สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 37
ไม่ใช่แต่ที่อินโดฯหรอกค่ะ มิจฉาชีพและคอรัปชั่น มีเยอะ
ที่อินโดฯนี่ เจอเหมือนกัน ที่สนามบินสุราบาย่า จะเรียกเก็บเงิน หาว่าเราไม่มีวีซ่า เราเลยพูดเสียงดัง ประมาณตะโกนถามเพื่อนอีกแถวหนึ่ง
ว่า " เฮ้ ตม.คนนี้มาว่า I ไม่มีวีซ่า เขาไม่รู้หรือไง ว่าคนไทยเข้าได้ U ถาม ตม.แถวของ U ดิ้"
แต่ความจริง ดิฉันไปคนเดียวค่ะ
แต่แกล้งทำเนียนไปงั้น ( ไม่อาย มั่นใจมาก อย่าหาว่าดิฉันกะล่อนเลยนะ แต่ผู้หญิงที่เดินทางคนเดียวบ่อยๆ ต้องนิ่งให้มาก และมีทริคเล็กๆน้อยๆไว้เอาตัวรอด ) แถมยังตีหน้าซื่อถามว่า "นี่ยูไม่รู้จริงๆหรือคะ เพิ่งมาทำงานนี้เหรอ " แถมแนะนำให้ ตม.แถวดิฉัน ไปถามเจ้าหน้าที่คนอื่นด้วย ว่าช่วยไปเช็คก่อน เพราะดิฉันมาอินโดฯหลายครั้งแล้ว จะดูเอกสารไหม?
คนมองเต็มเลย เขาเลย อ้อๆ เชิญครับๆ
ที่บาหลีนี่ก็แสบมาก หากินกับนักท่องเที่ยวสุดๆ บางคนโดนตรวจกระเป๋า เจออะไรก็ขอ เพื่อนนักเดินทางเล่าให้ฟัง
โดยส่วนตัว ดิฉันจะถ่ายเอกสารหน้าพาสปอร์ตและเอกสารอื่นๆเช่นประกันภัย เบอร์โทรสถานทูตไทย และนามบัตรโรงแรมรวมถึงนามบัตรคู่ค้า (ในกรณีที่ไปเรื่องงาน) ติดตัวเสมอ รวมถึงเงื่อนไขการเข้าประเทศที่ระบุว่าคนไทยเข้าได้ โดยเอามาจากหน้าเวปของสถานทูต (ปกติ ไม่ค่อยได้ใช้ แต่เคยต้องควักออกมายัน ที่รัสเซีย และที่อินโดฯ นี่ล่ะค่ะ)
เรื่องเงินก็เหมือนกัน ในกระเป๋า อย่าพกเยอะ แยกไว้หลายๆที่ สมัยก่อนที่บัตรATM ยังกด ที่ตปท.ไม่ได้ และยังไม่มีการจองและจ่ายเงินค่าโรงแรมผ่านเนต เราต้องพกเงินเยอะ ดิฉันซ่อนไว้หลายที่มาก เพราะเคยทำกระเป๋าหาย โดนล้วง ก็ยังมีเหลือ แต่เดี๋ยวนี้ดีหน่อย ไม่ต้องพกเยอะ พกบัตรไปกด ตปท.เอา
และใช้กล้องมือถือถ่ายหน้าพาสปอร์ต รวมถึงตราประทับ การเข้าเมือง
เคยโดนตำรวจขอตรวจ ระหว่างเดินเที่ยวเล่น ดิฉันเอาแต่สำเนาส่งให้ และบอกว่าตัวจริงเก็บไว้ในเซฟในห้องโรงแรม ถ้าอยากดูตัวจริง ต้องไปเอาที่โรงแรม เพราะถ้าให้ตัวจริงไป อาจโดนฉกไปได้ เดี๋ยวต้องเสียค่าไถ่อีก (แบบที่คุณโดน)
ในกรณีที่ไปประเทศที่คนไทยไปน้อย หรือในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และไปหลายวัน ดิฉันมักส่งอีเมล์แจ้งไปที่สถานทูตไทย(หรือกงศุล) ให้ทราบไว้เสมอค่ะ หลายครั้งที่ได้รับความเอื้อเฟื้อจากจนท.สถานทูต ให้หมายเลขส่วนตัวในกรณีฉุกเฉิน ให้โทรหาได้ตลอดเวลาที่เดินทางอยู่ในประเทศนั้นๆ
สรุปว่า เดินทางตปท. หลายที่ ต้องทำใจและเตรียมพร้อมรับมือค่ะ บางครั้งเราต้องยอมจ่าย แม้จะโกรธมากแค่ไหน เพื่อไม่ให้เสียเวลา เสียอารมณ์มากไปกว่าที่เป็นอยู่ ให้จบๆไป
และเชื่อเถอะ ร้องเรียนสถานทูตไป ก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่หรอกค่ะ
ที่อินโดฯนี่ เจอเหมือนกัน ที่สนามบินสุราบาย่า จะเรียกเก็บเงิน หาว่าเราไม่มีวีซ่า เราเลยพูดเสียงดัง ประมาณตะโกนถามเพื่อนอีกแถวหนึ่ง
ว่า " เฮ้ ตม.คนนี้มาว่า I ไม่มีวีซ่า เขาไม่รู้หรือไง ว่าคนไทยเข้าได้ U ถาม ตม.แถวของ U ดิ้"
แต่ความจริง ดิฉันไปคนเดียวค่ะ

แต่แกล้งทำเนียนไปงั้น ( ไม่อาย มั่นใจมาก อย่าหาว่าดิฉันกะล่อนเลยนะ แต่ผู้หญิงที่เดินทางคนเดียวบ่อยๆ ต้องนิ่งให้มาก และมีทริคเล็กๆน้อยๆไว้เอาตัวรอด ) แถมยังตีหน้าซื่อถามว่า "นี่ยูไม่รู้จริงๆหรือคะ เพิ่งมาทำงานนี้เหรอ " แถมแนะนำให้ ตม.แถวดิฉัน ไปถามเจ้าหน้าที่คนอื่นด้วย ว่าช่วยไปเช็คก่อน เพราะดิฉันมาอินโดฯหลายครั้งแล้ว จะดูเอกสารไหม?
คนมองเต็มเลย เขาเลย อ้อๆ เชิญครับๆ
ที่บาหลีนี่ก็แสบมาก หากินกับนักท่องเที่ยวสุดๆ บางคนโดนตรวจกระเป๋า เจออะไรก็ขอ เพื่อนนักเดินทางเล่าให้ฟัง
โดยส่วนตัว ดิฉันจะถ่ายเอกสารหน้าพาสปอร์ตและเอกสารอื่นๆเช่นประกันภัย เบอร์โทรสถานทูตไทย และนามบัตรโรงแรมรวมถึงนามบัตรคู่ค้า (ในกรณีที่ไปเรื่องงาน) ติดตัวเสมอ รวมถึงเงื่อนไขการเข้าประเทศที่ระบุว่าคนไทยเข้าได้ โดยเอามาจากหน้าเวปของสถานทูต (ปกติ ไม่ค่อยได้ใช้ แต่เคยต้องควักออกมายัน ที่รัสเซีย และที่อินโดฯ นี่ล่ะค่ะ)
เรื่องเงินก็เหมือนกัน ในกระเป๋า อย่าพกเยอะ แยกไว้หลายๆที่ สมัยก่อนที่บัตรATM ยังกด ที่ตปท.ไม่ได้ และยังไม่มีการจองและจ่ายเงินค่าโรงแรมผ่านเนต เราต้องพกเงินเยอะ ดิฉันซ่อนไว้หลายที่มาก เพราะเคยทำกระเป๋าหาย โดนล้วง ก็ยังมีเหลือ แต่เดี๋ยวนี้ดีหน่อย ไม่ต้องพกเยอะ พกบัตรไปกด ตปท.เอา
และใช้กล้องมือถือถ่ายหน้าพาสปอร์ต รวมถึงตราประทับ การเข้าเมือง
เคยโดนตำรวจขอตรวจ ระหว่างเดินเที่ยวเล่น ดิฉันเอาแต่สำเนาส่งให้ และบอกว่าตัวจริงเก็บไว้ในเซฟในห้องโรงแรม ถ้าอยากดูตัวจริง ต้องไปเอาที่โรงแรม เพราะถ้าให้ตัวจริงไป อาจโดนฉกไปได้ เดี๋ยวต้องเสียค่าไถ่อีก (แบบที่คุณโดน)
ในกรณีที่ไปประเทศที่คนไทยไปน้อย หรือในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ และไปหลายวัน ดิฉันมักส่งอีเมล์แจ้งไปที่สถานทูตไทย(หรือกงศุล) ให้ทราบไว้เสมอค่ะ หลายครั้งที่ได้รับความเอื้อเฟื้อจากจนท.สถานทูต ให้หมายเลขส่วนตัวในกรณีฉุกเฉิน ให้โทรหาได้ตลอดเวลาที่เดินทางอยู่ในประเทศนั้นๆ
สรุปว่า เดินทางตปท. หลายที่ ต้องทำใจและเตรียมพร้อมรับมือค่ะ บางครั้งเราต้องยอมจ่าย แม้จะโกรธมากแค่ไหน เพื่อไม่ให้เสียเวลา เสียอารมณ์มากไปกว่าที่เป็นอยู่ ให้จบๆไป
และเชื่อเถอะ ร้องเรียนสถานทูตไป ก็ไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่หรอกค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ใครไปเที่ยวอินโดแล้วเคยเจอตำรวจอินโดเรียกดูและยึดพาสปอร์ต เพื่อไถเงินบ้างไหมครับ
ขณะนั่งรถแท็กซี่กลับ ก่อนถึงที่พักไม่มาก ผมโดนตรงถนน Jl. Benyamin Sueb แถว North Jarkata ครับ ก่อนทางเข้างาน JIEXPO ราว 80 ม. เจอตำรวจ 3 คน มีมอไซค์ ยืนรอโบกให้แท็กซี่หยุดแล้วขอตรวจรถ สักพักก็ขอเราให้ส่งพาสฯ ให้เหมือนจะเอาไปตรวจๆ แล้วก็ไม่ยอมคืนพาสฯ ให้เรา ถ้าเราไม่จ่ายตังค์ พอเราถามว่าจะยึดเพราะอะไรก็บอกว่า เราเข้าแบบฟรีวีซ่า ต้องไปรายงานตัวอะไรสักอย่างนี่แหละทุก 7 วัน เถียงมันว่านี่เรามาถึงวันที่ 24 วันอาทิตย์นี่มันแค่ 4 วันเอง ที่ว่ามามันผิดตรงไหน สรุปก็พูดออกมาเลยว่า this my law my own country หันไปถามแท๊กซี่ว่า What should I do? แท็กซ่ก็บอกว่า pay your money (ไม่กล้าลงรถครับ นั่งมันในรถนี่แหละ) ก็สรุปง่าย ๆ ซึ่งๆ หน้านี่แหละว่าจะเอาเงิน
ใจนึงคิดว่าถ้าโดนยึดพาสก็ยึดสิวะ เดี๋ยวไปออกใหม่ที่สถานฑูตก็ได้ แต่อาทิตย์หน้าผมมีคิวต้องไปญี่ปุ่นต่อห่วงเรื่องทำพาสปอร์ตใหม่ไม่ทัน สรุปรวมๆ ในใจแล้วคิดว่าเราพลาดละ พาสปอร์ตโดนยึดแบบนี้ไม่มีอำนาจต่อรองอะไรเลย ถ้าอยากได้พาสปอร์ตเราคืนก็ต้องยอมครับ เหลือเงินเท่าไหร่ก็ต้องให้ไปหมดครับ ดีที่ว่าพกเงินสดไม่มากเหลือแค่เงินอินโดแสนกว่า เพราะซื้อนู่นนี่ กินมาตลอดทาง แต่ตำรวจบอกว่าไม่พอ น้องผู้ชายอีกคนหวังดีจะหยิบเงินเพิ่มเลยเผลอหยิบกระเป๋าตังค์ออกมา คราวนี้มันได้ทีเลย ตอนแรกมันให้หยิบเงินดอลล์ น้องผู้ชายบอกว่าเราไม่มีหรอกมีแต่เงินไทย เงินไทยมันก็เอาครับให้หยิบเงินไทยออกมา พัน แรกไม่พอเอาอีก 2 พันไม่พอเอาอีก จนแบงค์พันใบสุดท้าย รวมสามพันก็ไม่พอ เอาแบงค์ร้อยต่อด้วย ไปสองคนโดนรวมคิดเป็นเงินไทยราวสามพันสามร้อยห้าสิบบาท เรียกว่าโดนไถซึ่งหน้าแบบไม่มีอะไรที่ผิดเลย รู้สึก แย่มากเพราะประทับใจอินโดมาหลายเรื่องทั้งเรื่องอาหาร และผู้คนที่นั่น มาแป้กเพราะตำรวจสามคนนี่แหละ
ใครเคยเจอ หรือใครมีความรู้ว่าควรจะทำอย่างไรเวลาเจอสถานการณ์แบบนี้ มาแชร์กันด้วยนะครับ เอาไว้เป็นข้อมูลเผื่อให้คนไทยด้วยกันที่ไปเที่ยวได้ระวังตัวครับ
ส่วนตัว ครั้งแรกที่ไปอินโดนีเซีย ก็จำฝังใจเลยครับ อึ้ง และอึ้ง
ปล.คนอินโดดีดีก็มีเยอะนะครับ หลังโดนไถ เราใจเหี่ยวมาก เลยเข้าไปหาพรรคพวกที่งาน AFAiD แก้เซ็ง ซึ่งสุดท้ายพอกลับไปถึงงาน AFAiD ประทับใจมาก คนการ์ตูน คอการ์ตูนด้วยกันช่วยใส่ใจเป็นธุระคนละไม้คนละมือ เป็นธุระแจ้งเรื่องให้ ช่วยปลอบใจ เลี้ยงข้าว ฯลฯ การได้เจอคนดี หลังเจอคนไม่ดีมานี่รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยครับ