สวัสดีครับทุกท่าน
ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องราวของเรื่องนี้ก่อนนะครับ
สำหรับคนที่ขี้เกียจอ่านเปิดสปอยล์ได้เลยครับ มีสรุปสั้นๆให้ครับ
สั้นแบบจบข่าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีคนโอนเงินผิดเข้าบัญชี ธนาคารส่งเอกสารมาให้รับรู้ที่บ้าน เงินโดนอายัด เวลาก็ผ่านไป มีคนไปตามหาผมที่บ้านตามที่อยู่ที่ให้ไว้กับธนาคาร
ยาวขึ้นมาอีกนิด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีคนโอนเงินผิดมาที่บัญชีผม(ธนาคารสีน้ำเงิน) แล้วเค้าน่าจะตามเรื่องโดยแจ้งผ่านทางธนาคารของฝั่งที่เค้าโอนมา(ธนาคารสีม่วง) มีหนังสือส่งมาที่บ้านให้ผมรับรู้ประมาณว่า เงินจะถูกดึงกลับเองภายใน 7 วัน โดยไม่ได้มีการแจ้งให้ผมติดต่อกลับไปยังธนาคารแต่อย่างใด ผมก็คิดว่าเรื่องราวคงจบแล้ว ก็เลยไม่ได้ดำเนินการใดๆ เวลาล่วงเลยมาจนถึงเมื่อวานนี้ มีคนไปตามหาตัวผมที่บ้านของผม ซึ่งตัวผมนั้นตอนนี้ไม่ได้อยู่บ้าน มีแต่แม่อยู่บ้านเพียงคนเดียวครับ แล้วเค้าก็เล่าเรื่องให้แม่ฟัง แล้วแม่ก็ให้เค้าดูหนังสือจากธนาคารที่ส่งมา ประเด็นมันอยู่ตรงที่เค้าเอาที่อยู่ของผมมาจากธนาคารของฝั่งที่เค้าโอนมาครับ โดยผมมารู้เรื่องเมื่อวันนี้นี่เองครับ ว่าโปรเซสของธนาคารหากติดต่อเจ้าของบัญชีไม่ได้ภายในเวลาประมาณ 1 เดือน เค้าจะเร่งปิดเคส โดยจะให้ที่อยู่ไปกับธนาคารอีกฝั่งนึง แล้วธนาคารอีกฝั่งหนึ่งก็คงเอาไปให้กับผู้ที่โอนผิด ให้ตามหากันเอาเองครับ
เรื่องเต็มครับ
เรื่องมันเริ่มมาจากว่า มีคนโอนเงินผิดเข้ามาที่บัญชีของผม (ธนาคารสีน้ำเงิน) โดยในวันที่เค้าโอนผิดมานั้น ผมก็ยังไม่รู้ตัวเลยครับ เพิ่งมารู้ตัวอีกทีหลังจากผ่านไปประมาณ 2 วัน เนื่องจากมีเหตุจำเป็นบางอย่างให้ต้องเปิดเว็บทำธุรกรรมออนไลน์ พอผมเปิดขึ้นมาก็เห็นยอดเงินที่มันมากกว่าที่ผมควรจะมีในบัญชี ผมเลยลองเปิด transaction ย้อนหลังดู ปรากฏว่า ระบบแจ้งว่า มีคนโอนเงินผ่านตู้ของธนาคารอื่นเข้ามา ผมค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่าจะมีใครโอนมาให้ผมได้ จึงได้โทรไปสอบถามทางญาติๆที่รู้เลขบัญชีของผม ท่านก็บอกว่าไม่ได้โอนมาครับ
น่าจะอีกหลายวันถัดมา เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลาว่างทำงานประจำ ต้องรอเสาร์อาทิตย์อะครับ ถึงจะว่าง ผมจึงไปสอบถามที่สาขาแห่งหนึ่งของธนาคารที่ผมใช้บริการอยู่เพื่อตรวจสอบว่ายอดเงินดังกล่าวมาจากไหน เนื่องจากเคยเห็นข่าวหลอกให้โอนเงินกลับอะไรประมาณนี้ ตัวผมเองเลยไม่กล้าทำอะไรมากมายครับ เจ้าหน้าที่ธนาคารก็ได้บอกว่าจะเดินเรื่องตรวจสอบให้ โดยจะใช้เวลาประมาณ 5 วัน (เรื่องระยะเวลาผมไม่แน่ใจนะครับ จำได้ลางๆ) แต่ก็รู้ได้แค่เพียงเลขที่บัญชี กับบอกได้ว่าเป็นบัญชีของธนาคารไหน ไม่สามารถตรวจสอบได้เยอะกว่านี้ครับ ก็เลยรอไปครับ โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้เลขสำหรับตามเคสเอาไว้ครับ
เมื่อถึงวันที่เจ้าหน้าที่ธนาคารคนดังกล่าวแจ้งไว้ ผมจึงโทรไปสอบถาม จึงได้รู้เลขที่บัญชีและธนาคารเจ้าของบัญชีนั้น วันรุ่งขึ้นตอนเย็นผมจึงลองไปกดจะโอนเงินให้บัญชีดังกล่าวเพื่อหาชื่อเจ้าของบัญชี แล้วก็ได้มาครับ ผมเลยพยายามค้นหาชื่อบุคคลดังกล่าวผ่านทาง search engine เจ้าหนึ่งครับ ได้ข้อมูลมาพอสมควรครับ แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร เพราะในวันดังกล่าวสาขาของธนาคารก็คงปิดไปแล้ว
วันต่อมาแม่ผมได้รับหนังสือจากธนาคารกรุงเทพส่งไปที่บ้านผมที่ต่างจังหวัดครับ เป็นหนังสือแจ้งเรื่อง ขอตัดบัญชีคืน จำนวนเงิน XX,XXX บาท ซึ่งส่งถึงผม แต่เนื่องจากผมไม่ได้อยู่บ้านหลังดังกล่าวครับ ผมมาทำงานใน กทม. ครับ มีเพียงแม่อาศัยอยู่เพียงคนเดียว คนรับจึงเป็นแม่ของผมครับ แม่ก็ได้ใช้แอพพลิเคชั่นแชทเจ้าหนึ่งส่งข้อความมาบอก พร้อมกับถ่ายรูปเอกสารดังกล่าวมาให้ดูครับ เนื้อหาตามนี้นะครับ
"เนื่องด้วยวันที่ XX/XX/XXXX ลูกค้าของธนาคารแห่งหนึ่ง (ธนาคารสีม่วง) ได้ทำการโอนเงินผ่าน เครื่อง ATM จากหมายเลขบัญชี XXXXXXXX เข้าบัญชีของท่าน หมายเลข XXXXXXXX จำนวนเงิน XX,XXX บาท นั้น เป็นรายการโอนเงินผิดพลาด สาเหตุ ผู้โอน ระบุหมายเลขบัญชีผู้รับโอนผิด ซึ่งเป็นบัญชีของท่านแทน ทำให้มีรายการนำเงินเข้าผิดบัญชี จำนวนเงิน XX,XXX บาท"
"ธนาคารใคร่ขอแจ้งว่า ธนาคารจะทำการปรับปรุงรายการ โดยตัดบัญชีเงินฝากของท่าน หมายเลขบัญชี XXXXX จำนวนเงิน XX,XXX บาท เพื่อคืนเข้าบัญชีที่ถูกต้องต่อไป"
"จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ หากท่านมีข้อขัดข้องประการใด กรุณาติดต่อกลับที่ส่วน XXXX ภายใน 7 วัน นับแต่ได้จดหมายฉบับนี้ มิฉะนั้นธนาคารจะดำเนินการปรับปรุงรายการให้ถูกต้องต่อไป"
"ธนาคารหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากท่านเป็นอย่างดี และใคร่ขอแสดงความขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย"
ผมจึงได้อ่านหนังสือดังกล่าวจากรูปที่แม่ได้ส่งมาให้ ผมจึงเข้าใจว่าหากผมไม่ขัดข้องก็ไม่ต้องติดต่อไป ธนาคารก็คงดำเนินการตามที่เค้าได้กล่าวไว้ในหนังสือฉบับดังกล่าว ตัวผมจึงคิดว่าเรื่องราวคงจบแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ก็ไม่ได้เข้าไปเช็คเงินอะไร แต่ก็เข้าไปดูบ้างว่าเงินหายไปรึยัง จะได้หมดกังวล ปรากฏว่า เงินได้ถูกอายัด (ผมไม่แน่ใจว่าเรียกว่า อายัด รึเปล่านะครับ ยอดเงินคงเหลือกับยอดเงินที่ถอนได้ไม่ตรงกัน เลยเดาว่าน่าจะโดนอายัดเอาไว้) ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่า คงเป็นขั้นตอนของธนาคารในการดึงเงินกลับเข้าบัญชีตามที่ได้กล่าวในหนังสือฉบับดังกล่าว
เวลาก็ล่วงเลยมาโดยที่ผมไม่ค่อยได้เข้าไปเช็คอะไรเท่าไร คิดว่าเดี๋ยวคงเรียบร้อยไปเอง แต่จุดที่ทำให้เกิดกระทู้นี้ขึ้นมาก็เกิดจากเมื่อวานครับ (24 กันยายน 2558) หลังจากกลับมาจากทำงานตามปกติ พี่ผมก็ได้คุยกับแม่ และแม่ก็ได้บอกกับพี่ของผม พี่ก็ได้มาบอกกับผมว่า มีคนมาตามหาตัวผมเองที่บ้านที่ต่างจังหวัด สาเหตุคนที่มาตามหาผม มาจากเรื่องเงินที่โอนผิดนี่แหละครับ ผมก็เลยเอะใจ ว่าเค้าไปได้ที่อยู่ของผมมาจากใครกัน
คืนนั้น ผมจึงได้โทรไปหา Call Center ของธนาคารที่ผมใช้บริการอยู่ (ธนาคารสีน้ำเงิน) โดยได้คุยกับเจ้าหน้าที่ท่านนึง เค้าก็ตรวจสอบให้ โดยบอกกับผมว่ามียอดเงินอายัดอยู่จริง เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผมติดต่อไปยังสาขาของธนาคารที่ผมเปิดบัญชีอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ให้เบอร์ติดต่อของสาขานั้นโดยตรงมากับผม
แต่เนื่องจากตอนนั้นเวลาก็มืดแล้ว โทรไปคงไม่มีใครรับ เลยคิดไว้ว่า วันรุ่งขึ้นค่อยโทรไปดีกว่าครับ คืนนั้นผมได้ลองใช้ search engine เจ้าหนึ่ง ค้นหา ชื่อผม นามสกุลผมเอง โดยพยายามค้นหาว่า บุคคลดังกล่าวอาจตามหาผมได้จากที่อยู่ ที่ผมอาจจะเผลอไปเขียนไว้ที่ไหนในอินเตอร์เน็ตสักแห่งหนึ่ง แต่ก็ไม่เจอครับ
ผมโทรไปในตอนเช้าของอีกวัน ซึ่งก็คือวันนี้แหละครับ (25 กันยายน 2558) ก็ได้โทรไปที่สาขาดังกล่าว เจ้าหน้าที่สาขาดังกล่าวก็ได้เป็นธุระตรวจสอบให้ เจ้าหน้าที่ธนาคารที่สาขาที่ผมเปิดบัญชี จึงได้แจ้งเบอร์โทรที่ต่อตรงเข้าสู่ฝ่ายที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรงครับ (หากผมเข้าใจไม่ผิด) และเจ้าหน้าที่ก็ได้แนะนำว่าให้ผมไปที่สาขาของธนาคารได้ไหม ผมก็แจ้งไปว่า ผมไม่สะดวกครับเนื่องจากไม่ได้อยู่แถวนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ผมไปยังสาขาใกล้ๆที่ผมอยู่ในตอนนั้น และผมก็ได้แจ้งเค้าไปด้วยว่า มีคนไปตามหาผมถึงบ้านเลย ผมสงสัยว่าคนดังกล่าวที่ไปตามหาตัวผมที่บ้าน ได้ที่อยู่ที่บ้านผมได้ยังไง เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็รู้สึกแปลกใจ เค้าบอกว่ามันไม่ค่อยโอเคนะอย่างนี้อะ แต่เค้าได้แจ้งว่า ไม่ทราบว่าคนที่ตามไปที่บ้านผมได้ที่อยู่มาจากไหน แต่ไม่น่าจะได้มาจากธนาคารแน่นอน ผมก็เชื่อเช่นนั้นเพราะตอนที่ผมไปตามหาคนที่โอนมาเค้าก็แจ้งได้แค่หมายเลขบัญชีกับธนาคารเจ้าของบัญชีแค่นั้นครับ
ตอนพักเที่ยงผมก็ได้เข้าไปที่สาขาใกล้ๆที่ผมอยู่ในตอนนั้นตามคำแนะนำ และได้แจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่ของสาขาที่เคาน์เตอร์ของธนาคาร เค้าจึงขอข้อมูลไปตรวจสอบและประสานงานให้ รอไปสักพักก็มีหนังสือยินยอมให้คืนเงินให้ผมเซ็นต์ชื่อพร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน ผมก็ดำเนินการไปเรียบร้อย สบายใจกันไป แต่เรื่องที่ยังติดใจคือเค้าได้ข้อมูลที่อยู่ผมมาจากไหน
เนื่องจากผมยังยุ่งๆอยู่ติดงาน เลยให้แม่โทรไปยังฝ่ายดังกล่าวที่ผมได้ข้อมูลมาจากสาขาที่ผมเปิดบัญชี แม่ผมได้โทรไปหาเจ้าหน้าที่ที่ฝ่ายดังกล่าว เค้าก็ได้แจ้งกับแม่ผม (ผมไม่สามารถระบุโดยละเอียดได้นะครับ เนื่องจากแม่ผมเป็นคนคุย) ประมาณว่า เค้าเป็นคนให้ข้อมูลไปยังธนาคารอีกแห่งหนึ่งเอง เนื่องจากเค้าติดต่อผมไม่ได้ และผมก็ไม่ได้ติดต่อกลับไปที่ธนาคาร พอเกินหนึ่งเดือนเค้าก็จะเร่งปิดเคสให้ได้ครับ โดยการให้ข้อมูลไปยังธนาคารอีกแห่งหนึ่งครับ และธนาคารอีกแห่งหนึ่งก็คงจะทำเหมือนกัน (ส่วนนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ) คือให้ข้อมูลของผม ไปยังผู้ที่โอนผิดครับ เพื่อจะได้ติดตามเรื่องราวต่อเอาเอง
และแม่ผมก็ได้บอกกับผมว่า เจ้าหน้าที่ได้กล่าวขอโทษกับแม่ผมมาด้วยครับ
ผมก็เลยเอ๊ะ ทำไมให้ข้อมูลส่วนตัวของผมให้ใครง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ อันนี้ผมไม่แน่ใจในข้อกฏหมายนะครับ ว่าทำได้หรือไม่ได้ยังไงแค่ไหนอย่างไรนะครับ แต่ผมว่าข้อมูลส่วนตัวของเราธนาคารก็ไม่ควรเปิดเผยต่อใครง่ายๆ ผมเลยโทรไปเองครับ โดยได้ทำการบันทึกเสียงสนทนาเอาไว้ด้วยครับ เค้าก็แจ้งกับผมคล้ายๆกัน โดยใจความก็เหมือนๆกัน เจ้าหน้าที่ก็ได้ขอโทษผมเป็นการใหญ่ ผมก็บอกไม่เป็นไรครับ แล้วก็ได้วางสายไป
ที่ผมออกมาตั้งกระทู้นี้ไม่ได้ต้องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อใครใดๆทั้งสิ้นครับ แค่อยากออกมาถามธนาคารทั้ง 2 ธนาคารดังกล่าวถึงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลที่ผู้บริโภคทุกคนควรจะมี ว่ามันมีขอบเขตยังไง ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการควรจะให้ใครเข้าถึงได้บ้าง
ไม่แน่ใจว่าผมสามารถแท็กธนาคารได้โดยตรงได้เลยไหมครับ เพิ่งเคยตั้งกระทู้ครั้งแรกครับ
ขอบคุณที่เสียสละเวลาอ่านจนจบครับ
ธนาคารสามารถให้ข้อมูลชื่อที่อยู่ของลูกค้าให้แก่บุคคลอื่นได้ไหมครับ ?
ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องราวของเรื่องนี้ก่อนนะครับ
สำหรับคนที่ขี้เกียจอ่านเปิดสปอยล์ได้เลยครับ มีสรุปสั้นๆให้ครับ
สั้นแบบจบข่าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยาวขึ้นมาอีกนิด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องเต็มครับ
เรื่องมันเริ่มมาจากว่า มีคนโอนเงินผิดเข้ามาที่บัญชีของผม (ธนาคารสีน้ำเงิน) โดยในวันที่เค้าโอนผิดมานั้น ผมก็ยังไม่รู้ตัวเลยครับ เพิ่งมารู้ตัวอีกทีหลังจากผ่านไปประมาณ 2 วัน เนื่องจากมีเหตุจำเป็นบางอย่างให้ต้องเปิดเว็บทำธุรกรรมออนไลน์ พอผมเปิดขึ้นมาก็เห็นยอดเงินที่มันมากกว่าที่ผมควรจะมีในบัญชี ผมเลยลองเปิด transaction ย้อนหลังดู ปรากฏว่า ระบบแจ้งว่า มีคนโอนเงินผ่านตู้ของธนาคารอื่นเข้ามา ผมค่อนข้างมั่นใจว่าไม่น่าจะมีใครโอนมาให้ผมได้ จึงได้โทรไปสอบถามทางญาติๆที่รู้เลขบัญชีของผม ท่านก็บอกว่าไม่ได้โอนมาครับ
น่าจะอีกหลายวันถัดมา เนื่องจากไม่ค่อยมีเวลาว่างทำงานประจำ ต้องรอเสาร์อาทิตย์อะครับ ถึงจะว่าง ผมจึงไปสอบถามที่สาขาแห่งหนึ่งของธนาคารที่ผมใช้บริการอยู่เพื่อตรวจสอบว่ายอดเงินดังกล่าวมาจากไหน เนื่องจากเคยเห็นข่าวหลอกให้โอนเงินกลับอะไรประมาณนี้ ตัวผมเองเลยไม่กล้าทำอะไรมากมายครับ เจ้าหน้าที่ธนาคารก็ได้บอกว่าจะเดินเรื่องตรวจสอบให้ โดยจะใช้เวลาประมาณ 5 วัน (เรื่องระยะเวลาผมไม่แน่ใจนะครับ จำได้ลางๆ) แต่ก็รู้ได้แค่เพียงเลขที่บัญชี กับบอกได้ว่าเป็นบัญชีของธนาคารไหน ไม่สามารถตรวจสอบได้เยอะกว่านี้ครับ ก็เลยรอไปครับ โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้เลขสำหรับตามเคสเอาไว้ครับ
เมื่อถึงวันที่เจ้าหน้าที่ธนาคารคนดังกล่าวแจ้งไว้ ผมจึงโทรไปสอบถาม จึงได้รู้เลขที่บัญชีและธนาคารเจ้าของบัญชีนั้น วันรุ่งขึ้นตอนเย็นผมจึงลองไปกดจะโอนเงินให้บัญชีดังกล่าวเพื่อหาชื่อเจ้าของบัญชี แล้วก็ได้มาครับ ผมเลยพยายามค้นหาชื่อบุคคลดังกล่าวผ่านทาง search engine เจ้าหนึ่งครับ ได้ข้อมูลมาพอสมควรครับ แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร เพราะในวันดังกล่าวสาขาของธนาคารก็คงปิดไปแล้ว
วันต่อมาแม่ผมได้รับหนังสือจากธนาคารกรุงเทพส่งไปที่บ้านผมที่ต่างจังหวัดครับ เป็นหนังสือแจ้งเรื่อง ขอตัดบัญชีคืน จำนวนเงิน XX,XXX บาท ซึ่งส่งถึงผม แต่เนื่องจากผมไม่ได้อยู่บ้านหลังดังกล่าวครับ ผมมาทำงานใน กทม. ครับ มีเพียงแม่อาศัยอยู่เพียงคนเดียว คนรับจึงเป็นแม่ของผมครับ แม่ก็ได้ใช้แอพพลิเคชั่นแชทเจ้าหนึ่งส่งข้อความมาบอก พร้อมกับถ่ายรูปเอกสารดังกล่าวมาให้ดูครับ เนื้อหาตามนี้นะครับ
"เนื่องด้วยวันที่ XX/XX/XXXX ลูกค้าของธนาคารแห่งหนึ่ง (ธนาคารสีม่วง) ได้ทำการโอนเงินผ่าน เครื่อง ATM จากหมายเลขบัญชี XXXXXXXX เข้าบัญชีของท่าน หมายเลข XXXXXXXX จำนวนเงิน XX,XXX บาท นั้น เป็นรายการโอนเงินผิดพลาด สาเหตุ ผู้โอน ระบุหมายเลขบัญชีผู้รับโอนผิด ซึ่งเป็นบัญชีของท่านแทน ทำให้มีรายการนำเงินเข้าผิดบัญชี จำนวนเงิน XX,XXX บาท"
"ธนาคารใคร่ขอแจ้งว่า ธนาคารจะทำการปรับปรุงรายการ โดยตัดบัญชีเงินฝากของท่าน หมายเลขบัญชี XXXXX จำนวนเงิน XX,XXX บาท เพื่อคืนเข้าบัญชีที่ถูกต้องต่อไป"
"จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ หากท่านมีข้อขัดข้องประการใด กรุณาติดต่อกลับที่ส่วน XXXX ภายใน 7 วัน นับแต่ได้จดหมายฉบับนี้ มิฉะนั้นธนาคารจะดำเนินการปรับปรุงรายการให้ถูกต้องต่อไป"
"ธนาคารหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากท่านเป็นอย่างดี และใคร่ขอแสดงความขอบคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย"
ผมจึงได้อ่านหนังสือดังกล่าวจากรูปที่แม่ได้ส่งมาให้ ผมจึงเข้าใจว่าหากผมไม่ขัดข้องก็ไม่ต้องติดต่อไป ธนาคารก็คงดำเนินการตามที่เค้าได้กล่าวไว้ในหนังสือฉบับดังกล่าว ตัวผมจึงคิดว่าเรื่องราวคงจบแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ก็ไม่ได้เข้าไปเช็คเงินอะไร แต่ก็เข้าไปดูบ้างว่าเงินหายไปรึยัง จะได้หมดกังวล ปรากฏว่า เงินได้ถูกอายัด (ผมไม่แน่ใจว่าเรียกว่า อายัด รึเปล่านะครับ ยอดเงินคงเหลือกับยอดเงินที่ถอนได้ไม่ตรงกัน เลยเดาว่าน่าจะโดนอายัดเอาไว้) ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไรคิดว่า คงเป็นขั้นตอนของธนาคารในการดึงเงินกลับเข้าบัญชีตามที่ได้กล่าวในหนังสือฉบับดังกล่าว
เวลาก็ล่วงเลยมาโดยที่ผมไม่ค่อยได้เข้าไปเช็คอะไรเท่าไร คิดว่าเดี๋ยวคงเรียบร้อยไปเอง แต่จุดที่ทำให้เกิดกระทู้นี้ขึ้นมาก็เกิดจากเมื่อวานครับ (24 กันยายน 2558) หลังจากกลับมาจากทำงานตามปกติ พี่ผมก็ได้คุยกับแม่ และแม่ก็ได้บอกกับพี่ของผม พี่ก็ได้มาบอกกับผมว่า มีคนมาตามหาตัวผมเองที่บ้านที่ต่างจังหวัด สาเหตุคนที่มาตามหาผม มาจากเรื่องเงินที่โอนผิดนี่แหละครับ ผมก็เลยเอะใจ ว่าเค้าไปได้ที่อยู่ของผมมาจากใครกัน
คืนนั้น ผมจึงได้โทรไปหา Call Center ของธนาคารที่ผมใช้บริการอยู่ (ธนาคารสีน้ำเงิน) โดยได้คุยกับเจ้าหน้าที่ท่านนึง เค้าก็ตรวจสอบให้ โดยบอกกับผมว่ามียอดเงินอายัดอยู่จริง เจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ผมติดต่อไปยังสาขาของธนาคารที่ผมเปิดบัญชีอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ให้เบอร์ติดต่อของสาขานั้นโดยตรงมากับผม
แต่เนื่องจากตอนนั้นเวลาก็มืดแล้ว โทรไปคงไม่มีใครรับ เลยคิดไว้ว่า วันรุ่งขึ้นค่อยโทรไปดีกว่าครับ คืนนั้นผมได้ลองใช้ search engine เจ้าหนึ่ง ค้นหา ชื่อผม นามสกุลผมเอง โดยพยายามค้นหาว่า บุคคลดังกล่าวอาจตามหาผมได้จากที่อยู่ ที่ผมอาจจะเผลอไปเขียนไว้ที่ไหนในอินเตอร์เน็ตสักแห่งหนึ่ง แต่ก็ไม่เจอครับ
ผมโทรไปในตอนเช้าของอีกวัน ซึ่งก็คือวันนี้แหละครับ (25 กันยายน 2558) ก็ได้โทรไปที่สาขาดังกล่าว เจ้าหน้าที่สาขาดังกล่าวก็ได้เป็นธุระตรวจสอบให้ เจ้าหน้าที่ธนาคารที่สาขาที่ผมเปิดบัญชี จึงได้แจ้งเบอร์โทรที่ต่อตรงเข้าสู่ฝ่ายที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรงครับ (หากผมเข้าใจไม่ผิด) และเจ้าหน้าที่ก็ได้แนะนำว่าให้ผมไปที่สาขาของธนาคารได้ไหม ผมก็แจ้งไปว่า ผมไม่สะดวกครับเนื่องจากไม่ได้อยู่แถวนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ผมไปยังสาขาใกล้ๆที่ผมอยู่ในตอนนั้น และผมก็ได้แจ้งเค้าไปด้วยว่า มีคนไปตามหาผมถึงบ้านเลย ผมสงสัยว่าคนดังกล่าวที่ไปตามหาตัวผมที่บ้าน ได้ที่อยู่ที่บ้านผมได้ยังไง เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็รู้สึกแปลกใจ เค้าบอกว่ามันไม่ค่อยโอเคนะอย่างนี้อะ แต่เค้าได้แจ้งว่า ไม่ทราบว่าคนที่ตามไปที่บ้านผมได้ที่อยู่มาจากไหน แต่ไม่น่าจะได้มาจากธนาคารแน่นอน ผมก็เชื่อเช่นนั้นเพราะตอนที่ผมไปตามหาคนที่โอนมาเค้าก็แจ้งได้แค่หมายเลขบัญชีกับธนาคารเจ้าของบัญชีแค่นั้นครับ
ตอนพักเที่ยงผมก็ได้เข้าไปที่สาขาใกล้ๆที่ผมอยู่ในตอนนั้นตามคำแนะนำ และได้แจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่ของสาขาที่เคาน์เตอร์ของธนาคาร เค้าจึงขอข้อมูลไปตรวจสอบและประสานงานให้ รอไปสักพักก็มีหนังสือยินยอมให้คืนเงินให้ผมเซ็นต์ชื่อพร้อมแนบสำเนาบัตรประชาชน ผมก็ดำเนินการไปเรียบร้อย สบายใจกันไป แต่เรื่องที่ยังติดใจคือเค้าได้ข้อมูลที่อยู่ผมมาจากไหน
เนื่องจากผมยังยุ่งๆอยู่ติดงาน เลยให้แม่โทรไปยังฝ่ายดังกล่าวที่ผมได้ข้อมูลมาจากสาขาที่ผมเปิดบัญชี แม่ผมได้โทรไปหาเจ้าหน้าที่ที่ฝ่ายดังกล่าว เค้าก็ได้แจ้งกับแม่ผม (ผมไม่สามารถระบุโดยละเอียดได้นะครับ เนื่องจากแม่ผมเป็นคนคุย) ประมาณว่า เค้าเป็นคนให้ข้อมูลไปยังธนาคารอีกแห่งหนึ่งเอง เนื่องจากเค้าติดต่อผมไม่ได้ และผมก็ไม่ได้ติดต่อกลับไปที่ธนาคาร พอเกินหนึ่งเดือนเค้าก็จะเร่งปิดเคสให้ได้ครับ โดยการให้ข้อมูลไปยังธนาคารอีกแห่งหนึ่งครับ และธนาคารอีกแห่งหนึ่งก็คงจะทำเหมือนกัน (ส่วนนี้ผมไม่แน่ใจนะครับ) คือให้ข้อมูลของผม ไปยังผู้ที่โอนผิดครับ เพื่อจะได้ติดตามเรื่องราวต่อเอาเอง
และแม่ผมก็ได้บอกกับผมว่า เจ้าหน้าที่ได้กล่าวขอโทษกับแม่ผมมาด้วยครับ
ผมก็เลยเอ๊ะ ทำไมให้ข้อมูลส่วนตัวของผมให้ใครง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ อันนี้ผมไม่แน่ใจในข้อกฏหมายนะครับ ว่าทำได้หรือไม่ได้ยังไงแค่ไหนอย่างไรนะครับ แต่ผมว่าข้อมูลส่วนตัวของเราธนาคารก็ไม่ควรเปิดเผยต่อใครง่ายๆ ผมเลยโทรไปเองครับ โดยได้ทำการบันทึกเสียงสนทนาเอาไว้ด้วยครับ เค้าก็แจ้งกับผมคล้ายๆกัน โดยใจความก็เหมือนๆกัน เจ้าหน้าที่ก็ได้ขอโทษผมเป็นการใหญ่ ผมก็บอกไม่เป็นไรครับ แล้วก็ได้วางสายไป
ที่ผมออกมาตั้งกระทู้นี้ไม่ได้ต้องการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อใครใดๆทั้งสิ้นครับ แค่อยากออกมาถามธนาคารทั้ง 2 ธนาคารดังกล่าวถึงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลที่ผู้บริโภคทุกคนควรจะมี ว่ามันมีขอบเขตยังไง ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการควรจะให้ใครเข้าถึงได้บ้าง
ไม่แน่ใจว่าผมสามารถแท็กธนาคารได้โดยตรงได้เลยไหมครับ เพิ่งเคยตั้งกระทู้ครั้งแรกครับ
ขอบคุณที่เสียสละเวลาอ่านจนจบครับ