สวัสดีค้าาาา
ขอออกตัวก่อนเลยว่ารีวิวนี้ ขอยืมบัญชีน้องที่รู้จักกันใช้งาน เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเพื่อนๆ ที่มาเที่ยวญี่ปุ่นและถามหาสินค้ามือสองกันมากเลยเอามารวบรวมไว้ให้ ส่วนตัวทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นเลยมีข้อมูลเก็บไว้บ้าง ครั้งนี้ขออนุญาตแชร์ข้อมูลเท่าที่เก็บมาได้นะคะ ผิดพลาดอะไรก็ขออภัยด้วยคร้าา และอันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวที่เข้าไปในร้านแล้วรู้สึกแบบนี้ แต่อาจจะไม่ตรงกับเพื่อนๆ ก็ได้นะคะ
เอาจริงๆ คือแต่ก่อนพักอยู่ชินจุกุจึงรู้สึกว่ามันไม่ได้แปลกอะไร แต่พอไม่ได้กลับไปสักสามสี่เดือน แล้วไปเดินตรงแถวหน้าดงกิ คือรู้สึกว่าเออเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาภาพมันเปลี่ยนไปนะ จขกท. เลยเอามาฝากกัน
อะเมซิ่งชินจูกุหลังห้างอัลตร้า เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าย่านนี้มาถึงจุดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!
การซื้อสินค้าแบรนด์เนมในญี่ปุ่นเรียกได้ว่าฮิตมากๆ เหอะ คือคนญี่ปุ่นชอบที่จะใช้ของแบรนด์เนมเป็นปกติอยู่แล้ว เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงจึงทำให้ราคาที่เรามองว่าสูง กลับกลายเป็นราคาปกติของเค้า และเมื่อเบื่อ! แน่นอนก็ต้องขาย เลยทำให้สินค้ามือ 2 ของญี่ปุ่นเนี่ยหาง่ายดาย และหลายต่อหลายร้านค้า ก็ขนสินค้าสภาพยังดีๆ ราคาว่ากันไปตามเกรดร้าน แต่เรียกได้ว่าบางครั้ง เหมือนสินค้ายังใหม่ๆ อยู่ด้วยซ้ำไปนะ คืออาจจะเพราะเนื้อที่บ้านเค้าจำกัด ถ้าเบื่อแล้วจะเก็บไว้ชมเชยไม่ได้ ต้องขายทิ้ง มิเช่นนั้น ที่นอนจะแคบลง อะไรทำนองนี้เลยทำให้คนญี่ปุ่นใช้อะไรแล้วเริ่มเบื่อต้องรีบขายต่อ
ที่ด้านทางเข้า - ออก East ของสถานี ตรงข้ามจะเป็นห้าง Studio Alta ซึ่งห้างนี้ก็เป็นจุดที่อีฮั้นไปเสียทรัพย์บ่อยในสมัยวัยรุ่น ตอนนี้เลยวัยไปละ
เลยไปด้านหลังจะเป็นถนนที่เค้าเรียกว่า Yasukuni Dori ซึ่งใครๆ ก็มักจะเรียกว่าตรงข้ามกับย่านคาบุกิโจว อีกนิดจะพบเป็นดงเลย แต่เป็นดงอะไรไปดูกันเลย!!!
ย่านนี้แต่ก่อนเค้าก็ไม่ได้ว่าจะเป็นร้านแบรนด์เนมอะไรเยอะแยะขนาดนี้ อดีตตรงหลังห้างอัลตร้า นับถอยหลังไปสัก 5 ปีที่แล้วก็ยังเรียกได้ว่ายังไม่มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นรองเท้า แต่ตอนนี้แค่ตรงจุดนั้นจุดเดียวก็ปาเข้าไปเพียบอ่ะ เฉพาะกระจุกตรงนี้ที่เดียวนี่ปาเข้าไปสิบร้าน นี่ยังไม่รวมประปราย ร้านที่บริเวณฝั่ง West และร้านที่ซีกอื่นๆ อีกนะ คือบอกได้เลยว่าเยอะแยะ และใครสนใจดูสภาพบรรยากาศร้าน และพิกัด ก็จัดได้เลย เรามีข้อมูลให้เสร็จสรรพแล้วพร้อม!
1. ถ้าเราเข้ามาถนนเส้นนี้ด้านหน้าจะเป็นร้านขายผลไม้จะพบกับร้านนี้ก่อน Daikokuya ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ แต่ของก็เพียบอยู่เหมือนกัน ซึ่งจะมีสาขาตรงกันข้ามด้วยอันนั้นน่าจะตามมาเปิดหลังนะ เพราะสาขานี้เห็นมีมานานมากๆ แล้ว
ร้านจะเล็กแต่ของก็เยอะอยู่ แต่ราคาจะสูงเล็กน้อย แต่สภาพดี

ซึ่งถ้าเราเข้ามาแล้วเห็นซอยทางด้านขวามือแล้วเลี้ยวไปจะเจอร้านถึงสองร้านซ่อนอยู่หลังห้างอัลตร้า อย่าได้พลาดที่จะเดินไปสำรวจก่อน เพราะพูดเลยว่าร้าน 2 ร้านที่เราไม่ค่อยเห็นมักมีของดีๆ
2. ร้าน Sekine ร้านนี้ในอดีตเป็นโรงจำนำ สินค้า หรือของด้านในจะมีกระเป๋า หลุยส์ วิตองเยอะสภาพดีมากๆ ราคารับได้ บางรุ่นก็ถูกว่าร้านใหญ่บางรุ่นก็แพงกว่า เรียกว่าเราต้องเปรียบเทียบราคากันดูนะคะ
ดูรายละเอียดภาษาไทยเพิ่มเติมได้ที่นี่ >>
http://sekine-shichiya.com/index_thai.html
3. ร้าน Kabukiya ที่นี่เรียกว่าเด็ดตรงเค้ามีลดแล้วลดอีก ต้องสังเกตตอนพนักงานมายืนเรียกลูกค้า ส่วนมากเค้าจะมาบอกว่ามีลดราคา เรียกว่าร้านตรงข้ามกันนี่ตัดราคากันสุดๆ ของส่วนใหญ่เป็นกระเป๋า BAO BAO และชาแนล
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >>
http://kabukiya.tokyo/
เดินออกมาด้านนอกแต่ขอข้ามฝากไปก่อนจะเดินย้อนกลับมาในซอยอีกทีนะ ขอเข้าไปดูร้านใหญ่ๆ ก่อน
4. ที่นี่เลย !!! ดงกิฯ หรือ Don Quijote ที่นี่คงเป็นแหล่งที่หลายคนมาจัดขนม แต่บางคนก็ไม่เคยขึ้นถึงชั้นบนสุดสินะ ที่นี่ก็แหล่งเหมือนกัน เพราะอีฮั้นก็เคยไปสอยมาแล้วคือชั้นบนสุดของตึกนี้เลย
ที่นี่แต่ก่อนของมือสองนี่เยอะมากๆ แต่เดี๋ยวนี้จะหายๆ ไปบ้างเพราะคนเริ่มรู้เยอะ ที่นี่เลยค้าาาา
ร้านนี้มีบริการชำระเงินเป็นสกุลอื่นๆ ด้วย จึงแนะนำสำหรับท่านที่มีทรัพย์สินเหลือแล้วหาที่แลกสตางค์ไม่ได้ ก็ลองเอาตรงนี้ไปดูกันได้เลย พังไปตามๆ กัน ที่นี่เรียกได้ว่า แล้วแต่จังหวะ แต่ก็มีทั้งของใหม่ของเก่า บางทีของมือหนึ่งก็ชอบเอามาลดราคาเหอะ ลองมาดูก็แล้วกัน
ร้านนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมงจึงไม่มีเขตจำกัดในการเสียทรัพย์ เสียได้ทุกวันเวลา และเกือบทุกสกุลเงิน!!!
เครื่องนี้มีใครเคยใช้บ้างรึเปล่าไม่ชัวร์ คืออีฮั้นใช้ไม่ได้ก็เลยไม่รู้ว่าเครื่องนี้ดีเทลเป็นไงบ้าง น่าจะเป็นการลงทะเบียนสำหรับใช้สิทธิสินค้าปลอดภาษี (เดานะคะ)
5. เอาหล่ะเมื่อออกจากดงกิ แล้วจะเดินไปทางโรงแรมพริ้นท์โฮเทล จะเจอร้านนี้ก่อน Roko Shira ก็เลยลองแวะดู
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >>
http://rokoshira.jp/contents/contents.php?contents=shop
ร้านนี้ส่วนตัวไม่เคยซื้อแต่เคยพาเพื่อนมาซื้อ ก็ราคาสูง แต่ของสวยดี บางครั้งจะมีโปรลดราคาด้วย
จากนั้นข้ามถนนกลับไป
เจอร้านนี้ก่อนเลย
6. ร้าน GINZO พิกัดอยู่ตรงกันข้ามกับดงกิฯ เลย ร้านนี้เล็กก็จริง แต่ของก็เยอะอยู่แล้วบางวันมีน้องคนไทยมาบริการด้วยค้าาาาา
ดูรายละเอียดร้านที่นี่ >>
http://ginzo.jp/ext/shop/shinjuku_2/
ของที่แขวนอยู่ด้านหน้าประตูจะเป็นของที่ลราคาสภาพของร้านนี้จะค่อนข้างที่จะใหม่!
และบางทีก็เป็นของใหม่ ไม่ใช่มือสอง แต่พูดเลยว่าไปจับดีๆ ชอบมีของถูกๆ เว่อร์ๆ มาปล่อยนะทำเป็นเล่นไป ตอนไปทำรีวิวนี่ก็ถอยออกมาแล้วบอกกับตัวเอง รีบกลับเหอะไม่งั้นพังแน่ๆ 555 ยอมแพ้ร้านนี้
และแน่นอน BAO BAO ISSEY MIYAKE ก็มา!
7. ร้าน IPPUUKISHI สาขาติดร้านขายยา ซึ่งอีกสาขาอยู่ห่างกันเพียง 30 เมตร ร้านนี้จะอยู่ติดกับร้านขายยา Minedrug เกือบๆ ถึงหัวมุมถนนเลย
เข้าไปในร้านนี้จะมีสินค้าราคาสูงค่อนข้างเยอะ ร้านแคบ แต่กระเป๋ามูลค่าสูงๆ จะเยอะ ใครที่ชอบแนวนี้น่าจะเหมาะดี
ดูรายละเอียดร้านที่นี่ >>
https://kaitoriagent.com/shop/shinjyukuten.html
8. ถอยกลับมาดูบริเวณกลางซอยก่อน ตรงนี้แต่ก่อนเป็นร้านรองเท้า แต่ตอนนี้ โดนเปลี่ยนกลืนเป็นร้านขายสินค้ามือสองไปอีกที่ ชื่อหน้าร้านว่า TAX FREE ชื่อร้านจริงๆ คือ IPPUUKISHI วันนี้นำมาเพียงแค่พิกัด วันไหนโอกาสเหมาะๆ จะขอเจ้าของร้านเข้าไปเจาะทีละแบรนด์เลยละกันนะคะ
เรียกได้ว่าของในร้านนี้สวยงาม สมเป็นร้านใหม่มากๆ ราคาเป็นไงคะ ขอปาดเหงื่อแป๊บบบบ
ดูรายละเอียดร้านที่นี่ >>
http://www.ippuukishi.com/
9. ร้านนี้แต่ก่อนเป็นขายขนมด้านล่างของร้าน LABI Yamada denki ก็กลายสภาพมาเป็นร้าน BRAN OFF Tokyo ซึ่งสร้างให้เห็นถึงกระแสความแรงที่กำลังซื้อขนมสามารถถูกกลบด้วยกำลังซื้อของผู้หญิงที่ชอบสินค้าแบรนด์เนมได้ อิอิ อันนี้พูดก็พูด คหสต. คือก็ยอมเช่นกัน 5555
ยอมอดเพื่อซื้อของที่ชอบ (มีบ้างคะ)
ที่ร้านนี้ ด้วยชื่อแล้วก็จะมาตรฐานเดียวกัน สภาพสวย ราคาดี แล้วแต่คนจะชอบ
ดูรายละเอียดร้านที่นี่ >>
http://www.brandoff.co.jp/shop_list/shop.php?shop=050_labishinjyuku
แต่ร้านจะไม่ใหญ่มากแต่ใครที่หาของรุ่นที่ต้องการอยู่อาจจะมีเพราะดูแล้วของร้านนี้ สี หรืออะไรมันจะต่างกับร้านอื่นเหมือนกัน
10. ร้านสุดท้ายนี้ เป็นร้านที่อีฮั้นก็ใช้บริการบ่อย หรือเรียกว่าบ่อยมากๆ เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะนาฬิกา กระเป๋า หมวก สอยมาจากที่นี่เพียบเลยนะเอาจริงๆ แล้วมีน้องคนไทยบริการเป็นบางวัน น่ารัก DAIKOKUYA สาขา Flagship เพราะราคาของที่นี่มีหลากหลายด้วย เลยทำให้รู้สึกว่าน่าจะเป็นร้านที่เอื้อมถึง 555
ดูรายละเอียดร้านที่นี่ >>
http://shinjukuhonten78daikokuya.on.omisenomikata.jp/
ร้านนี้ของเยอะเพราะมีหลายชั้น ร้านใหญ่ด้วย
เอาจริงๆ ฝั่งตรงข้ามที่ใกล้ๆ กับอิเซตันยังมีอีก 2 ร้านนะ แค่นี้ก็คงพอได้ของกลับกันไป ตัวเองก็หักห้ามใจไม่อยู่เหมือนกัน เลยคิดว่าถ้าเพื่อนๆ มาลองเดินให้ครบแค่ในสถานีนี้มันต้องมีสักใบแน่ๆ ที่ถูกใจเอากลับไป น่าจะเดินก่อนค่อยซื้อนะคะ ใจเย็นๆ ในการเลือกซื้อจะดีกว่าเพราะเดี๋ยวแวะร้านหน้าแล้วถูกกว่า ตำหนิน้อยกว่าจะนอย แต่ส่วนตัวถ้าได้แล้วจะกลับเลยค่ะ เดี๋ยวนอย ไว้เจอกันใหม่นะคะ
ติดตามอ่านได้เพิ่มที่นี่นะคะ >>
https://www.facebook.com/wakuwakuNIPPON
[CR] ส่อง 10 ร้านแบรนด์เนมมือ 1 มือ 2 ย่านชินจุกุ บริเวณหลังห้างอัลตร้า หน้าดงกิ พร้อมพิกัด!
ขอออกตัวก่อนเลยว่ารีวิวนี้ ขอยืมบัญชีน้องที่รู้จักกันใช้งาน เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเพื่อนๆ ที่มาเที่ยวญี่ปุ่นและถามหาสินค้ามือสองกันมากเลยเอามารวบรวมไว้ให้ ส่วนตัวทำงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นเลยมีข้อมูลเก็บไว้บ้าง ครั้งนี้ขออนุญาตแชร์ข้อมูลเท่าที่เก็บมาได้นะคะ ผิดพลาดอะไรก็ขออภัยด้วยคร้าา และอันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวที่เข้าไปในร้านแล้วรู้สึกแบบนี้ แต่อาจจะไม่ตรงกับเพื่อนๆ ก็ได้นะคะ
เอาจริงๆ คือแต่ก่อนพักอยู่ชินจุกุจึงรู้สึกว่ามันไม่ได้แปลกอะไร แต่พอไม่ได้กลับไปสักสามสี่เดือน แล้วไปเดินตรงแถวหน้าดงกิ คือรู้สึกว่าเออเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาภาพมันเปลี่ยนไปนะ จขกท. เลยเอามาฝากกัน
อะเมซิ่งชินจูกุหลังห้างอัลตร้า เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าย่านนี้มาถึงจุดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!
การซื้อสินค้าแบรนด์เนมในญี่ปุ่นเรียกได้ว่าฮิตมากๆ เหอะ คือคนญี่ปุ่นชอบที่จะใช้ของแบรนด์เนมเป็นปกติอยู่แล้ว เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงจึงทำให้ราคาที่เรามองว่าสูง กลับกลายเป็นราคาปกติของเค้า และเมื่อเบื่อ! แน่นอนก็ต้องขาย เลยทำให้สินค้ามือ 2 ของญี่ปุ่นเนี่ยหาง่ายดาย และหลายต่อหลายร้านค้า ก็ขนสินค้าสภาพยังดีๆ ราคาว่ากันไปตามเกรดร้าน แต่เรียกได้ว่าบางครั้ง เหมือนสินค้ายังใหม่ๆ อยู่ด้วยซ้ำไปนะ คืออาจจะเพราะเนื้อที่บ้านเค้าจำกัด ถ้าเบื่อแล้วจะเก็บไว้ชมเชยไม่ได้ ต้องขายทิ้ง มิเช่นนั้น ที่นอนจะแคบลง อะไรทำนองนี้เลยทำให้คนญี่ปุ่นใช้อะไรแล้วเริ่มเบื่อต้องรีบขายต่อ
ที่ด้านทางเข้า - ออก East ของสถานี ตรงข้ามจะเป็นห้าง Studio Alta ซึ่งห้างนี้ก็เป็นจุดที่อีฮั้นไปเสียทรัพย์บ่อยในสมัยวัยรุ่น ตอนนี้เลยวัยไปละ
เลยไปด้านหลังจะเป็นถนนที่เค้าเรียกว่า Yasukuni Dori ซึ่งใครๆ ก็มักจะเรียกว่าตรงข้ามกับย่านคาบุกิโจว อีกนิดจะพบเป็นดงเลย แต่เป็นดงอะไรไปดูกันเลย!!!
ย่านนี้แต่ก่อนเค้าก็ไม่ได้ว่าจะเป็นร้านแบรนด์เนมอะไรเยอะแยะขนาดนี้ อดีตตรงหลังห้างอัลตร้า นับถอยหลังไปสัก 5 ปีที่แล้วก็ยังเรียกได้ว่ายังไม่มากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นรองเท้า แต่ตอนนี้แค่ตรงจุดนั้นจุดเดียวก็ปาเข้าไปเพียบอ่ะ เฉพาะกระจุกตรงนี้ที่เดียวนี่ปาเข้าไปสิบร้าน นี่ยังไม่รวมประปราย ร้านที่บริเวณฝั่ง West และร้านที่ซีกอื่นๆ อีกนะ คือบอกได้เลยว่าเยอะแยะ และใครสนใจดูสภาพบรรยากาศร้าน และพิกัด ก็จัดได้เลย เรามีข้อมูลให้เสร็จสรรพแล้วพร้อม!
1. ถ้าเราเข้ามาถนนเส้นนี้ด้านหน้าจะเป็นร้านขายผลไม้จะพบกับร้านนี้ก่อน Daikokuya ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ แต่ของก็เพียบอยู่เหมือนกัน ซึ่งจะมีสาขาตรงกันข้ามด้วยอันนั้นน่าจะตามมาเปิดหลังนะ เพราะสาขานี้เห็นมีมานานมากๆ แล้ว
ร้านจะเล็กแต่ของก็เยอะอยู่ แต่ราคาจะสูงเล็กน้อย แต่สภาพดี
ซึ่งถ้าเราเข้ามาแล้วเห็นซอยทางด้านขวามือแล้วเลี้ยวไปจะเจอร้านถึงสองร้านซ่อนอยู่หลังห้างอัลตร้า อย่าได้พลาดที่จะเดินไปสำรวจก่อน เพราะพูดเลยว่าร้าน 2 ร้านที่เราไม่ค่อยเห็นมักมีของดีๆ
2. ร้าน Sekine ร้านนี้ในอดีตเป็นโรงจำนำ สินค้า หรือของด้านในจะมีกระเป๋า หลุยส์ วิตองเยอะสภาพดีมากๆ ราคารับได้ บางรุ่นก็ถูกว่าร้านใหญ่บางรุ่นก็แพงกว่า เรียกว่าเราต้องเปรียบเทียบราคากันดูนะคะ
ดูรายละเอียดภาษาไทยเพิ่มเติมได้ที่นี่ >> http://sekine-shichiya.com/index_thai.html
3. ร้าน Kabukiya ที่นี่เรียกว่าเด็ดตรงเค้ามีลดแล้วลดอีก ต้องสังเกตตอนพนักงานมายืนเรียกลูกค้า ส่วนมากเค้าจะมาบอกว่ามีลดราคา เรียกว่าร้านตรงข้ามกันนี่ตัดราคากันสุดๆ ของส่วนใหญ่เป็นกระเป๋า BAO BAO และชาแนล
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> http://kabukiya.tokyo/
เดินออกมาด้านนอกแต่ขอข้ามฝากไปก่อนจะเดินย้อนกลับมาในซอยอีกทีนะ ขอเข้าไปดูร้านใหญ่ๆ ก่อน
4. ที่นี่เลย !!! ดงกิฯ หรือ Don Quijote ที่นี่คงเป็นแหล่งที่หลายคนมาจัดขนม แต่บางคนก็ไม่เคยขึ้นถึงชั้นบนสุดสินะ ที่นี่ก็แหล่งเหมือนกัน เพราะอีฮั้นก็เคยไปสอยมาแล้วคือชั้นบนสุดของตึกนี้เลย
ที่นี่แต่ก่อนของมือสองนี่เยอะมากๆ แต่เดี๋ยวนี้จะหายๆ ไปบ้างเพราะคนเริ่มรู้เยอะ ที่นี่เลยค้าาาา
ร้านนี้มีบริการชำระเงินเป็นสกุลอื่นๆ ด้วย จึงแนะนำสำหรับท่านที่มีทรัพย์สินเหลือแล้วหาที่แลกสตางค์ไม่ได้ ก็ลองเอาตรงนี้ไปดูกันได้เลย พังไปตามๆ กัน ที่นี่เรียกได้ว่า แล้วแต่จังหวะ แต่ก็มีทั้งของใหม่ของเก่า บางทีของมือหนึ่งก็ชอบเอามาลดราคาเหอะ ลองมาดูก็แล้วกัน
ร้านนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมงจึงไม่มีเขตจำกัดในการเสียทรัพย์ เสียได้ทุกวันเวลา และเกือบทุกสกุลเงิน!!!
เครื่องนี้มีใครเคยใช้บ้างรึเปล่าไม่ชัวร์ คืออีฮั้นใช้ไม่ได้ก็เลยไม่รู้ว่าเครื่องนี้ดีเทลเป็นไงบ้าง น่าจะเป็นการลงทะเบียนสำหรับใช้สิทธิสินค้าปลอดภาษี (เดานะคะ)
5. เอาหล่ะเมื่อออกจากดงกิ แล้วจะเดินไปทางโรงแรมพริ้นท์โฮเทล จะเจอร้านนี้ก่อน Roko Shira ก็เลยลองแวะดู
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> http://rokoshira.jp/contents/contents.php?contents=shop
ร้านนี้ส่วนตัวไม่เคยซื้อแต่เคยพาเพื่อนมาซื้อ ก็ราคาสูง แต่ของสวยดี บางครั้งจะมีโปรลดราคาด้วย
จากนั้นข้ามถนนกลับไป
เจอร้านนี้ก่อนเลย
6. ร้าน GINZO พิกัดอยู่ตรงกันข้ามกับดงกิฯ เลย ร้านนี้เล็กก็จริง แต่ของก็เยอะอยู่แล้วบางวันมีน้องคนไทยมาบริการด้วยค้าาาาา
ดูรายละเอียดร้านที่นี่ >> http://ginzo.jp/ext/shop/shinjuku_2/
ของที่แขวนอยู่ด้านหน้าประตูจะเป็นของที่ลราคาสภาพของร้านนี้จะค่อนข้างที่จะใหม่!
และบางทีก็เป็นของใหม่ ไม่ใช่มือสอง แต่พูดเลยว่าไปจับดีๆ ชอบมีของถูกๆ เว่อร์ๆ มาปล่อยนะทำเป็นเล่นไป ตอนไปทำรีวิวนี่ก็ถอยออกมาแล้วบอกกับตัวเอง รีบกลับเหอะไม่งั้นพังแน่ๆ 555 ยอมแพ้ร้านนี้
และแน่นอน BAO BAO ISSEY MIYAKE ก็มา!
7. ร้าน IPPUUKISHI สาขาติดร้านขายยา ซึ่งอีกสาขาอยู่ห่างกันเพียง 30 เมตร ร้านนี้จะอยู่ติดกับร้านขายยา Minedrug เกือบๆ ถึงหัวมุมถนนเลย
เข้าไปในร้านนี้จะมีสินค้าราคาสูงค่อนข้างเยอะ ร้านแคบ แต่กระเป๋ามูลค่าสูงๆ จะเยอะ ใครที่ชอบแนวนี้น่าจะเหมาะดี
ดูรายละเอียดร้านที่นี่ >> https://kaitoriagent.com/shop/shinjyukuten.html
8. ถอยกลับมาดูบริเวณกลางซอยก่อน ตรงนี้แต่ก่อนเป็นร้านรองเท้า แต่ตอนนี้ โดนเปลี่ยนกลืนเป็นร้านขายสินค้ามือสองไปอีกที่ ชื่อหน้าร้านว่า TAX FREE ชื่อร้านจริงๆ คือ IPPUUKISHI วันนี้นำมาเพียงแค่พิกัด วันไหนโอกาสเหมาะๆ จะขอเจ้าของร้านเข้าไปเจาะทีละแบรนด์เลยละกันนะคะ
เรียกได้ว่าของในร้านนี้สวยงาม สมเป็นร้านใหม่มากๆ ราคาเป็นไงคะ ขอปาดเหงื่อแป๊บบบบ
ดูรายละเอียดร้านที่นี่ >> http://www.ippuukishi.com/
9. ร้านนี้แต่ก่อนเป็นขายขนมด้านล่างของร้าน LABI Yamada denki ก็กลายสภาพมาเป็นร้าน BRAN OFF Tokyo ซึ่งสร้างให้เห็นถึงกระแสความแรงที่กำลังซื้อขนมสามารถถูกกลบด้วยกำลังซื้อของผู้หญิงที่ชอบสินค้าแบรนด์เนมได้ อิอิ อันนี้พูดก็พูด คหสต. คือก็ยอมเช่นกัน 5555
ยอมอดเพื่อซื้อของที่ชอบ (มีบ้างคะ)
ที่ร้านนี้ ด้วยชื่อแล้วก็จะมาตรฐานเดียวกัน สภาพสวย ราคาดี แล้วแต่คนจะชอบ
ดูรายละเอียดร้านที่นี่ >> http://www.brandoff.co.jp/shop_list/shop.php?shop=050_labishinjyuku
แต่ร้านจะไม่ใหญ่มากแต่ใครที่หาของรุ่นที่ต้องการอยู่อาจจะมีเพราะดูแล้วของร้านนี้ สี หรืออะไรมันจะต่างกับร้านอื่นเหมือนกัน
10. ร้านสุดท้ายนี้ เป็นร้านที่อีฮั้นก็ใช้บริการบ่อย หรือเรียกว่าบ่อยมากๆ เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะนาฬิกา กระเป๋า หมวก สอยมาจากที่นี่เพียบเลยนะเอาจริงๆ แล้วมีน้องคนไทยบริการเป็นบางวัน น่ารัก DAIKOKUYA สาขา Flagship เพราะราคาของที่นี่มีหลากหลายด้วย เลยทำให้รู้สึกว่าน่าจะเป็นร้านที่เอื้อมถึง 555
ดูรายละเอียดร้านที่นี่ >> http://shinjukuhonten78daikokuya.on.omisenomikata.jp/
ร้านนี้ของเยอะเพราะมีหลายชั้น ร้านใหญ่ด้วย
เอาจริงๆ ฝั่งตรงข้ามที่ใกล้ๆ กับอิเซตันยังมีอีก 2 ร้านนะ แค่นี้ก็คงพอได้ของกลับกันไป ตัวเองก็หักห้ามใจไม่อยู่เหมือนกัน เลยคิดว่าถ้าเพื่อนๆ มาลองเดินให้ครบแค่ในสถานีนี้มันต้องมีสักใบแน่ๆ ที่ถูกใจเอากลับไป น่าจะเดินก่อนค่อยซื้อนะคะ ใจเย็นๆ ในการเลือกซื้อจะดีกว่าเพราะเดี๋ยวแวะร้านหน้าแล้วถูกกว่า ตำหนิน้อยกว่าจะนอย แต่ส่วนตัวถ้าได้แล้วจะกลับเลยค่ะ เดี๋ยวนอย ไว้เจอกันใหม่นะคะ
ติดตามอ่านได้เพิ่มที่นี่นะคะ >> https://www.facebook.com/wakuwakuNIPPON
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น