ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.13 ฆ่าแมลงหลายขา

ญี่ปุ่นไม่ธรรมดา ตอน ฆ่าแมลงหลายขา
แนะนำยาฆ่าแมลงแบบ ใช้จริงแล้วดีเว่อร์ แฮปปี้ทั้งคนทั้งแมลงค่ะ ลองอ่านดูนะคะ

สวัสดีค่ะ
นาฬิกาที่เจแปน เข็มยาวอยู่ที่เลข6 เข็มสั้นอยู่ระหว่างเลข3กับเลข4ค่ะ
(จะพูดให้ยาวไปทำไมฟะ)
ค่ะๆ ตี3ครึ่งค่ะ
หนาวเย็นยะเยือกค่ะ แขนสั้นยังพอทนได้ค่ะ แต่หนาวค่ะ ใครมาเที่ยวช่วงนี้พกเสื้อกันหนาวมาด้วยได้เลยค่ะ ได้ใช้ชัวร์
(แต่ยังไม่หนาวเว่อร์ขนาดใส่หมวก ใส่ผ้าพันคอ ใส่ถุงมือนะ)
(เดี๋ยวคนแถวนี้มาเห็นจะงงว่าพวกแกเป็นไรกันมากป่าว)
(แต่นะ…คนไทยไม่คุ้นกับอากาศหนาว)
(อยากใส่แบบไหนใส่ไปค่ะ แบบชาวไทย ไม่แคร์สื่อนะ เอาที่สบายใจกันไปค่ะ)

วันนี้จะมาเล่าเรื่องระทึกเกิดขึ้นจริงที่บ้านของนางสุโดว์ค่ะ
ระทึกมาก
ผ่านมาแล้วหลายเดือนก็ยังระทึกกันอยู่ค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่า นางสุโดว์เพิ่งจะย้ายบ้านใหม่เมื่อ..เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
(เออๆๆ กูอวดว่ากูซื้อบ้านใหม่)
(แพงสัสสสสสสสสสสสสสสสส)
(ที่ดินเจแปนมันมีจำกัด นี่ขนาดคอนโดธรรมดาบ้านๆไม่หรูหรา)
(ชั้น1ด้วยนะ ไม่อยู่สูง ไม่เอาวิวทิวทัศน์)
(กูยังต้องผ่อนอีก30ปี)
(เป็นหนี้เป็นสินกันไปค่ะ)
(นี่ผ่อนข้ามชาติด้วยนะ ผ่อนพี่ยุรีครึ่งนึงค่ะ)
(ใครไปยืมเงินพี่ยุรีแล้วพี่ยุรีไม่ให้ ไม่ใช่ว่าเธอว์แล้งน้ำใจนะคะ)
(เธอว์เงินหมดเหมือนกันค่ะ โดนนางสุโดว์ยืมไป ทำสัญญาใจด้วยค่ะ)
(คนเป็นแม่นะ “ลูกทยอยคืนแม่ละกันนะ มีเมื่อไหร่ก็โอนคืนเรื่อยๆนะ”)
(รักพี่ยุรีที่สุด)
(พี่ยุรี….ว่างๆเธอว์ก็แชะกระดาษจดหนี้แล้วส่งLINEมาให้ด้วยนะ)
(ไม่รู้ว่ากลัวตัวเองลืมหรือกลัวนางสุโดว์ลืม)

ที่จะเล่าไม่ใช่ปัญหาการเงินทางบ้านสุโดว์ค่ะ
คือ ตอนมาดูห้องดูทิศทาง
(บ้านที่ไทย มาดูฮวงจุ้ย)
(คนเจแปนมาดูทิศทางที่แดดเข้า ทิศทางลมค่ะ)
(เขาชอบให้ระเบียงบ้านหันไปทางทิศใต้กัน)
(เขาว่าแดดส่องเข้าบ้านทั้งวัน)
เซลล์ขายบ้าน นางชื่อ 中倉 นากางูระ
(โค้ดเนมต่อไปนี้คือ นางในโกดัง)
(ชื่อคันจิมันแปลได้ว่าในโกดัง)
(เผลอเรียกว่า”มัน” จะมีใครดราม่าอีกไหมนะ)
(เขาเป็นเซลล์ เขาทำหน้าที่ของเขา เขาขายบ้านที่คุณจะใช้อยู่อีก20-30ปี อยู่ต่อๆกันไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน คุณควรให้เกียรติเขานะคะ)
(พอ!!!!)
(เมื่อไหร่นางสุโดว์จะเลิกพูดถึงคำว่า “มัน” ซะทีนะ)
(คือ…มันโดนดราม่าไปครั้งนึงแล้ว มันจะลืมยากนะ ไม่เชื่อลองให้ใครมาด่าเด่ะ มันจะคาอยู่ในใจข้างในลึกๆเลยนะ)

คือ ลังเลระหว่างห้องชั้น9 (สูงสุดแล้ว) กับชั้น1
(ดันอยู่ใกล้วัดที่เก่าแก่ตั้งแต่ยุคไหนๆกี่พันปีแล้วก็ม่ายรู้)
(มันเลยกำหนดว่าห้ามสูงเกินนี้)
ชั้น9ได้วิวสวยงาม เห็นภูเขาไฟฟูจิ (ถ้าสายตาดี)
ชั้น1ได้ความโล่ง ได้สวนกว้าง
ราคาพอๆกัน แต่ชั้น9แคบกว่า เพราะชั้น9มันแพง
แล้วทีนี้ นางในโกดังบอกมา ชั้น1ก็จะมีแมลงเยอะหน่อยนะคะ แต่ได้ห้องใหญ่ โล่งด้วย ได้สวนด้วยนะ เผื่อน้องยูว์ริโต จะได้ปั่นจักรยานเล่น หน้าร้อนเอาสระน้ำพลาสติกมาปูเล่นสบายใจได้เลยนะเนี่ยๆๆๆๆๆๆ

ส่วนตัวนางสุโดว์ก็อยู่บ้านเดี่ยวมาตลอด ที่บ้านไทยแลนด์ก็มีสวนกว้าง ต้นมะม่วงใหญ่เว่อร์ปลูกมาจะ20ปีแล้วมั้ง มีลูกมะม่วงให้พี่ยุรีสอยมะม่วงเป็นงานอดิเรก แล้วก็นับลูกมะม่วงเอาเบอร์ไปแทงหวยเป็นงานหลัก
เพิ่งจะโค่นไปเพราะพายุเมื่อหลายเดือนก่อน
ไม่รู้ว่าที่บ้านเสียใจที่จะไม่มีมะม่วงกินหรือไม่มีแหล่งบอกเบอร์หวย

แมลงๆๆๆๆ
นางสุโดว์รับได้ค่ะ
นางสุโดว์กรี๊ดแค่ จิ้งจก กับ แมลงสาบ
แมลงสาบเจแปน สีดำกริบๆๆๆเลยนะ ไม่น้ำตาลอ่อนเห็นลวดลายที่ปีกเหมือนของไทยนะ
จิ้งจกของเจแปนก็…ไม่ต่างกับของไทยเท่าไหร่ มีนะเห็นบ้างแต่ไม่เยอะเว่อร์แบบบ้านที่ไทยนะ อันนั้นมัน….ประชากรหนาแน่นเกิ๊น

เรื่องแมลงไม่ใช่ปัญหา จัดไปค่ะ เซ็นสัญญาซื้อบ้าน เอาชั้น1

เดือนกรกฎาย้ายเข้ามาอยู่ แฮปปี้ บ้านโล่งงงงงงกว้างงงง
(เพราะเอาเงินไปผ่อนบ้านหมดนะ ยังไม่มีเงินซื้อเฟอร์นิเจอร์นะ)
คุณนายยูว์ริเพิ่งจะคลาน พอย้ายมาบ้านใหม่ปุ๊ป คลานคล่องเลยนะ
ทั้งฟลอร์ ให้คุณนายเลยค่ะ ว่าจะติดผ้าขี้ริ้วชุบน้ำบิดหมาดๆติดที่เข่ากับมือนะ ให้มันถูพื้นไปด้วยเลยนะ

และแล้วมีอยู่วันนึง
ไม่คาดไม่ฝัน
พาคุณนายเข้าไปอาบน้ำให้ห้องน้ำ แช่น้ำป๋อมแป๋มๆ
.
.
.
อาบน้ำของเจแปนมี2แบบค่ะ
シャワーする ชาว่าซูหรุ แปลว่า อาบน้ำแบบยืนอาบฝักบัว
หรือจะ お風呂に入る โอฟูโระ นิ ฮาอิหรุ แปลว่า เข้าแช่น้ำร้อน
แต่ถ้าเอาทารกแช่น้ำใช้ お風呂に入れる โอฟูโระ นิ อิเรหรุ
คล้ายๆกันแต่ verb ต่างกันนิดๆหน่อยๆนะ
(อธิบายเกือบจะละเอียดนิดนึงนะ ไม่ใช่blogสอนภาษาญี่ปุ่น แต่อยากเล่าให้ฟังนะ)
(ถ้าเบื่อ ข้ามไปพารากร๊าฟต่อไปเลยนะ)
(ถ้าเล่าผิด อย่าเพิ่งด่า กูเรียนไม่สูง)
(ตึกคณะมีแค่3ชั้น ส่วนใหญ่ห้องเรียนอยู่ชั้น1)
(ชั้น2-3มันของภาควิชาอื่น)
(เศร้าสุดๆตอนอยู่ดีๆโดนยึดห้องเรียน ต้องไปนั่งเรียนหน้าคณะ)
(สัสสสสส เรียนไม่สูงไม่ใช่ความสูงเฟ้ยยยยยยยย)

แต่งตัวทาครีมใส่ชุดนอนกุ๊กกิ๊กๆสวยงามน่ารักเสร็จแล้วก็ฝากให้เฮียช่วยเลี้ยงดูแทนหน่อยกูอยากอาบน้ำคนเดียวบ้าง
(วันธรรมดา เวลาเอาคุณนายอาบน้ำ นางสุโดว์ก็อาบน้ำด้วยกันเลยค่ะ)
(เอาคุณนายแช่ในอ่างน้ำ ให้เล่นน้ำไป นางสุโดว์ก็รีบๆๆๆๆ ชาว่าซูหรุ)
(ใครไม่รู้จักคำว่า “ชาว่าซูหรุ” ย้อนกลับไปอ่านพารากร๊าฟบนนะ)

ระหว่างนั้นก็ เตรียมตัวตัวเองอาบบ้างนะ
หยิบผ้าขนหนูๆๆๆ
หยิบแปรงสีฟันๆๆๆ
เดินไปเดินมา เพราะว่าเพิ่งย้ายบ้าน ของยังวางระเกะระกะไม่เป็นที่นะ
เดินไปเดินมา เดินมาเดินไป
เมื่อไหร่จะได้อาบฟะ
ถอดแว่นๆๆๆๆ
ถอดเสื้อๆๆๆๆๆๆๆ
เอ๊ะๆๆๆๆๆ อะไรๆๆๆๆๆๆข้างๆเท้านะ
เส้นๆๆๆๆ
ขดอยู่ระหว่างประตู
หยิบแว่นมาใส่อีกรอบ

กรี๊ดดดดดดดด มากกกกกกก
แต่กรี๊ดไม่ดังมาก
เจแปน ห้ามส่งเสียงดัง ไม่งั้นจะไปรบกวนห้องข้างๆ บาปค่ะ
(สัสสสสสส ห้องข้างๆทั้งสองห้องยังไม่มีใครย้ายเข้ามา)
(ลืมไปๆๆๆ กรี๊ดดดดดดดดดังได้แล้ววว)
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
(ร้องเฮ้ยดังม๊าก)
เฮียที่นั่งดูทีวีอยู่กับยูริตะโกนมาเบาๆว่า “มีอะไร”
(เออ พยายามไม่ให้ลูกดูทีวี ฝากไว้กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า”พ่อ”หรือ”ผัว”ทีไร ได้ดูทีวีทุกทีนะ ไม่รู้บ้านอื่นเป็นหรือป่าว แต่บ้านนี้เป็น)
นี่ร้องเฮ้ยเสร็จแล้ว ไม่รู้จะใส่เสื้อก่อนแล้วค่อยวิ่งออกมา หรือว่าวิ่งออกไปเลย แต่เดี๋ยวๆไม่ดูมันไว้แล้วเดี๋ยวมันเดินหายไปไหนจะเป็นเรื่องใหญ่อีกนะ ต้องคอยมองมันไว้นะ งั้นใส่เสื้อก่อนหรือว่าอย่างไรยังไงดี

เฮียตะโกนมาอีก “อะไรๆๆๆ”
(ตะโกนมานะ ไม่เดินมา รักเมียรักลูกเท่ากัน)
นางสุโดว์ก็รีบใส่เสื้อๆนะ แล้วก็ยืนดูมันชูคอทักทายนะ
ไอ้ตัวนี้ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าอะไรก็ม่ายรู้นะ

นางสุโดว์ “เฮ้ยๆๆๆๆ ที่รักๆๆๆๆ มะมะมะมะมะแมลงๆๆๆๆๆ”
เฮีย “แมลงอะไร”
(นี่ตะโกนคุยกันระหว่างห้องน้ำกับห้องนั่งเล่นนะ)
นางสุโดว์ “แมลงไรไม่รู้ว่ะ ไม่รู้จักภาษาญี่ปุ่น”
เฮีย “ゴキブリ โกกิบุริ??แมงสาป?”
นางสุโดว์ “โนว์ๆๆๆๆๆ มีขาเยอะๆๆๆๆๆ”
เฮีย “クモ คุโมะ?? แมงมุม?”
นางสุโดว์ “ไม่ๆๆๆๆๆ ไม่ชักใย”
เฮีย “カブトムシ คาบุโตมุชิ?? ด้วง???”
(ชาวเจแปน ถ้าแมลง นึกถึงด้วง???)
นางสุโดว์ “เฮ้ยยย ไม่มีนอไม่มีไรทั้งสิ้น อันตรายๆๆๆๆ”
เฮีย “カマキリ คามาคิริ?? ตักแตน???”
นางสุโดว์ “เลื้อยๆๆๆๆๆ ดึ้บๆๆๆๆๆ”
เฮีย “カタツムリ คาตาสึมูริ? หอยทาก??”
นางสุโดว์ “เฮ้ยยย ไม่คลานช้าขนาดนั้นนนน สัสสสสส”
เฮีย “ตัวอะไรวะ คลานๆอันตรายๆ”
นางสุโดว์ “ก็มาดูซิวะ”
(นี่กูเล่นเกมส์ทายคำนี้ทึมสุโดว์แพ้นะ)
ในที่สุดเฮียก็อุ้มยูริมาด้วย

เฮีย “เฮ้ยยยย ムカデ มูคาเด่ะ”
นางสุโดว์ “เออเด่ะ ตะขาบๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
เฮีย “ทำไงดีๆๆๆๆๆ”
นางสุโดว์ “ฆ่ามันเด่ะ ปล่อยไว้ทำไม”
เฮีย “เอาเครื่องดูดฝุ่นมาดูดไหม”
นางสุโดว์ “…” (ไม่รู้ว่าเอาตรรกะที่ไหนมานะ)
นางสุโดว์ “เอาที่ฉีดแมงสาบมาฉีดก่อนไป ไปหยิบมาด่วนๆๆๆๆๆ”
(นางสุโดว์อุ้มยูว์ริแทนค่ะ)
เฮีย “มีตะเกียบไหม เอาตะเกียบแบบใช้แล้วทิ้ง”
นางสุโดว์ “เอามาทำไม”
เฮีย “คีบไปทิ้ง”
นางสุโดว์ “ช่วยฆ่ามันก่อนได้ไม๊”



จัดไปค่ะ เสปรย์ฆ่าแมลงเจแปนนีส รุ่นหนาวยะเยือก -85องศา แช่แข็งกันไป จะหนาวยะเยือกปลิดชีพภายใน1นาที ไม่ทรมาณมากนะ สัพเพสัพตากันนะ

ฉีดไปปุ๊ป มันดิ้นหนีได้!!!
อ่อ ตัวมันยาว คงเหมือนคนโดนฉีดที่ครึ่งตัวล่าง ตัวบนยังตะเกียกตะกายได้
นี่นึกว่าดูเบื้องหลังถ่ายทำภาพยนต์เอเลี่ยนภาค2ตอนจบนะ
ที่นางเอกกับเอเลี่ยนกะโดดลงไปที่ไนโตรเจนเหลวนะ

จัดไปฉีดอีกรอบบบบบบ ฉีดนานๆเน้นๆใกล้ๆ
แข็งขาวเป็นน้ำแข็งเลยค่ะ

เฮียยังถามหาตะเกียบแบบใช้แล้วทิ้งอีกรอบ
คราวนี้ถามหาขวดน้ำพลาสติกด้วย
นางสุโดว์ “เอาไปทำไมยะ ขวด”
เฮีย “เอามาใส่ตะขาบแข็ง”
นางสุโดว์ “เฮ้ยยย เอาไปทิ้งที่สวนก็ได้หนิ ใส่ขวดทำไม”
เฮีย “ไม่อยากรู้หรอว่า พอมันละลายแล้วมันยังมีชีวิตอยู่หรือป่าว”
.
.
.
นางสุโดว์ “อยากรู้นะ แต่ไม่อยากรู้มากขนาดนั้น”
ลืมไปว่าเฮียเรียนสายวิทย์มา
การศึกษาเจแปน สอนให้เด็กเป็นนักทดลองจริงๆ อยากรู้อะไรต้องทดลองเองนะ
พอเรื่องสงบ นางสุโดว์ไม่มีอารมณ์จะอาบน้ำแร้นค่ะ
เฮียยังเล่าประสบการณ์สยองให้ฟังต่อ
เมื่อตอนเรียนมหาวิทยาลัย อยู่หอพักราคาย่อมๆถูกๆเก่าๆ
มีตะขาบโผล่เกาะอยู่ที่ม่านตรงหน้าต่าง
เฮียไม่มีทั้งเสปรย์ฆ่าแมลง และเครื่องดูดฝุ่น
(เฮียยังยืนยันว่าเครื่องดูดฝุ่นดูดแมลงได้)
นางสุโดว์ “อ้าวแล้วทำไงอ่ะ”
เฮีย “เอาตะเกียบคีบมันออกมา”
(มิน่า…เฮียหาตะเกียบ)
เฮีย “ตอนคีบมันออกมานะ ขาหลุดติดอยู่กับม่าน สยองมากเลย”
นางสุโดว์ “แหวะๆๆๆ แล้วซากมันทำไงอ่ะ”
เฮีย “เอาใส่ขวดน้ำแล้วปิดฝา ดูว่ามันจะตายหรือป่าว”
.
.
.
มิน่า หาขวดพลาสติก

วันรุ่งขึ้นขับรถไปซื้อยากันตะขาบด่วนเลยค่ะ มีหลายแบบให้เลือกนะ
แบบก้อนๆโรยรอบบ้านหรือแบบบล๊อก วางไว้ให้ตะขาบมากินแล้วตาย ยาพิษตะขาบนะ





สาธุ และ สัพเพสัพตา

ฮาเลลูยา แอนด์ เอเมน

ปล.คราวนี้ต้องขอบคุณเฮียที่ให้ความรู้ภาษาญี่ปุ่นค่ะ
ปล.อีกที ขออภัยถ้าคำพูดหรือข้อความหรือภาพถ่ายหรือตัวหนังสือตัวไหนๆๆๆๆไปกระทบหัวใจใคร ทำให้คาใจ
อ่านอัพเดท ประสบการณ์แม่บ้านต่างแดนเป็นพอค่ะ หรือใครคนไหนกำลังจะมาอยู่ญี่ปุ่น เลือกซื้อยาฆ่าแมลงตามรูปได้เลยค่ะ ใช้ดีๆ
ขอบคุณค่ะ

ใครสนใจอ่านบทความเก่าๆได้ที่ https://www.facebook.com/mrs.sudoinjapan

เอปิโฉดเก่าๆดราม่าๆที่นี่ค่ะ
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.6 ตอนโดนสั่งผ่าคลอด http://pantip.com/topic/33752395
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.7 ตอนผ่าคลอดแล้วนะ http://pantip.com/topic/33775837
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.8 นอนโรงพยาบาลเจแปนครั้งแรกในชีวิต http://pantip.com/topic/33868639
ประสบการณ์แม่บ้านเจแปน**ญี่ปุ่นคิดได้ไง vol.9 ตามผลหลังคลอด http://pantip.com/topic/33959337

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่