ผมเคยได้ยินการสูญหายทางวัฒนธรรม วิถีชีวิต และประวัติศาสตร์ของกลุ่มคนในบางพื้นที่
เมื่อเราเรียนวิชาสังคมศาสตร์ หรือประวัติศาสตร์ ซึ่งมันดูแย่ที่สิ่งเหล่านั้นได้หายไปตามกาลเวลา จนเราไม่สามารถสัมผัสมันได้
ผมเคยสงสัยว่า ทำไมคนเหล่านั้นถึงไม่ได้พยายามรักษารากเง้าของตนเองเลย พวกเขาไม่ภูมิใจในสิ่งที่พวกเขามีเลยหรือ
พวกเขาไม่ภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาเป็นเลยหรือ ทั้งๆที่มันมีคุณค่า มีความบริสุทธิ์สวยงาม ในตัวเองมาก ทำไมพวกเขาจึงยอมทิ้งมันไป
จนวันนี้ ก็มาถึง... วันที่ผมกำลังจะได้เห็นศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ที่มีชีวิต กำลังจะสูญหายไป กับตาตนเอง
ถ้าสิ่งเหล่านั้นหายไปจริงๆ มันคงจะตอบความสงสัยของผมได้ว่า ทำไมบางประเทศจึงได้เจริญก้าวหน้าอย่างเข้มแข็ง ไปพร้อมกับรากเง้าของตนได้
ในขณะที่บางประเทศพยายามรักษาความเป็นตัวตน ของตนเองอย่างมาก แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเหลือ และไม่สามารถก้าวหน้าไปไหนได้
เมื่อไม่กี่ปีก่อน ผมได้ยินเรื่องของการประมูลขายพื้นที่ บริเวณเวิ้งนาครเขษม ผมก็รู้สึกตกใจ
เนื่องจากเท่าที่ทราบเวิ้งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน ทั้งสถานที่อาคาร และวัฒนธรรมทางดนตรี
เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมการค้าขายเครื่องดนตรีมานานกว่า 50 ปีแล้ว ลองนึกภาพระยะเวลาทางประวัติศาสตร์ของดนตรีในประเทศนี้ 50 ปี สิครับ
เวิ้งนี้จะต้องผ่านยุคอะไรมาบ้าง จะมีนักดนตรี คนสนใจด้านดนตรี มีกี่คนที่เริ่มต้นตรงนี้ มีกี่คนที่เส้นทางดนตรีของเขาต้องผ่านตรงนี้
แม้ว่าสภาพอาคารภายนอกจะดูโทรมมากๆ แต่ผมว่าพื้นที่ตรงนี้คือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางดนตรี ที่มีชีวิต เหมือนผู้สูงอายุที่มากด้วยประสบการณ์
ที่สามารถบอกเล่าความเป็นมาของประวัติศาสตร์ทางดนตรีในประเทศนี้ได้อย่างดีมากๆ เพราะมันคือการถ่ายทอดประสบการณ์ของตนเอง
ไม่ใช่การอ่าน-ฟัง มาจากใครที่ไหน นี่คือสิ่งที่ทำให้ที่แห่งนี้แตกต่าง ถ้าหากประเทศนี้จะมีพิพิธภัณฑ์ทางดนตรี ที่มีแต่ป้ายข้อความให้เราได้อ่าน
ป้ายข้อความที่ถึงแม้เราจะถาม มันก็จะตอบได้เหมือนที่เราถาม Siri
และไม่นานมานี้ ก็พบว่า สะพานเหล็ก ก็จะเป็นอีกที่ ที่จะต้องสูญหายไป ถึงแม้ว่าสภาพพื้นที่จะดูแย่กว่าเวิ้งนาครเขษมมาก
แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ ก็อยู่กับวัยรุ่น และเด็กไทยมายาวนาน เพราะที่นี่ เต็มไปด้วยร้านขายเกมส์ ขายของเล่น ของสะสมต่างๆ มายาวนาน
ถ้าเราอยากรู้ว่าแต่ละยุคแต่ละสมัย วัยรุ่นนิยมเล่นอะไร ที่นี่มีคำตอบ ถ้าเราอยากรู้ว่าของเล่นรุ่นไหนเป็นตำนานที่นี่ก็บอกได้
แทบจะเป็นศูนย์รวมประวัติศาสตร์เกมส์ในเมืองไทยเลยก็ว่าได้
สุดท้าย
ผมไม่เข้าใจว่า ตึกทรงโคโลเนียล กับประวัติศาสตร์ทางดนตรี ที่ยาวนาน ผ่านยุดดิสโก้ ร๊อคแห่งเสรีชน ป๊อปสไตล์ยุโรป อัลเทอเนทีฟ ฯลฯ
มีตรงไหนที่ไม่น่าอนุรักษ์ ไม่น่าจะสงเสริมพัฒนาให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์รวมของดนตรี และศิลปะ ที่มีชีวิตอย่างจริงจัง...
หรือพื้นที่โทรมๆ ไม่ถาวร อย่างสะพานเหล็ก ไม่ดีพอที่จะได้รับการส่งเสริมให้เป็นศูนย์รวมของเล่น ของสะสมอย่างจริงจังได้?
สิ่งเหล่านี้มันทำให้ผมนึกถึงโคงการหลายๆ โครงการ ที่ตอนแรกได้ยินแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่รอดหรอก เพราะโครงการมันไม่มีชีวิต ไม่มีเรื่องราว
เช่นโครงการทำ Silicon Valley ที่นครนายก ที่แม้จะลงเงินมากมาย ใส่อะไรอย่างที่อื่นไปแล้ว แต่ก็ไม่มีผล
หรือการสร้างตลาดน้ำที่คลองผดุงกรุงเกษม ที่แม้จะจัดทุกอย่างใว้แล้ว แต่มันก็ไม่ได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น
ในความเห็นส่วนตัวของผม ผมรู้สึกว่า ที่แบบนั้นมันไม่มีอดีต ไม่มีเรื่องราว ที่น่าสนใจ สิ่งเหล่านี้เงินมันซื้อไม่ได้ อำนาจก็จัดหาไม่ได้
ถ้าหากปล่อยให้มันถูกพรากไปพร้อมกับกาลเวลา มันก็ยากมากที่จะดึงมันกลับคืนมา เพราะคุณค่าของมันได้สูญหายไปแล้ว
การที่ไม่รักษา และสนับสนุนให้ชุมชนที่มีเรื่องราวได้เติบโต ในทางที่มันควรจะเป็น ให้มันเป็นพิพธภัณฑ์ที่มีชีวิต
เหมือนอย่าง ตลาดอัมพวา ตลาดสามชุก หรือกาดสวนแก้ว ซึ่งสถานที่เหล่านั้น มีประวัติ มีเรื่องราวยาวนาน และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในที่สุด
การจะไปสร้างสถานที่ แล้วยกอดีตของอีกที่ ที่ได้ทำลายลงไป ทั้งหมดมาใว้ที่นี่ เพื่อให้คนเข้ามาใช้พื้นที่ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว
มันไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มอะไรเลย มันกลายสิ่งจอมปลอม ของปลอมๆ บรรยากาศปลอมๆ เพราะมันใช่ที่นั่นจริงๆ
ในเมื่อเราไม่พยายามรักษาวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ของท้องถิ่นในพื้นที่ใว้ แล้วเราจะมีประวัติศาสตร์จริงๆได้อย่างไร?
หรือจะทำแบบเดิมๆ คือเมื่อจะใช้ประวัติศาสตร์ ก็ค่อยไปสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมา... คงเป็นเรื่องของวิสัยทัศน์ของผู้นำแล้วล่ะครับ
เมื่อเราได้เห็นการสิ้นสุดของประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมเล็กๆ ด้วยตนเอง จึงเข้าใจมากขึ้น
เมื่อเราเรียนวิชาสังคมศาสตร์ หรือประวัติศาสตร์ ซึ่งมันดูแย่ที่สิ่งเหล่านั้นได้หายไปตามกาลเวลา จนเราไม่สามารถสัมผัสมันได้
ผมเคยสงสัยว่า ทำไมคนเหล่านั้นถึงไม่ได้พยายามรักษารากเง้าของตนเองเลย พวกเขาไม่ภูมิใจในสิ่งที่พวกเขามีเลยหรือ
พวกเขาไม่ภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาเป็นเลยหรือ ทั้งๆที่มันมีคุณค่า มีความบริสุทธิ์สวยงาม ในตัวเองมาก ทำไมพวกเขาจึงยอมทิ้งมันไป
จนวันนี้ ก็มาถึง... วันที่ผมกำลังจะได้เห็นศิลปะ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ที่มีชีวิต กำลังจะสูญหายไป กับตาตนเอง
ถ้าสิ่งเหล่านั้นหายไปจริงๆ มันคงจะตอบความสงสัยของผมได้ว่า ทำไมบางประเทศจึงได้เจริญก้าวหน้าอย่างเข้มแข็ง ไปพร้อมกับรากเง้าของตนได้
ในขณะที่บางประเทศพยายามรักษาความเป็นตัวตน ของตนเองอย่างมาก แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเหลือ และไม่สามารถก้าวหน้าไปไหนได้
เมื่อไม่กี่ปีก่อน ผมได้ยินเรื่องของการประมูลขายพื้นที่ บริเวณเวิ้งนาครเขษม ผมก็รู้สึกตกใจ
เนื่องจากเท่าที่ทราบเวิ้งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน ทั้งสถานที่อาคาร และวัฒนธรรมทางดนตรี
เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมการค้าขายเครื่องดนตรีมานานกว่า 50 ปีแล้ว ลองนึกภาพระยะเวลาทางประวัติศาสตร์ของดนตรีในประเทศนี้ 50 ปี สิครับ
เวิ้งนี้จะต้องผ่านยุคอะไรมาบ้าง จะมีนักดนตรี คนสนใจด้านดนตรี มีกี่คนที่เริ่มต้นตรงนี้ มีกี่คนที่เส้นทางดนตรีของเขาต้องผ่านตรงนี้
แม้ว่าสภาพอาคารภายนอกจะดูโทรมมากๆ แต่ผมว่าพื้นที่ตรงนี้คือพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางดนตรี ที่มีชีวิต เหมือนผู้สูงอายุที่มากด้วยประสบการณ์
ที่สามารถบอกเล่าความเป็นมาของประวัติศาสตร์ทางดนตรีในประเทศนี้ได้อย่างดีมากๆ เพราะมันคือการถ่ายทอดประสบการณ์ของตนเอง
ไม่ใช่การอ่าน-ฟัง มาจากใครที่ไหน นี่คือสิ่งที่ทำให้ที่แห่งนี้แตกต่าง ถ้าหากประเทศนี้จะมีพิพิธภัณฑ์ทางดนตรี ที่มีแต่ป้ายข้อความให้เราได้อ่าน
ป้ายข้อความที่ถึงแม้เราจะถาม มันก็จะตอบได้เหมือนที่เราถาม Siri
และไม่นานมานี้ ก็พบว่า สะพานเหล็ก ก็จะเป็นอีกที่ ที่จะต้องสูญหายไป ถึงแม้ว่าสภาพพื้นที่จะดูแย่กว่าเวิ้งนาครเขษมมาก
แต่ประวัติศาสตร์ของที่นี่ ก็อยู่กับวัยรุ่น และเด็กไทยมายาวนาน เพราะที่นี่ เต็มไปด้วยร้านขายเกมส์ ขายของเล่น ของสะสมต่างๆ มายาวนาน
ถ้าเราอยากรู้ว่าแต่ละยุคแต่ละสมัย วัยรุ่นนิยมเล่นอะไร ที่นี่มีคำตอบ ถ้าเราอยากรู้ว่าของเล่นรุ่นไหนเป็นตำนานที่นี่ก็บอกได้
แทบจะเป็นศูนย์รวมประวัติศาสตร์เกมส์ในเมืองไทยเลยก็ว่าได้
สุดท้าย
ผมไม่เข้าใจว่า ตึกทรงโคโลเนียล กับประวัติศาสตร์ทางดนตรี ที่ยาวนาน ผ่านยุดดิสโก้ ร๊อคแห่งเสรีชน ป๊อปสไตล์ยุโรป อัลเทอเนทีฟ ฯลฯ
มีตรงไหนที่ไม่น่าอนุรักษ์ ไม่น่าจะสงเสริมพัฒนาให้ที่นี่กลายเป็นศูนย์รวมของดนตรี และศิลปะ ที่มีชีวิตอย่างจริงจัง...
หรือพื้นที่โทรมๆ ไม่ถาวร อย่างสะพานเหล็ก ไม่ดีพอที่จะได้รับการส่งเสริมให้เป็นศูนย์รวมของเล่น ของสะสมอย่างจริงจังได้?
สิ่งเหล่านี้มันทำให้ผมนึกถึงโคงการหลายๆ โครงการ ที่ตอนแรกได้ยินแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่รอดหรอก เพราะโครงการมันไม่มีชีวิต ไม่มีเรื่องราว
เช่นโครงการทำ Silicon Valley ที่นครนายก ที่แม้จะลงเงินมากมาย ใส่อะไรอย่างที่อื่นไปแล้ว แต่ก็ไม่มีผล
หรือการสร้างตลาดน้ำที่คลองผดุงกรุงเกษม ที่แม้จะจัดทุกอย่างใว้แล้ว แต่มันก็ไม่ได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น
ในความเห็นส่วนตัวของผม ผมรู้สึกว่า ที่แบบนั้นมันไม่มีอดีต ไม่มีเรื่องราว ที่น่าสนใจ สิ่งเหล่านี้เงินมันซื้อไม่ได้ อำนาจก็จัดหาไม่ได้
ถ้าหากปล่อยให้มันถูกพรากไปพร้อมกับกาลเวลา มันก็ยากมากที่จะดึงมันกลับคืนมา เพราะคุณค่าของมันได้สูญหายไปแล้ว
การที่ไม่รักษา และสนับสนุนให้ชุมชนที่มีเรื่องราวได้เติบโต ในทางที่มันควรจะเป็น ให้มันเป็นพิพธภัณฑ์ที่มีชีวิต
เหมือนอย่าง ตลาดอัมพวา ตลาดสามชุก หรือกาดสวนแก้ว ซึ่งสถานที่เหล่านั้น มีประวัติ มีเรื่องราวยาวนาน และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในที่สุด
การจะไปสร้างสถานที่ แล้วยกอดีตของอีกที่ ที่ได้ทำลายลงไป ทั้งหมดมาใว้ที่นี่ เพื่อให้คนเข้ามาใช้พื้นที่ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว
มันไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มอะไรเลย มันกลายสิ่งจอมปลอม ของปลอมๆ บรรยากาศปลอมๆ เพราะมันใช่ที่นั่นจริงๆ
ในเมื่อเราไม่พยายามรักษาวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ของท้องถิ่นในพื้นที่ใว้ แล้วเราจะมีประวัติศาสตร์จริงๆได้อย่างไร?
หรือจะทำแบบเดิมๆ คือเมื่อจะใช้ประวัติศาสตร์ ก็ค่อยไปสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมา... คงเป็นเรื่องของวิสัยทัศน์ของผู้นำแล้วล่ะครับ