สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ผิดพลาดตรงไหน ต้องขออภัยด้วยนะคะ

[:อมยิ้ม17:]
เราเป็นเด็กบ้านนอก ที่ไม่มีความสวยเลยตั้งแต่เด็ก (จะว่า อ้วนดำ ก็ไม่ผิดนะ)

ทำให้หนุ่มๆที่รู้จักหรือเคยพบกัน ไม่มีใครจีบเลย จนกระทั่งเราอยู่ ม.3 เราได้รู้จักกับ ผช คนหนึ่งผ่าน MSN เป็นครั้งแรกที่คุยกับหนุ่ม ตอนนั้นยังไม่มีมือถือเป็นของตัวเอง จะคุยกันแต่ละทีต้องนัดเวลาไปร้านเน็ต เราก็คุยกันอยู่ซักพักหลายเดือนเหมือนกัน พอเราขึ้น ม.4 เราก็มีมือถือเป็นของตัวเอง(สมัยนั้นโนเกีย 3310 นะจ้ะ) จะได้โทรคุยกันซักที **เราขอเรียก ผช คนนี้ว่า M ละกันนะ


M เป็นรุ่นน้องเรา 1 ปี ตอนแรกก็คุยแบบพี่น้อง m อยู่โคราช ส่วนเราอยู่ขอนแก่น เราโทรคุยกันทุกวัน มันเป็นการคุยที่ไม่เบื่อเลย คุยแบบไม่เคยเจอหน้ากัน คุยกันได้ประมาณครึ่งปี เราสองคนก็ตกลงเป็นแฟนกัน ตอนนั้นยังไม่มีสมาร์ทโฟน เราใช้วิธีส่งไปรษณีย์รูปภาพให้กัน
แต่ด้วยความที่เรากะ m อยู่ไกลกัน ไม่ได้เจอกันเลย ทำให้เราไม่ได้คาดหวังกับรักครั้งนี้เท่าไหร่ อีกอย่างเราไม่สวย ถ้า m เจอตัวจริง เขาอาจจะไม่อยากคุยกับเราต่อก้ได้
จนกระทั่งเราอยู่ ม.4 เทอม 2 เราก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวโคราชกับครอบครัวเราเลยถือโอกาสนี้นัดเจอ m เลย เราดีใจนะที่จะได้เจอกันซักที หลังจากมองแต่รูปมานานเกือบปี ต้องบอกก่อนว่าเราจะเล่าทุกอย่างให้พ่อแม่ฟังไม่มีปิดบัง รวมทั้งเรื่องที่คุยกะ m ด้วย พ่อแม่เราค่อยข้างเข้าใจวัยรุ่นน่ะ เราสองคนนัดเจอกันที่วังน้ำเขียว วินาทีแรกที่เจอหน้า m...เฮ้ยย!!++ หล่อ...กว่าในรูป m เดินเข้ามาหาเรา เราก็แอบหวั่นๆว่าเขาจะรับเราไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีผิดหวังนะ เราก็เดินคุยกันอยู่ซักพัก เราบอก m ว่า "ถ้าหลังจากวันนี้ จะเลิกคุยกับเราก็ได้นะ เพราะเห็นตัวจริงเราแล้วนี่" m บอกว่า "ก็คอยดูละกัน ว่าจะเลิกคุยรึเปล่า" จากนั้นเราก็แยกย้าน เราก็กลับขอนแก่นกับครอบครัว แอบหวังว่าเขาจะโทรมารึป่าวน๊าาา...หรือเขาจะหายไปเลย

หลังจากนั้น ไม่กี่ชั่วโมง เขาก็โทรมา (เราดีใจมากกกก!!)

เขายังคุยกับเราปกติ และจากวันนั้นเราก็คุยกันทุกวัน ในฐานะแฟนกัน เราคบกันรักกันมาเรื่อยๆ มีทะเลาะกันบ้างแต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เราเจอกันปีละ 2 ครั้ง คือสงกรานต์กับวันคบรอบที่เราคบกัน ความรักเราโอเคมาก เพื่อนๆทุกคนอิจฉา เวลาเจอเพื่อนๆ ทุกคนต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่แกยังไม่เลิกกันอีกหรอ??? เรากับเขารักกัน คบกันมา จนเราอยู่ ม.6 ก็ 3 ปีแล้ว เรามั่นใจกับผู้ชายคนนี้มาก คนนี้แหละใช่ ไม่เจ้าชู้ คุยกันรู้เรื่อง รักเรา แถมหล่อ = =' เราคบคนนี้คนเดียว คุยคนเดียว และเราก็คิดว่าเขารักเราคนเดียว

จนกระทั่ง...จนกระทั้ง...เราจบ ม 6 และเราเอ็นติดมหาวิทยาลัย เราก็ออกมาอยู่หอพัก เป็นอิสระมากขึ้น ทำให้มีเวลาเจอแฟนมากขึ้น การที่เราเจอกันบ่อยขึ้น มันเหมือนจะดีนะ **แต่...มันทำให้เราได้รู้อะไรบางอย่าง บางอย่างที่เราไม่เคยรู้เลยตลอดเวลา 3 ปี ที่ไม่ค่อยเจอกัน...
หลังจากที่เข้ามหาลัย เราก็ไปหา m เดือนละ 2 ครั้ง ทุกอย่างก็ดูปตกติดี จนวันหนึ่ง เรานัดเจอกันวันเสา อาทิตย์ ใกล้จะถึงวันนัดอยู่แล้ว อยู่ๆ m ก็โทรมาบอกว่ามีธุระ มาเจอไม่ได้ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แค่เลื่อนไปเป็นอาทิตย์หน้า....และอาทิตย์ต่อมา เรามาเจอกัน ปกติเราไม่ใช่คนขี้หึงนะ แต่วันนั้นที่เจอกัน เราแอบแซว m เล่นๆว่า อาทิตที่แล้วอ่ะ แอบไปกะสาวมาป่ะเนี่ยย เขาก็ดูหงุดหงิดเลยอ่ะ โมโหเรา และบอกว่า ถ้าไม่เชื่อใจ เปลี่ยนมือถือกันใช้เลยไหม เราก็ขอโทษเขา แค่แซวเล่นๆ แต่หลังจากวันนั้น m ก็โทรมาหาน้อยลง โทรหาไม่ค่อยรับ บอกว่าจะจบ ม.6 แล้ว อยากใช้เวลากับเพื่อนมากๆ เราก็เข้าใจ ......หลายเดือนต่อมา เราเจอกัน มือถือ m มีปัญหา เราก็เลยเอามือถือเราให้ m ใช้ และเอาของเขามาซ่อมให้ พอซ่อมเสร็จ เราก็เลยเปิดดูปฏิทินในมือถือเพื่อทำงานอ่ะ แต่เราไปเจอบันทึกเตือนความจำอันนึง พิมว่า "จูบแรกของหวาน" ซึ่งวันที่มันตรงกับวันที่ m ผิดนัดเรา เราก็โทรถาม m เลยว่าคืออะไร เขาก็บอกไม่รั เอาไปซ่อมมา ติดไวรัสมารึป่าว.. เราก็คิดว่า อาจจะใช่มั้ง เชื่อเขา คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ(โง่เนอะ!!)
ต้องบอกก่อนว่า เรารักผู้ชายคนนี้มาก ยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้เขามีความสุข

ถ้าเขาเดือดร้อนเรื่องเงิน ถ้าเราช่วยได้เราก้ช่วย พอเขาจะจบ ม.6 เราก้ไปหาที่โคราช เพื่อติวข้อสอบให้ เราอยากให้เขามาเรียนมหาลัยเดียวกัน เราติวให้จนเขาเอ็นติดที่เดียวกับเรา คราวนี้จะได้อยู่ใกล้ๆกันเจอกันทุกวันเลย **มันก็เหมือนจะดีอีกนั่นแหละ แต่.....การที่เราได้มาอยู่ร่วมกัน เจอกันทุกวัน มันทำให้เรารู้จัก m มากขึ้น รู้ว่าเขาเป็นคนยังไง

ด้วยความที่ฐานะทางบ้าน m ไม่ค่อยดี เราจึงต้องช่วยเรื่องเงินหลายๆครั้ง ทางบ้าน m ไม่มีคนส่งตังให้เลย รายรับเดียวที่เขาได้คือ กยศ เดือนละ 2200 เท่านั้น เขาอยู่กับเรา กินกับเรา แต่เรายินดีมากที่จะได้อยู่ใกล้ๆกันทุกวัน.....แต่ m เป็นคนทะเยอทะยาน หัวสูง เหมือนเขาไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี
ด้วยความที่เรารัก m เราจะพยายามหาสิ่งที่เขาต้องการมาให้ เรากินมาม่าทุกวัน เพื่อเก็บเงินซื้อ เกมส์ PSP เครื่องละ 6000 ให้ m แต่เราก็มีความสุขทุกครั้งที่เห็นเขาสมหวังหรือดีใจ
เรายอมดรอปวิชาโทของคณะเราและรอลงเรียนพร้อม m เพื่อที่จะได้ติวให้เขา และผ่านไปด้วยกัน (เขาติด f แล้วรอบนึง), เราให้เขาใช้รถของเรา โดยที่เรายอมขึ้นสองแถว และโกหกตัวเองว่า ขี้เกียจขับ
เวลาเขาเห็นอะไร แล้วบอกว่าอยากได้ เราก้จะแอบเก็บตังแล้วซื้อให้เขา **มันอาจจะเหมือนเราโง่มาก แต่เรายอมรับว่าตอนนั้นเรามีความสุขที่ได้ทำให้เขา แต่ m เหมือนจะไม่แคร์เราเลย มันผิดที่เราแหละที่ทำตัวเป็นของตาย ทำตัวเหมือนเราขาดเขาไม่ได้ มันมีหลายเรื่องมากที่เขาทำร้ายเรา แต่เราก็ตาบอด จนมานึกย้อนหลังแล้ว ยังถามตัวเองเลยว่า ทนได้ไง....
เวลาเดินไปไหนด้วยกัน เราจะชอบจับมือ แต่ m ไม่ยอมจับ เขาบอกว่า มันร้อน เหงื่อออกที่มือ(เขาคงอายที่คบกับเรา)
เวลาไปซื้อของด้วยกัน เขาจะไม่ถือของช่วยเราเลย หนักแค่ไหนเราก็ถือเอง พอเราบอกให้ถือช่วย เขาก็จะบอกว่า เป็นแม่บ้านต้องจ่ายตลาดเองก็ต้องถือเอง ...

เขาไม่ใส่ใจเราเลย ทำให้เราระแวง จากที่เป้นคนไม่งี่เง่า เราก็เริ่มงี่เง่า เริ่มจับผิด เริ่มค้นมือ ค้นเฟส พอยิ่งค้นก็ยิ่งเจอ เจอว่าเขาคุยกับสาวๆหลายคน เขามีเฟสบุค 2 อัน เขาบอกว่าเลิกเล่นไปอันนึงแล้ว เล่นแค่เฟสปัจจุบัน แต่เขาไม่ยอมเพิ่มเพื่อนในเฟสเดิมมาเฟสใหม่ และไม่ยอมให้เราดูเฟสเดิม โดยให้เหตุผลว่าไม่อยากรื้อฟื้น เราพูดเรื่องนี้หลายครั้งมาก ทะเลาะกันบ่อยมาก ว่าถ้าไม่มีอะไร ทำไมไม่ให้ดู ทะเลาะกัน เรางอน เขาก็เงียบ จนเราต้องขอโทษเอง เหตุการณืแบบนี้เกิดชึ้นบ่อยมากก เรางอน และหายเองคร่าาา....เขาไม่เคยง้อเลยย แต่ไม่ว่าจะยังไง เราก็คบกันได้นานมาก จนกระทั่ง(อีกแล้วว)...เราเรียนจบ
[:อมยิ้ม24:]

พอเราเรียนจบ m ก็อยู่ปี 3 เขาก็ไปฝึกงานเป็นเวลา 4 เดือน ในขณะที่เรา พอเรียนจบก็ได้งานทำเลย เราต้องห่างกับ m อีกแล้ว แต่ก็ยังโทรคุยกันทุกวัน เราได้งานทำที่ กทม โดยที่ m ก็ฝึกงานที่ กทม แต่เราเป็นเด็กบ้านนอกอ่ะ ไปไหนไม่เป็นหรอก เราเริ่มทำงานวันที่ 1 เมษา 57 ต้องบอกเลยชีวิตเราอยู่ในช่วงปรับตัวมาก ++การจากบ้านไกลๆ มาอยู่คนเดียวในเมืองกรุง ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจก็มีแค่ครอบครัว และแฟน(ที่เรารักมากๆ) หลังจากที่เราต่างแยกย้ายไปทำตามฝัน เราก้ยังคุยกับ m ทุกวันนะ แต่เขาไม่ค่อยโทรมาหรอก ส่วนใหญ่เราโทรไป

วันเกิดเราในเดือน เมษา เราอยากเจอ m มาก แต่เราไปไม่เป็น เลยได้แค่คำอวยพรทางโทรศัพท์ แต่หลังจากวันเกิด เราก็ไม่ค่อยได้คุยกันเลย m ทำตัวห่างๆออกไป โทรหาแค่วันละครั้ง โทรไปเริ่มมีรอสาย หนักๆเข้า เราเลยโทรหาเพื่อน m แล้วถามว่าตกลงมันเป็นยังไง เล่าให้เจ๊ฟังเถอะ (เราค่อนข้างสนิทกับเพื่อน m ) น้องบอกว่า "อะไรกันเจ๊ ทะเลาะกันหรอ เห็นคุยกันทุกวันเลย วันละหลายๆรอบ หวานกว่าเมื่อก่อนอีก" ...!!! ห๊ะ คุยวันละหลายรอบหรอ เฮ่ยย!! ไม่ใช่ล่ะ ไม่ใช่เราล่ะ วันนั้นเราเลยตัดสินใจโทรจิกเลย จนเขารับสาย เราก็เลยขอร้อง เปิดใจคุยเถอะ มีคนอื่นใช่มั้ย m ก็อ้ำอึ้ง ไม่ยอมพูด เราก็ร้องให้ และบอกเขาว่า ไม่ต้องห่วงหรอก บอกความจริงมาเถอะ เราจะได้ตัดสินใจ ถ้าไม่รักเราแล้วก็ปล่อยเราไปเจอคนที่ดีกว่าเธอเถอะ...นั่นแหละ เขาถึงยอมพูด เขาพูดว่า...

"ตอนนี้ m ก็มีคนคุย เป็นน้องที่ฝึกงานเจอกัน คุยกันได้ไม่นาน แต่คือน้องคนนั้นใช่กว่าเธอ m คุยกัยน้องเขาแล้วรู้สึกว่ามีความสุข ไม่เหมือนคุยกับเธอ แต่ m ก็ที่ผ่านมา m ก็รักเธอนะ ไม่ได้โกหก เพียงแค่ m อยากมีโอกาสได้รู้จักคนใหม่ๆ m ยอมรับนะ ว่าเบื่อ ขอโทษนะ"

.......นี่คือคำพูดที่ออกมาจากปากผู้ชายที่เรารักและทุ่มเททุกอย่างให้มาตลอด 7 ปี เขาเลือกที่จะทิ้งเราไปคบกับผู้หญิงที่เขารู้จักไม่ถึงเดือน หลังจากที่เขาพูดจบ เราพูดไม่ออกเลย น้ำตาไหล เราไม่โวยวายอะไรเลย มันจุกไปหมด จุกที่คอ ระหว่างเรามันนานจนกลายเป็นความผูกพันธ์ มันมีหลายหลายเรื่องราววนเวียนในหัวเรา เราทำอะไรไม่ถูก และพูดกับ m ไปว่า "อืม...ขอบคุณนะที่บอกความจริง ขออย่างนึงได้ไหม ขอร้อง...ไปแล้วอย่ากลับมานะ โชคดีนะ"...แล้วเราก็วางสาย

พอวางสายเท่านั้นแหละ เราเหมือนคนบ้าเลย พังทุกอย่าง ร้องให้แบบสุดๆเหมือนคนบ้า เหมือนสติหลุดเลย เรื่องราวทุกอย่าง สิ่งที่เราเคยทำให้เขา มันวนเวียนย้ำเตื่อน เราบอกเลยว่าเราเคว้งคว้างมาก ณ ตอนนั้น เหมือนไม่เหลือใครแล้ว มองไปรอยข้างไม่รู้จักใครซักคน งานก็พึ่งทำได้อาทิตย์เดียว ยังไม่มีเพื่อนเลย ไม่รู้จะระบายกับใคร สิ้งที่ทำได้คือนอนร้องให้คนเดียว พอสติกลับมาสิ่งแรกที่ทำคือ โทรหาแม่ เล่าทุกอย่างให้ฟังพร้อมน้ำตา เราอยากกลับบ้าน ไม่อยากทำแล้วงาน เราคุยกับแม่เกือบ 2 ชม แม่ก็ร้องให้ แม่คงเจ็บกว่าเราหลายเท่า พอคุยกับแม่ สติเราก็เริ่มเข้าที่ เริ่มคิดได้ว่าโง่ และตาบอดมานานแค่ไหน หลอกตัวเองมานานแค่ไหน แต่สิ่งนึงที่แม่เราสอนคือ อย่างน้อยเราก็เคยรักกัน เคยมีเรื่องราวดีดีร่วมกัน อย่าไปโกรธไปแค้นเขาเลยลูก ให้ทุกอย่างมันจบในชาตินี่เถอะ...ไม่รู้เพราะอะไรแต่เราไม่โกรธ m เลยนะ แต่ไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว


วันนี้ก็เกือบ 2 ปีแล้วซินะ ที่เราเลิกกัน เราก็ได้ข่าว m เรื่อยๆนะ(มีสายมาบอกเรื่อยๆ) เขาเลิกกับเด็กคนนั้นล่ะ ตอนนี้ก็คุยสาวไปเรื่อยๆไม่มีจุดยืน และที่สำคัญ จนตอนนี้ยังเรียนไม่จบเลย และค่อนข้างลำบากเรื่องเงิน ต้องทำงานด้วยเรียนด้วย ดีแล้วแหละ หัดลำบากซะบ้างชีวิตจะได้มีรสชาติ เพื่อนๆไปเที่ยวกับคณะ m ก็ไม่ได้ไป เพราะไม่มีตังค์ มีครั้งนึงติดต่อ จะยืมตังค์เรา 1500 โอ้ยยย!!!... ของเก่าอ่ะ คืนกรูก่อนม๊ายยยยย......เราแบบ ยืนอยู่ตรงนี้แล้วมองกลับไปในอดีต ยิ่งเห็นชัดว่า ตัวเองโง่มาก....ขอบคุณมากกกที่ทิ้งกัน เพราะไม่งั้นชีวิตเราคงไม่ดีขนาดนี้ มีงานมีการมั่นคง ทำตามความฝันสำเร็จ มีแฟนที่รักเราจริงๆไม่ว่าเราจะขี้เหร่แค่ไหน รักเราโดยที่เราไม่ต้องทุ่มเทอะไรเลย

*****ไว้มีโอกาสเราจะเล่าประสบการณ์การถูกรักที่เราไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิต (ทั้งๆที่มีแฟนมาตั้ง 7 ปี)
ใครจะไปโง่!! โดนผู้ชายหลอกใช้ ตั้ง 7 ปี ** เหมือนเรา
เราเป็นเด็กบ้านนอก ที่ไม่มีความสวยเลยตั้งแต่เด็ก (จะว่า อ้วนดำ ก็ไม่ผิดนะ)
แต่ด้วยความที่เรากะ m อยู่ไกลกัน ไม่ได้เจอกันเลย ทำให้เราไม่ได้คาดหวังกับรักครั้งนี้เท่าไหร่ อีกอย่างเราไม่สวย ถ้า m เจอตัวจริง เขาอาจจะไม่อยากคุยกับเราต่อก้ได้
จนกระทั่งเราอยู่ ม.4 เทอม 2 เราก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวโคราชกับครอบครัวเราเลยถือโอกาสนี้นัดเจอ m เลย เราดีใจนะที่จะได้เจอกันซักที หลังจากมองแต่รูปมานานเกือบปี ต้องบอกก่อนว่าเราจะเล่าทุกอย่างให้พ่อแม่ฟังไม่มีปิดบัง รวมทั้งเรื่องที่คุยกะ m ด้วย พ่อแม่เราค่อยข้างเข้าใจวัยรุ่นน่ะ เราสองคนนัดเจอกันที่วังน้ำเขียว วินาทีแรกที่เจอหน้า m...เฮ้ยย!!++ หล่อ...กว่าในรูป m เดินเข้ามาหาเรา เราก็แอบหวั่นๆว่าเขาจะรับเราไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีผิดหวังนะ เราก็เดินคุยกันอยู่ซักพัก เราบอก m ว่า "ถ้าหลังจากวันนี้ จะเลิกคุยกับเราก็ได้นะ เพราะเห็นตัวจริงเราแล้วนี่" m บอกว่า "ก็คอยดูละกัน ว่าจะเลิกคุยรึเปล่า" จากนั้นเราก็แยกย้าน เราก็กลับขอนแก่นกับครอบครัว แอบหวังว่าเขาจะโทรมารึป่าวน๊าาา...หรือเขาจะหายไปเลย
หลังจากที่เข้ามหาลัย เราก็ไปหา m เดือนละ 2 ครั้ง ทุกอย่างก็ดูปตกติดี จนวันหนึ่ง เรานัดเจอกันวันเสา อาทิตย์ ใกล้จะถึงวันนัดอยู่แล้ว อยู่ๆ m ก็โทรมาบอกว่ามีธุระ มาเจอไม่ได้ เราก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ แค่เลื่อนไปเป็นอาทิตย์หน้า....และอาทิตย์ต่อมา เรามาเจอกัน ปกติเราไม่ใช่คนขี้หึงนะ แต่วันนั้นที่เจอกัน เราแอบแซว m เล่นๆว่า อาทิตที่แล้วอ่ะ แอบไปกะสาวมาป่ะเนี่ยย เขาก็ดูหงุดหงิดเลยอ่ะ โมโหเรา และบอกว่า ถ้าไม่เชื่อใจ เปลี่ยนมือถือกันใช้เลยไหม เราก็ขอโทษเขา แค่แซวเล่นๆ แต่หลังจากวันนั้น m ก็โทรมาหาน้อยลง โทรหาไม่ค่อยรับ บอกว่าจะจบ ม.6 แล้ว อยากใช้เวลากับเพื่อนมากๆ เราก็เข้าใจ ......หลายเดือนต่อมา เราเจอกัน มือถือ m มีปัญหา เราก็เลยเอามือถือเราให้ m ใช้ และเอาของเขามาซ่อมให้ พอซ่อมเสร็จ เราก็เลยเปิดดูปฏิทินในมือถือเพื่อทำงานอ่ะ แต่เราไปเจอบันทึกเตือนความจำอันนึง พิมว่า "จูบแรกของหวาน" ซึ่งวันที่มันตรงกับวันที่ m ผิดนัดเรา เราก็โทรถาม m เลยว่าคืออะไร เขาก็บอกไม่รั เอาไปซ่อมมา ติดไวรัสมารึป่าว.. เราก็คิดว่า อาจจะใช่มั้ง เชื่อเขา คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ(โง่เนอะ!!)
ต้องบอกก่อนว่า เรารักผู้ชายคนนี้มาก ยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้เขามีความสุข
ด้วยความที่เรารัก m เราจะพยายามหาสิ่งที่เขาต้องการมาให้ เรากินมาม่าทุกวัน เพื่อเก็บเงินซื้อ เกมส์ PSP เครื่องละ 6000 ให้ m แต่เราก็มีความสุขทุกครั้งที่เห็นเขาสมหวังหรือดีใจ
เรายอมดรอปวิชาโทของคณะเราและรอลงเรียนพร้อม m เพื่อที่จะได้ติวให้เขา และผ่านไปด้วยกัน (เขาติด f แล้วรอบนึง), เราให้เขาใช้รถของเรา โดยที่เรายอมขึ้นสองแถว และโกหกตัวเองว่า ขี้เกียจขับ
เวลาเขาเห็นอะไร แล้วบอกว่าอยากได้ เราก้จะแอบเก็บตังแล้วซื้อให้เขา **มันอาจจะเหมือนเราโง่มาก แต่เรายอมรับว่าตอนนั้นเรามีความสุขที่ได้ทำให้เขา แต่ m เหมือนจะไม่แคร์เราเลย มันผิดที่เราแหละที่ทำตัวเป็นของตาย ทำตัวเหมือนเราขาดเขาไม่ได้ มันมีหลายเรื่องมากที่เขาทำร้ายเรา แต่เราก็ตาบอด จนมานึกย้อนหลังแล้ว ยังถามตัวเองเลยว่า ทนได้ไง....
เวลาเดินไปไหนด้วยกัน เราจะชอบจับมือ แต่ m ไม่ยอมจับ เขาบอกว่า มันร้อน เหงื่อออกที่มือ(เขาคงอายที่คบกับเรา)
เวลาไปซื้อของด้วยกัน เขาจะไม่ถือของช่วยเราเลย หนักแค่ไหนเราก็ถือเอง พอเราบอกให้ถือช่วย เขาก็จะบอกว่า เป็นแม่บ้านต้องจ่ายตลาดเองก็ต้องถือเอง ...
[:อมยิ้ม24:]