงินเดือนในบริษัทที่ยังพอมีความมั่นคง ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ อาจจะยังได้รับผลกระทบไม่มากนัก แค่รู้สึกว่าต้องระวังการใช้จ่ายมากขึ้น
แต่คนงานลูกจ้างในโรงงานสายการผลิตหลายแห่ง เกษตรกรที่พึ่งฟ้าพึ่งฝน รวมถึงเจ้าของ SME ที่สายป่านยาวไม่พอ ล้วนได้รับผลกระทบกันเต็มๆโดยถ้วนหน้ามาพักใหญ่ๆแล้ว
หวังว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ จะออกผลสัมฤทธิ์อย่างที่คาดกันเร็ววันนี้
.
แสดงความคิดเห็น
--IMF ปรับลดการเติบโตเศรษฐกิจโลก ไทยโตต่ำสุดอาเซียน--
7 ชม. ·
ไอเอ็มเอฟปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้ ด้าน กกร.ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย ชี้ส่งออกทั้งปีหดตัว 5% ขณะที่ธนาคารโลกชี้เศรษฐกิจไทยโตต่ำสุดในภูมิภาค
กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ ปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้จาก 3.3% ที่คาดไว้เมื่อเดือนกรกฎาคม เป็น 3.1% และปรับลดของปีหน้าจาก 3.8% เป็น 3.6% โดยไอเอ็มเอฟเห็นว่าคงเป็นไปได้ยากที่เศรษฐกิจโลกจะกลับไปแข็งแกร่งและขยายตัวไปพร้อมกัน รายงานของไอเอ็มเอฟเตือนด้วยว่ายังคงมีความเสี่ยงที่เป็นไปได้ว่าเศรษฐกิจโลกจะไม่เติบโตตามที่คาดไว้
ไอเอ็มเอฟระบุด้วยว่านับเป็นปีที่ 5 ติดต่อกันแล้วที่การเติบโตของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เป็นไปอย่างเชื่องช้า โดยเฉพาะบราซิล ไนจีเรีย แอฟริกาใต้ และรัสเซีย โดยเศรษฐกิจจีนที่เติบโตช้าลงทำให้ความต้องการวัตถุดิบจากประเทศดังกล่าวมีน้อยลง ส่งผลต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ทองแดง และน้ำมันให้ปรับตัวลดลงไปด้วย
สำหรับจีนนั้น ไอเอ็มเอฟเห็นว่ากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากที่เศรษฐกิจเคยเติบโตอย่างรวดเร็วโดยได้แรงหนุนจากภาคการลงทุนและอุตสาหกรรมส่งออก ไปเป็นเติบโตในระดับปานกลางแต่ยั่งยืนกว่าโดยมีฐานจากการใช้จ่ายในภาคบริการของผู้บริโภคชาวจีน
ส่วนยุโรปนั้น ไอเอ็มเอฟคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจในหมู่ประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร 19 ประเทศ จะโต 1.5% ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะโต 0.6% ในปีนี้
ส่วนที่เมืองไทย สำนักข่าวไทยรายงานอ้างคำพูดนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มีมติปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปีนี้เหลือ 2.5-3% จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ 3-3.5% และคาดว่าการส่งออกทั้งปีจะหดตัวถึง 5%
สำหรับปัจจัยที่ต้องปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจนั้น มาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังอ่อนแอ โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าที่หดตัวลงถึง 6.7% จากความต้องการของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก ทั้งญี่ปุ่น เยอรมนี และสหรัฐ กับอาเซียนที่ชะลอตัว ขณะที่การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมขยายตัวต่ำลง 24.7% เมื่อเทียบกับการขยายตัว 39.4% ในเดือนก่อนหน้านี้
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาธนาคารโลกได้ปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงจาก 3.5% เหลือ 2.5% ซึ่งต่ำสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ส่วนปีหน้าได้ปรับลดจาก 4% เหลือ 2% จากที่เคยคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนเมษายน เนื่องจากการบริโภคภาคครัวเรือนและการลงทุนภาคเอกชนจะฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย รายงานของธนาคารโลกชี้ด้วยว่าการท่องเที่ยวไทยยังอาจได้รับผลพวงจากเหตุระเบิดที่ศาลพระพรหมเอราวัณ #WorldEconomicOutlook #Bangkokbomb
(ภาพการแถลงข่าวของไอเอ็มเอฟ)