ฉันเชื่อว่าคนที่ไม่เคยมาห้องฉัน คงจะไม่เชื่อแน่ๆว่าผู้หญิงพูดจาห้วนๆ เดินเร็วปานจรวด กินเหมือนอดมาสองวัน คนที่ไม่มีความเป็นกุลสตรีอะไรเลย จะชอบดอกไม้
ทุกวันนี้ห้องของฉันขาดดอกไม้ไปไม่ได้ซะแล้ว แต่เมื่อก่อนฉันมองว่ามันเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ไม่เห็นจะจำเป็นเลย เสียดายเงินมาก งานรับปริญญาก็ถือถ่ายรูปได้แปปเดียว เหี่ยวก็ต้องทิ้ง สุดท้ายมันก็คือขยะ(ดูจากลูกพี่ลูกน้องของเราทั้ง3คน)
แต่เมื่อหลายเดือนก่อน เราไปเดินตลาดใกล้ๆที่พักนี่แหละ เจอดอกไม้สวยมาก เยอะมากด้วย ละลานตาไปหมด ก็เดินผ่านแกล้งถามราคา ตอนแรกไม่คิดจะซื้อหรอก "กำละเท่าไหร่คะ" แม่ค้าตอบมา "20บาทจ่ะ" (คิดในใจ "20บาท ถูกอะไรขนาดนี้ ซื้อเลย!!") ยื่นให้แม่ค้าจ่ายเงินอย่างรวดเร็ว กลับมาถึงห้อง คิดได้ว่า "อ่าว แล้วแจกันล่ะ" ก็เลยต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเอาเหยือกน้ำมาใส่แทน จัดใส่เหยือก วางไว้ตรงโต๊ะหน้าโซฟา ก็รู้สึกเฉยๆนะ สวยดี ไม่มีอะไรพิเศษ
เช้าอีกวันนึงเรา เราก็ชองกาแฟมานั่งจิบตรงโซฟาเหมือนทุกวันนั้นแหละ จิบไปตาก็มองดอกไม้ไป เลยรู้สึกว่า เออว่ะ มันก็รู้สึกผ่อนคลายดีนะ แล้วตอนนั้นในใจก็คิดไปถึงบทความนึงที่เคยอ่านมานานมากๆ เกี่ยวกับการจัดโต๊ะทำงานหรืองานนั่งทำงานอะไรประมาณนี้แหละ มีประโยคนึงว่า" การสัมผัสดอกไม้หรือใบได้เพียงวันละ...นาที ทำให้สารเอ็นโดรฟินในร่างกายคุณหลั่งได้แล้ว " แล้วฉันก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ มั่งมองเพลินๆก็รู้สึกดีแล้ว แต่ยิ่งได้สัมผัสยิ่งรู้สึกดียิ่งขึ้นไปอีก เราคงออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น หรือนั่งมองท้องฟ้าให้ใจมันเบิกบานในวันแบบนี้ไม้ได้หรอก ดอกไม้นี่แหละที่จะทำให้เราอารมณ์ดี สดใส เบิกบานได้ Flowers make me feel beautiful today (อยู่ประมาณ3ชม.ได้ จากนั้นเข้าสู่โหมดปกติ 55555) หรือวันไหนที่กลับมาแล้วรู้สึกเหนื่อยล้า แค่เอาปลายนิ้วสัมผัสแค่ไม่กี่วินาที ให้สารเอ็นโดรฟินหลั่ง ก็มีแรงลุกขึ้นไปอาบน้ำแล้ว
แล้วจากนั้นมาห้องฉันก็ไม่เคยขาดดอกไม้อีกเลย ห้องน้ำก็ด้วย เคยซื้อดอกไม้ประดับแบบเป็นต้นเล็กๆมานะ ไม่รอดอ่ะ มันชิงตายซะก่อน
มีประโยคนึงที่ Christian Dior เคยกล่าวไว้ ว่า "After woman, flowers are the most divine creations" ซึ่งมันก็อาจจะจริงมั้ง เพราะฉันคิดว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ซับซ้อน ไม่สามารถมองออกได้ทั้งหมด เข้าใจได้ทั้งหมด เดาได้ทั้งหมด ขนาดฉันยังไม่เข้าใจผู้หญิงด้วยกันเลย - -
ฉันเพิ่งเข้าใจดอกไม้
ทุกวันนี้ห้องของฉันขาดดอกไม้ไปไม่ได้ซะแล้ว แต่เมื่อก่อนฉันมองว่ามันเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ไม่เห็นจะจำเป็นเลย เสียดายเงินมาก งานรับปริญญาก็ถือถ่ายรูปได้แปปเดียว เหี่ยวก็ต้องทิ้ง สุดท้ายมันก็คือขยะ(ดูจากลูกพี่ลูกน้องของเราทั้ง3คน)
แต่เมื่อหลายเดือนก่อน เราไปเดินตลาดใกล้ๆที่พักนี่แหละ เจอดอกไม้สวยมาก เยอะมากด้วย ละลานตาไปหมด ก็เดินผ่านแกล้งถามราคา ตอนแรกไม่คิดจะซื้อหรอก "กำละเท่าไหร่คะ" แม่ค้าตอบมา "20บาทจ่ะ" (คิดในใจ "20บาท ถูกอะไรขนาดนี้ ซื้อเลย!!") ยื่นให้แม่ค้าจ่ายเงินอย่างรวดเร็ว กลับมาถึงห้อง คิดได้ว่า "อ่าว แล้วแจกันล่ะ" ก็เลยต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเอาเหยือกน้ำมาใส่แทน จัดใส่เหยือก วางไว้ตรงโต๊ะหน้าโซฟา ก็รู้สึกเฉยๆนะ สวยดี ไม่มีอะไรพิเศษ
เช้าอีกวันนึงเรา เราก็ชองกาแฟมานั่งจิบตรงโซฟาเหมือนทุกวันนั้นแหละ จิบไปตาก็มองดอกไม้ไป เลยรู้สึกว่า เออว่ะ มันก็รู้สึกผ่อนคลายดีนะ แล้วตอนนั้นในใจก็คิดไปถึงบทความนึงที่เคยอ่านมานานมากๆ เกี่ยวกับการจัดโต๊ะทำงานหรืองานนั่งทำงานอะไรประมาณนี้แหละ มีประโยคนึงว่า" การสัมผัสดอกไม้หรือใบได้เพียงวันละ...นาที ทำให้สารเอ็นโดรฟินในร่างกายคุณหลั่งได้แล้ว " แล้วฉันก็รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ มั่งมองเพลินๆก็รู้สึกดีแล้ว แต่ยิ่งได้สัมผัสยิ่งรู้สึกดียิ่งขึ้นไปอีก เราคงออกไปดูพระอาทิตย์ขึ้น หรือนั่งมองท้องฟ้าให้ใจมันเบิกบานในวันแบบนี้ไม้ได้หรอก ดอกไม้นี่แหละที่จะทำให้เราอารมณ์ดี สดใส เบิกบานได้ Flowers make me feel beautiful today (อยู่ประมาณ3ชม.ได้ จากนั้นเข้าสู่โหมดปกติ 55555) หรือวันไหนที่กลับมาแล้วรู้สึกเหนื่อยล้า แค่เอาปลายนิ้วสัมผัสแค่ไม่กี่วินาที ให้สารเอ็นโดรฟินหลั่ง ก็มีแรงลุกขึ้นไปอาบน้ำแล้ว
แล้วจากนั้นมาห้องฉันก็ไม่เคยขาดดอกไม้อีกเลย ห้องน้ำก็ด้วย เคยซื้อดอกไม้ประดับแบบเป็นต้นเล็กๆมานะ ไม่รอดอ่ะ มันชิงตายซะก่อน
มีประโยคนึงที่ Christian Dior เคยกล่าวไว้ ว่า "After woman, flowers are the most divine creations" ซึ่งมันก็อาจจะจริงมั้ง เพราะฉันคิดว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ซับซ้อน ไม่สามารถมองออกได้ทั้งหมด เข้าใจได้ทั้งหมด เดาได้ทั้งหมด ขนาดฉันยังไม่เข้าใจผู้หญิงด้วยกันเลย - -