เกริ่นๆ...เริ่มเรื่อง ทำงานเป็นแอร์สาวพราวเสน่ห์ เสริฟอาหารอยุ่บนฟ้าเมืองแขก 5 ดาว (เติม เอสเยอะๆ) นิสัยลุยๆ ชะตาชีวิต ได้รุ้จักเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเค้าเป็นคนชอบปีนเขา หึหึ เข้าก๊านนนเข้ากัน
อิแอร์ไม่เค๊ย ไม่เคย ไม่เคยปีนเขาที่ไหนมาก่อน นอกซะจาก ภูกะดึงเมื่อสมัยวัยสาว (แต่ก็พราวสเน่ห์พอๆกับตอนนี้แหละ😏)
24 SEP-30 SEP 2015 . Summit on 29 SEP 2015
ใช้บริการของultimate Kilimanjaro .
รูท ขึ้น Machame รูทลง MWEKA. Packet แบบ Private 7 days. รวมที่พัก ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน
- แลนด์ปุ๊บ เดินดุ่มๆ มาที่อิมมิเกชั่นเลยค่ะ กรอกใบ ตม. จ่ายค่าวีซ่า 50$ ถ่ายรูป รับกระเป๋า ออกมาก็เจอคนจากทีมงาน Ultimate Kilimanjaro มารอเลย.
- เป็นผุ้ชายค่ะคุ๊ณณณ โจชัวร์ คนขับรถของ Ultimate ทักทายกันพอเป็นพิธี เสร็จ โจชัวร์ก็ช่วยยกกระเป๋าขึ้นรถ พาเข้าโรงแรม (อ๋ายยยย เห็นม่ะ บอกแล้วอิแอร์สเน่ห์แรงถึงปุ๊บ ผุ้ชายก็พาเข้าโรงแรมปั๊บ) โรงแรมที่พัก ร่วมอยุ่ในแพ็กเก็ทแล้ว 2 คืน คือ คืนแรกที่ไปถึง และคืนสุดท้ายหลังจากลงมาจากเขา
โรงแรมที่พัก จัดว่าดี พนักงานเป็นกันเอง น่ารัก แถมค่าใช้จ่าย(อาหารเครื่องดื่ม) เป็นการสนับสนุนเด็กกำพร้าที่โรงแรมเค้าทำอยุ่ ( แอร์ถึก ขี้เล่นและใจดีค่ะ ✌️)
หลังจากจัดการกับข้าวของเรียบร้อยแล้ว จะรอช้าอยุ่ไย จัดเลยคะ เบียร์คนละขวด55555
เค้าว่ากันว่า If u can not climb it. Drink it !! ถ้าปีนมันไม่ได้ ก็กินมันซะเลยสิคะ คิรีมันจะโร เบียร์ ช่วงระหว่างรอ เจอ ไกด์. ย้อมใจเบาๆ
5โมงกว่าๆ Guide Leader และผุ้ช่วยก็มา พอมาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง นางเพิ่งลงมาจากเขาค๊าาาาาาา ก็เริ่มด้วยการแนะนำตัว เคยทำอะไรมา เช็คอุปกรณ์ ต้องการอะไรเพิ่มรึป่าว ถามประวัติเราเกี่ยวกับการปีนเขา ประวัติคุณเพื่อนร่วมงานนี่ไม่ต้องพูดถึง โชติช่วงชัชชวาลมากข่าาา มงท์บลัง,อาคองคากัว,ดินาลี,เรนเนียร์ + คิรี รอบนี้รอบที่2ของนาง ส่วนอิแอร์นั้น บอกภูกระดึง ในประเทศของชั้นเอง อิไกด์ทำหน้างง 😁อิแอร์ก็โนสนค่ะ มั่นต่อไป
อย่างที่บอก เพื่อนชอบปีนเขา ความรู้และเทคนิคต่างๆ นางพูดกรอกหูอิแอร์แทบจะทุกวัน อิแอร์เลยมีความรู้และไอเดียร์คราวๆอยุ่บ้าง
จากนั้นก็มีการวัดชีพจรและระดับอ๊อกซิเจน ไกด์จะอธิบายว่า อยุ่บนเขาจะมีการวัดแบบนี้ทุกวัน เช้าเย็น ต้องไม่ต่ำกว่า 120/75 (when resting ) ถ้าต่ำ จะโดนเอาตัวลงมาทันที บลาๆๆๆย
จบพิธีด้วยการเลี้ยงเบียร์คนละขวด
วันรุ่งขึ้นเริ่มออกเดินทาง จากโรงแรมไป Machame gate ใช้เวลาประมาณ 45 นาที มีแวะซื้ออาหารข้างทางปะปราย. จากนั้น มาถึงก็ลงทะเบียน ไกด์ก็ไปจัดการเรื่องporter หรือลูกหาบนั้นเอง รอจนได้เวลาเราก็เริ่มเดินค่ะ ทีมงานทั้งหมด Guide และผุ้ช่วย 2 porter 11 ร่วมเราและเพื่อน = 15คน และเราจะอยุ่ด้วยกัน 7วันเต็มๆ(แบบไม่อาบน้ำ กลิ่นมาดาม หอมชื่นใจ)
(รูปหมู่มาถ่านตอนหลังๆนะฮ่ะ ตอนแรกลืม. มัวแต่กล้าๆกลัวๆ)
วันแรกเราเริ่มเดินกันประมาณ11โมงเช้า ใช้เวลา5ชั่วโมงกว่าจึงถึงแคมป์แรก ร้อนบ้างหนาวบ้าง แล้วแต่ช่วง ไม่มีฝนตก เริ่มแรกจะเป็นช่วงป่าแบบ rain forest ยาวไปจนถึงแคมป์
สภาพก่อนเริ่มเดิน
กับป้ายที่บอกดีเทล ระยะทางต่างๆ สักรูป
เริ่มเดินเรื่อยๆ
วันแรกทางเดินจะออกแนวป่าๆ
เดินประมาณ5ชั่วโมงเราก็มาถึงแคมป์แรกค่ะ
มีดอกไม้ให้ดูเพลินๆ จนมาถึงแคมป์ ทุกแคมป์ที่เราเดินถึง จะมีการลงทะเบียน. เซ็นชื่อทุกครั้ง
พอถึงแคมป์ ก็เหวี่ยงเป้เข้าเต้นท์ ล้างมือล้างไม้ กินข้าว
1
Mess Tent หรือเต็นท์ ทานอาหารของเราคะ
นางเอก ยอดเขาคีรีโผล่มาให้ยลโฉมนิดหน่อย ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า
..ลาค่ำคืนนี้ด้วยการเข้านอนเลยไม่มีการอาบน้ำ เพราะน้ำไม่มีให้อาบ
ราตรีสวัส คีรีมันจาโร.
รีวิว "ถอดปีกนางฟ้า ท้า Kilimanjaro "
อิแอร์ไม่เค๊ย ไม่เคย ไม่เคยปีนเขาที่ไหนมาก่อน นอกซะจาก ภูกะดึงเมื่อสมัยวัยสาว (แต่ก็พราวสเน่ห์พอๆกับตอนนี้แหละ😏)
24 SEP-30 SEP 2015 . Summit on 29 SEP 2015
ใช้บริการของultimate Kilimanjaro .
รูท ขึ้น Machame รูทลง MWEKA. Packet แบบ Private 7 days. รวมที่พัก ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน
- แลนด์ปุ๊บ เดินดุ่มๆ มาที่อิมมิเกชั่นเลยค่ะ กรอกใบ ตม. จ่ายค่าวีซ่า 50$ ถ่ายรูป รับกระเป๋า ออกมาก็เจอคนจากทีมงาน Ultimate Kilimanjaro มารอเลย.
- เป็นผุ้ชายค่ะคุ๊ณณณ โจชัวร์ คนขับรถของ Ultimate ทักทายกันพอเป็นพิธี เสร็จ โจชัวร์ก็ช่วยยกกระเป๋าขึ้นรถ พาเข้าโรงแรม (อ๋ายยยย เห็นม่ะ บอกแล้วอิแอร์สเน่ห์แรงถึงปุ๊บ ผุ้ชายก็พาเข้าโรงแรมปั๊บ) โรงแรมที่พัก ร่วมอยุ่ในแพ็กเก็ทแล้ว 2 คืน คือ คืนแรกที่ไปถึง และคืนสุดท้ายหลังจากลงมาจากเขา
โรงแรมที่พัก จัดว่าดี พนักงานเป็นกันเอง น่ารัก แถมค่าใช้จ่าย(อาหารเครื่องดื่ม) เป็นการสนับสนุนเด็กกำพร้าที่โรงแรมเค้าทำอยุ่ ( แอร์ถึก ขี้เล่นและใจดีค่ะ ✌️)
หลังจากจัดการกับข้าวของเรียบร้อยแล้ว จะรอช้าอยุ่ไย จัดเลยคะ เบียร์คนละขวด55555
เค้าว่ากันว่า If u can not climb it. Drink it !! ถ้าปีนมันไม่ได้ ก็กินมันซะเลยสิคะ คิรีมันจะโร เบียร์ ช่วงระหว่างรอ เจอ ไกด์. ย้อมใจเบาๆ
5โมงกว่าๆ Guide Leader และผุ้ช่วยก็มา พอมาถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง นางเพิ่งลงมาจากเขาค๊าาาาาาา ก็เริ่มด้วยการแนะนำตัว เคยทำอะไรมา เช็คอุปกรณ์ ต้องการอะไรเพิ่มรึป่าว ถามประวัติเราเกี่ยวกับการปีนเขา ประวัติคุณเพื่อนร่วมงานนี่ไม่ต้องพูดถึง โชติช่วงชัชชวาลมากข่าาา มงท์บลัง,อาคองคากัว,ดินาลี,เรนเนียร์ + คิรี รอบนี้รอบที่2ของนาง ส่วนอิแอร์นั้น บอกภูกระดึง ในประเทศของชั้นเอง อิไกด์ทำหน้างง 😁อิแอร์ก็โนสนค่ะ มั่นต่อไป
อย่างที่บอก เพื่อนชอบปีนเขา ความรู้และเทคนิคต่างๆ นางพูดกรอกหูอิแอร์แทบจะทุกวัน อิแอร์เลยมีความรู้และไอเดียร์คราวๆอยุ่บ้าง
จากนั้นก็มีการวัดชีพจรและระดับอ๊อกซิเจน ไกด์จะอธิบายว่า อยุ่บนเขาจะมีการวัดแบบนี้ทุกวัน เช้าเย็น ต้องไม่ต่ำกว่า 120/75 (when resting ) ถ้าต่ำ จะโดนเอาตัวลงมาทันที บลาๆๆๆย
จบพิธีด้วยการเลี้ยงเบียร์คนละขวด
วันรุ่งขึ้นเริ่มออกเดินทาง จากโรงแรมไป Machame gate ใช้เวลาประมาณ 45 นาที มีแวะซื้ออาหารข้างทางปะปราย. จากนั้น มาถึงก็ลงทะเบียน ไกด์ก็ไปจัดการเรื่องporter หรือลูกหาบนั้นเอง รอจนได้เวลาเราก็เริ่มเดินค่ะ ทีมงานทั้งหมด Guide และผุ้ช่วย 2 porter 11 ร่วมเราและเพื่อน = 15คน และเราจะอยุ่ด้วยกัน 7วันเต็มๆ(แบบไม่อาบน้ำ กลิ่นมาดาม หอมชื่นใจ)
(รูปหมู่มาถ่านตอนหลังๆนะฮ่ะ ตอนแรกลืม. มัวแต่กล้าๆกลัวๆ)
วันแรกเราเริ่มเดินกันประมาณ11โมงเช้า ใช้เวลา5ชั่วโมงกว่าจึงถึงแคมป์แรก ร้อนบ้างหนาวบ้าง แล้วแต่ช่วง ไม่มีฝนตก เริ่มแรกจะเป็นช่วงป่าแบบ rain forest ยาวไปจนถึงแคมป์
สภาพก่อนเริ่มเดิน
กับป้ายที่บอกดีเทล ระยะทางต่างๆ สักรูป
เริ่มเดินเรื่อยๆ
วันแรกทางเดินจะออกแนวป่าๆ
เดินประมาณ5ชั่วโมงเราก็มาถึงแคมป์แรกค่ะ
มีดอกไม้ให้ดูเพลินๆ จนมาถึงแคมป์ ทุกแคมป์ที่เราเดินถึง จะมีการลงทะเบียน. เซ็นชื่อทุกครั้ง
พอถึงแคมป์ ก็เหวี่ยงเป้เข้าเต้นท์ ล้างมือล้างไม้ กินข้าว
1
Mess Tent หรือเต็นท์ ทานอาหารของเราคะ
นางเอก ยอดเขาคีรีโผล่มาให้ยลโฉมนิดหน่อย ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้า
ราตรีสวัส คีรีมันจาโร.