ลาออกจากหมอตอนปี 4 ....

เรากำลังตัดสินใจจะลาออกจากคณะแพทย์ค่ะ (ตอนนี้อยู่ปี 4) ที่ผ่านมา ไม่ชอบเลย  ... หลอกตัวเองมาตลอดว่าที่เรียนมา 3 ปีนั้น ตัวเองเรียนได้ เพราะสอบผ่านหมดทุกวิชา งั้นอีก 3 ปีที่เหลือก็น่าจะจบละมั้ง แต่ตลอด 3 ปีแรกเราไม่มีความสุขกับการเรียนเลย ความสุขที่ทำให้เราใช้ชีวิตผ่านไปแต่ละวันได้คือสิ่งที่อยู่นอกห้องเรียนค่ะ เราชอบวาดรูป ออกแบบ แต่ที่มาเรียนหมอเพราะว่าโดนปลูกฝังมาว่าคนที่ได้คะแนนท็อปตอนมอปลายต้องเรียนหมอ + สังคมทางบ้านเชิดหน้าชูตาอาชีพนี้มาก มีคนเคยบอกเราว่าอาชีพหมอมีเกียรติมากที่สุดแล้ว ตอนนั้นเลยตัดสินใจเรียนไปแบบไม่คิดอะไร และคิดว่ามันคงไม่หนักหนาถึงขนาดที่เราจะผ่านมันไปไม่ได้

แต่จริงแล้วมันไม่ใช่ เราขึ้นปี 4 รู้เลยว่า ... ตัวเองไม่อยากต้องทำงานในลักษณะแบบนี้ต่อไปอีก 1 ปี 3 ปี 5 ปี แต่ละวัน ไม่มีความสุข เราตื่นขึ้นมานั่งร้องไห้ทุกเช้าเพราะไม่อยากไปราวน์วอร์ด เราอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง ไม่ชอบดูคนไข้ ขึ้นโรงพยาบาลแล้วจิตใจห่อเหี่ยว ไม่มีใครรู้หรอกว่า ใจเรามันไม่อยากไปต่อแล้ว เราอยากทำตามฝันของเรา ถ้าเรียนต่อไป เราอาจจะต้องเสียเวลาอีก 4-5 ปี เพื่อทำตามความฝันของเรา แต่ถ้าเราออกตอนนี้มันอาจจะดีกว่าแน่ๆ

ตอนนี้ใจเราตัดสินใจอยากจะออกแน่ๆแล้ว เราคิดว่าถ้าเราเฝือถึงจนจบปี 6 เราจะไปหาเงินจ่ายค่าปรับแล้วไปทำในสิ่งที่ตัวเองรักอยู่ดี ไม่มีทางที่จะทำงานในสิ่งที่เราไม่ได้รักต่อไปแน่ๆ แต่ถ้าเราออกตั้งแต่ตอนนี้ เราจะเข้าใกล้ความฝันของเราเร็วมากขึ้น ดีกว่าต้องทนเสียสุขภาพจิตไปอีกอย่างน้อย 3 ปี

แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราห่วง ถ้าเราออกตอนนี้แล้วไปเรียนปี 1 ใหม่ กว่าจะจบก็คงอายุ 25-26 มันจะแก่ไปสำหรับการสมัครงานหรือโอกาสทางอาชีพอื่นๆหรือเปล่าคะ ตอนนี้อยากจะซิ่วเต็มทนแล้วค่ะ คิดเรื่องนี้ไม่ตกมาตั้งแต่ปี 3 ช่วงแรกๆ จนถึงตอนนี้ ความรู้สึกอยากลาออกมันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ปรึกษาอ.ก็แล้ว ใจมันก็ยังอยากออกอยู่ดี เราสมัครสอบ gat pat เรียบร้อยแล้วค่ะ ที่เหลืออยู่ตอนนี้คือทำเรื่องลาออกอย่างเดียว อมยิ้ม08

มีหลายคนบอกว่าให้ทนๆจบปี 4 ไปเพื่อเอาวท.บ. แต่เราไม่ไหวแล้วจริงๆ คิดว่าให้ทนไปอีก 7-8 เดือนเราไม่ไหวแน่ๆค่ะ สังคมเพื่อนที่นี่ดีมากนะคะ แต่เรารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอก ถึงเพื่อนจะดีกับเรามากขนาดไหน แต่เราก็รู้มาตลอด 4ปีว่า ที่ที่ยื่นอยู่มันไม่ใช่ที่ของเราค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 74
เปิดเข้ามาดู ตกใจมากค่ะ ไม่คิดว่ากระทู้เราจะมีคนเข้ามาตอบเยอะขนาดนี้
ขอบคุณสำหรับความเห็นนะคะ ทั้งที่บอกให้ไปต่อกับออกตอนนี้ ขอบคุณมากจริงๆ


ตอนนี้ ... เราลาออกแล้วค่ะ


เราถอดเสื้อกาวน์ออกพร้อมด้วยสภาพจิตใจที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และไฟในตัวเราที่มันหายไปตลอด 4 ปีตอนนี้มันเริ่มกลับมาแล้วค่ะ (จะหาว่าเว่อร์ก็ได้นะคะ แต่เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆตอนวินาทีที่เราเดินออกจากคณะแพทย์ด้วยรอยยิ้ม ไม่ใช่น้ำตา)
เราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะประสบความสำเร็จมั้ยนะคะ หรืออาจจะล้มเหลว ใครจะไปรู้ แต่เราจะตั้งใจทำในสิ่งที่เรารักให้ดีที่สุด ด้วยใจของเราจริงๆแล้วตอนนี้ ไม่ใช่เรียนให้ผ่านไปวันๆเหมือนตอนเรียนหมอ เราได้รับบทเรียนชีวิตตรงนั้นมาแล้วค่ะ และสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกเป็นเด็ดขาด เราชอบภาษา ชอบวาดรูป เข้าใจหลายความเห็นค่ะว่าสิ่งที่ชอบ กับ สิ่งที่ทำได้ดีเพื่อเป็นอาชีพมันแตกต่างกัน

ถึงเราจะล้มเหลวในอนาคต เราจะยิ้มแล้วยอมรับผลการตัดสินใจตอนนี้ค่ะ
ถึงมันจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่หวัง หรืออาจจะเป็นความหวังลมๆแล้งๆ กระทั่งข้ออ้างเพื่อการลาออกจากหมอ

เรามีทั้งเพื่อนและญาติที่เรียนอาร์ตมาโดยตรง มีทั้งที่ประสบความสำเร็ตและไม่
เรามองว่าเราพร้อมที่จะเสี่ยง เพราะอย่างน้อยครั้งนี้เหรียญมันก็ยังมีด้านที่ดีและไม่ดีอยู่ด้วย 50/50
เทียบกับตอนเรียนหมอที่เรารู้แก่ใจว่าเหรียญทั้งสองด้าน มันไม่มีผลลัพธ์ไหนที่เราชอบเลย จบไปเป็นหมอ กับเรียนต่อไปอีก 2 ไปแล้วค่อยลาออก เราไม่อยากที่จะเลือกด้านไหนทั้งนั้น

แต่เราจะไม่เสียใจว่าครั้งหนึ่ง ... เราได้เดินตามเสียงหัวใจและความฝันตัวเอง
ถึงมันจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดกับการลาออกครั้งนี้ เราจะยอมรับมัน เพราะเราได้เลือกมันแล้ว
เรามองว่าขืนเราเรียนจบไปจนถึงปี 6 ไฟที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้มันอาจหายไป และมารู้ตัวอีกทีตอนแก่ว่า รู้อย่างโน้น รู้อย่างนี้
เราไม่อยากเป็นแบบนั้นค่ะ เราอยากใช้ชีวิตของเราจริงๆ ใช้ชีวิตอย่างที่มันควรจะเป็น ไม่ใช่อย่างที่คนรอบข้างคาดหวังให้เป็น


ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะคะ ถ้าถามว่าตอนนี้เสียดายเวลาไหม เสียดายค่ะ แต่เราไม่เสียใจที่ตัดสินใจเลือกครั้งนี้จริงๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ขอเห็นต่างกับทุกความเห็นข้างบน.

เพราะมีญาติใกล้ตัวที่เป็นคนเรียนเก่งจบเตรียม พญาไท
ไปเรียนหมอทั้งที่ตัวเองไม่ชอบ. ทุกข์ทรมานกับการเรียนมาก
แต่ก็ทนจนจบปีสี่ ได้วุฒิวทบ.  สุดท้ายออกไปเรียนปตรีใหม่
ได้เรียนในสิ่งที่ถนัดว่า เป็นสายวิศวกร

ถ้ารู้สึกตัวแล้วว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ของเรา. อย่าไปฝืน. เวลาที่มีค่าของเราเสียไปอย่างเปล่าประโยบน์
ไม่ต้องพะวงว่าหมอเป็นอาชีพมีเกียรติในสายตาใคร. คนอื่นเขาไม่ใช่เรา เขาเห็นแต่ภาพภายนอก
ตัวเรารู้อยู่ว่าอะไรดีที่สุด. อาชีพหมอเป็นอาชีพนึง เป็นอาชีพมีเกียรติ. แต่ไม่ได้มีเกียรติมากกว่าอาชีพอื่นครับ

อายุ 25-26 ไม่ได้แก่ไปสำหรับการสมัครงาน
ผมมีรุ่นน้อง จบวิศวะอายุ 27 ปีหลายคนทีเดียว
แล้วก็เจอคนมี่เรียนตรีสองใบ เช่นจบวิดยา แล้วไปเรียนทันตะต่อก็มี
เเถมยีงมีคนที่เรียนรวมเดียว จบตรีต่อโท ทันที  ก็จบประมาณนี้ 24-25 ปี

หลายปีก่อนนี้ก็มีรุ่นน้องถามซิ่วดีมั๊ยไปเรียนบัญชี
ผมยังบอก ทำตามใจเถอะ.  คอนนี้จบแล้วก็ทำงานบัญชีบริษัทใหญ่แห่งนึง
ความคิดเห็นที่ 11
ขอกอดให้กำลังใจจขกท. 1ที
พี่อยากจะบอกว่า ให้น้องสู้เถอะ พี่เคยผ่านจุดนี้มาแล้ว จุดเริ่มต้นของการเรียนหมอของพี่ มาจากที่บ้านขอให้เรียน ทั้งๆทีพี่ชอบสายศิลป์มากกว่า ตอนปี3รู่สึกพีคมาก ขอแม่ลาออก แม่บอกให้อดทน พี่ก็ทนนะ แต่ไม่ไปเรียน โดดจนมีจดหมายส่งไปหาผู้ปกครอง พี่จำวันที่แม่ร้องไห้ได้เลย โคตรอึดอัด พอปี4 ก็เลยขอเริ่มต้นใหม่ เรียนบ้าง โดดบ้าง เที่ยวบ้าง อดทนจนจบ จนตอนนี้พี่จบแล้ว ใช้ทุน มันโคตรมีความสุขเลยน้อง เวลาที่ได้ช่วยคน เห็นรอยยิ้มของคนไข้ ที่สำคัญจบมาก็ไม่ต้องไปหางาน รายได้ก็โอเค ถ้าย้อนเวลาไปเลือกใหม่ พี่ก็ขอเรียนหมอนะ
ความคิดเห็นที่ 7
หลังไมค์มาคุยกันได้นะค่ะ พี่เป็นintern 2 ชีวิต ตอนเรียนจบมาเเตกต่างกับชีวิตตอนเรียนระดับนึงนะคะ เร่อ่จจะทำอย่างอื่นควบคู่กับการเปนหมอไก้ด้วย พี่ก็เหนคน เปนหมอในเวลา เเละมีธุรกิจให้เช่าอสังหา ไปด้วยบลาๆ
น้องลองถามตัวเองเเน่ๆก่อนนะคะ ว่าอยากเรียนอะไร เเละควรคืดถึงตอนจบว่าอยากทำงานอะไรเเบบไหนคะ
มีคนมากมายที่จบมาเเล้วไปทำอย่างอื้น คืออาชีพเราจบมาไปทำอย่างอื่น วาดรูป ร้องเพลงได้ เเต่อาชีพอื่นมาทำงานเเบบ หมอไม่ได้อ่ค่ะ
อย่างเช่นเพจแพทย์หญิงท่านหนึ่ง ตัวเขาก็ชอบวาดรูปเเต่ด้วยความที่เขาคิดว่าจบหมอมาก็วาดรูปได้ เเต่จบวาดรูปทำงานหมอไม่ได้ เเต่ทั้งนี้เค้าก็ไม่ได้ไม่ชอบอาชีพนี้เท่าไหร่นัก
ถ้าไม่ชอบจรืงๆก็ไม่ยื้อค่ะ เรียนที่ตัวเองมีคงามสุขดีกว่า เเต่อบากให้ข้อมูลให้คำปรคกษาก่อนตัดสินใจนะคะ เพราะทางเลือกหมอมีอีกเยอะ
เช่น ไม่ชอบคุยกับคนไข้ ก็ไปเรียน พาโถ เอกเร
ชอบผ่าตัด ทำงานฝีมือ ก็เรียน ตา ผ่าตัด กระดูก
ชอบคุยกับคนไข้ ไม่ฉุกเฉินมาก ก็เเนวจิตเวช
ยังไงหลังไมค์มาได้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่