แค่พยาบาลคนนึงจะให้ตัน แจกรถพยาบาล ถึงกับล้มเหลวทางความคิด รุมงับกันหนุกหนาน

ทำไมเราต้องเรียกร้องให้เศรษฐีต้อง "ใจบุญ" ???

ทำไมต้องเรียกร้องให้อ้วนตันบริจาค ???
ทำไมต้องเรียกร้องให้อ้วนตันทำ CSR เพื่อสังคม ???

ครั้งนึงสังคมกะลาแลนด์เคยแขวะ "ภราดร"
ที่บริจาคเงินช่วยเหลือภัยพิบัติเป็นจำนวนแค่หลักหมื่น
เพราะสังคมคาดหมายว่า คนรวย คนดัง จะต้องบริจาคเยอะ ต้องช่วยสังคม

ละเมอกันรึเปล่าครับ ...!!!!

ไอ้พวกนั้นมันทำมาหากินของมันเอง
จนมันรวยขึ้นมาได้เพราะการทำงานหนัก
ดังนั้นมันจะขี้เหนียว มันจะไม่คืนให้สังคม ก็เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมของมัน

เพราะมันไม่ได้ไปปล้นใครเขามานะครับ

จู่ๆจะมาเรียกร้องกัน
ให้อ้วนตันแจกรถพยาบาล แจกอุปกรณ์การแพทย์
ตันมันไม่ใช่รัฐบาลที่ต้องจัดงบประมาณมาสนับสนุนอะไรแบบนี้นะครับ

เศรษฐีไทยกับฝรั่งมันต่างกัน
ฝรั่งมันให้ในแบบที่มองภาพใหญ่
Donation ของคนรวยฝรั่งมันมองภาพไปถึงอนาคต

เช่น ไอ้ "มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก"
คนที่พวกเรานั่งเล่น facebook ของมันอยู่เป็นต้น

เมื่อ 2 ปีก่อน
มันบริจาคหุ้นของมัน และ ของพริสซิลล่า ชาน เมียมัน
ที่มีมูลค่าสูงถึง 3 หมื่นล้านบาทไทยให้กับมูลนิธิซิลิคอน แวลลี่ คอมมิวนิตี้

หุ้น fb ในตอนที่ไอ้มาร์คบริจาคนั้น
มันให้ไปทั้งหมด 18 ล้านหุ้น มูลค่าร่วมๆ 1,000 ล้านยูเอสดอลล่า

แต่ที่มีแล้วให้
แถมยังให้เยอะสุดๆ
น่าจะเป็นไอ้บิล เกทส์

ไอ้บิลบริจาคไปแล้วกว่า 28,000 ล้านยูเอสดอลล่า
หรือ คิดเป็นเงินไทยก็ได้ร่วมๆ 900,000 ล้านบาท
ให้กับมูลนิธิ บิล และ เมลินด้า เกทส์ (ของมัน และ เมียมันนั่นแหละ)

มูลนิธิของไอ้บิลไม่แสวงหากำไร
มีเป้าหมายสนับสนุนด้านการศึกษา , สุขภาพ และ งานวิจัย

ไอ้บิลถึงขนาดให้ทุนไปทำวิจัย "ส้วม" และ ตั้งเป้าว่าอยากให้ทุกคนในโลกนี้มีส้วมใช้

จะขี้ จะเยี่ยว ก็ให้มันถูกสุขลักษณะหน่อย...ว่างั้นเหอะ..!!!!

-ห้องสมุดที่ขาดแคลนมันก็สนับสนุน
-ชุมชนที่แอฟริกาไม่มีคอมพิวเตอร์ไอ้บิลมันก็ให้
-มาเลเรียระบาดมันก็สนับสนุนวัคซีนไปฉีดให้ผุ้คนในกาฬทวีป แถมยังให้ทุนไปวิจัยเพิ่ม

-นักศึกษาจากประเทศด้อยพัฒนามันก็แจกทุนให้เรียน
-ปฏิรูปการศึกษามันก็ทำ โดยเฉพาะการสร้าง "ครู" ซึ่งมันให้ความสำคัญมาก

ไอ้บิลตั้งใจว่าจะบริจาคเงินทั้งหมด 95% ที่มันมีอยู่ เพราะตายห่ะไปก็เอาไปไม่ได้

มันบอกว่า.....

"ไอมีกิน มีใช้
และ ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีว่ะ
ไอมีอาหารดีๆ และ เสื้อผ้าดีๆอย่างพอเพียงแล้ว
ไอไม่รู้จะมีไปอีกทำซ่นteenอะไร มีมากไปก็ไม่ได้สุขเพิ่มขึ้น เงินๆทองๆไอก็มีมากมาย
แต่ไอ้ที่ว่ามากๆนั้นหากไอไม่ใช้มัน มันก็ไม่เกิดประโยชน์ห่ะอะไรเลย ไอว่าไอบริจาคดีกว่าว่ะ"

โอววว.....พูดซะหล่อเลย

จ่าขอคารวะเศรษฐีทุกคน
ที่มีแล้วรู้จักที่จะแบ่งปันให้คนที่ขาด
และ ยิ่งเป็นการให้อะไรที่ต่อ-ยอดทางความรู้ด้วยแล้ว ยิ่งดีใหญ่

เพราะความรู้มันคือน้ำพุแห่งสติปัญญา ที่ไม่มีใครปล้นชิงไปจากเราได้

แต่ไอ้ตันมันก็ไม่ได้ผิดอะไร
เพราะมันก็ทำการตลาดไปตามแผนการลงทุนของมัน

มันไม่ได้บังคับให้ใครไปกินชาเขียวของมันเลย

อยากกินยี่ห้อไหน
อยากเอามันไปล้อเป็นตัวตลก
หรือ อยากกด Like เผื่อว่าจะฟลุ๊คได้ของฟรี...มันก็เป็นสิทธิ์ของใครของมันทั้งนั้น

จ่าไม่ชอบไอ้ตันเลยซักนิด เกลียดเลยก็ว่าได้

แต่จ่ามองว่าการที่จู่ๆไปเรียกร้อง โน่น นี่ นั่น จากมัน
มันช่างเป็นการ "คาดหวัง" ที่ออกไปในเชิงเห็นแก่ได้ของคนในสังคมบางกลุ่ม

คาดหวังในแง่ที่ว่า "เมิงเป็นคนรวย เมิงต้องคืนให้แก่สังคม"

เอาเข้าจริงๆแล้ว
ไอ้ตันก็เคยให้มาแล้วพอสมควร
ทั้งในตอนที่น้ำท่วมใหญ่ หรือ ในเรื่องอื่นๆที่มันพ่วง "การตลาด" เข้าไป

เงินของมัน
มันจะให้ หรือ ไม่ให้ ก็สิทธิ์ของมัน
จะไปคาดหวัง ไปบังคับ ไปสั่งไปสอน ไปกดดัน อะไรมันนักเล่า ???

อยากได้รถพยาบาล อยากได้อุปกรณ์อะไรก็ทำเรื่องตั้งงบฯไปที่ภาครัฐโน่น

ไอ้ตันมัน "พ่อค้า" นะครับ มันไม่ใช่ "พ่อพระ" ...!!!!!!









ขอบคุณพี่ผุยแห่งห้องย่อยบีเทิ่ลส์ ที่สละล็อคอินมาให้จ่าลุยต่อครับ









จ่าพิเชษฐ์