สวัสดีคะ ดิฉันรบกวนเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในวงการนี้ช่วยด้วยเถอะคะ หรือช่วยแนะนำให้ที ว่าบริษัทนำเที่ยวที่อื่นๆเค้าจัดการบริหารภายในอย่างไร เพื่อนำไปปรับปรุงให้เป็นระบบมากขึ้น
ดิฉันเปิดบริษัทนำเที่ยวคะ บริษัทเล็กๆของดิฉันทำเป็นแบบ inbound ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นแบบ private ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มครอบครัว ใช้รถตู้นำเที่ยว เวลาไปเที่ยวไกด์มีโปรแกรมที่บริษัทส่งให้ พาลูกค้าเที่ยวตามโปรแกรม ลูกค้าจ่ายเงินให้ไกด์ในวันแรก ไกด์จะใช้เงินนั้นทำทัวร์ยาวเลย (ประมาณ2อาทิตย์) ไกด์จะจดค่าใช้จ่ายตามจริงตลอดทุกวัน เมื่อจบแต่ละทริป จะส่งอีเมลล์ค่าใช้จ่ายที่จดไว้และเหลือเท่าไหร่ให้โอนเงินคืนบริษัท โปรแกรมของบริษัทจะไม่พาลูกค้าไปร้านชอปปื้งแพงๆ ไม่ไปร้านจิวเวลลี่ ไม่หลอกลูกค้าไปไหนที่ในที่ที่ให้เปอร์เซ็นหรือคอมมิสชั่นกับร้านต่างๆ ลูกค้าของเราจะคุยกันมาแล้วกับทางบริษัทว่าเค้าอยากไปที่ไหน ทำอะไรบ้าง ทานอาหารแบบไหน ซึ่งบางมื้อเราซื้อ voucher ไว้แล้ว ก็ให้ไกด์พาไปที่โรงแรมนั้นๆ บางมื้อไปร้านทานข้าวก็ร้านปกติ ไม่ได้รู้จักกับใคร สำหรับค่าตัวของไกด์ บริษัทจะให้เป็นตามจำนวนของลูกค้า และรับรองได้เลยว่าให้พอสมควรที่ไกด์จะไม่ต้องขายของ วิ่งไปนั่นโน้นนี่ เพราะเรารู้ว่าทัวร์เราไม่ไปร้านที่มีคอมมิสชั่น ไกด์เราจะได้ไม่ต้องกังวลกับการขายของ ขอแค่ให้ทำตามโปรแกรมและดูแลลูกค้าให้เต็มที่เท่านั้น บริษัททำงานด้วยความจริงใจกับลูกค้า และพนักงานทุกคน ไม่เคยโกงเงินลูกน้อง หรือค่าแรงแม้แต่บาทเดียว ไกด์ลืมเขียนค่าแท็กซี่กลับบ้าน เรายังเตือนเลย มีทิปให้ถ้าทำงานดี ลูกค้าพอใจเค้าก็ให้เพิ่มอีก ดิฉันก็เคยเป็นลูกน้องมาก่อน เข้าใจใจเขาใจเราเหมือนกัน บริษัทไม่ได้มีทัวร์เยอะมากมาย แต่เราจะบอกไกด์ล่วงหน้าเสมอว่ามีทัวร์ เค้าจะได้แพลนงานได้
ดิฉันอยู่ในแวดวงการท่องเที่ยวมา เจอไกด์มาก็หลายคน ส่วนมากเป็นฟรีแลนซ์ เคยจ้างแบบประจำ แต่ก็ออกไปบ้าง เพราะบางคนไม่สามารถยึดกฎบริษัทได้ แต่ก็ยังอยากได้ประจำอีก ตอนนี้ที่มีอยู่เป็นฟรีแลนซ์ทุกคนคะ ปัญหาที่พบคือ
1. ตอนสัมภาษณ์งาน ไกด์ทุกคนไฟแรงและมุ่งมั่น พอพาไปเทรนงาน (จ่ายค่าตัว) กลับทำตัวไม่ใฝ่รู้ขณะเทรนงาน ทั้งๆที่ตัวเองจะต้องมาคนเดียวคราวต่อไป เช่น พาไปโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.ตราด ผู้เทรนงานชวนไปดูสระว่ายน้ำของโรงแรมว่าอยู่ตรงไหน เพราะเผื่อลูกค้าถาม เราจะได้ตอบได้ ไกด์ตอบว่า ไม่ไป ขี้เกียจ (ตอบได้ใจมาก) หรือช่วงที่นั่งในรถ แทนที่จะดูทาง หรือให้ความรู้กับลูกค้าบ้าง เวลาผ่านสถานที่ต่างๆ กลับกลายเป็นหลับ บางครั้งเราจอดเพื่อให้ไกด์ฝึกหัดได้ดูสถานที่นั้นๆว่าอะไรอยู่ตรงไหน อ่านประวัติสถานที่นั้นๆ ห้องน้ำ ที่ทานอาหาร เค้าก็ไปนั่งสูบบุหรี่กับคนขับรถแทน จนคนขับรถถามว่า หน้าที่ไกด์ต้องไปดูหน้างานไม่ใช่เหรอ ทำไมมานั่งกับเค้า (พฤติกรรมนี้ไม่ใช่ของคนคนเดียวคะ หลายท่านรวมกันนะคะ)
2. เมื่อทำงานจริง ทั้งๆที่ส่งโปรแกรมให้แล้ว กลับโทรมาถามดิฉันว่า ทัวร์วันนี้รวมอาหารเย็นรึเปล่า คือยังไง ส่งงานให้คือจบ โปรดอ่าน ดิฉันธุระอื่นๆอยู่ ทำไมต้องให้เราเปิดคอมอ่านให้ฟังใหม่ บางทีหลายทัวร์ ก็จำได้ไม่หมด ดิฉันก็ต้องหาให้ เพราะถ้าพาลูกค้าไปทานทั้งๆที่ไม่รวมอาหาร เดี๋ยวควักเนื้ออีก แบบนี้บริษัทอื่นทำยังไงคะ
3. ไกด์ไม่พาไปตามโปรแกรม เช่น ทัวร์นี้ไม่มีวัดพระแก้ว แต่พาไป ค่าเข้าคนละ500 ไป10คน 5,000 สรุปตอนจบทริปมาให้ หักเงินบริษัทเรียบร้อย ปิดจอปเอง แบบนี้บริษัทปรับย้อนหลังได้ไหมคะ หรือ one day tour เงินน้อยอยู่แล้ว กลับพาไปดินเนอร์ที่ร้านไหนไม่รู้ หัวละเกือบ 600 บริษัทได้เงินน้อยมาก แบบนี้ปรับกับใคร ไกด์หักค่าตัวไปแล้ว งานต่อไปไม่อยากส่งให้อีก แต่ก็หาไกด์ไม่ทัน นัดลูกค้าไว้แล้ว บางเคสไม่ได้ส่งงานให้อีก กลายเป็นเลยตามเลย จบกันไป
4. โปรแกรมเขียนให้ไปเที่ยวเขาใหญ่ กลับพาไปอยุธยา แต่ในใบรายงานเขียนว่าไปเขาใหญ่นะคะ (อันนี้มารู้ทีหลังจากคนขับ) ไปขายขี่ช้าง และนั่นโน้นนี่ทั้งวัน แล้วลูกค้าออกเงินเอง คือ ไกด์ได้เงินค่าคอมแล้ว ยังได้หักเงินของบริษัทที่สมมติว่าไปเขาใหญ่มาอีก ทำไมลูกค้าไม่โวยวาย เพราะไกด์สนิทกันแล้วไง ไปกันหลายวันแล้ว ไกด์นำเสนอเก่ง ลูกค้าอาจอยากไปอยุธยาตอนที่คุยกันกับบริษัททีแรก แต่ในโปรแกรมตอนนั้นพักที่โคราช เราเลยไม่ได้จัดอยุธยาให้ พอไกด์เสนอ ลูกค้าเลยโอเค จริงๆแล้วบริษัทยืดหยุ่นได้ ให้บริการลูกค้าเถอะ เราให้ไกด์แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปได้ แต่ขอให้สมน้ำสมเนื้อ บอกทางเราด้วย เขียน remark ไว้หลังจบทริปด้วยว่าเพราะอะไร (ทำไม่มื้อนี้แพง ทำไมเปลี่ยนโปรแกรม ทำไมไม่ไปร้านmassage โน่นนั่นนี่ อธิบายได้คะ)
5. คนขับรถเค้าก็มีหน้าที่ขับ เค้าไม่ได้รู้โปรแกรมว่าวันไหนทำอะไร (รถตู้เช่า คนขับไม่ได้เป็นพนักงานเราเอง บางทีเค้าจำได้ว่าไม่ใช่แบบนี้ เค้าเลยเล่าให้ฟังหลังจบทริป เหมือนคุยกันเล่นๆ เลยรู้อีกหลายอย่างว่า พาไปร้านส้มตำข้างถนน แล้วเขียนว่า 1500 หรือกินเบียร์เมาทุกวันตั้งแต่เช้า แต่ก็ทำงานได้แบบเมาๆ แปลกจริง ลูกค้าบางคนโอเค บางคนไม่โอเคนะ)
6. หลังจบงาน ควรส่งใบค่าใช้จ่ายเลย บริษัทอื่นน่าจะเหมือนกันไหมคะ ใครทราบขอแชร์หน่อย ไกด์บางคน ทวงแล้วทวงอีก บอกว่ามีงานอื่น ยังไม่ว่าง แล้วจะจำได้เหรอคะว่าจ่ายอะไรบ้างที่ผ่านมา ไปตั้งหลายวันมาแล้ว หรือว่าไม่ได้เขียนทุกวัน แล้วสรุปยอดต้องรอถึง 2 อาทิตย์ คือเราก็อยากปิดจ๊อปเร็ว ทำให้เสร็จไป รอแต่ไกด์ ก็ไม่ต้องทำอะไร ต้องเคลียร์ค่าใช้จ่ายให้โรงแรม หรืออะไรต่างๆอีก
7. ไกด์บางคนมาสายจนลูกค้ารอเป็นชั่วโมง อันนี้เรารู้กันอยู่ว่ากรุงเทพรถติด ก็น่าจะออกจากบ้านแต่เนิ่นๆนะคะ คนขับรถออกไปรอตั้งแต่ตี 5 แล้วไปนอนรอที่โรงแรม เพื่อให้ทัน 9 โมง แต่ไกด์เราไปถึง 10 โมงกว่า เฮ้อออออ (รู้จากคนขับอีก)
8. เมื่อจัดตารางให้ไกด์ไปทำงาน 2 วัน ไกด์ยืนยันรับงาน ถึงวันทำงาน ส่งเพื่อนไปแทน (ไม่บอกบริษัท) ส่วนตัวเองไปเที่ยวเชียงใหม่ (ไปส่องเฟสมา) คราวนี้ไกด์ที่ไปกับลูกค้าไม่รู้หน้างาน ไม่ตามโปรแกรม ลูกค้าเลยโทรหาบริษัทและขอยกเลิกวันที่เหลือ บริษัทถึงได้รู้ว่าไกด์เราทำแสบ พอจบงาน บริษัทถามไป คำตอบคือ ส่งเพื่อนแบบโปรเฟสชั่นนอลไปนะ ไม่คิดเลยว่าทำไมลูกค้าไม่ชอบ (พูดแบบนี้ได้ไงเนี่ย ประเด็นคือ บริษัทไม่ได้จ้างเพื่อนนะคะ ไม่ว่างก็ไม่ต้องรับงานคะ)
ทั้งนี้ทั้งนั้น ดิฉันเขียนกฏของบริษัทว่าจะปรับเงิน ถ้าไม่ปฏิบัติตาม แต่เราก็ยังไม่ได้ปรับจริงจัง เพราะเค้าจะโทรมาบอกว่าขอเลี่อนส่งใบ อย่าเพิ่งปรับเค้า เราก็เห็นใจ ไม่อยากปรับเค้า แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นทุกครั้ง หรือว่าเราจะใจดีกับไกด์มากเกินไป บริษัทอยากให้ทุกคนทำงานแบบสบายใจ แต่ผลที่ได้คือ เหมือนบริษัทต้องง้อไกด์ตลอดเวลา กว่าบริษัทจะดีลหาลูกค้ามาได้มันก็ไม่ง่ายแล้ว มาตกม้าตายตรงคนของเรานี่แหละ
ทุกคนโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว มีความรับผิดชอบ ไม่อยากให้ใครมาจู้จี้ เราก็ไม่อยากเข้มงวดมากนัก เพราะทุกคนต้องการอิสระในการทำงานบ้าง มีความคิดเป็นของตัวเอง ตอนรับเข้าทำงาน เราให้โอกาส เราไว้ใจเค้า เราให้อิสระเค้าในการตัดสินใจ พอมารู้ทีหลังว่าทำแบบนี้ ทุกครั้งเสียความรู้สึกจริงๆ เอาความไว้ใจมาหักหลังเรา เจ็บเหมือนกันคะ แล้วเป็นแบบนี้หลายคน เราทราบในจุดนี้ว่าทุกคนอยากได้เงินมากๆ เราก็ไม่ได้จ่ายค่าแรงด้อยกว่าที่อื่นเลย แต่ก่อนรับเข้าทำงานเราคุยกันแล้ว ว่าเป็นแบบนี้ บริษัทมีจุดยืนแบบนี้ รับได้มาทำด้วยกัน เราทำงานแบบเปิดใจนะ มีอะไรไม่สบายใจมาคุยกัน
ไกด์หลายท่านกล่าวว่าถ้าไม่เจ๋งจริง ไม่เป็นเสือสิงห์กระทิงแรด อยู่วงการนี้ลำบาก คือคิดว่าหลอกลูกค้าไป เสียชื่อประเทศไป เอาแต่ผลประโยชน์ ขอเงินเยอะๆเป็นพอ บางท่านขายเสนอขายออฟชั่นเสริมด้วย เพิ่มชื่อเสียให้ผู้หญิงไทยเข้าไปอีก ลูกค้าเค้าอยากมาเที่ยว มาดูวัฒนธรรม มาดูสยามเมืองยิ้ม เข้าใจความหมายของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ดิฉันเป็นคนนึงที่อยากให้ต่างชาติรับรู้สิ่งที่ดีจากประเทศเรา อยากให้เค้ารู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ จนถึงชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน ไกด์ซึ่งคือตัวกลาง ผุ้ถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้แก่ผู้มาเยือน ข้อมูลที่ดี ที่ถูกต้องต่างหากเป็นสิ่งที่ลูกค้าอยากได้รับจากไกด์โดยตรง เค้าจะรับรู้ด้านดี ด้านเสีย ก็อยู่ที่ไกด์ด้วยว่าเรานำเสนอแบบไหน ไกด์เปรียบเหมือนหน้าต่างของประเทศใบใหญ่อีกใบนึง เค้าอุตสาห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเยือน เค้าตัดสินใจมาแล้ว เจ้าบ้านก็ควรต้อนรับด้วยความจริงใจไม่ใช่เหรอคะ เราก็ไม่จำเป็นต้องเป็นไกด์ที่เอาแต่ขายของ ยัดเยียดในสิ่งที่เค้าไม่ได้หวังว่าจะเจอ เค้ากลับไปน่าจะได้ความอิ่มเอม ความประทับใจ (ไปๆมาๆกลายเป็นบ่นเลย ขอโทษด้วยคะ)
จนถึงตอนนี้ ดิฉันขอบคุณทุกท่านที่อ่าน และเสนอความคิดเห็นล่วงหน้าคะ ช่วยแนะนำด้วยว่า ดิฉันหรือบริษัทควรปรับปรุงอะไรตรงไหน และความต้องการที่แท้จริงของไกด์คืออะไร ดิฉันจะได้ปรับใช้ให้เหมาะสมต่อไปคะ
ไกด์ในฝันหาได้ที่ไหนคะ
ดิฉันเปิดบริษัทนำเที่ยวคะ บริษัทเล็กๆของดิฉันทำเป็นแบบ inbound ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นแบบ private ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มครอบครัว ใช้รถตู้นำเที่ยว เวลาไปเที่ยวไกด์มีโปรแกรมที่บริษัทส่งให้ พาลูกค้าเที่ยวตามโปรแกรม ลูกค้าจ่ายเงินให้ไกด์ในวันแรก ไกด์จะใช้เงินนั้นทำทัวร์ยาวเลย (ประมาณ2อาทิตย์) ไกด์จะจดค่าใช้จ่ายตามจริงตลอดทุกวัน เมื่อจบแต่ละทริป จะส่งอีเมลล์ค่าใช้จ่ายที่จดไว้และเหลือเท่าไหร่ให้โอนเงินคืนบริษัท โปรแกรมของบริษัทจะไม่พาลูกค้าไปร้านชอปปื้งแพงๆ ไม่ไปร้านจิวเวลลี่ ไม่หลอกลูกค้าไปไหนที่ในที่ที่ให้เปอร์เซ็นหรือคอมมิสชั่นกับร้านต่างๆ ลูกค้าของเราจะคุยกันมาแล้วกับทางบริษัทว่าเค้าอยากไปที่ไหน ทำอะไรบ้าง ทานอาหารแบบไหน ซึ่งบางมื้อเราซื้อ voucher ไว้แล้ว ก็ให้ไกด์พาไปที่โรงแรมนั้นๆ บางมื้อไปร้านทานข้าวก็ร้านปกติ ไม่ได้รู้จักกับใคร สำหรับค่าตัวของไกด์ บริษัทจะให้เป็นตามจำนวนของลูกค้า และรับรองได้เลยว่าให้พอสมควรที่ไกด์จะไม่ต้องขายของ วิ่งไปนั่นโน้นนี่ เพราะเรารู้ว่าทัวร์เราไม่ไปร้านที่มีคอมมิสชั่น ไกด์เราจะได้ไม่ต้องกังวลกับการขายของ ขอแค่ให้ทำตามโปรแกรมและดูแลลูกค้าให้เต็มที่เท่านั้น บริษัททำงานด้วยความจริงใจกับลูกค้า และพนักงานทุกคน ไม่เคยโกงเงินลูกน้อง หรือค่าแรงแม้แต่บาทเดียว ไกด์ลืมเขียนค่าแท็กซี่กลับบ้าน เรายังเตือนเลย มีทิปให้ถ้าทำงานดี ลูกค้าพอใจเค้าก็ให้เพิ่มอีก ดิฉันก็เคยเป็นลูกน้องมาก่อน เข้าใจใจเขาใจเราเหมือนกัน บริษัทไม่ได้มีทัวร์เยอะมากมาย แต่เราจะบอกไกด์ล่วงหน้าเสมอว่ามีทัวร์ เค้าจะได้แพลนงานได้
ดิฉันอยู่ในแวดวงการท่องเที่ยวมา เจอไกด์มาก็หลายคน ส่วนมากเป็นฟรีแลนซ์ เคยจ้างแบบประจำ แต่ก็ออกไปบ้าง เพราะบางคนไม่สามารถยึดกฎบริษัทได้ แต่ก็ยังอยากได้ประจำอีก ตอนนี้ที่มีอยู่เป็นฟรีแลนซ์ทุกคนคะ ปัญหาที่พบคือ
1. ตอนสัมภาษณ์งาน ไกด์ทุกคนไฟแรงและมุ่งมั่น พอพาไปเทรนงาน (จ่ายค่าตัว) กลับทำตัวไม่ใฝ่รู้ขณะเทรนงาน ทั้งๆที่ตัวเองจะต้องมาคนเดียวคราวต่อไป เช่น พาไปโรงแรมแห่งหนึ่ง จ.ตราด ผู้เทรนงานชวนไปดูสระว่ายน้ำของโรงแรมว่าอยู่ตรงไหน เพราะเผื่อลูกค้าถาม เราจะได้ตอบได้ ไกด์ตอบว่า ไม่ไป ขี้เกียจ (ตอบได้ใจมาก) หรือช่วงที่นั่งในรถ แทนที่จะดูทาง หรือให้ความรู้กับลูกค้าบ้าง เวลาผ่านสถานที่ต่างๆ กลับกลายเป็นหลับ บางครั้งเราจอดเพื่อให้ไกด์ฝึกหัดได้ดูสถานที่นั้นๆว่าอะไรอยู่ตรงไหน อ่านประวัติสถานที่นั้นๆ ห้องน้ำ ที่ทานอาหาร เค้าก็ไปนั่งสูบบุหรี่กับคนขับรถแทน จนคนขับรถถามว่า หน้าที่ไกด์ต้องไปดูหน้างานไม่ใช่เหรอ ทำไมมานั่งกับเค้า (พฤติกรรมนี้ไม่ใช่ของคนคนเดียวคะ หลายท่านรวมกันนะคะ)
2. เมื่อทำงานจริง ทั้งๆที่ส่งโปรแกรมให้แล้ว กลับโทรมาถามดิฉันว่า ทัวร์วันนี้รวมอาหารเย็นรึเปล่า คือยังไง ส่งงานให้คือจบ โปรดอ่าน ดิฉันธุระอื่นๆอยู่ ทำไมต้องให้เราเปิดคอมอ่านให้ฟังใหม่ บางทีหลายทัวร์ ก็จำได้ไม่หมด ดิฉันก็ต้องหาให้ เพราะถ้าพาลูกค้าไปทานทั้งๆที่ไม่รวมอาหาร เดี๋ยวควักเนื้ออีก แบบนี้บริษัทอื่นทำยังไงคะ
3. ไกด์ไม่พาไปตามโปรแกรม เช่น ทัวร์นี้ไม่มีวัดพระแก้ว แต่พาไป ค่าเข้าคนละ500 ไป10คน 5,000 สรุปตอนจบทริปมาให้ หักเงินบริษัทเรียบร้อย ปิดจอปเอง แบบนี้บริษัทปรับย้อนหลังได้ไหมคะ หรือ one day tour เงินน้อยอยู่แล้ว กลับพาไปดินเนอร์ที่ร้านไหนไม่รู้ หัวละเกือบ 600 บริษัทได้เงินน้อยมาก แบบนี้ปรับกับใคร ไกด์หักค่าตัวไปแล้ว งานต่อไปไม่อยากส่งให้อีก แต่ก็หาไกด์ไม่ทัน นัดลูกค้าไว้แล้ว บางเคสไม่ได้ส่งงานให้อีก กลายเป็นเลยตามเลย จบกันไป
4. โปรแกรมเขียนให้ไปเที่ยวเขาใหญ่ กลับพาไปอยุธยา แต่ในใบรายงานเขียนว่าไปเขาใหญ่นะคะ (อันนี้มารู้ทีหลังจากคนขับ) ไปขายขี่ช้าง และนั่นโน้นนี่ทั้งวัน แล้วลูกค้าออกเงินเอง คือ ไกด์ได้เงินค่าคอมแล้ว ยังได้หักเงินของบริษัทที่สมมติว่าไปเขาใหญ่มาอีก ทำไมลูกค้าไม่โวยวาย เพราะไกด์สนิทกันแล้วไง ไปกันหลายวันแล้ว ไกด์นำเสนอเก่ง ลูกค้าอาจอยากไปอยุธยาตอนที่คุยกันกับบริษัททีแรก แต่ในโปรแกรมตอนนั้นพักที่โคราช เราเลยไม่ได้จัดอยุธยาให้ พอไกด์เสนอ ลูกค้าเลยโอเค จริงๆแล้วบริษัทยืดหยุ่นได้ ให้บริการลูกค้าเถอะ เราให้ไกด์แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปได้ แต่ขอให้สมน้ำสมเนื้อ บอกทางเราด้วย เขียน remark ไว้หลังจบทริปด้วยว่าเพราะอะไร (ทำไม่มื้อนี้แพง ทำไมเปลี่ยนโปรแกรม ทำไมไม่ไปร้านmassage โน่นนั่นนี่ อธิบายได้คะ)
5. คนขับรถเค้าก็มีหน้าที่ขับ เค้าไม่ได้รู้โปรแกรมว่าวันไหนทำอะไร (รถตู้เช่า คนขับไม่ได้เป็นพนักงานเราเอง บางทีเค้าจำได้ว่าไม่ใช่แบบนี้ เค้าเลยเล่าให้ฟังหลังจบทริป เหมือนคุยกันเล่นๆ เลยรู้อีกหลายอย่างว่า พาไปร้านส้มตำข้างถนน แล้วเขียนว่า 1500 หรือกินเบียร์เมาทุกวันตั้งแต่เช้า แต่ก็ทำงานได้แบบเมาๆ แปลกจริง ลูกค้าบางคนโอเค บางคนไม่โอเคนะ)
6. หลังจบงาน ควรส่งใบค่าใช้จ่ายเลย บริษัทอื่นน่าจะเหมือนกันไหมคะ ใครทราบขอแชร์หน่อย ไกด์บางคน ทวงแล้วทวงอีก บอกว่ามีงานอื่น ยังไม่ว่าง แล้วจะจำได้เหรอคะว่าจ่ายอะไรบ้างที่ผ่านมา ไปตั้งหลายวันมาแล้ว หรือว่าไม่ได้เขียนทุกวัน แล้วสรุปยอดต้องรอถึง 2 อาทิตย์ คือเราก็อยากปิดจ๊อปเร็ว ทำให้เสร็จไป รอแต่ไกด์ ก็ไม่ต้องทำอะไร ต้องเคลียร์ค่าใช้จ่ายให้โรงแรม หรืออะไรต่างๆอีก
7. ไกด์บางคนมาสายจนลูกค้ารอเป็นชั่วโมง อันนี้เรารู้กันอยู่ว่ากรุงเทพรถติด ก็น่าจะออกจากบ้านแต่เนิ่นๆนะคะ คนขับรถออกไปรอตั้งแต่ตี 5 แล้วไปนอนรอที่โรงแรม เพื่อให้ทัน 9 โมง แต่ไกด์เราไปถึง 10 โมงกว่า เฮ้อออออ (รู้จากคนขับอีก)
8. เมื่อจัดตารางให้ไกด์ไปทำงาน 2 วัน ไกด์ยืนยันรับงาน ถึงวันทำงาน ส่งเพื่อนไปแทน (ไม่บอกบริษัท) ส่วนตัวเองไปเที่ยวเชียงใหม่ (ไปส่องเฟสมา) คราวนี้ไกด์ที่ไปกับลูกค้าไม่รู้หน้างาน ไม่ตามโปรแกรม ลูกค้าเลยโทรหาบริษัทและขอยกเลิกวันที่เหลือ บริษัทถึงได้รู้ว่าไกด์เราทำแสบ พอจบงาน บริษัทถามไป คำตอบคือ ส่งเพื่อนแบบโปรเฟสชั่นนอลไปนะ ไม่คิดเลยว่าทำไมลูกค้าไม่ชอบ (พูดแบบนี้ได้ไงเนี่ย ประเด็นคือ บริษัทไม่ได้จ้างเพื่อนนะคะ ไม่ว่างก็ไม่ต้องรับงานคะ)
ทั้งนี้ทั้งนั้น ดิฉันเขียนกฏของบริษัทว่าจะปรับเงิน ถ้าไม่ปฏิบัติตาม แต่เราก็ยังไม่ได้ปรับจริงจัง เพราะเค้าจะโทรมาบอกว่าขอเลี่อนส่งใบ อย่าเพิ่งปรับเค้า เราก็เห็นใจ ไม่อยากปรับเค้า แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นทุกครั้ง หรือว่าเราจะใจดีกับไกด์มากเกินไป บริษัทอยากให้ทุกคนทำงานแบบสบายใจ แต่ผลที่ได้คือ เหมือนบริษัทต้องง้อไกด์ตลอดเวลา กว่าบริษัทจะดีลหาลูกค้ามาได้มันก็ไม่ง่ายแล้ว มาตกม้าตายตรงคนของเรานี่แหละ
ทุกคนโตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว มีความรับผิดชอบ ไม่อยากให้ใครมาจู้จี้ เราก็ไม่อยากเข้มงวดมากนัก เพราะทุกคนต้องการอิสระในการทำงานบ้าง มีความคิดเป็นของตัวเอง ตอนรับเข้าทำงาน เราให้โอกาส เราไว้ใจเค้า เราให้อิสระเค้าในการตัดสินใจ พอมารู้ทีหลังว่าทำแบบนี้ ทุกครั้งเสียความรู้สึกจริงๆ เอาความไว้ใจมาหักหลังเรา เจ็บเหมือนกันคะ แล้วเป็นแบบนี้หลายคน เราทราบในจุดนี้ว่าทุกคนอยากได้เงินมากๆ เราก็ไม่ได้จ่ายค่าแรงด้อยกว่าที่อื่นเลย แต่ก่อนรับเข้าทำงานเราคุยกันแล้ว ว่าเป็นแบบนี้ บริษัทมีจุดยืนแบบนี้ รับได้มาทำด้วยกัน เราทำงานแบบเปิดใจนะ มีอะไรไม่สบายใจมาคุยกัน
ไกด์หลายท่านกล่าวว่าถ้าไม่เจ๋งจริง ไม่เป็นเสือสิงห์กระทิงแรด อยู่วงการนี้ลำบาก คือคิดว่าหลอกลูกค้าไป เสียชื่อประเทศไป เอาแต่ผลประโยชน์ ขอเงินเยอะๆเป็นพอ บางท่านขายเสนอขายออฟชั่นเสริมด้วย เพิ่มชื่อเสียให้ผู้หญิงไทยเข้าไปอีก ลูกค้าเค้าอยากมาเที่ยว มาดูวัฒนธรรม มาดูสยามเมืองยิ้ม เข้าใจความหมายของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ดิฉันเป็นคนนึงที่อยากให้ต่างชาติรับรู้สิ่งที่ดีจากประเทศเรา อยากให้เค้ารู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ จนถึงชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน ไกด์ซึ่งคือตัวกลาง ผุ้ถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้แก่ผู้มาเยือน ข้อมูลที่ดี ที่ถูกต้องต่างหากเป็นสิ่งที่ลูกค้าอยากได้รับจากไกด์โดยตรง เค้าจะรับรู้ด้านดี ด้านเสีย ก็อยู่ที่ไกด์ด้วยว่าเรานำเสนอแบบไหน ไกด์เปรียบเหมือนหน้าต่างของประเทศใบใหญ่อีกใบนึง เค้าอุตสาห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเยือน เค้าตัดสินใจมาแล้ว เจ้าบ้านก็ควรต้อนรับด้วยความจริงใจไม่ใช่เหรอคะ เราก็ไม่จำเป็นต้องเป็นไกด์ที่เอาแต่ขายของ ยัดเยียดในสิ่งที่เค้าไม่ได้หวังว่าจะเจอ เค้ากลับไปน่าจะได้ความอิ่มเอม ความประทับใจ (ไปๆมาๆกลายเป็นบ่นเลย ขอโทษด้วยคะ)
จนถึงตอนนี้ ดิฉันขอบคุณทุกท่านที่อ่าน และเสนอความคิดเห็นล่วงหน้าคะ ช่วยแนะนำด้วยว่า ดิฉันหรือบริษัทควรปรับปรุงอะไรตรงไหน และความต้องการที่แท้จริงของไกด์คืออะไร ดิฉันจะได้ปรับใช้ให้เหมาะสมต่อไปคะ