แบกเป้เดี่ยว..เที่ยวภูลังกา
กว่าจะได้เขียนบันทึกการเดินทางในครั้งนี้ก็ล่วงเลยไปกว่าครึ่งปี ไปเที่ยวมาตอนปีใหม่2015 นี่คือครั้งแรกที่ได้เขียนรีวิวอะไรประมาณนั้น ผิดพลาด
ประการใดการเขียนครั้งแรกขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
:: ในการเดินทางครั้งเกิดขึ้นอย่างฉุกละหุกนิดนึง....เพราะในครั้งแรกนั้นตั้งใจจะไปจังหวัดน่าน
อยากไปดูภาพกระซิบรักเมืองน่านมากกก อยากไปนอนดูดาวที่ดอยเสมอดาว...แต่ทว่าด้วยความ
ชะล่าใจ จึงทำให้จองที่พักไม่ทันน!!!...ชิบละ ทำไงดีละใกล้จะถึงวันหยุดแล้วด้วย จึงรีบเข้าgoogle
หาที่เที่ยวภาคเหนืออย่างด่วยเรยจ้า จนไปเจอกระทู้ที่เที่ยวหลักร้อย วิวหลักล้าน อะไรสักอย่างนี่ล่ะ
ถึงเป็นที่มาของการเดินทางในครั้งนี้แถมต้องไปคนเดียวด้วยจ้า เพราะคนอื่นไม่เห็นว่ามันสวยอย่างที่
ผมเห็น......
การเดินทาง
วันที่ 1 - ออกเดินทางจากท่ารถทัวร์ 8.30 น. - 20.30 น. ถึงบขส. เชียงคำ...นั่งรถซะเหนื่อยเลย
- หาโรงแรมและพักผ่อนตามอัธยาศัย พักเหนื่อยจากการเดินทาง
วันที่ 2 - อาหารเช้า สำรวจความเป็นอยู่ของผู้คนในเชียงคำ
- ชมวัดนันตาราม ที่สร้างจากไม้สักทั้งหลัง
- 11.00 น. ขึ้นรถที่บขส. ขึ้นภูลังกา
- เช็คอินเข้าพักกับภูลังกา รีสอร์ท แล้วพักผ่อนถ่ายรูปอัพเฟสตามอัธยาศัย
- 19.00 น. รับประทานอาหารเย็น กินเหล้าตามอัธยาศัย
วันที่ 3 - 05.00 น. ตื่นเพื่อชมทะเลหมอกในตำนาน
- 7.00 น. อาหารเช้า พักผ่อน
- 12.00 น. อาหารเที่ยง พักผ่อน
- 19.00 น. อาหารเย็น ปาร์ตี้ตามอัธยาศัย
วันที่ 4 - 8.00 น. รับประทานอาหารเช้า
- 10.00 น. เดินทางลงจากภู
- 17.00 น. เตรียมตัวขึ้นรถเดินทางกลับ กทม.
มาเริ่มกันเลยดีกว่าหลังจากได้ข้อมูล(ซึ่งตอนแรกนึกว่าแน่นฝุดๆแล้ว) จองตั๋วสิครัชจะรออะไร
:: ในการจองตั๋วมันจะไม่มีรถที่ตรงจาก กทม.-เชียงคำนะ มีแต่รถที่วิ่งผ่านเท่านั้น จำไม่ได้ว่าปลายทางนั้นคือสถานนีอะไร
แต่บอกกับคนจองตั๋วไปว่าลงเชียงคำผมเลือกบริการรถVIP ของสมบัติทัวร์ เราต้องไปลง บขส.อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา
.........ใกล้วันไปเก็บของสิจ๊ะ
:: อุปกรณ์กันหนาวเราจัดครบเซ็ท เพราะจองได้เต๊นท์.........ตัดมาวันเดินทางเลยดีกว่า จองรถเที่ยวประมาณ 8 โมงเช้า กะว่าคงจะถึงที่เชียงคำ
ประมาณ 6 โมงเย็น ชิลล์ๆคูลๆ
:: หลังจากซื้อของกินมื้อเช้าพอประชีวิต เพราะคิดว่าเที่ยงคงพักรถกินข้าวแล้วไม่กี่ชม..............
คำเตือน!! กรุณาอย่าไว้ใจเวลาที่รถจะจอดพักเพื่อกินข้าวกลางวันเด็ดขาดควรซื้อของกินติดไปด้วย
เบอร์เกอร์เซเว่นอะไรก็ได้ที่กินแก้หิว ซื้อไปเลยเพราะกว่าจะพักรถบ่าย2 โมงจร้าา ท้องผมนี่แทบจะ
ย่อยลำไส้ตัวเองไปแล้ว ::
หลังจากแวะกินอะไรเสร็จเดินทางต่อครับ พอดีแบตโทรศัพท์จะหมดเลยไม่ค่อยมีรูประหว่างทาง
แต่เก็บตกมาได้แว๊บๆ
:: บอกเลยครับว่า ความงดงาม อาจไม่ได้อยุ่ที่จุดหมายปลายทางเสมอไป อย่างที่พี่บอลกับพี่ยอด
แห่งรายการหนังพาไปได้กล่าวเอาไว้นั่นเอง ..........ผมไม่เคยเข้าใจความหมายของมันจนกระทั่งผม
เองได้เดินทางในครั้งนี้ ไม่ต้องรีบเร่ง ไม่ต้องรอใคร ไปไหนไม่ต้องบอก ไม่มีแผน มีแต่chack point
ที่จะต้องไป ทำให้มีเวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศและวิวทิวทัศน์2ข้างทาง .....
:: มาเดินทางกันต่อ จากตอนแรกกะว่าสัก 6โมงเย็น จะถึงบขส.ที่อำเภอ เชียงคำ 6โมงก็ยังไม่มีที
ท่าว่าจะไปถึง ขึ้นเขาสูงขึ้นเรื่อยเมื่อเข้าเขตจังหวัดพะเยารู้สึกได้จากเสียงวิ้งๆในหูที่แสดงถึงอาการหู
อื้อ ฟ้าก็มืดลงเรื่อยๆ ความมืดเข้าครอบคลุมอากาศก็เย็นลงเรื่อยจนต้องเอาเสื้อกันหนาวมาใส่กัน
แล้วใช้ผ้าห่มที่ทางรถแจกให้ห่มทับอีกที ใจก็กลัวจะเลยบขส. เพราะรถที่นั่งมาเป็นแค่รถที่วิ่งผ่าน
อำเภอเชียงคำ 1 ทุ่มก็แล้ว มืดก็มืดเปลี่ยวก็เปลี่ยว เริ่มกังวลนิดๆกระวนกระวายหน่อยๆ เวลาผ่าน
ล่วงเลยไป รถวิ่งออกไปเรื่อยๆท่ามกลางความมืด ซึ่งตอนนี้มองออกไปก็ไม่สามารถมองเห็นวิวอะไรได้
กับแสงไปข้างทางเป้นระยะๆอีกกว่า นั่งกระสับกระส่ายอีกกว่า 1 ชม. กว่าจะถึงบขส.เชียงคำ แต่
มันรู้สึกเหมือน 3 ชม. บอกเลยว่ามืดมาก เปลี่ยวมาก เงียบมาก แถมอากาศเย็นมาก มีเสียงในหัว
บอกว่า...."กูมาทำอะไรที่นี่"!!!..........เรียกว่าเคว้งงและสตั๊นไปสัก 10วิ......กะว่าจะลงรถมาแล้วเจอ
รถเครื่องพาไปที่พักง่ายๆนิ ::
:: ในห้วงที่มืดมนหนทาง มองไปในความมืดไกลๆกลับมีแสงไฟอยู่ดวงหนึ่ง แสงไฟสาดไปเห็นเงา
ตะคุ่มๆ ของคนๆหนึ่งพร้อมรถกระป๊อ1คัน บุญยังพอมีเหลือคันสุดท้ายกำลังจะกลับบ้านนอนพอดี
แล้วมีคนเหมารถกลับบ้าน เราเลยบอกให้เค้าไปส่งที่ ที่มันมีโรงแรมให้หน่อย ขึ้นรถไปสักประมาณ 5
นาทีก็ถึงโรงแรม เสียค่ารถไป 50 บาท เห็นราคาห้องถึงกับผงะ ห้องพัดลม 250 บาท ห้องแอร์+ทีวี 350 บาท
ราคาแบบนี้ในย่านสีลมซื้อได้แค่ร่มกันแดดกันฝนดีๆคันเดียวเท่านั้น
หลังจากเก็บของเสร็จ ก็ได้เวลาสำรวจเชียงคำยามราตรีสิครัช!!
:: นี่คือถนนหนทางของ อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เวลา 20.30น.กว่าๆ คงเป็นเพราะไม่ชินกับ
ภาพที่ทุกบ้านเข้านอนกันเร็ว ต่างกับกทม.ที่ๆเราหันหลังจากมาโดยสิ้นเชิง
:: การมาเที่ยวในครั้งเพื่อชาตแบตอยู่กับธรรมชาติรอบตัวเรา แต่ไม่คิดว่าในตัวเมืองเองดูจากสภาพแวดล้อมแล้ว
คิดว่าหาเซเว่นยังยาก!
:: หลังจากเดินออกจากที่พักได้ไม่กี่ก้าว ความหิวก็เข้าครอบงำ ทำให้เราต้องไปหาอะไรสักอย่างกิน
ซะแล้ว เดินห่างจากที่พักไปสัก 500 เมตร เห็นร้านก๊วยเตี๋ยวจ้า บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงพิเศษ
:: บะหมี่จานใหญ่มาก อัดแน่นไปด้วยเส้นหมี่+เกี๊ยวตัวเบ้อเร่อเลย+โรยหน้าด้วยหมูแดง นาทีนั้นไม่
ต้องการอะไรไปมากกว่านี้แล้ว เพราะหิวมาตั้งแต่บนรถ
:: หลังกินเสร็จก็ได้ยินว่าในบริเวณนั้นมี7-11 เลยเดินไปหาดู พอเจอ7ในตำนานเราก็ตรงไปมุมที่
ชอบได้ของติดไม้ติดมือมานิดหน่อยเอง
:: คิดว่าพอสำหรับคนเดียวกับค่ำคืนที่เหนื่อยเหน็ดจาการเดินทาง เข้าห้องไปเปิดแอร์เย็นๆนะ ตอน
แรกกะว่าจะกดให้หมดทั้ง2กป.เลย แต่พอกินจริงๆกป.เดียวก้คงพอแล้วเพราะง่วงมาก...นอนดี
กว่าา
:: เช้าวันถัดมา อากาศยามเช้าช่างแสนสดชื่น มาพร้อมกับความเย็นและลมอ่อนๆ เริ่มภาระกิจ
สำรวจเชียงคำ แต่ขงจื้อว่าไว้ว่ากองทัพเดินได้ด้วยท้อง อย่างแรกหาอะไรกินก่อน
:: ถนนในเชียงคำยามเช้า น่าจะประมาณ 7-8โมงเช้า ไปเที่ยวนี่ตื่นได้เช้าจริงๆแถมสดชื่นไม่ง่วงอีก
นะ ไม่เหมือนตอนมาทำงานเรย
เดินมาสักแพพเจอร้านข้าวมันไก่น่ากินเลยลองเข้าไปดู น่าจะโอเคอยู่เลยสั่งมาลองสักจาน
:: จานใหญ่ อัดไปด้วยเนื้อ+หนังไก่แบบเน้นๆ น้ำจิ้มเด็ด! แต่ที่ไม่เหมือนใครเลยคือผักชี ไม่แน่ใจ
ว่าผสมผักอะไรลงไปอีกอย่างนึงคล้ายๆพาสเล่ย์ หอมกลมกล่อมเวลากินกับข้าวมันไก่แบบที่ไม่เคย
เจอหรือเหมือนใครมาก่อน
:: โปรแกรมช่วงเช้าวันนี้หลังจากกินข้าวเสร็จ เมื่อมาถึงเชียงคำต้องไปวัดคู่บ้านคู่เมืองของที่นี่สิ
ครับคือ วัดนันตาราม นั่นเองเรามาทำความรู้จักประวัติของวัดกันสักหน่อย ตามลิ้งนี้ได้เลยครับ
http://watnantaram.net/home/?page_id=23 เดชะบุญร้านข้าวมันไก่อยุ่ทางเข้าวัดพอดี ตอน
เดินมาก็ไม่ทันเห็นนะสงสัยจะหิวจัด
ทางเข้าเป็นเหมือนซอยเล็กๆ ไม่สังเกตุจะไม่เห็นเลย
:: เป็นเหมือนซอยลึกๆนะ เดินนิดนึง
ซุ้มทางเดินด้านหน้า
ทางเข้าเมื่อมองจากด้านใน
:: โบสถ์ที่ทำจากไม้สักทั้งหลังอลังการมาก แต่ตอนที่ไปถ่ายรูปไม่ค่อยได้เพราะย้อนแสง
แล้วก็มีแค่กล้องมือถือ นี่ก็เลือกเฟ้นมุมที่พอจะเห็นภาพรวมได้ทั้งมาได้เท่านี้
มาถึงโถงทางขึ้น
:: เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับองค์พระประธานที่เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากไม้สักทอง
ลงรักปิดทอง ทรงเครื่องแบบไทยใหญ่ ประดิษฐานบนฐานไม้ที่ฉลุลวดลายอย่างสวยงาม โดยข้าง
องค์พระประธาน มีพระพุทธรูปหินขาว และพระพุทธปฏิมาประธาน ไม้สักทองที่ต่างเป็นพระพุทธรูป
ปางมารวิชัยทรงเครื่องแบบไทยใหญ่อย่าง สมส่วนสวยงามประดิษฐาน อยู่ มีเจดีย์แบบไทยใหญ่ มี
พิพิธภัณฑ์ธนบัตรเก่า เครื่องใช้โบราณ ผ้าลายโบราณ (แอบมีสาระเล็กน้อย)
มาถึงวัดทางเหนือทั้งที เลยให้หลวงพ่อผูกข้อมือให้สักหน่อย
รถที่จะขึ้นภูลังกานั้นมี 2 เที่ยว/วัน คือรอบ 10.00 น.กับ 11.00 น. ตอนนี้ก็ล่วงเลยไปเกือบ10โมง
แล้ว! หากาแฟกินชิลๆก่อนดีกว่าเพราะขามาเห็นแว๊บๆ
ลืมจร้า!!!......ที่นี่มีตลาดเช้าด้วยนะคับ
:: นี่คือบริเวณวงเวียนใกล้ๆ7-11
:: ทางเลี้ยวไปตลาดเช้าคับ
:: ถ่ายรูปมาแต่ร้านผลไม้ ไม่ได้ถ่ายรูปตลาดสดมาเพราะไม่ได้เดินเข้าไป ....เอาล่ะมาตามหาร้าน
กาแฟต่อ
:: 7-11ในตำนาน
ติดตามต่อภาค 2 ได้ที่
http://pantip.com/topic/34214469
[CR] แบกเป้เดี่ยวๆ..เที่ยวภูลังกา
กว่าจะได้เขียนบันทึกการเดินทางในครั้งนี้ก็ล่วงเลยไปกว่าครึ่งปี ไปเที่ยวมาตอนปีใหม่2015 นี่คือครั้งแรกที่ได้เขียนรีวิวอะไรประมาณนั้น ผิดพลาด
ประการใดการเขียนครั้งแรกขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
:: ในการเดินทางครั้งเกิดขึ้นอย่างฉุกละหุกนิดนึง....เพราะในครั้งแรกนั้นตั้งใจจะไปจังหวัดน่าน
อยากไปดูภาพกระซิบรักเมืองน่านมากกก อยากไปนอนดูดาวที่ดอยเสมอดาว...แต่ทว่าด้วยความ
ชะล่าใจ จึงทำให้จองที่พักไม่ทันน!!!...ชิบละ ทำไงดีละใกล้จะถึงวันหยุดแล้วด้วย จึงรีบเข้าgoogle
หาที่เที่ยวภาคเหนืออย่างด่วยเรยจ้า จนไปเจอกระทู้ที่เที่ยวหลักร้อย วิวหลักล้าน อะไรสักอย่างนี่ล่ะ
ถึงเป็นที่มาของการเดินทางในครั้งนี้แถมต้องไปคนเดียวด้วยจ้า เพราะคนอื่นไม่เห็นว่ามันสวยอย่างที่
ผมเห็น......
การเดินทาง
วันที่ 1 - ออกเดินทางจากท่ารถทัวร์ 8.30 น. - 20.30 น. ถึงบขส. เชียงคำ...นั่งรถซะเหนื่อยเลย
- หาโรงแรมและพักผ่อนตามอัธยาศัย พักเหนื่อยจากการเดินทาง
วันที่ 2 - อาหารเช้า สำรวจความเป็นอยู่ของผู้คนในเชียงคำ
- ชมวัดนันตาราม ที่สร้างจากไม้สักทั้งหลัง
- 11.00 น. ขึ้นรถที่บขส. ขึ้นภูลังกา
- เช็คอินเข้าพักกับภูลังกา รีสอร์ท แล้วพักผ่อนถ่ายรูปอัพเฟสตามอัธยาศัย
- 19.00 น. รับประทานอาหารเย็น กินเหล้าตามอัธยาศัย
วันที่ 3 - 05.00 น. ตื่นเพื่อชมทะเลหมอกในตำนาน
- 7.00 น. อาหารเช้า พักผ่อน
- 12.00 น. อาหารเที่ยง พักผ่อน
- 19.00 น. อาหารเย็น ปาร์ตี้ตามอัธยาศัย
วันที่ 4 - 8.00 น. รับประทานอาหารเช้า
- 10.00 น. เดินทางลงจากภู
- 17.00 น. เตรียมตัวขึ้นรถเดินทางกลับ กทม.
มาเริ่มกันเลยดีกว่าหลังจากได้ข้อมูล(ซึ่งตอนแรกนึกว่าแน่นฝุดๆแล้ว) จองตั๋วสิครัชจะรออะไร
:: ในการจองตั๋วมันจะไม่มีรถที่ตรงจาก กทม.-เชียงคำนะ มีแต่รถที่วิ่งผ่านเท่านั้น จำไม่ได้ว่าปลายทางนั้นคือสถานนีอะไร
แต่บอกกับคนจองตั๋วไปว่าลงเชียงคำผมเลือกบริการรถVIP ของสมบัติทัวร์ เราต้องไปลง บขส.อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา
.........ใกล้วันไปเก็บของสิจ๊ะ
:: อุปกรณ์กันหนาวเราจัดครบเซ็ท เพราะจองได้เต๊นท์.........ตัดมาวันเดินทางเลยดีกว่า จองรถเที่ยวประมาณ 8 โมงเช้า กะว่าคงจะถึงที่เชียงคำ
ประมาณ 6 โมงเย็น ชิลล์ๆคูลๆ
:: หลังจากซื้อของกินมื้อเช้าพอประชีวิต เพราะคิดว่าเที่ยงคงพักรถกินข้าวแล้วไม่กี่ชม..............
คำเตือน!! กรุณาอย่าไว้ใจเวลาที่รถจะจอดพักเพื่อกินข้าวกลางวันเด็ดขาดควรซื้อของกินติดไปด้วย
เบอร์เกอร์เซเว่นอะไรก็ได้ที่กินแก้หิว ซื้อไปเลยเพราะกว่าจะพักรถบ่าย2 โมงจร้าา ท้องผมนี่แทบจะ
ย่อยลำไส้ตัวเองไปแล้ว ::
หลังจากแวะกินอะไรเสร็จเดินทางต่อครับ พอดีแบตโทรศัพท์จะหมดเลยไม่ค่อยมีรูประหว่างทาง
แต่เก็บตกมาได้แว๊บๆ
:: บอกเลยครับว่า ความงดงาม อาจไม่ได้อยุ่ที่จุดหมายปลายทางเสมอไป อย่างที่พี่บอลกับพี่ยอด
แห่งรายการหนังพาไปได้กล่าวเอาไว้นั่นเอง ..........ผมไม่เคยเข้าใจความหมายของมันจนกระทั่งผม
เองได้เดินทางในครั้งนี้ ไม่ต้องรีบเร่ง ไม่ต้องรอใคร ไปไหนไม่ต้องบอก ไม่มีแผน มีแต่chack point
ที่จะต้องไป ทำให้มีเวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศและวิวทิวทัศน์2ข้างทาง .....
:: มาเดินทางกันต่อ จากตอนแรกกะว่าสัก 6โมงเย็น จะถึงบขส.ที่อำเภอ เชียงคำ 6โมงก็ยังไม่มีที
ท่าว่าจะไปถึง ขึ้นเขาสูงขึ้นเรื่อยเมื่อเข้าเขตจังหวัดพะเยารู้สึกได้จากเสียงวิ้งๆในหูที่แสดงถึงอาการหู
อื้อ ฟ้าก็มืดลงเรื่อยๆ ความมืดเข้าครอบคลุมอากาศก็เย็นลงเรื่อยจนต้องเอาเสื้อกันหนาวมาใส่กัน
แล้วใช้ผ้าห่มที่ทางรถแจกให้ห่มทับอีกที ใจก็กลัวจะเลยบขส. เพราะรถที่นั่งมาเป็นแค่รถที่วิ่งผ่าน
อำเภอเชียงคำ 1 ทุ่มก็แล้ว มืดก็มืดเปลี่ยวก็เปลี่ยว เริ่มกังวลนิดๆกระวนกระวายหน่อยๆ เวลาผ่าน
ล่วงเลยไป รถวิ่งออกไปเรื่อยๆท่ามกลางความมืด ซึ่งตอนนี้มองออกไปก็ไม่สามารถมองเห็นวิวอะไรได้
กับแสงไปข้างทางเป้นระยะๆอีกกว่า นั่งกระสับกระส่ายอีกกว่า 1 ชม. กว่าจะถึงบขส.เชียงคำ แต่
มันรู้สึกเหมือน 3 ชม. บอกเลยว่ามืดมาก เปลี่ยวมาก เงียบมาก แถมอากาศเย็นมาก มีเสียงในหัว
บอกว่า...."กูมาทำอะไรที่นี่"!!!..........เรียกว่าเคว้งงและสตั๊นไปสัก 10วิ......กะว่าจะลงรถมาแล้วเจอ
รถเครื่องพาไปที่พักง่ายๆนิ ::
:: ในห้วงที่มืดมนหนทาง มองไปในความมืดไกลๆกลับมีแสงไฟอยู่ดวงหนึ่ง แสงไฟสาดไปเห็นเงา
ตะคุ่มๆ ของคนๆหนึ่งพร้อมรถกระป๊อ1คัน บุญยังพอมีเหลือคันสุดท้ายกำลังจะกลับบ้านนอนพอดี
แล้วมีคนเหมารถกลับบ้าน เราเลยบอกให้เค้าไปส่งที่ ที่มันมีโรงแรมให้หน่อย ขึ้นรถไปสักประมาณ 5
นาทีก็ถึงโรงแรม เสียค่ารถไป 50 บาท เห็นราคาห้องถึงกับผงะ ห้องพัดลม 250 บาท ห้องแอร์+ทีวี 350 บาท
ราคาแบบนี้ในย่านสีลมซื้อได้แค่ร่มกันแดดกันฝนดีๆคันเดียวเท่านั้น
หลังจากเก็บของเสร็จ ก็ได้เวลาสำรวจเชียงคำยามราตรีสิครัช!!
:: นี่คือถนนหนทางของ อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เวลา 20.30น.กว่าๆ คงเป็นเพราะไม่ชินกับ
ภาพที่ทุกบ้านเข้านอนกันเร็ว ต่างกับกทม.ที่ๆเราหันหลังจากมาโดยสิ้นเชิง
:: การมาเที่ยวในครั้งเพื่อชาตแบตอยู่กับธรรมชาติรอบตัวเรา แต่ไม่คิดว่าในตัวเมืองเองดูจากสภาพแวดล้อมแล้ว
คิดว่าหาเซเว่นยังยาก!
:: หลังจากเดินออกจากที่พักได้ไม่กี่ก้าว ความหิวก็เข้าครอบงำ ทำให้เราต้องไปหาอะไรสักอย่างกิน
ซะแล้ว เดินห่างจากที่พักไปสัก 500 เมตร เห็นร้านก๊วยเตี๋ยวจ้า บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงพิเศษ
:: บะหมี่จานใหญ่มาก อัดแน่นไปด้วยเส้นหมี่+เกี๊ยวตัวเบ้อเร่อเลย+โรยหน้าด้วยหมูแดง นาทีนั้นไม่
ต้องการอะไรไปมากกว่านี้แล้ว เพราะหิวมาตั้งแต่บนรถ
:: หลังกินเสร็จก็ได้ยินว่าในบริเวณนั้นมี7-11 เลยเดินไปหาดู พอเจอ7ในตำนานเราก็ตรงไปมุมที่
ชอบได้ของติดไม้ติดมือมานิดหน่อยเอง
:: คิดว่าพอสำหรับคนเดียวกับค่ำคืนที่เหนื่อยเหน็ดจาการเดินทาง เข้าห้องไปเปิดแอร์เย็นๆนะ ตอน
แรกกะว่าจะกดให้หมดทั้ง2กป.เลย แต่พอกินจริงๆกป.เดียวก้คงพอแล้วเพราะง่วงมาก...นอนดี
กว่าา
:: เช้าวันถัดมา อากาศยามเช้าช่างแสนสดชื่น มาพร้อมกับความเย็นและลมอ่อนๆ เริ่มภาระกิจ
สำรวจเชียงคำ แต่ขงจื้อว่าไว้ว่ากองทัพเดินได้ด้วยท้อง อย่างแรกหาอะไรกินก่อน
:: ถนนในเชียงคำยามเช้า น่าจะประมาณ 7-8โมงเช้า ไปเที่ยวนี่ตื่นได้เช้าจริงๆแถมสดชื่นไม่ง่วงอีก
นะ ไม่เหมือนตอนมาทำงานเรย
เดินมาสักแพพเจอร้านข้าวมันไก่น่ากินเลยลองเข้าไปดู น่าจะโอเคอยู่เลยสั่งมาลองสักจาน
:: จานใหญ่ อัดไปด้วยเนื้อ+หนังไก่แบบเน้นๆ น้ำจิ้มเด็ด! แต่ที่ไม่เหมือนใครเลยคือผักชี ไม่แน่ใจ
ว่าผสมผักอะไรลงไปอีกอย่างนึงคล้ายๆพาสเล่ย์ หอมกลมกล่อมเวลากินกับข้าวมันไก่แบบที่ไม่เคย
เจอหรือเหมือนใครมาก่อน
:: โปรแกรมช่วงเช้าวันนี้หลังจากกินข้าวเสร็จ เมื่อมาถึงเชียงคำต้องไปวัดคู่บ้านคู่เมืองของที่นี่สิ
ครับคือ วัดนันตาราม นั่นเองเรามาทำความรู้จักประวัติของวัดกันสักหน่อย ตามลิ้งนี้ได้เลยครับ
http://watnantaram.net/home/?page_id=23 เดชะบุญร้านข้าวมันไก่อยุ่ทางเข้าวัดพอดี ตอน
เดินมาก็ไม่ทันเห็นนะสงสัยจะหิวจัด
ทางเข้าเป็นเหมือนซอยเล็กๆ ไม่สังเกตุจะไม่เห็นเลย
:: เป็นเหมือนซอยลึกๆนะ เดินนิดนึง
ซุ้มทางเดินด้านหน้า
ทางเข้าเมื่อมองจากด้านใน
:: โบสถ์ที่ทำจากไม้สักทั้งหลังอลังการมาก แต่ตอนที่ไปถ่ายรูปไม่ค่อยได้เพราะย้อนแสง
แล้วก็มีแค่กล้องมือถือ นี่ก็เลือกเฟ้นมุมที่พอจะเห็นภาพรวมได้ทั้งมาได้เท่านี้
มาถึงโถงทางขึ้น
:: เมื่อเดินเข้าไปจะพบกับองค์พระประธานที่เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากไม้สักทอง
ลงรักปิดทอง ทรงเครื่องแบบไทยใหญ่ ประดิษฐานบนฐานไม้ที่ฉลุลวดลายอย่างสวยงาม โดยข้าง
องค์พระประธาน มีพระพุทธรูปหินขาว และพระพุทธปฏิมาประธาน ไม้สักทองที่ต่างเป็นพระพุทธรูป
ปางมารวิชัยทรงเครื่องแบบไทยใหญ่อย่าง สมส่วนสวยงามประดิษฐาน อยู่ มีเจดีย์แบบไทยใหญ่ มี
พิพิธภัณฑ์ธนบัตรเก่า เครื่องใช้โบราณ ผ้าลายโบราณ (แอบมีสาระเล็กน้อย)
มาถึงวัดทางเหนือทั้งที เลยให้หลวงพ่อผูกข้อมือให้สักหน่อย
รถที่จะขึ้นภูลังกานั้นมี 2 เที่ยว/วัน คือรอบ 10.00 น.กับ 11.00 น. ตอนนี้ก็ล่วงเลยไปเกือบ10โมง
แล้ว! หากาแฟกินชิลๆก่อนดีกว่าเพราะขามาเห็นแว๊บๆ
ลืมจร้า!!!......ที่นี่มีตลาดเช้าด้วยนะคับ
:: นี่คือบริเวณวงเวียนใกล้ๆ7-11
:: ทางเลี้ยวไปตลาดเช้าคับ
:: ถ่ายรูปมาแต่ร้านผลไม้ ไม่ได้ถ่ายรูปตลาดสดมาเพราะไม่ได้เดินเข้าไป ....เอาล่ะมาตามหาร้าน
กาแฟต่อ
:: 7-11ในตำนาน
ติดตามต่อภาค 2 ได้ที่ http://pantip.com/topic/34214469
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น